ฉินซินหยิ่งรีบเร่งไปยังสถานที่จัดแสดงของบริษัท แฟชั่นโชว์กำลังจะจัดขึ้นในวันมะรืน ตอนนี้สถานที่ตกแต่งเกือบเสร็จแล้ว บรรดาดีไซเนอร์กำลังจัดการให้นางแบบลองชุด เมื่อฉินซินหยิ่งมาถึงวิเวียนกำลังยุ่งอยู่กับการให้นางแบบลองเสื้อผ้า ฉินซินหยิ่งเดินเข้าไปหาวิเวียน ถามอย่างใจร้อนว่า “วิเวียน นางแบบเริ่มลองชุดกันหรือยังคะ”
อันที่จริงพวกเขาจัดการกันเองก็ได้นี่ ทำไมต้องเรียกตัวเธอมาที่นี่ด้วย เสียเวลาเธอจริงๆ!
วิเวียนเหลือบมองฉินซินหยิ่ง เลิกคิ้วตอบว่า “เริ่มแล้วค่ะ เราจะซ้อมใหญ่กันวันพรุ่งนี้ และแฟชั่นโชว์ของเราจะแสดงในวันมะรืน”
ฉินซินหยิ่งมองไปรอบๆ สถานที่จัดงาน ถามขึ้นอย่างลืมตัวว่า “ท่านประธานเฉียวบอกไว้ว่าจะมาดูนางแบบลองชุดไม่ใช่หรือคะ แล้วนี่เขามาหรือยัง”
วิเวียนมองเธอนิ่งๆ ประกายตามีแต่ความเย็นเยียบ แต่ยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉย เธอส่ายศีรษะตอบว่า “ยังไม่มา แต่คุณฉินคะ ฉันมีบางเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ”
“เรื่องอะไรคะ” ฉินซินหยิ่งรู้สึกผิดหวังที่ไม่เห็นเฉียวเหลียงมาที่นี่ เธอรีบมาก็เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับเฉียวเหลียงให้มากขึ้น แต่เขากลับไม่มา!
“ทำไมพวกนางแบบถึงไม่ลองชุดที่ฉันออกแบบล่ะ” ฉินซินหยิ่งมองไปยังเหล่านางแบบ ขมวดคิ้ว แล้วหันไปทางวิเวียน ถามด้วยความโกรธว่า “วิเวียน ความผิดพลาดอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อำนวยการแผนกออกแบบของบริษัทอย่างคุณควรปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ใช่หรือ เสื้อผ้าที่ฉันออกแบบอยู่ที่ไหน”
วิเวียนจ้องมองฉินซินหยิ่ง ซึ่งเอาแต่พูดพล่ามโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรเลย แล้วนิ่วหน้าอย่างไม่ชอบใจ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นั่นคือเหตุผลที่ฉันโทรตามคุณให้มาที่นี่”
“ฮึ” ฉินซินหยิ่งขมวดคิ้ว จ้องมองวิเวียน “มีอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับชุดของฉันหรือ หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางแบบ”
เมื่อสังเกตเห็นว่าสีหน้าวิเวียนเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ ฉินซินหยิ่งจึงคิดว่าสิ่งที่เธอคาดเดานั้นถูกต้อง เธอแสดงความไม่พอใจโดยการหรี่ตาลง กล่าวกับวิเวียนด้วยน้ำเสียงข่มขู่ “ไร้สาระที่สุด! บริษัทของเราทำเรื่องผิดพลาดโง่ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน นี่มันเกิดขึ้นเพราะคุณเธอละเลยหน้าที่ หรือตั้งใจจะให้ผิดพลาดกันแน่”
“คุณฉิน ถ้าคุณยังพูดกับฉันด้วยท่าทีแบบนี้ ฉันคิดว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว ฉันเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า เราจะไม่นำเสื้อผ้าที่คุณออกแบบมาจัดแสดง ไม่มีอะไรผิดพลาดทั้งนางแบบและเสื้อผ้า เราแค่จะไม่จัดแสดงเสื้อผ้าที่คุณออกแบบเท่านั้น”
สีหน้าฉินซินหยิ่งเข้มขึ้นทันที เธอตวาดออกมา “หมายความว่ายังไง จะไม่จัดแสดงเสื้อผ้าของฉัน นี่ล้อเล่นหรือเปล่า”
“ไม่ได้ล้อเล่นค่ะ นี่เป็นการตัดสินใจของบริษัท คุณฉินคะ นับจากนี้เป็นต้นไป คุณไม่ใช่ดีไซเนอร์ของเราอีกต่อไป และเราจะไม่ใช้เสื้อผ้าที่คุณออกแบบแล้ว”
“เรามีสัญญา ฉันจะฟ้องร้องพวกคุณถ้าละเมิดสัญญา!” ฉินซินหยิ่งกำหมัดแน่น เฉียวเหลียงเป็นคนจัดการเรื่องนี้ใช่ไหม เขาทำแบบนี้เพื่อปกป้องถังซีและนังเด็กเซียวโหรวนั่นอย่างนั้นหรือ
“คุณฉิน ฉันคิดว่าคุณรู้ตัวดีว่าได้ทำอะไรลงไป ให้จบกันด้วยดีจะดีกว่า ทำไมคุณไม่จากไปเงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องอับอายอื้อฉาว น่าจะดีกว่าสำหรับคุณนะคะ”
ฉินซินหยิ่งหัวเราะเย้ยหยันคำพูดของวิเวียน เธอกล่าวเสียงดัง “บริษัทของคุณใช้งานออกแบบของฉัน แล้วตอนนี้แฟชั่นโชว์กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วัน กลับมาบอกว่าจะยกเลิกสัญญากับฉัน คิดว่าฉันจะยอมง่ายๆ อย่างนั้นหรือ หรือนี่เป็นวิธีปกติที่เฉียวกรุปใช้กับดีไซเนอร์ทั่วๆ ไป เค้นเอางานออกแบบจากดีไซเนอร์จนหยดสุดท้าย แล้วถีบหัวส่ง ต่อจากนี้ไปจะมีดีไซเนอร์ที่ไหนยอมทำงานกับบริษัทของคุณ”
“คุณไม่อยู่ในสถานะที่จะมาพูดแบบนี้ได้ ฉันไม่นำหลักฐานออกมาแสดงเพราะเห็นแก่ชื่อเสียงของคุณ แต่ถ้าคุณยังพูดแบบนี้ ก็คงไม่ต้องถนอมน้ำใจอะไรกันอีก!”
“ฮ่าๆ คุณจะทำอะไร เรียกสื่อมาแถลงข่าวงั้นเหรอ” ฉินซินหยิ่งจ้องหน้าวิเวียนด้วยสายตาข่มขู่ แล้วตวัดเสียงตะคอก “ฉันมีตระกูลฉินคอยสนับสนุน ถึงแม้ตระกูลฉันจะไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากมาย แต่พวกเขาจะไม่ยอมให้ฉันโดนข่มเหงรังแกเป็นแน่! คุณคิดหรือว่าจะรังแกฉันได้โดยไม่โดนเอาคืน”
“เราจ้างดีไซเนอร์ที่ยินดีทำงานร่วมกับเราเสมอ แต่เราจะไม่จ้างคนที่ไม่มีความสามารถด้านการออกแบบ แล้วไปขโมยผลงานของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง คุณฉิน นี่คือเหตุผลที่เราไม่สามารถทำงานร่วมกับคุณได้อีกต่อไป” วิเวียนมองฉินซินหยิ่งด้วยสายตาเย็นชา “คุณฉิน ถ้าคุณไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบ คุณก็ไม่ควรจะมาเป็นดีไซเนอร์ คุณมาสมัครทำงานกับบริษัทเราโดยใช้งานออกแบบของคนอื่น เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน แต่ตอนนี้ฉันได้พบหลักฐานหลายชิ้นที่ระบุว่าคุณหลอกลวงเราอย่างไรบ้าง คุณอยากให้ฉันนำหลักฐานเหล่านั้นออกมาแสดงต่อสื่อมวลชน หรือว่าจะเลิกแล้วต่อกันไปอย่างเงียบๆ”
ฉันซินหยิ่งนิ่งอึ้งไป จ้องมองวิเวียนอย่างตกตะลึง นี่หล่อนรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ถังซีบอกอย่างนั้นหรือ ไม่จริง ถังซีหยิ่งในศักดิ์ศรีเกินกว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เธอจะยกงานออกแบบพวกนั้นให้เป็นของบริจาคไปมากกว่า เธอไม่มีวันบอกเฉียวกรุปหรอกว่าฉินซินหยิ่งขโมยงานของเธอ!
จริงสิ บางทีวิเวียนอาจทำเป็นพูดไปยังอย่างนั้นเองเพื่อขู่ให้เธอกลัว หล่อนคงไม่ได้มีหลักฐานอะไรจริงจัง ถึงได้เอาแต่พูดว่าให้เธอเลิกราไปเองเงียบๆ ฉันจะต้องไม่ตื่นตระหนก!
ฉินซินหยิ่งพยายามสงบจิตใจ มองหน้าวิเวียน และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วิเวียน ทำไมคุณไม่เอาหลักฐานมาให้ฉันดูหน่อยล่ะ คุณบอกว่าฉันขโมยผลงานของคนอื่น แล้วไหนล่ะหลักฐาน กล่าวหากันลอยๆ แบบนี้ ฉันฟ้องร้องคุณได้นะ!”
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นก็เจอกันที่ศาล” วิเวียนกล่าวจบก็หันหลังเดินไปทางอื่น เลิกสนใจฉินซินหยิ่ง เธอบอกได้จากสีหน้าของฉินซินหยิ่งเองว่า ฉินซินหยิ่งขโมยผลงานออกแบบของคนอื่นมาจริงๆ!
วิเวียนรู้สึกรังเกียจเอามากๆ เธอชอบงานออกแบบของฉินซินหยิ่ง แต่ตอนนี้กลายเป็นว่างานเหล่านั้นเป็นผลงานของคนอื่น
ฉินซินหยิ่งกำมือสองข้างแน่น เฝ้าปลอบตัวเองว่าหลักฐานเหล่านั้นไม่มีอยู่จริง ฉันไม่มีอะไรต้องกลัว เธอเอ่ยขึ้นว่า “วิเวียน ฉันจะไปจากเฉียวกรุป แต่คุณต้องให้สัญญากับฉันเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณยอมสัญญา ฉันจะจากไปโดยดี”