บทที่ 1061 สัญชาตญาณแม่นจนน่ากลัว / บทที่ 1062 เก่งจ๊ะเก่ง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1061 สัญชาตญาณแม่นจนน่ากลัว

หานเซี่ยนอวี่พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ก็ตอบไปตามความจริง ว่าเป็นแค่เพื่อนทั่วไปก็พอ”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าแสดงว่าเห็นด้วย “สื่อก็คงเล่นข่าวแค่ไม่กี่วัน ถ้าขุดข้อมูลใหม่ไม่เจอ อย่างมากก็แค่หนึ่งอาทิตย์กระแสก็คงเงียบไปเอง”

กงซวี่เสริมขึ้นทันที “แล้วถ้าเกิดขุดข้อมูลใหม่ได้ล่ะ?”

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาใส่เขา “ฉันอยากรู้นักว่าสื่อสำนักไหนจะมีปัญญาขุดข่าวนี้ได้!”

นั่นมันตอนที่เธอแต่งเป็นผู้หญิงเถอะ พวกนั้นจะไปขุดมาจากที่ไหนล่ะ

หานเซี่ยนอวี่กระแอมเบาๆ “อะแฮ่ม เยี่ยไป๋หมายถึงเป็นเพื่อนทั่วไปจริงๆ เลยไม่มีอะไรให้ขุดเพิ่มแล้วไง”

กงซวี่ได้ยินอย่างนั้น ก็ทำหน้าผิดหวังทันที “อะไรกัน…เป็นแค่เพื่อนทั่วไปเองเหรอ…ไม่สนุกเลย…”

กงซวี่ถามซักไซ้ไปด้วย แล้วก็พยายามหาข่าวที่เกี่ยวข้องไปด้วย ขณะกำลังเลื่อนอ่านข่าวไปเรื่อยๆ แล้วเห็นภาพในข่าวซุบซิบข่าวหนึ่ง เสียงของเขาก็สะดุดไป สีหน้าก็เปลี่ยนไปด้วย…

“นี่มัน…” กงซวี่ลุกพรวดขึ้นมา

เยี่ยหวันหวั่นเห็นสีหน้ากงซวี่ผิดปกติ หัวใจก็เต้นรัวทันที

“เสี่ยวมี่เจี้ยน! นี่มันเสี่ยวมี่เจี้ยนของผมนี่!” กงซวี่ร้องเสียงตื่นขณะจ้องหนึ่งในภาพใบหน้าด้านข้างในข่าว จากนั้นก็รีบพุ่งตัวไปยังที่นั่งของหานเซี่ยนอวี่ “หานเซี่ยนอวี่! นี่มันเรื่องอะไรกันแน่! ทำไมพี่ถึงไปอยู่กับเสี่ยวมี่เจี้ยนของผมได้? พี่รู้จักเสี่ยวมี่เจี้ยนเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นอึ้งค้าง

กงซวี่ทำไมถึงตาดีขนาดนี้เนี่ย มีแค่รูปด้านหลังกับด้านข้างไม่กี่รูปเท่านั้น แม้แต่เยี่ยมู่ฝานที่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเธอยังจำเธอไม่ได้เลย แล้วเขาดูออกได้ยังไงเนี่ย?

หานเซี่ยนอวี่เองก็ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เขาหันไปมองเยี่ยหวันหวั่นตามจิตใต้สำนึก

เยี่ยหวันหวั่นนวดหัวคิ้ว บอกว่า “กงซวี่ นายช่วยใจเย็นหน่อยได้ไหม อย่าตีโพยตีพาย แค่รูปข้างหลังนายจะไปมั่นใจได้ยังไง?”

กงซวี่เอ่ย “ก็สัญชาตญาณของผมบอกอย่างนั้นนี่!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

สัญชาตญาณแม่นจนน่ากลัวจริงๆ!

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ถ้าหากเป็นเสี่ยวมี่เจี้ยน ฉันจะจำไม่ได้เลยเหรอ?”

พอได้ยินอย่างนั้น กงซวี่ก็ชะงักไป…

เพราะถึงยังไงเยี่ยไป๋ก็เป็นพี่ชายของเสี่ยวมี่เจี้ยน ถ้าเขาว่าไม่ใช่ก็คงไม่ใช่…

“ไม่ใช่จริงๆ เหรอ?” กงซวี่ทำหน้าสงสัย

“ไม่ใช่น่ะสิ!” เยี่ยหวันหวั่นพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

กงซวี่เงียบ

เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่กงซวี่กล่อมง่าย

กงซวี่คร่ำครวญอย่างน่าสงสาร “พี่เยี่ย พี่ดูสิผมคิดถึงเสี่ยวมี่เจี้ยนจนสมองเพี้ยนไปหมดแล้ว ให้ผมเจอเธอสักครั้งไม่ได้เหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองกงซวี่ แล้วบอกว่า “ได้”

กงซวี่อึ้งงัน จากนั้นก็ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ “พี่เยี่ย พี่พูดจริงเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ถ้าหากนายได้รางวัลจินหลานสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ฉันจะให้นายเจอเธอ”

หานเซี่ยนอวี่ได้ยินอย่างนั้น ก็หันไปมองเยี่ยหวันหวั่นตามจิตใต้สำนึกอีกครั้ง

กงซวี่กระเด้งตัวไปหาเยี่ยหวันหวั่นเหมือนลูกศรที่พุ่งออกจากคันศร “โอ๊ย! พี่เยี่ย ผมรักพี่ที่สุดเลย…”

กงซวี่พูด แล้วทำท่าจะกระโจนกอดเยี่ยหวันหวั่น

เยี่ยมู่ฝานจับตาดูกงซวี่มานานจนรู้นิสัยเขาดี พอเห็นอย่างนั้นก็รีบตำหนิ แล้วเดินเข้าไปห้ามกงซวี่

แต่นึกไม่ถึง ว่าก่อนที่เขาจะทันทำอะไร กลับมีคนเร็วกว่าเขาอีก

หานเซี่ยนอวี่ดึงกงซวี่ไว้ก่อนเขา

“เอิ่ม พี่เซี่ยนอวี่ พี่ทำอะไรของพี่น่ะ?” กงซวี่ทำหน้าไม่พอใจ

หานเซี่ยนอวี่ยิ้มบาง แล้วบอกว่า “เปล่า แค่จะถามว่าวันนี้นายไปทำผมที่ไหนมา?”

“ฮ่าๆๆๆๆ ดูดีมากใช่ไหมล่ะ? ผมจะบอกให้ว่าเพื่อจองคิวกับช่างทำผมคนนั้น ผมให้ผู้ช่วยผมไปคุยกับเขาล่วงหน้าตั้งสามเดือนแน่ะ ก็คนนั้นไง…”

กงซวี่โดนดึงความสนใจออกไป เขาเริ่มคุยจ้อเรื่องทรงผมของตัวเองไม่หยุด ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าหานเซี่ยนอวี่ตั้งใจเบี่ยงเบนความสนใจของเขา

เยี่ยหวันหวั่นที่ยืนอยู่ข้างๆ กุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออก…

เป็นคนไม่คิดอะไรมากก็ดีเหมือนกันนะ…

……………………………………………………….

บทที่ 1062 เก่งจ๊ะเก่ง

หลังจากจบการประชุม เยี่ยมู่ฝานก็เรียกเยี่ยหวันหวั่นไปคุยเป็นการส่วนตัว

เยี่ยมู่ฝานเอ่ย “ใช่สิหวันหวั่น มีเรื่องหนึ่ง…”

เยี่ยหวันหวั่นถาม “มีอะไรเหรอ?”

เยี่ยมู่ฝานบอกว่า “ข่าวซุบซิบอะไรนั่นของหานเซี่ยนอวี่ ยังไงแกก็หาเวลาไปคุยกับเขาหน่อยดีกว่า ฉันรู้สึกว่าปฏิกิริยาของเขาวันนี้ดูแปลกๆ ถ้าเกิดเขาปิดบังอะไรไว้ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แค่เพื่อนทั่วไป กลัวว่าจะเป็นเรื่องขึ้นมาได้…”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแล้วปากกระตุกเล็กน้อย “วางใจเถอะพี่ เขามีอะไรปิดบังอยู่ก็จริง แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดจริงๆ พวกเขาเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ”

เยี่ยมู่ฝานสงสัย “แกรู้ได้ไง?”

ยังไงเรื่องที่ศิลปินแอบมีแฟนโดยไม่บอกทางต้นสังกัดก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป ถึงแม้ความสัมพันธ์จะดีแค่ไหนก็ด่วนสรุปไม่ได้

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “เพราะผู้หญิงในรูป ก็คือฉัน น้องสาวของพี่ไงล่ะ…”

“อะไรนะ?” เยี่ยมู่ฝานทำหน้าอึ้ง ผ่านไปครู่หนึ่งถึงค่อยได้สติ เขาพูดด้วยความร้อนรน “เดี๋ยวนะ…นี่แกจะบอกว่า…แกถูกจับได้แล้วงั้นเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นจนใจ ทำได้เพียงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง

เยี่ยมู่ฝานทำหน้าถึงบางอ้อ “ไม่น่าล่ะ…ไม่น่าล่ะวันนี้หานเซี่ยนอวี่ถึงได้ห้ามกงซวี่เร็วกว่าฉันอีก! ฉันว่าหานเซี่ยนอวี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะเนี่ย…”

จู่ๆ เยี่ยมู่ฝานก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบถามว่า “พอเขารู้แล้วไม่มีปฏิกิริยาอะไรบ้างเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นกระดกคิ้ว “จะไม่มีได้ไงล่ะ? แต่ยังดีที่หานเซี่ยนอวี่เป็นคนใจเย็น ถ้าเป็นอีกสองคนล่ะก็ สถานการณ์คงยากคาดเดาแล้วล่ะ…”

พูดมาถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็เริ่มสงสัย “ทำไมพี่ถึงไม่ถามเรื่องที่ฉันรับปากกงซวี่เลยล่ะ?”

ก่อนหน้านี้เธอเคยเล่าเรื่อง ‘เสี่ยวมี่เจี้ยน’ ให้เยี่ยมู่ฝานฟังแล้ว ฉะนั้นเยี่ยมู่ฝานจึงรู้ว่าคนที่กงซวี่ตามหาก็คือเธอ เขาถึงได้ระวังกงซวี่มาโดยตลอด

วันนี้ในที่ประชุม เธอรับปากกงซวี่ ถ้าหากเขาคว้ารางวัลราชาจอเงินได้ ก็จะให้เขาเจอเสี่ยวมี่เจี้ยน ปรากฏว่าเยี่ยมู่ฝานกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย

เยี่ยมู่ฝานได้ยิน ก็ทำหน้าเหมือนมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว “ถามทำไม? ยังไงกงซวี่ก็ไม่มีวันได้รางวัลราชาจอเงินอยู่แล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นเงียบ

เอาเถอะ ที่แท้ก็มั่นใจอย่างนี้นี่เอง…

ความจริงเธอกลับรู้สึกว่ากงซวี่เป็นคนหัวไว ถ้าหากครั้งนี้เขาสร้างผลงานได้ เธอก็ตั้งใจว่าจะทำให้เขาสมหวังสักครั้ง เพราะเธอเองก็คิดจะหาโอกาสบอกความจริงกับเขาอยู่แล้ว

“ใช่สิหวันหวั่น งานหมั้นของเยี่ยอีอีกับกู้เยว่เจ๋อถูกกำหนดแล้ว คุณปู่กับคุณย่าให้พวกเราสองคน แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ไปร่วมงานด้วย” เยี่ยมู่ฝานพูด สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก “ถ้าแกไม่อยากไปก็อย่าไป พี่จะช่วยพูดให้เอง”

เยี่ยหวันหวั่นกระดกคิ้ว “ไปสิ โอกาสดีที่จะได้เอาใจคุณปู่กับคุณย่า ทำไมจะไม่ไปล่ะ? ครั้งนี้คุณปู่คุณย่าอนุญาตให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปด้วย แสดงว่าพวกเขาเริ่มใจอ่อนแล้ว ถือเป็นเรื่องดี”

เยี่ยมู่ฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย “งานหมั้นของคนชั่วสองคน ไปแล้วแกไม่รู้สึกอึดอัดบ้างหรือไง”

เยี่ยหวันหวั่นยิ้ม “อึดอัด? ใครต้องเป็นฝ่ายอึดอัดก็ยังไม่แน่”

พูดจบ เยี่ยหวันหวั่นก็หันไปมองเยี่ยมู่ฝานแวบหนึ่ง “ฝ่ายบ้านรอง เดาว่าคงจะทนไม่ไหว เริ่มลงมือกันแล้ว…พักนี้ พี่ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรไว้ใช่ไหม?”

เธอกลัวว่าเยี่ยมู่ฝานจะถูกจับจุดอ่อนอะไรได้อีก ถ้าเป็นอย่างนั้นทุกอย่างที่ทำมาคงสูญเปล่าหมด

เยี่ยมู่ฝานปฏิเสธอย่างไม่พอใจ “นี่ๆๆ พี่ชายแกใช่คนแบบนั้นที่ไหนกัน? แกก็เคยเตือนฉันแล้ว ฉันจะกล้าก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ! ครั้งที่แล้วมีผู้หญิงแก้ผ้าแล้วขึ้นมาถวายตัวให้ฉันถึงบนรถ ฉันยังไม่ทำอะไรเลยนะจะบอกให้!”

เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุก “จ๊ะ เก่งจ้าเก่ง…”

เยี่ยมู่ฝานเอ่ย “แน่นอนอยู่แล้ว!”

………………………..