ตอนที่ 568 ให้ข้าตามใจตัวเองสักครั้ง / ตอนที่ 569 ยื่นมือช่วยเหลือ

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 568 ให้ข้าตามใจตัวเองสักครั้ง

 

 

“เจ้าเด็กโง่ เจ็บก็บอก ยังจะอวดเก่งอีก”

 

 

จงโม่เจียงพูดจบ เจ้าแม่ก็เดินนวยนาดเข้ามา นางจับข้อมือซูจิ่วซือ แล้วจับชีพจร จากนั้นก็ปล่อยมือทันที “หนอนไหมพิษกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในสมอง จึงเจ็บปวดจนทนไม่ไหว ระงับปวดไม่ได้ผล มีแต่ต้องจำกัดหนอนไหมพิษไม่ให้เคลื่อนไหว เจ้าถูกพิษไม่นาน หนอนไหมพิษในสมองยังไม่มาก หนอนไหมพิษไม่เคลื่อนไหวนาน เดี๋ยวก็หายปวด”

 

 

อาหลานทนเห็นซูจิ่วซือเจ็บปวดไม่ได้ นางคุกเข่าลงกับพื้นทันที “เจ้าแม่ ข้าขอร้องละ ช่วยคุณหนูด้วยเถอะ!

 

 

หนอนไหมพิษบ้านี้ไม่เหมือนหนอนไหมพิษชนิดอื่น ถ้าปล่อยไว้นาน จะทำลายสมอง ขอร้องละ ช่วยคุณหนูด้วยเถอะ!”

 

 

อาหลานนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ได้แต่คุกเข่าขอร้องเจ้าแม่ นางสู้เจ้าแม่ไม่ไหว และไม่รู้จะใช้วิธีใดให้ได้ผลเซียนหลิง จึงได้แต่ขอร้อง ไม่มีทางอื่น

 

 

“นี่เป็นชะตากรรมของนาง ทุกครั้งที่หนอนไหมพิษเคลื่อนไหวก็จะทำลายสมอง ขึ้นอยู่กับโชคชะตา ข้าไม่ใช่กวนอิม โลกนี้มีคนน่าสงสารตั้งมากมาย ถึงนางจะน่าสงสาร แต่ถ้าไม่มีคนที่เหมาะสมมาแลกผลเซียนหลิง ข้าไม่มีวันยกผลเซียนหลิงให้นางแน่”

 

 

ในสายตาของเจ้าแม่ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย

 

 

นางอยู่ในวงการนักเลงมาหลายสิบปี พบเห็นคนน่าสงสารมามาก จนไร้ความรู้สึกแล้ว หลายปีมานี้นางไม่เคยยุ่งกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง จะให้นางเมตตาช่วยเหลือคนอื่น เป็นไปไม่ได้ ถึงซูจิ่วซือตายที่นี่ก็ไม่เกี่ยวกับนาง ซูจิ่วซือไม่ได้เป็นอะไรกับนาง

 

 

จงโม่เจียงทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว แม้เขาไม่ยินยอม แต่เวลานี้ต้องช่วยซูจิ่วซือไว้ก่อน เขามองซูจิ่วซือแวบหนึ่ง เหมือนตัดสินใจเด็ดขาด กัดฟันพูด “เจ้าแม่ ข้ารับปาก ข้าอยู่กับเจ้าแม่ เจ้าแม่ช่วยซูจิ่วซือก่อน อย่าชักช้าร่ำไร”

 

 

ซูจิ่วซือซึ่งกำลังเจ็บปวดเงยหน้าขึ้นทันที พูดอย่างยากเย็น “จงโม่เจียง อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง”

 

 

“แม้แต่ตอนนี้เจ้าสองคนก็ยังเกี่ยงกันอีก น่าสนใจ แม่หนูทนเจ็บได้มาก เจ็บปานนี้ยังได้ยินพวกข้าพูดคุยกัน ไม่ธรรมดาเลย” เจ้าแม่พูดจบก็หันไปหาจงโม่เจียง ท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ถามขึ้น “โม่เจียง เจ้ายินดีอยู่กับข้า? ถ้ารับปากแล้วอย่ากลับคำ”

 

 

จงโม่เจียงตัดสินใจเด็ดเดี่ยว “ต่อหน้าเจ้าแม่ใครจะกล้ากลับคำ ข้ารับปากจริงๆ เจ้าแม่ อย่าชักช้า รีบช่วยจิ่วซือ”

 

 

“เจ้ารักแม่หนูคนนี้เหลือเกิน ข้าซาบซึ้งจริงๆ เจ้าวางใจ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี แม่หนูคนนี้กับเจ้าไม่มีวาสนาต่อกันแล้ว”

 

 

เจ้าแม่พูดจบก็ลุกขึ้น “พวกเจ้ารอที่นี่ ข้าจะไปเอาผลเซียนหลิง”

 

 

พูดจบเจ้าแม่ก็ออกไป อาหลานโล่งอก นางมองดูจงโม่เจียงแวบหนึ่ง ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี นางเองก็นึกไม่ถึงว่าจงโม่เจียงจะรับปากกับเจ้าแม่อย่างนี้ เขาจริงใจกับคุณหนูของนางมาก เสียดายที่ไม่มีวาสนาต่อกัน

 

 

ซูจิ่วซือยังอยากจะพูดต่อ แต่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเข้าครอบงำ จนสลบไปในที่สุด

 

 

พอเห็นซูจิ่วซือสลบไป จงโม่เจียงก็นั่งลงข้างๆ ซูจิ่วซือ ยื่นมือไปจัดผมที่แก้มของซูจิ่วซือให้เหน็บที่หลังหู แล้วมองใบหน้าที่ซีดเซียวและเต็มไปด้วยเหงื่อของนาง

 

 

เขาบอกอาหลานให้ช่วยหยิบผ้าเช็ดหน้ามา แล้วเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของซูจิ่วซือ มือหนาเตอะ ฝ่ามือที่หยาบกร้านของเขาเช็ดเหงื่อให้ซูจิ่วซือเบาๆ ท่าทางเงอะงะ

 

 

อาหลานยืนอยู่ข้างๆ ไม่พูดไม่จา

 

 

จู่ๆ จงโม่เจียงก็ก้มลงจูบหน้าผากซูจิ่วซือ อาหลานคิดจะห้าม แต่จงโม่เจียงย้ายริมฝีปากออกไปแล้ว พูดเหมือนพึมพำกับตัวเอง “ให้ข้าตามใจตัวเองสักครั้ง”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 569 ยื่นมือช่วยเหลือ

 

 

เมื่อเป็นอย่างนี้อาหลานก็ไม่ว่าอะไร ความรักของจงโม่เจียงที่มีต่อซูจิ่วซือนางรับรู้ได้

 

 

“ถ้านางฟื้นขึ้นมา คงไม่ยอมให้ข้าจูบแน่ ในสายตานางมีแต่ฟู่เฉินหรง คนอื่นนางไม่มองแม้แต่แวบเดียว”

 

 

จงโม่เจียงยิ้มอย่างขมขื่น เผยความรู้สึกอ้างว้าง ความรักที่ไม่สมหวังเจ็บปวดเช่นนี้เอง อยากให้นางมีความสุขแต่พอเห็นนางรักผู้ชายอื่นกลับรู้สึกอิจฉา

 

 

เมื่อเห็นนางเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เขาอยู่ข้างๆ ก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่กระแทกหัวใจ อยากรับเอาความเจ็บปวดทั้งหมดของซูจิ่วซือไว้

 

 

“เจ้าสำนักยึดมั่นในความรักอย่างนี้ วันหลังคงได้พบผู้หญิงที่ใจตรงกัน”

 

 

“ไม่มีอีกแล้ว”

 

 

จงโม่เจียงพูดน้ำเสียงมั่นใจ นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เขาต้องการ เขาไม่ใช่คนที่ลุ่มหลงในความรัก ใต้หล้าเขารักแต่ซูจิ่วซือคนเดียว

 

 

ครู่หนึ่งเจ้าแม่ก็กลับมา พร้อมกับผลไม้สีแดงเพลิงในมือ คล้ายมะเขือเทศ นางให้ป้าอวิ๋นหยิบชามมา คั้นน้ำผลเซียนหลิงใส่ในชาม น้ำสีแดงเพลิงกลายเป็นสีดำทันที ข้นเหนียวเหมือนน้ำหมึก

 

 

“เจ้าแม่ นี่คือผลเซียนหลิง?”

 

 

พอเห็นน้ำคั้นสีดำในชาม จงโม่เจียงก็วิตก กินได้หรือ?”

 

 

“ถ้าไม่เชื่อข้าจะเก็บไว้เอง เป็นของล้ำค่ามีเหลือเพียงผลเดียว”

 

 

เจ้าแม่เตรียมจะเก็บผลเซียนหลิงไว้

 

 

จงโม่เจียงร้อนใจ รีบขวางไว้ พูดขอโทษ “เจ้าแม่ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น อย่าถือสาข้าเลย รสชาติแย่หรือไม่?”

 

 

“แม่หนูเจ็บปานนี้ยังทนได้ แค่กินยาจะทนไม่ได้เชียวหรือ? อาหลาน เจ้าเปิดปากแม่หนู ข้าจะเทใส่ปากให้”

 

 

เจ้าแม่ถือน้ำคั้นผลเซียนหลิงยืนหน้าซูจิ่วซือ พลางร้องบอกอาหลาน

 

 

“เทเข้าไปได้หรือ? รอให้คุณหนูตื่นแล้วค่อยกินได้หรือไม่?”

 

 

“ทำตามที่บอก น้ำคั้นผลเซียนหลิงตั้งไว้นานจะใช้ไม่ได้”

 

 

อาหลานเห็นเจ้าแม่ท่าทางรำคาญ รีบบีบปากซูจิ่วซือ ให้อ้าปาก จงโม่เจียงอยู่ข้างๆ ร้องเตือน “อาหลานเบาหน่อย อย่าให้จิ่วซือบาดเจ็บ”

 

 

เจ้าแม่มือสั่น จงโม่เจียงช่างเอาใจใส่แม่หนูคนนี้จริงๆ นางเทน้ำคั้นผลเซียนหลิงใส่ปากซูจิ่วซือทีละน้อย น้ำคั้นไม่ได้ล้นออกมา แต่ไหลลงคอซูจิ่วซือโดยตรง ไม่นานก็กินหมด

 

 

เจ้าแม่วางชามในมือลง ถาม “นางปวดหัวแล้วกี่ครั้ง?”

 

 

“สามครั้งแล้ว สองครั้งแรกไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้” อาหลานคิดแล้วตอบ

 

 

“งั้นต้องระวัง ครั้งนี้ที่ปวดรุนแรง อาจจะเป็นเพราะหนอนไหมพิษทำลายสมอง ทำลายส่วนไหนรอให้ฟื้นก็จะรู้”

 

 

“มีทางรักษาหรือไม่?”

 

 

จงโม่เจียงพอได้ยินว่าสมองซูจิ่วซืออาจจะถูกทำลาย ใบหน้าเย็นชานั้นเผยความเอาใจใส่อย่างล้ำลึก

 

 

“ข้าไม่เคยได้ยินว่าสมองถูกทำลายแล้วรักษาได้ ข้าไม่มีวิธี กินผลเซียนหลิงแล้ว หนอนไหมพิษไม่กำเริบแน่ ถ้านางโชคดี อาจจะไม่เป็นอะไรเลย แต่ความหวังน้อยมาก แล้วแต่ฟ้าลิขิตเถอะ!

 

 

โม่เจียง เราตกลงกันไว้แล้ว ช่วงสามเดือนนี้เจ้าออกจากเขาเป่าหลิงไม่ได้ ข้าจะรักษาเฟิงเยว่ให้หาย เจ้าอยู่กับข้าก่อน เราคุยกันแบบคนวงการนักเลง”

 

 

“ขอข้าดูแลซูจิ่วซือสักสองสามวัน เรื่องอื่นรอให้ข้าพานางไปส่งแล้วค่อยว่า”

 

 

“แล้วแต่เจ้า ถ้าเจ้าไม่ออกจากเขาเป่าหลิง ข้าจะไปดูเฟิงเยว่”

 

 

พูดจบเจ้าแม่ก็เดินออกไป