บทที่1709 – โชคลาภจากความโชคร้าย (ต่อ)
เพลิงวิญญาณที่ดำทมิฬถูกทำลายลงไปในทันที!
ชิงสุ่ยไม่เคยคิดมาก่อนว่าทักษะจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางในระดับเพิ่มพูนจะมีทรงพลังเช่นนี้! ด้วยทักษะนี้มันทำให้ความสามารถทางด้านพลังวิญญาณของชิงสุ่ยทวีผลขึ้นไปหลายเท่า มันให้ตอนนี้มีน้อยคนมากที่จะรับมือกับชิงสุ่ยได้
เวลานี้ชิงสุ่ยได้ควบคุมทักษะจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางของเขาทะยานเข้าใส่พยัคฆ์ราชสีห์ในทันที!
แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้ชิงสุ่ยตกตะลึง ทักษะจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางของเขาได้ผ่านทะลุร้างกายของพยัคฆ์ราชสีห์ และราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในตอนนี้มันนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
โดยพื้นฐานแล้วพยัคฆ์ราชสีห์นรกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือกฎใดๆ เมื่อมองไปที่มันทำให้ชิงสุ่ยรู้มึนงงอย่างมาก เขาไม่รู้ว่ามันทำได้อย่างไร และจะกำจัดมันด้วยวิธีไหนดี
เมื่อเห็นว่าทักษะของเขาไม่ได้ผลชิงสุ่ยก็แอบสงสัยว่าตอนนี้ทักษะของเขาได้ยกระดับขึ้นจริงๆหรือไม่หรือว่าเขาเข้าใจผิดไปในตอนแรก มันทำให้เขานั้นต้องเขาไปสำรวจในทะเลแห่งปัญญาของเขาในเวลานี้
ทักษะจิตวิญญาณมังกรเก้าหยาง:ความสำเร็จขั้นเพิ่มพูน สามารถเพิ่มพลังวิญญาณให้ผู้ใช้ได้ในระดับมหาศาล และเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งหมดในช่วงเวลาที่จำกัด นอกจากนี้จิตวิญญาณมังกรเก้าหยางยังสามารถทำลายรูปแบบหรือกลุ่มพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าตัวมันเองได้ แต่ไม่สามารถโจมตีใช้โจมตีแหล่งกำเนิดวิญญาณได้โดยตรง
เมื่ออ่านไปที่เนื้อความข้างต้นชิงสุ่ยพอเข้าใจแล้วว่าทำไมในตอนนี้เขาถึงไม่สามารถทำอันตรายมันได้ด้วยจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางโดนตรงได้
ถึงแม้จะมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่แต่ชิงสุ่ยก็มีความสุขอย่างมากที่มันยกระดับขึ้น แม้เขาจะไม่สามารถใช้มันเป็นอาวุธทำลายโดยตรง แต่ด้วยผลของมันๆก็ทำให้เขาใช้ทักษะอื่นๆได้ทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล มันก็ทำให้เขาสามารถสร้างการจู่โจมที่รุนแรงมากมายมหาศาลออกมา นอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปที่จะต้องรับมือกับการจู่โจมวิญญาณโดยตรง ด้วยจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางนั้นจะกลายเป็นดังโล่ทางวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขามีในตอนนี้ มันสามารถปกป้องและทำลายพลังวิญญาณที่จู่โจมเขาได้ทั้งหมด
ในตอนนี้พยัคฆ์ราชสีนรกได้แต่เฝ้าดูชิงสุ่ยด้วยวายตาโกรธแค้นขณะที่มันมองดูจิวิญญาณมังกรเก้าหยางหายไปแล้ว มันไม่พอใจอย่างมากที่เพลิงวิญญาณของมันถูกทำลายลงไปในตอนนี้ อีกครั้งที่มันส่งเพลิงวิญญาณออกมาในเวลานี้
แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ถูกทำลายด้วยจิตวิญญาณมังกรเก้าหยางของชิงสุ่ยอีกครั้งหนึ่ง!
การจู่โมด้วยเพลิงวิญญาณแต่ละครั้งนั้นบั่นทอนพลังของมันไปอย่างมากเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบในเวลานี้ มันจึงคิดที่จะเริ่มผ่อยหลังกลับในเวลานี้
ในการต่อสู้ครั้งนี้ชิงสุ่ยนั้นถือได้ว่าไว้ได้รับประโยชน์อย่างมากจากมันแจ่ถึงอย่างไรเขาก็มิอาจปล่อยให้มันหนี้ออกไปจากที่แห่งนี้ได้
กฎพระราชวังเก้าเทวา!
ในตอนนี้อสูรสยบมังกรได้เคลื่อนไหวอีกครั้งมันได้ขว้างเส้นทางหนีของพยัคฆ์ราชสีนรกเอาไว้ฝากหนึ่ง ในขณะเวลาเดียวกัน ชิงสุ่ยก็ได้พุ่งเข้ามาพร้อมฟาดง้าวทองไปที่ตัวของพยัคฆ์ราชสีนรกอย่างรวดเร็ว ตูม!
คำราม!
ในครั้งนี้นั้นแตกต่างออกไปจากก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด คือการโจมตีเพียงครั้งเดียวของชิงสุ่ยสามารถ สร้างบาดแผลที่ร้ายกาจลงบนร่างกายของมัน ในเวลานี้กระดูกของมันได้แหลกละเอียดไปหลายๆส่วน
มันได้ปล่อยเสียงคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะใช้หางของมันฟาดลงไปที่อย่างรุนแรงเข้าใส่ชิงสุ่ย ก่อให้เกิดพายุเล็กๆในบริเวณดังกล่าว ก่อนที่มันจะหันกลับมาจู่โจมเขาและพ่นลมหายใจพิษออกมา
ในช่วงเวลานี้ชิงสุ่ยรู้สึกพิษที่เมามายจำนวนมากอย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ยังสามารถทดทานต่อมันได้ พลังวิยญาณของเขา ก่อนที่เขาจะใช้ ทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึกออกมาและผสานมันเข้ากับกรงเล็บมังกรทอง และทักษะอื่นๆ ลงไปในง้าวทองก่อนที่จะฟาดออกไปอีกครั้ง
ในเวลานี้เลือดจำนวนมากได้ประทุออกมาจากรางกายของมันเสียงกระดูกถูกทำลายได้ดังไปทั่วบริเวณแห่งนี้ การกระทำนี้ชิงสุ่ยได้ทำลงไปเพราะต้องการแก้แค้นให้กับสิ่งที่มันทำลงไปกับชิงห่านอี่
ในเวลานี้พยัคฆ์ราชสีนรกได้อ้าปากออกร้องโหยหวนเป็นครั้งสุดท้าย
ในเวลานั้นเองชิงสุ่ยสัมผัสได้ว่าหญิงสาวที่สามกำลังใกล้เข้ามา ไอลีนโนเวล
พวกเธอตกใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดพวกเธอไม่คิดว่าเขาจะสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
ในช่วงเวลาสั้นๆพวกเธอทั้งสามคนได้หันไปมองที่ชิงสุ่ยพร้อมๆกัน
“ทำไมพวกเจ้าถึงมองข้าเช่นนั้นกันละ”ชิ่งสุ่ยกล่าวออกมาขณะมองไปที่พวกเธอ ในเวลานี้รอยยิ้มที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของสัตว์ร้ายทำให้ชิงสุ่ยดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น จนทำให้หัวใจพวกเธอเต้นแรง
พวกเธอใช้เวลาอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะได้สติกลับมาก่อนที่สีหน้าเขินอายจะปรากฏออกมาต่อจากนั้น
“ชิงสุ่ยวันนี้เจ้าช่างดูดีจริงๆ”นายหญิงกล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
ในเวลานี้พวกเธอสามารถผ่อนคลายได้แล้วเนื่องจากศัตรูของพวกเขานั้นถูกกำจัดไปแล้วในตอนนี้
เมื่อได้ยินคำพูดของนายหญิงชิ่งสุ่ยก็หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้ปรากฏขึ้นในเวลานี้กลุ่มคนหกลุ่มหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขานั่งลงที่ศพของอสูรในตอนนี้
เช่นเดียวกับนกยักษ์ขนาดใหญ่ที่ใกล้เข้ามาตอนนี้พวกมันอยู่ห่างเขาแค่100เมตรเท่านั้น
เมื่อมองขึ้นไปชิงสุ่ยสามารถรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นเมื่อมองขึ้นไป
“พวกข้าเฝ้ามองดูมันมานานแล้วแต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาแย่งมันไปต่อหน้าพวกเรา”ชายที่ดูหนุ่มกล่าวออกมา
ชิงสุ่ยขมวดคิ้วของเขาชายหนุ่มคนนี้ดูน่าสนใจอย่างมาก กลิ่นอายของเขาก็เต็มไปด้วยความลึกลับอย่างบอกไม่ถูก จากสถานในตอนนี้ชิงสุ่ยมาบอกได้ว่าเขานั้นมาจากตระกูลที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ถึงแม้เขาจะดูเด็กอย่างมากแต่ไม่อย่างต่ำเขาคงมีอายุมากกว่า200ปี เขาไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แจ่น้อย
ชิงสุ่ยไม่ได้ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อยนั้นเป็นเพราะไม่มีทางเลือก เขานั้นเป็นคนฆ่าพยัคฆ์ราชสีนรกด้วยตัวของเขาเอง ดังนั้นเขาจะไม่แก้ตัวแต่อย่างใด อีกทั้งเขาไม่จำเป็นตองทำเช่นนั้นเพราหุบเขาแห่งนี้เป็นเขตแดนของพระราชวังสุริยาและพระราชวังหมาป่ามังกรดังนั้น เขจึงไม่ถือว่าเขาทำผิดอะไร
“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี้?”ชิงสุ่ยแกล้งถามกลับไปราวกับไม่ยินสิ่งที่พวกเขากล่าว
ชายคนนั้นมองไปที่ชิงสุ่ยเขาสามารถบอกได้ทันว่าชิงสุ่ยนั้นเป็นที่สังหารมัน หั่นที่จะหันไปเป็นหญิงสาวทั้งสาม แล้วแสดงท่าทางที่ตกตะลึงออกมา
ทั้งสามเป็นหญิงที่งดงามอย่างมากโดยเฉพาะชิงห่านอี่ เสน่ห์ของเธอนั้นมากมายและดูเยือกเย็นอย่างมาก มันทำหัวใจของเขาสั่นไหวในเวลานี้
ชิงุส่ยสามารถสัมผัสได้ถึงความโลภในสายตาของเขาแต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ยังสามารถควบคุมมันเอาไว้ได้ มันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
“ข้าเป็นคนของตระกูลคลื่นจันทราข้าต้องขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยจัดการพยัคฆ์ราชสีห์นรกให้กับเรา”ชายคนนั้นกล่าวออกมาอย่างสงบนิ่ง