บทที่ 464 ประธาน คุณล้มละลายจริงๆ หรือ?

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 464 ประธาน คุณล้มละลายจริงๆ หรือ?
ดลธีพยักหน้า:“ผมตามคนสองสามคนมา ประธานครับ วันนี้พวกคุณไปในเมืองมา เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

เขาโยนของบางอย่างที่เขายึดมาได้โดยลงบนพื้น

แสนรักหรี่ตาลงทันที

ดันเป็นเข็มฉีดยา และก็เชือก รวมทั้งปืนเก็บเสียงอย่างดีอีกสองกระบอก

ดังนั้น คนพวกนี้มาเพื่อฆ่าเขางั้นหรือ?

ไม่ เจ้านายของพวกเขายังไม่มีความกล้านี้ อีกอย่าง เขาก็น่าจะรู้ดีว่า แค่ความสามารถเล็กๆ น้อยๆ ของเขานั้น เขาฆ่าแสนรักไม่ได้แน่

“เดี๋ยวก่อน”

ชายหนุ่มที่อยู่ในความมืดมานานแล้ว หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก็หันกลับเข้าไปอีกครั้ง

สักพัก ตอนเขาออกมาอีกครั้ง ก็มีซองเอกสารอยู่ในมือ

“นี่คือ?”

“เป็นหนังสือโอนหุ้นของพวกตาแก่สมเดช วันนี้เขานัดผมไป จะเอาของพวกนี้ให้ผม แต่ผมไม่ได้รับไว้ คิดไม่ถึงว่า ไอ้แก่นี่จะคืนให้หมี่”

สายตาของเขาไม่ได้โหดเหี้ยมธรรมดา แต่เหมือนกับว่าต้องการฉีกมันเป็นชิ้นๆ ในทันที

ดลธี:“……”

สักพัก จึงกล้าถามไปว่า:“แล้วต่อไปคุณจะทำอย่างไรครับ?ตอนนี้สถานการณ์ที่บริษัทไม่ค่อยดีจริงๆ และก็ ซาจาในเจแปนที่ก่อนหน้านี้คุณให้ผมไปสืบ ก็แปลกมากด้วย”

“แปลก?”แสนรักเหลือบมองเขา“หมายความว่ายังไง?”

ดลธีเปิดเอกสารที่เก็บไว้ในโทรศัพท์ แล้วยื่นให้เขาทันที

“จริงอยู่ที่ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้เป็นคนญี่ปุ่น แต่ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ คณาธิปรับผิดชอบทุกอย่างเลย จากที่สืบแล้ว บอกว่าเขาคือลูกบุญธรรมของสึรุตะ คาซึฮิเดะ”

“ลูกบุญธรรม?”

แสนรักที่กำลังเปิดเอกสารนั้นดู ก็รู้สึกแปลกกับข้อมูลนี้จริงๆ

คณาธิปถูกเนติแม่เขาส่งไป ที่ตระกูลวชิรนันท์ตอนเขาแปดขวบไม่ใช่หรือ?หลังจากนั้นเนติเสีย ก็เป็นญาณีแม่ของเส้นหมี่ที่เลี้ยงเด็กคนนี้จนถึงสิบแปด

แล้วทำไมเขาถึงกลายเป็นลูกบุญธรรมของคนญี่ปุ่นคนนี้ล่ะ?

หรือว่าหลังจากเขาเรียนจบมัธยมปลาย ได้เจอคนญี่ปุ่นคนนี้ตอนไปเรียนต่างประเทศ?

“ก็ไม่ใช่ครับ จากที่พวกเราสืบมาได้ การติดต่อของคณาธิปกับซาจากรุ๊ป ก็แค่สองนี้เอง หมายความว่า ตอนนั้นที่เขายังอยู่เมืองเคลียร์ ก็ติดต่อกับบริษัทนี้แล้ว”

ดลธีโยนสิ่งของอย่างหนึ่งที่เขาพบออกไป

แสนรักได้ยิน ในที่สุดก็ไม่พูด

มีเพียงดวงตาคู่นั้น จ้องมองเอกสารในมือท่ามกลางความมืด ราวกับถูกปกคลุมด้วยความเยือกเย็น เพียงมองก็ทำให้ตัวสั่น

ดูเหมือนว่า ส่วนที่ต้องตรวจสอบจริงๆ ก็คือคนญี่ปุ่นคนนี้

“หาคนมาทำเรื่องนี้ละกัน”

“ครับ ประธาน”

ดลธีได้ยินตรงทางเดิน ทันใดนั้นตาก็เป็นประกายทันที

ประธานเริ่มสนใจเรื่องของบริษัทแล้ว?

อย่างไรก็ตาม เขามีความสุขยังไม่ถึงไหน BOSSผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ก็โยนของในมือให้เขา:“เอาของสิ่งนี้คืนตาแก่นั่น”

“อ๋า?”

หน้าของดลธีคว่ำลงทันที แต่ว่า เขาก็ยังดิ้นรน

“เอ่อ……ถ้าคุณนายรู้จะทำไงครับ?”

“ทำอย่างไรอะไร?นี่ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย”

“ไม่ใช่ครับ ในเมื่อเธอปิดบังคุณโดยการรับมา งั้นเธอก็ต้องมีความคิดของเธอเองแน่ ถ้าคุณไม่ถามเธอแต่เอามาให้ผมแบบนี้ เธอตื่นมาแล้วโกรธเข้าจะทำไงครับ?”

“……”

“ดังนั้นผมคิดว่า ประธานครับ คุณคุยกับเธอดีๆ ดีกว่าครับ พวกคุณคืนดีกันไม่ง่ายเลยนะครับ”

บอดี้การ์ดนี้ ยิ่งกล้าหาญขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่คำพูดแบบนี้ก็พูดออกมาได้

เส้นเลือดที่หน้าผากของแสนรักปูดออก

แต่สุดท้าย เขาก็ต้องยอมรับว่า หนังสือโอนหุ้นนี้ มอบไปไม่ได้จริงๆ

ดลธีเห็นแบบนี้ ก็รีบถอยหนี:“ประธานครับ งั้นถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวก่อน อ้อ ใช่สิ คุณไม่มีเงินแล้วจริงๆ หรือครับ?แบล็กการ์ดสองใบนั้นใช้ได้ทั่วโลกไม่จำกัดจำนวนไม่ใช่หรือครับ?”

“ออกไป๊!”

สุดท้ายแสนรักได้แต่พ่นคำนี้ออกไป!

หมู่บ้านบนภูเขาคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

วันถัดมา

หลังจากเส้นหมี่ตื่นมา ก็ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลย เธอขยับร่างกายที่ปวดเมื่อย หันหน้าไปเห็นซองเอกสารที่ตัวเองใส่ในกระเป๋าบนโต๊ะ

เธอก็เริ่มกังวลขึ้นมา

ของสิ่งนี้ ต้องจัดการอย่างไรเนี่ย?

เธอไม่อยากให้ของสิ่งนี้ตกไปอยู่ในมือของคณาธิปเด็ดขาด ภาพลักษณ์ของคนๆ นี้ที่อยู่ในใจเธอได้จบสิ้นลงแล้ว ถึงจะเอาของเหล่านี้ไปให้หมากิน เธอก็ไม่ยอมให้เขา

เส้นหมี่รำคาญมาก

“หม่ามี๊ หม่ามี๊ตื่นยัง?พวกเราจะกินอาหารเช้าแล้ว”

ขณะที่กำลังคิดเพ้อเจ้อ จู่ๆ ด้านนอกก็เสียงเด็กที่ฟังดูนุ่มนิ่มขึ้นมา พร้อมกับก้าวเท้าเล็กๆ ที่กะโผลกกะเผลกไปมา และคลานขึ้นมาแล้ว

เป็นรินจัง เธอขึ้นมาเรียกเธอ

เส้นหมี่รีบสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วลงมาจากเตียง:“ตื่นแล้วจ้ะ รินจัง ลูกขึ้นมาได้ไง?พี่กับพวกแด๊ดดี้ล่ะ?”

“พวกเขาไปเก็บผลไม้ค่ะ คุณปู่บอกว่า จะให้เราเอากลับไปกิน”

หลังจากเด็กสาวผิวขาวอมชมพูขึ้นมาแล้ว มือเล็กๆ ที่อ้วนๆ นั้นก็ถือนมขวดหนึ่ง เห็นหม่ามี๊ตื่นแล้ว เธอก็ถลาเข้าหาเหมือนนกนางแอ่นตัวน้อย

พวกเขาเริ่มเตรียมเรื่องที่จะกลับไปเร็วขนาดนี้เลยหรือ?

เส้นหมี่อุ้มเด็กจ้ำม่ำคนนี้ขึ้นมา แล้วสองแม่ลูกก็ลงไปชั้นล่าง

และก็จริง หลังจากเธอลงมา ในห้องโถงของครอบครัวชาวนา สิ่งของของพวกเขาห้าคนก็เก็บเรียบร้อยแล้ว มีกระเป๋าใบใหญ่ใบเล็กวางอยู่นั่น