ตอนที่ 777 เลิกหัวเราะเดี๋ยวน

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ชูฮันแสดงอำนาจออกมาเต็มที่และก็เพื่อเป็นการสั่งสารเหล่านายพลทั้งหลายก่อนจะเดินจากไปรวมถึงแก้ไขความเข้าใจผิดในเรื่องไฟไหม้
  หากสำหรับคนอื่นๆมันน่าเศร้าที่พวกเขาถูกทิ้งให้กลับไปทบทวนพิจารณาตัวเอง
  แม้ฉางกวนหลงจะยังไม่เชื่อหากเขาก็ทำได้แค่ยอมปล่อยชูฮันไปเพราะถ้ามองดีๆแล้ว ถ้าเกิดว่าชูฮันคือคนร้ายตัวจริง ชูฮันก็ไม่น่าจะมีเวลากลับมาที่พักตัวเองเพื่ออธิบายให้คนของตัวเองและก็ย้อนกลับไปทำลายหลักฐาน จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาฉางกวนยวีซิน ทำเป็นเล่นละคร แสร้งว่าได้ถังน้ำดับเพลิงมาจากด้านนอกข้างสถาบันวิจัยอีก?
  ไหนจะทีมกุ้งเสือดำที่อยู่ที่ที่พักของชูฮันตลอดและไม่เคยจากไปไหนเลยตั้งแต่แรกก็เป็นข้อพิสูจน์ให้ได้แล้วว่าชูฮันไม่มีเวลาได้ติดต่อกับทหารตัวเองเลย ไหนจะคำสั่งของฉางกวนหลงที่สั่งให้พาตัวทุกคนมาที่ห้องประชุมอย่างกระทันหันกลางดึกอีก มันเป็นไปไม่ได้ที่ชูฮันจะคาดเดาไว้ล่วงหน้าได้หมดทุกอย่าง
  ดังนั้นในตอนนี้ชูฮันจึงถูกตัดออกจากผู้ต้องสงสัยในความคิดทุกคนไป แม้กระทั่งหลูปิงเซ่อและทีมกุ้งเสือดำที่ที่เดินตามหลังชูฮันไปก็ไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์จริงเหมือนกัน พวกเขาแค่เออออตามหัวหน้าตัวเองไป โดยไม่รู้เลยว่าชูฮันวางแผนทุกอย่างไว้หมดตั้งแต่แรกแล้ว เสื้อผ้าเปื้อนน้ำมันของชูฮันก็ถูกโยนเข้าไปเก็บไว้ในประตูมิติ เพราะเหตุนั้นจึงไม่มีใครสามารถหาหลักฐานได้เจอ
  ”หัวหน้านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ระหว่างทางเดินกลับไปยังที่พัก หลูปิงเซ่อก็ส่งเสียงกระซิบถาม
  ”ใช่หัวหน้า ทำให้ฉันตกใจกลัวหมดเลย!” จางโบฮั่นเองก็พูดขึ้นสมทบ “ตอนที่จู่ๆหลูปิงเซ่อมาบอกเรื่องนี้กับฉัน ฉันก็กังวลมากจนต้องซักซ้อมเรื่องอยู่หลายรอบให้เนียน”
  ”ใช่ตอนที่ต้องต้านพวกทหารของค่ายหนานตู้เอาไว้ ผมเจ็บมือมากที่ต้องสู้มือเปล่าแล้วต้านพวกเขาไว้ตั้งหลายรอบ” เสี่ยวเคินพูดจนแทบจะตะคอกใส่ชูฮัน “หัวหน้า ใครก่อไฟ ทำไมมันถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้?”.novel-lucky.
  ชูฮันยิ้มมุมปาก”นั่นเพราะเรามีเพื่อนตัวน้อยของหลูปิงเซ่ออยู่ในทุกๆที่!”
  นั่นคืออีกประเด็นที่ไม่มีใครคาดถึงชูฮันไม่ได้กลับไปที่พักและติดต่อกับทีมกุ้งเสือดำโดยตรง เมื่อคืนนี้ชูฮันไม่ได้กลับมาที่ที่พักเลยแต่เขากลับรับรู้เรื่องข่าวสารทั้งหมดเพราะความสามารถของหลูปิงเซ่อที่ใช้กระรอกเพื่อนน้อยแจ้งข่าวจากจางโบฮั่นมาให้
  เรื่องกระรอกนั้นก็เป็นเรื่องบังเอิญมันไม่ได้มีการเตรียมการล่วงหน้าใดๆเอาไว้ ชูฮันเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะติดอยู่ในสถาบันนานขนาดนี้ เขาคิดว่าจะเข้าไปแค่ครู่เดียว แต่แล้วมันกลับมีเรื่องราวมากมายที่ชูฮันต้องเผชิญระหว่างค่ำคืน
  และหลังจากความวุ่นวายทุกอย่างมันก็เป็นเรื่องบังเอิญที่เมื่อตอนหัวค่ำชูฮันได้มีโอกาสเดินมาส่งฉางกวนยวีซินยังที่พัก ทำให้เขารู้ตำแหน่งที่พักของเธอ ดังนั้นเธอจึงเป็นคนแรกที่ชูฮันนึกถึงกับการหาทางออกจากข้อสงสัยของฉางกวนหลง
  หลูปิงเซ่อที่ได้ยินคำบอกของชูฮันก็เอ่ยขึ้น “หัวหน้า ผมไม่กล้าที่จะตรวจสอบเรื่องส่วนตัวของหัวหน้า แต่ครั้งนี้ผมขอถามหน่อยได้มั้ยครับ?”
  ”ไม่ต้องถาม”ชูฮันใช้นิ้วแตะปลายจมูก “ฉันเป็นคนก่อไฟขึ้นมาเอง”
  ทันทีที่ได้ยินคำตอบของชูฮันทุกคนก็เงียบกริบกันหมด มองไปที่ชูฮันราวกับเจอผี นี่ตกลงว่าคนร้ายที่ก่อไฟคือหัวหน้าของพวกเขาเองงั้นเหรอ?
  แสดงว่าฉางกวนหลงพึ่งยอมปล่อยคนร้ายตัวจริงหลุดมือไปแล้วก็ไปตามหาตัวผู้โชคร้ายแทน?
  แล้วที่ชูฮันแสดงต่อหน้าฉางกวนยวีซินเมื่อครู่ละมันดูสมจริงมาก!
  นี่มัน…นักแสดงยอมเยี่ยมชัดๆ!
  เป็นอีกครั้งที่ชูฮันคนเดียวเล่นงานทั้งค่ายหนานตู้!
  ”แต่หัวหน้าครับหัวหน้าจุดไฟที่สถาบันได้ยังไงครับ?” ความไม่เข้าใจปรากฏชัดบนใบหน้าของหลูปิงเซ่อ เขาคิดไม่ตกว่าหัวหน้าออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วไปทำเรื่องมากมายแบบนี้ตอนไหน
  ”นายไม่เข้าใจหรอก”ชูฮันตัดบทและเปลี่ยนเรื่องทันที “ทีมกุ้งเสือดำเข้าไปทำความสะอาดที่พักให้เรียบร้อย พยายามทำตัวอย่าให้เป็นจุดเด่น แต่ทำให้พวกเขารู้ว่าถึงแม้ที่พักจะพังทลายเราก็ยังสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างไม่ใช่ปัญหา”
  ”ไม่มีทาง”จางโบฮั่นไม่ยอม “เราจำเป็นต้องอยู่ที่แบบนี้ต่อเหรอคะ? มันไม่เหลืออะไรแล้วด้วยซ้ำ แล้วพวกเราทุกคนก็เหนื่อยล้ากันมาก พวกเราต้องการที่ดีๆให้ได้พัก จากสภาพพวกนี้ถ้าเราเดินเข้าเมื่อไหร่มันน่าจะพังครืนลงมาทันทีนะค่ะ”
  ”อยากจะรู้มั้ยว่าทำไมพวกคุณถึงไม่มีทางเข้าใจฉัน”รอยยิ้มของชูฮันมีความหมายแฝงอยู่ ซึ่งทุกคนที่ได้เห็นรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
  ”โอ้”จางโบฮั่นรีบถอยหนีทันที ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถเดาแผนการของหัวหน้าได้อยู่แล้ว เพราะงั้นทำตามที่หัวหน้าบอกน่าจะเป็นการดีที่สุดแล้ว
  ”ส่วนหลูปิงเซ่อตามฉันมาที่พื้นที่ผู้ลี้ภัย” ชูฮันพูดพร้อมกับแววตาล้ำลึกที่ดูมีเลศนัยบางอย่าง
  หลูปิงเซ่อไม่มีความคิดเห็นใดๆเขารู้ว่าชูฮันกำลังจะไปพบเหมิงชีเหว่ยเพื่อพูดคุยเรื่องก้าวต่อไปของฟานเจี้ยน ถึงแม้ว่าฟานเจี้ยนจะทำทุกอย่างไปตามแผนที่วางไว้สำเร็จ แต่ฟานเจี้ยนเพียงคนเดียวไม่สามารถทำงานนี้คนเดียวลุล่วงได้ มันจำเป็นต้องอาศัยกองกำลังใต้ดินทั้งหมดของเหมิงชีเหว่ยเข้าร่วมด้วย
  แต่แล้วทันทีที่มาถึงหลูปิงเซ่อก็ต้องตกใจกับภาพที่ได้เห็น
  ”เฮ้ยไอ้หัวหอก!” หวังไคตะโกนออกใส่กวงโถวอย่างเดือดดาลขณะที่อุ้งมือข้างหนึ่งกำแครอทหัวหนึ่งไว้ไม่ปล่อย “ถ้าแกหัวเราะเยาะฉันอีกครั้ง ฉันจะเอาแครอทนี่ยัดปากแก”
  ”ชูฮัน?”ฟานฮงเหวียนที่นอนอยู่บนเตียง บาดแผลถูกทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเรียบร้อย เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นชูฮัน
  ”หัวหน้ามาแล้ว!”เหอซางกระโดดและรีบวิ่งเข้ามาหาชูฮันด้วยความดีใจ “สถาบันวิจัยเกิดไฟไหม้ ผมคิดว่าหัวหน้าจะไม่ได้ออกมาแล้ว!”
  ”เรื่องนั้นค่อยคุยกัน”ชูฮันเดินเข้าไปหาหวังไคก่อนทันที “ไอ้โง่ แกทำอะไรลงไป?”
  ”หัวหน้าชูฮันนี่มันเป็นสัตว์เลี้ยงของหัวหน้าเหรอครับ หัวหน้าคุยกับมันด้วย!” กวงโถวที่ตกใจสุดชีด ถามชูฮันเสียงสั่น “แต่มันกินแค่แครอทใช่มั้ยครับ?”
  ชูฮันไม่สามารถตอบได้ว่าหวังไคเป็นสัตว์กินพืชอย่างแท้จริงเขาจึงทำเพียงเตะหวังไคให้หลบไปและนั่งลงแทน จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ในเมื่อทุกคนอยู่ที่นี้ งั้นเรามาคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกัน”
  ”หัวหน้ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ?” เหมิงชีเหว่ยถอนหายใจอย่างเป็นกังวล “หัวหน้าไม่ได้เข้าไปในสถาบันเพื่อหาข้อมูลเหรอครับ ทำไมถึงกลายเป็นว่ามีข่าวว่าสถาบันไฟไหม้มาแทน? หัวหน้าอย่าบอกนะครับว่าหัวหน้าเป็นคนจุดไฟไหม้ขึ้น ถ้างั้นค่ายหนานตู้จะต้องส่งคนระดมหาผู้ทำผิดแน่ๆ หัวหน้าต้องรีบหนีนะครับ?”
  ชูฮันพยักหน้ารับ”ไม่เจอกันแค่คืนเดียว เหมือนความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนายจะเพิ่มขึ้นนะ!”
  ทั้งบ้านพักเงียบกริบยกเว้นฟานฮงเหวียนที่ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้และกระอักเลือดออกมา