บทที่ 1460 จิตวิญญาณของมนุษย์หนึ่งล้านคน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

วังสวรรค์ วิหารปราบวิญญาณ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยมองเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าและขมวดคิ้ว “ถึงจุดนี้เจ้ายังไม่เห็นความจริงอีกงั้นหรือ?”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่ตอบ เขายังเงียบราวกับก้อนหิน

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเย้ยหยัน นางกระตุ้นใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด

 

สายฟ้าสีม่วงแลบลั่นขึ้นบนโซ่ที่รัดพันเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้

 

ความทรงจำของเขาถูกดึงออกมาและปรากฏขึ้นต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย

 

มันเป็นฉากในอดีต

 

เวลานั้นเทพปีศาจจิตวิญญาณยังไม่ได้เป็นเทพปีศาจแต่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

 

ที่หุบเขาเหล่าโป เทพปีศาจจิตวิญญาณล้มลงบนพื้น

 

เขากระอักเลือดคำโตออกมาจากปาก

 

ใบหน้าของเขาซีดขาว สถานการณ์เลวร้ายมาก เขากำลังจะตาย

 

ร่างหนึ่งบินลงมาจากท้องฟ้า “เจ้าหนีไม่พ้น วันนี้เจ้าต้องตาย!”

 

คนผู้นี้ปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปดออกมา เขาทั้งเย็นชาและแข็งแกร่ง

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณลุกขึ้นนั่งและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า “ข้าไม่เข้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบกัน เราไม่มีความขุ่นเคือง เหตุใดเจ้าถึงยอมจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อฆ่าข้า?”

 

คนผู้นั้นตะโกน “เพราะเจ้าสังหารผู้คนและนำหายนะมาสู่โลกใบนี้!”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเย้ยหยัน “เจ้าฆ่าคนมามากกว่าข้า มันน่าหัวเราะที่เจ้ากล้ากล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมา”

 

ผู้อมตะระดับแปดส่ายศีรษะ “มันแตกต่างกัน เนื้อแท้ของเจ้าเลวร้ายกว่าข้า”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเงียบก่อนกล่าวต่อ “เพราะข้าต้องการสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ?”

 

ผู้อมตะระดับแปดประหลาดใจแต่เขายังกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ถูกต้อง ไม่ควรสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ตอนนี้วิญญาณชะตากรรมได้รับความเสียหาย หากเส้นทางแห่งจิตวิญญาณถูกสร้างขึ้น โลกจะเปลี่ยนไปอย่างมาก คนตายจะไม่สงบสุข ภูตผีจะเร่ร่อนไปทั่วโลก”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะ “วิเศษมาก ข้าจะสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ในอนาคตผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนจะบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ข้าจะเปลี่ยนโลกทั้งใบ!”

 

เขาหัวเราะขณะลุกขึ้นยืน

 

“หากข้ายังอยู่ อย่าหวังว่าจะสมปรารถนา!” ผู้อมตะระดับแปดเย้ยหยันและพุ่งลงไป

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณยกมือขึ้นและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณดักจับผู้อมตะระดับแปดเอาไว้ภายใน

 

แต่ศัตรูของเขายังสามารถทำลายมันได้อย่างรวดเร็ว

 

“เจ้าคิดว่าข้าไม่สังเกตเห็นค่ายกลที่ซ่อนอยู่งั้นหรือ? ข้าตั้งใจคุยกับเจ้าเพราะข้าค้นพบค่ายกลนี้แล้ว!” ผู้อมตะระดับแปดพุ่งเข้าไปหาเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างไม่ลดละ

 

แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขายืนอยู่ที่เดิมและปล่อยให้ผู้อมตะระดับแปดเข้ามาหา

 

เขาหัวเราะ “เจ้าสามารถคลี่คลายเพียงผิวเผิน เจ้าไม่คิดว่าหุบเขาแห่งนี้ผิดปกติงั้นหรือ?”

 

หลังกล่าวจบคำ ผู้อมตะระดับแปดก็ได้รับผลกระทบจากพลังอำนาจลึกลับทันที

 

“นี่คือ…หุบเขาเหล่าโป!?” ผู้อมตะระดับแปดตกใจมาก

 

“ถูกต้อง แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ สถานที่ที่ดีที่สุดในการบ่มเพาะจิตวิญญาณ ฮ่าฮ่า มันจะเป็นที่พักแห่งสุดท้ายของเจ้า!” เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ

 

“อ๊าก!” ผู้อมตะระดับแปดกรีดร้อง ค่ายกลวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณหยิบยืนพลังอำนาจระดับเก้าของหุบเขาเหล่าโป

 

ผู้อมตะระดับแปดไม่สามารถรับมือและเสียชีวิตลงในที่สุด

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปที่ศพของผู้อมตะระดับแปด แม้เส้นผมของเขาจะยุ่งเหยิง เลือดจะไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด แต่เขายังเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขาเย้ยหยัน “ฮืม ผู้อมตะของวังสวรรค์ น่าสนใจ ข้าสาบานว่าข้าจะสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในอนาคต ข้าจะทำให้ผู้คนบ่มเพาะบนเส้นทางสายนี้ แม้ข้าจะล้มเหลวหรือตาย ข้าก็จะทำให้แน่ใจว่าในอนาคตจะมีผู้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

 

ภาพหยุดลงตรงนี้

 

การแสดงออกของเทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นมืดมน

 

นางมองเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ไม่เคลื่อนไหวก่อนจะเดินจากไป

 

แม้นางจะสามารถดึงความทรงจำของเทพปีศาจจิตวิญญาณออกมาได้บางส่วน แต่มันไร้ประโยชน์ราวกับเขากำลังตอบคำถามก่อนหน้านี้ของนาง

 

หากเป็นเช่นนั้นมันก็หมายความว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณยังสามารถต่อต้านวิธีค้นวิญญาณของวังสวรรค์

 

แม้เขาจะไม่สามารถต่อต้านพลังอำนาจของวิหารปราบวิญญาณแต่เขายังสามารถเลือกที่จะมอบความทรงจำบางอย่างที่เขาต้องการ

 

‘คงต้องใช้เวลาอีกนานก่อนที่เราจะได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์’ เทพธิดาจื่อเว่ยลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

 

…..

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา หุบเขาเหล่าโป

 

ฟางหยวนนั่งอยู่ในส่วนลึกของหุบเขา

 

เขากระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณกับหุบเขาเหล่าโปอย่างเต็มที่

 

มันคือค่ายกลวิญญาณเหล่าโป

 

ค่ายกลวิญญาณนี้มาจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันใช้หนอนไหมบัวขาวเป็นพื้นฐาน สิ่งนี้เป็นอาหารของวิญญาณอมตะล้างใจและถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

หลังจากได้รับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณหนอนไหมบัวขาว เขาขอให้นิกายหลางหยาหลอมรวมมันขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

 

ตอนนี้เขาต้องเลี้ยงดูวิญญาณอมตะล้างใจอีกครั้ง นอกจากนั้นมันยังใช้เป็นรากฐานของค่ายกลวิญญาณสำหรับการบ่มเพาะจิตวิญญาณ

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ทำให้สายลมและหมอกหนาทึบในหุบเขาเหล่าโปมารวมตัวกัน

 

จิตวิญญาณของฟางหวนได้รับการขัดเกลาอย่างรวดเร็ว

 

‘ด้วยค่ายกลวิญญาณนี้ ประสิทธิภาพในการบ่มเพาะจิตวิญญาณของข้าเพิ่มขึ้นสามสิบส่วน’ ฟางหยวนประเมิน

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใช้งานค่ายกลวิญญาณดังกล่าว

 

ค่ายกลวิญญาณเหล่าโปถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการบ่มเพาะจิตวิญญาณ แต่ฟางหยวนสามารถปรับเปลี่ยนวิญญาณบางดวงเพื่อใช้งานมันได้หลากหลายมากขึ้น กล่าวได้ว่ามันมีประโยชน์มาก

 

ตัวอย่างเช่นฉินไป่เฉิงสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณเหล่าโปเพื่อป้องกันการบุกรุกของผู้อมตะภาคกลาง

 

ตามข้อมูลในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณนี้สังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์

 

ค่ายกลวิญญาณที่ฟางหยวนกำลังใช้งานอยู่ในเวลานี้มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะจิตวิญญาณ มันใช้วิญญาณอมตะล้างใจและวิญญาณหนอนไหมบัวขาวระดับมนุษย์เป็นแกนกลางรวมถึงวิญญาณระดับมนุษย์อีกมากมายเป็นส่วนสนับสนุน

 

‘เอาล่ะ หลังจากครั้งนี้ จิตวิญญาณของข้าก็เทียบเท่ากับจิตวิญญาณของมนุษย์หนึ่งล้านคนแล้ว’

 

มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวว่ารากฐานของจิตวิญญาณแบ่งออกเป็นหลายระดับ

 

จากต่ำไปสูงเริ่มตั้งแต่ระดับหนึ่งคน ระดับสิบคน ระดับร้อยคน…ระดับล้านคน ระดับสิบล้านคน ระดับร้อยล้านคน…

 

โดยปกติผู้ใช้วิญญาณทั่วไปที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณต้องใช้เวลายี่สิบปีเพื่อบรรลุระดับพันคนด้วยการทำงานอย่างหนัก แต่วิญญาณความเด็ดเดี่ยวช่วยให้ฟางหยวนเข้าถึงระดับนี้ได้ทันที

 

ด้วยการใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเสริมสร้างจิตวิญญาณก่อนจะขัดเกลาด้วยหุบเขาเหล่าโปและนอนพักผ่อน สุดท้ายด้วยการทำสามขั้นตอนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก รากฐานจิตวิญญาณของฟางหยวนจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับจรวด

 

ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ จิตวิญญาณของเขาก็พัฒนาขึ้นถึงระดับหนึ่งล้านคนแล้ว ตอนนี้ดวงวิญญาณของเขาสามารถจับต้องได้ราวกับร่างกายภาพ ย้อนหลับไปที่ภูเขาอี้เทียน ดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณใหญ่โตและแข็งแกร่งมาก มันทำให้ฟางหยวนถูกล่อลวงและต้องการก้าวไปถึงระดับดังกล่าว

 

ด้วยรากฐานของจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเขาโดยเฉพาะเมื่อเขามีท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์วิญญาณ

 

ท่าไม้ตายนี้สามารถปกป้องเขาจะการรับรู้ของเจตจำนงสวรรค์และการอนุมานของผู้อมตะคนอื่นๆ ยิ่งรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณสูงเท่าใด มันก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น

 

ตอนนี้ฟางหยวนรู้สึกอย่างชัดเจนว่าอาภรณ์วิญญาณของเขาหนาแน่นขึ้น เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

 

‘เมื่อรากฐานจิตวิญญาณของข้าเติบโตขึ้น ข้าจะสามารถควบคุมอสูรปีแรกกำเนิดได้ดีขึ้น ข้ายังสามารถควบคุมอสูรปีแรกกำเนิดตัวที่สอง!’

 

‘อย่างไรก็ตามแม้ข้าจะสามารถยกระดับจิตวิญญาณ แต่ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน’

 

เหตุผลก็คือเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับโดยวังสวรรค์

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะถูกค้นวิญญาณ

 

นั่นหมายความว่าในอนาคตวังสวรรค์จะได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เมื่อเวลานั้นมาถึง มันจะง่ายสำหรับพวกเขาที่จะอนุมานวิธีตอบโต้ท่าไม้ตายของเขา

 

ฟางหยวนออกจากหุบเขาเหล่าโป

 

ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปถูกวางไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เหตุผลก็คือมันสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพก็ต้องการปราณสวรรค์พิภพจำนวนมหาศาล มิติช่องว่างของฟางหยวนมีแม่น้ำหวนคืนอยู่แล้ว เขาไม่ต้องการเพิ่มภาระให้กับตนเอง

 

หลังจากออกมา ฟางหยวนพบมนุษย์หิมะสาว

 

“เซี่ยเอ๋อคารวะท่านฟางหยวน”