บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 742

แต่เธอก็รู้สึกแปลกใจที่เธอเห็นเฟลิเป้เดินมาพร้อมกับช่อดอกกุหลาบ

ในเวลานี้ เฟลิเป้แตกต่างไปจากวันก่อนอย่างสิ้นเชิง เขามีท่าทางสง่างามและสงบ

ผู้หญิงสองสามคนมองไปที่เขาเพื่อชื่นชมรูปลักษณ์ของเขา ราวกับว่าตนเป็นหญิงสาวที่ได้เจอรักแรก

เคธี่ก็เป็นเหมือนพวกเธอเหล่านั้น เวลาที่เธอเห็นภาพแบบนี้ เธอก็มักจะสงสัยว่าเธอเป็นคนที่โชคดีไหม แต่แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับความรักจากเขาเลย อย่างน้อยเธอก็ได้ร่างกายของเขา

ขณะที่กำลังปลอบใจตัวเอง เธอก็เห็นเฟลิเป้เดินไปยังแผนกผู้ป่วยใน

จากนั้นเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเฟลิเป้มาเยี่ยมเมเดลีนพร้อมกับช่อกุหลาบช่อนั้น

แต่ทำไมเมเดลีนถึงต้องเข้าโรงพยาบาลล่ะ?

เคธี่ยังจำข้อความที่เธอส่งให้เมเดลีนในวันนั้นได้

เธอได้ยินมาว่าเฟลิเป้ต้องการไปพบเจเรมี่คนเดียว มันทำให้เธอรู้สึกไม่ดีนัก ดังนั้นเธอจึงส่งข้อความหาเมเดลีนและบอกเรื่องนี้กับเธอ

เธอหวังว่าเมเดลีนจะสามารถหยุดทั้งสองคนไว้ได้ และเรื่องเลวร้ายทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้น

แต่ดูเหมือนว่าในวันนั้นจะมีเรื่องที่เลวร้ายเกิดขึ้น เพราะตอนนี้เมเดลีนคงได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเมเดลีนตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอก็รู้ว่าเจเรมี่อยู่ที่นี่ตลอดเวลา แต่เธอไม่อยากพูดอะไรกับเขา ดังนั้นเธอจึงแกล้งหลับตลอดเวลาที่เขายังอยู่ที่นี่

เจเรมี่สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังของเธอที่มีต่อเขา ดังนั้นเขาจึงเดินออกไป

แต่เมเดลีนก็ไม่ได้คาดหวังว่าเฟลิเป้จะมาที่นี่ทันทีหลังจากที่เจเรมี่ออกไป

เขาวางช่อดอกกุหลาบไว้บนโต๊ะ และดวงตาที่อ่อนโยนของเขาก็เต็มไปด้วยความสำนึกผิด “เอวลีน ผมไม่ได้อยากทำร้ายคุณ”

เฟลิเป้กล่าวขอโทษและจ้องมองเมเดลีนที่ตอนนี้กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง “ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ แต่ผมไม่ได้ทำร้ายลิเลียนจริง ๆ”

“แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของผม แต่ผมก็ดูแลเธอราวกับว่าเธอเป็นลูกแท้ ๆ นะ ผมรักคุณ และรักลิเลียนด้วย”

เมเดลีนยิ้มอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นเธอก็แยกริมฝีปากซีดของเธอออกและพูดว่า “คุณไม่ได้รักฉัน คุณแค่ต้องการครอบครองฉัน คุณแค่ต้องการเอาชนะเจเรมี่”

เฟลิเป้ขมวดคิ้วทันทีหลังจากได้ยินเรื่องนั้น “คุณเห็นผมเป็นแบบนั้นเหรอ?”

เมเดลีน สายหน้าช้า ๆ และพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ก่อนหน้านั้นก็ไม่ คุณมักจะเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนชั้นสูงที่สง่างามและอ่อนน้อมถ่อมตน”

“ฉันเคยคิดว่าคุณเป็นเหมือนพรสำหรับชีวิตที่โชคร้ายของฉัน คุณช่วยชีวิตฉัน และช่วยให้ฉันลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งในตอนที่ฉันกำลังแย่ ฉันปฏิบัติต่อคุณเหมือนว่าคุณเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน และคิดที่จะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับคุณ แต่สิ่งที่ฉันเห็นเป็นเพียงด้านที่คุณต้องการแสดงให้ฉันเห็นเท่านั้น”

ใบหน้าของเฟลิเป้หม่นหมอง “เอวลีน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเข้าใจผิด”

“บางทีฉันอาจเข้าใจผิดในตอนนั้น ฉันเข้าใจผิดว่าคุณเป็นคนที่อ่อนโยน สง่างาม ตรงไปตรงมา และใจดี” เมเดลีนพูดเยาะเย้ยตนเอง “รู้ไหม? ฉันเชื่อทุกสิ่งที่คุณพูด จนถึงเมื่อวานนี้ ฉันยังคงเลือกที่จะเชื่อคุณ แม้ว่าเจเรมี่จะเตือนฉันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าคุณกำลังโกหกฉัน แต่สุดท้ายแล้ว…”

“สุดท้ายแล้ว คุณยังเลือกที่จะเชื่อคนที่ทำร้ายคุณจนไม่เหลืออะไรอีกเหรอ?”

“ไม่ ฉันเลือกจะเชื่อตัวเอง” ดวงตาของเมเดลีนเฉียบแหลม “ฉันจำได้ ฉันจำทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตและทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้แล้ว”

สีหน้าของเฟลิเป้เปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้

ความทรงจำของเธอกลับคืนมาแล้ว

นั่นก็หมายความว่าเธอจำได้แล้วว่าตัวเองไม่ได้เกลียดเจเรมี่

เคธี่ซึ่งกำลังแอบฟังอยู่นอกห้อง จู่ ๆ เธอก็ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ จากข้างใน ขณะที่เธอรู้สึกว่ามันแปลก ๆ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นพลางหมุนตัวอย่างเร่งรีบเพื่อวิ่งหนี

เฟลิเป้เดินออกจากห้องด้วยสีหน้าเย็นชา เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยแวบหนึ่ง

เคธี่รีบวิ่งมาที่ล็อบบี้อย่างเร่งรีบและเธอก็จำได้ว่าเธอยังไม่ได้รับผลตรวจ

เธอรีบเข้าคิวทันที และทันทีที่เธอได้รับผลตรวจ ชายคนนั้นก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอด้วยท่าทางเย็นชา

“เธอสะกดรอยตามฉันเหรอ?”

ร่างกายของเคธี่สั่นสะท้านจนผลตรวจในมือของเธอตกไปอยู่บนเท้าของเฟลิเป้