มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 496
สมบัติวิเศษ ในสมัยโบราณ คืออาวุธที่มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เท่านั้นจึงจะมีคุณสมบัติได้ครอบครอง คุณค่าของสมบัติวิเศษหนึ่งชิ้นล้ำค่าเพียงใด ไม่จำเป็นต้องให้พูดมากความ

หลัวซิวเองก็ยังประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าก้อนหินสีเทาที่ดูไม่สะดุดตาเช่นนี้ จะสามารถนำมาแลกสมบัติวิเศษได้

ต่อให้เป็นสมบัติวิเศษชั้นล่าง แต่ราคาของมันนั้นสามารถซื้อประเทศเทียนหวูดินแดนอันกว้างใหญ่เช่นนี้ได้!

หลัวซิวกำลังจะถามว่าหินตรีภพนี้มันวิเศษที่ตรงไหน จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำก็เอ่ยปากอธิบาย “ด้านในหินตรีภพ ประกอบไปด้วยกฎตรีภพ พลังแห่งกฎชนิดนี้ นับเป็นประเภทของกฎสูงสุด เทียบเท่ากับเวลา โซน ชีวิต และความตายทั้งสี่กฎใหญ่รวมกัน!”

“กฎแห่งเบญจธาตุทั้ง5 และหยินหยางรวมเข้าด้วยกัน ต่างก็นับเป็นการแตกแขนงของกฎตรีภพ สามารถอาศัยเรียนรู้กฎตรีภพ เพื่อยกระดับการเรียนรู้กฎเบญจธาตุทั้ง5 และหยินหยาง”

“นอกจากนี้ ภายในหินตรีภพยังประกอบไปด้วยพลังแห่งตรีภพ เมื่อกลั่นแปรและดูดซับแล้ว สามารถยกระดับแดนผลการฝึกตน เพียงแต่ว่าระดับพลังแห่งตรีภพนั้นสูงเกินไป วรยุทธ์ทั่วไปนั้นไม่สามารถกลั่นแปรได้”

“อีกทั้ง หินตรีภพยังสามารถนำมาใช้หลอมอาวุธสมบัติวิเศษ สมบัติวิเศษที่สมบูรณ์แบบที่ถูกกลั่นโดยหินตรีภพกลั่น มีประสิทธิภาพมากกว่าสมบัติวิเศษพรสวรรค์ทั่วไปมาก”

“หินตรีภพยังสามารถนำมาใช้กลั่นยา การฉุดรั้งหนึ่งในพลังแห่งตรีภพให้ผสมผสานเข้ากับยา ก็จะสามารถทำให้ระดับของยานั้นเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง!”

“หินตรีภพยังสามารถใช้เพื่อสร้างค่ายกล ใช้หินตรีภพเป็นแกนของค่ายกล พลังของค่ายกลสามารถยกระดับขึ้นได้เป็นเท่าตัว!”

จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำ อธิบายถึงหินตรีภพที่มีคุณสมบัติราวกับขุมทรัพย์ ทำเอาหลัวซิวที่ฟังอยู่นั้นตาค้างทีเดียว

เขาได้ข้อสรุปว่า พลังของหินตรีภพนั้น สามารถแย่งออกได้ราว ๆ ห้าชนิด ชนิดที่หนึ่งคือการรวมกันของกฎตรีภพ ชนิดที่สองคือการรวมกันของพลังแห่งตรีภพ กลั่นแปรสามารถยกระดับผลการฝึกตนได้ ชนิดที่สามสามารถใช้เพื่อหลอมอาวุธสมบัติวิเศษของนักยุทธ์ ชนิดที่สี่คือใช้เพื่อกลั่นยา ชนิดที่ห้าคือใช้เพื่อสร้างค่ายกล

“ที่มันคือสมบัติสารพัดประโยชน์ชัด ๆ!”

หลัวซิวประหลาดใจอย่างยิ่ง เขาคาดเดาว่า หลี่เสวียนหยางหมกมุ่นอยู่กับคิดที่แต่จะต่อกรกับสำนักฉางเหอ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าทั้งหมดก็เพื่อหินตรีภพ

แต่หินตรีภพที่มีคุณสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ อาจารย์สำนักฉางเหอกลับยกให้เขาหนึ่งชิ้น ทำให้หลัวซิวสามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่า อาจารย์สำนักฉางเหอต้องไม่รู้ถึงคุณสมบัติเหล่านี้ของหินตรีภพอย่างแน่นอน

ตามที่จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำได้กล่าวไว้ ต่อให้ในสมัยโบราณก็ตาม แต่เพราะหินตรีภพนั้นหายากและล้ำค่ามาก โดยทั่วไปมีเพียงผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไปเท่านั้นที่เข้าถึงได้ หากอาจารย์สำนักฉางเหอจะไม่รู้ก็คงจะไม่ได้แปลกอะไร

ยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่ออาจารย์สำนักฉางเหอได้มอบชิ้นหนึ่งให้กับเขา ถ้าเช่นนั้นในมือของเขาต้องยังมีอีกมากแน่นอน!

สำหรับหลัวซิวแล้ว สิ่งของล้ำค่าเช่นนี้หากตกไปอยู่ในมือคนอื่นก็จะกลายเป็นสิ่งที่เสียเปล่า ต้องตกอยู่ในมือของเขาเองเท่านั้นถึงจะเป็นการใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าสุด

เขาเริ่มครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะเอาหินตรีภพที่อยู่กับอาจารย์สำนักฉางเหอ มาเป็นของตัวเองให้ได้

เก็บหินตรีภพลงไปด้วยความเงียบเชียบ หลัวซิวก็เนียนถามเกาเหลียนหงเรื่องเกี่ยวกับสงครามเทียนเหอ

“อาจารย์สำนักฉางเหอภายหลังการต่อสู้ครั้งนี้ ก็ได้ฆ่ามกุฎยุทธ์ตายไปสองคน ต้องได้รับของดีมาอย่างมากมายแน่นอน ถึงว่าทำไมถึงมอบหินตรีภพให้ข้าง่าย ๆ เช่นนี้”

สำหรับหินตรีภพในมือของเขานั้น หลัวซิวได้คำนวณไว้แล้ว เตรียมนำมายกระดับผลการฝึกตนของเขาเอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองตัวเขาในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการยกระดับผลการฝึกตน ไม่เช่นนั้นเป็นถึงเจ้าสำนักไท่เสวียน แต่กลับมีผลการฝึกตนเพียงแดนราชายุทธ์ มันดูจะไม่เข้าท่าเท่าไรนัก

ถึงแม้จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำได้บอกไว้ว่า ระดับของพลังแห่งตรีภพนั้นสูงมาก วรยุทธ์ทั่วไปไม่สามารถดูดซับการกลั่นแปรได้ แต่การฝึกตนของเขาเป็นการฝึกวรยุทธ์แบบวัฏจักร นั่นคือกฎแห่งความเป็นตายดั้งเดิม รวมกับวิชาฝึกจิตไท่เสวียนสามารถกลั่นแปรพลังมหาศาลได้ กลั่นแปรพลังแห่งตรีภพ แน่นอนว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น