ตอนที่ 407 สนามรบดวงดาว

Legend of the mythological genes

สนามรบระหว่างดวงดาวนั้นวุ่นวายมาก มันเต็มไปด้วยปืนใหญ่ที่ยิงออกมา ผลกระทบของพลังงาน เลือดเนื้อที่ระเบิด

 

เผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์วิญญาณต่างปะทะกัน เปลวไฟแห่งสงครามลุกลามออกไป ปืนใหญ่พลังงานจำนวนมากถูกยิง โล่พลังงานของมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงยังคงสั่นสะท้าน

ทั่วทุกที่กลายเป็นสนามสังหารหมู่

นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดจากทั้งสองฝ่ายอยู่ในการต่อสู้ที่รุนแรง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าฝ่ายตรงข้าม มีเพียง …

ศัตรู!

ศัตรูที่ไม่ยอมหยุดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตาย!

ดวงตาของมนุษย์ระหว่างดวงดาวทุกดวงต่างก็แดงก่ำจากการสังหาร พวกเขาไม่สนใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นยังไง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ น่ากลัวหรือสวยงาม ตราบใดที่พวกมันไม่ใช่มนุษย์ พวกมันจะถูกฆ่าทันที ไม่มีที่ว่างสำหรับความเมตตา

ความสิ้นหวังและกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านไปทั่วอวกาศเหนือสนามรบทำให้หายใจไม่ออก

แรงโน้มถ่วง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รังสีที่น่ากลัว…พลังงานทุกประเภทในจักรวาลถูกรวมเข้าด้วยกัน แม้แต่โครงสร้างโมเลกุลพื้นฐานก็แตกสลายไปหมดเหลือเพียงอนุภาคพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลัง มันเหมือนกับฉากหลังจากที่ปรากฏการณ์บิ๊กแบงเพิ่งเกิดขึ้น

เมื่อสิ่งมีชีวิตใด ๆ ต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่น่ากลัวนี้ ร่างกายอาจจะกลายเป็นมะเร็ง การสลายตัวและถูกกำจัดออกไป …

พวกเขาจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง

ใจกลางสนามรบที่วุ่นวาย ดูเหมือนจะกลายเป็นหลุมดำที่กลืนกินชีวิต

เลือดเนื้อกระจัดกระจายไปทั่วอวกาศ เศษชิ้นส่วนเครื่องจักรร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน …

นักรบระหว่างดวงดาวหลายคนและนักศึกษารุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยสู้สุดชีวิต

สนามรบนั้นรุนแรงมาก มีผู้คนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บสาหา และไม่สามารถทำการรบได้อีกต่อไป ภายใต้การคุ้มครองของเพื่อนร่วมทีม พวกเขาค่อยๆถอยออกไป

สมรภูมิรบทำให้คนจำนวนมากดำดิ่ง ไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองจากมันได้ พวกเขาจบลงด้วยการจ่ายด้วยชีวิต

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทีมกลุ่มเล็กๆกำลังทำหน้าที่เป็นหอก เจาะเข้าไปในกองทัพศัตรู

เฟิงหลินยังคงแกว่งกระบองโลหะในมือของเขาด้วยพลัง 300,000 ชั่ง กระบองโลหะหนักพอ ๆ กับภูเขา แต่มันกลับรวดเร็วมากในมือของเฟิงหลิน ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงมัน ทุกสิ่งตรงหน้าจะถูกบดขยี้

สัตว์จักรกลวิญญาณยังคงต่อสู้ต่อไปโดยไม่กลัวความตาย พวกมันทั้งหมดถูกทุบเป็นชิ้น ๆ

ใบหน้าของเหล่าวิญญาณเริ่มบิดเบี้ยวขณะที่หนีออกจากเปลือกโลหะ

กลุ่มนักรบดวงดาวที่ตามหลังเฟิงหลินเริ่มเก็บเกี่ยวชีวิตของศัตรู

เนื่องจากพวกเขาได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงให้เข้าร่วมในการต่อสู้ระหว่างดวงดาวนี้ พวกเขาจึงมีวิธีจัดการกับสิ่งมีชีวิตเช่นนี้อยู่แล้ว

การรบกวนพลังงาน คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การแข็งตัวของไอออนิก …

ลำแสงพลังงานทุกประเภทถูกปล่อยออกมาจากมือและวิญญาณก็ถูกกำจัดออกไป

เมื่อเฟิงหลินพุ่งไปข้างหน้า จะมีกลุ่มคนตามหลังเขาอย่างกระชั้นชิด แบ่งงานกันอย่างลงตัวและทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

สัตว์จักรกลวิญญาณที่น่ากลัวถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยไม่มีความสามารถใด ๆ ที่จะต้านทานได้

เมื่อใดก็ตามที่ทีมเล็ก ๆ นี้ผ่านไป ทั่วทั้งบริเวณจะเหมือนเนื้อที่โดนเครื่องบด พวกเขามุ่งหน้าต่อไปโดยไม่ลังเลตรงไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของสนามรบ

ฉากนี้โดดเด่นมากในสนามรบที่ปิดตาย บางครั้งจะมีสายตาประหลาดใจมองมาที่พวกเขา

ผู้คนในมหาวิทยาลัยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเดือดพล่านเมื่อเห็นฉากนี้

 

“ ไปเลย! บุกเข้าไป บดขยี้จักรกลน่ารังเกียจเหล่านั้น!”

“ บอกให้พวกมันรู้ว่าพวกเราม นุษย์ดวงดาวนั้นน่าทึ่งเพียงใด!”

“ ปกป้องกำแพง ปกป้องมนุษยชาติ!”

เสียงมากมายจากระยะไกลช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของทีม อย่างไรก็ตามเฟิงหลินไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้เลย

เขาจมอยู่ในการสังหารหมู่ กลืนยาแปลง9โคจรที่เขาเคยกลั่นใส่ปาก ฤทธิ์ยาที่แข็งแกร่งทำให้เขาสู้ต่อไปได้

กระบองโลหะของเขายังคงกวาดออกไปและสัตว์จักรกลวิญญาณจำนวนมากก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ กลายเป็นคะแนนสะสม

สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขาฆ่าสัตว์จักรกลด้วยตัวเขาคนเดียวกว่า 100 ตัว นั่นเท่ากับคะแนนสะสม 100,000 คะแนน

สัตว์จักรกลวิญญาณจำนวนมากที่ดูน่ากลัวอย่างยิ่งในสายตาของคนทั่วไป กลับดูเหมือนของขวัญชิ้นใหญ่ที่ถูกส่งมาที่ประตูของเขา

กลุ่มนักรบดวงดาวที่ตามหลังเขาเพื่อรับของที่เขาพลาดไปก็ได้รับผลประโยชน์มากมายเช่นกัน ไม่เพียงแต่จะปลอดภัยขึ้น แต่จำนวนคะแนนที่พวกเขาได้รับยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจ

อย่างไรก็ตามเฟิงหลินไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ เขารู้สึกว่าไม่มีความท้าทายใด ๆ อีกแล้วในการล่าสัตว์จักรกลวิญญาณเหล่านี้

สายตาของเขาจับจ้องไปที่อื่น

ในระยะไกล กลุ่มสัตว์จักรกลกำลังสร้างความเสียหายอย่างมากทั่วทุกหนทุกแห่งเพื่อตามล่ามนุษย์

สิ่งที่นำหน้าอยู่คือสัตว์จักรกลวิญญาณที่มีรูปลักษณ์เหมือนยักษ์ อย่างไรก็ตามมันมีสามหัวและหกแขน ดูน่ากลัวมาก

มันรายล้อมด้วยกลุ่มสัตว์จักรกล มันเหมือนกับผู้ปกครองที่ดุร้ายและบ้าคลั่ง ดวงตาทั้งหกของมันคอยพ่นเปลวไฟ สายฟ้า ลำแสง เลเซอร์ โจมตีด้วยพลังงานมากมายและแขนทั้งหกของมันยังคงโจมตีด้วยพละกำลังมหาศาล

ในขณะที่นักรบดวงดาวเข้ามาใกล้ พวกเขาก็ถูกทุบเป็นกากเนื้อทันทีและตายอย่างน่าสมเพช

(สัตว์จักรกลขนาดใหญ่?)

เฟิงหลินคิด

ขนาดของยักษ์จักรกลนี้ใหญ่กว่าสัตว์จักรกลตัวอื่นอย่างน้อยสิบเท่า มันสูงเท่าภูเขาลูกเล็ก ๆ และโดดเด่นมาก

เขาตรวจสอบเล็กน้อยและตระหนักว่าสัตว์ร้ายตัวนี้มีความสามารถในการต่อสู้พอๆกับผู้ใช้ยีน ตัวโลหะของมันแข็งแกร่งและไม่สั่นคลอน

สัตว์จักรกลธรรมดาทั้งหมดจะถูกบดขยี้ภายใต้กระบองโลหะของเฟิงหลินโดยไม่มีพลังที่จะต้านทาน

เขาต้องการทดสอบขีดจำกัดของเขากับสัตว์จักรกลวิญญาณอื่น

ด้วยความคิดนี้เฟิงหลินจึงพุ่งตรงไปหาจักรกลยักษ์

 

“อะไร?! นั่นคือสัตว์จักรกลขนาดใหญ่!”

“ นายไม่สามารถก้าวข้ามไปได้! นั่นคือสิ่งที่มีแต่ผู้ใช้ยีนถึงสู้ด้วยได้!”

“ ถอยออกมาเร็ว! ไม่งั้นนายจะตาย!”

สีหน้าของนักรบดวงดาวที่ตามหลังเขาอย่างใกล้ชิดเปลี่ยนไปในทันที ทุกคนร้องเรียกเขา

เฟิงหลินไม่ใส่ใจพวกเขา ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไร เขาก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้า

มหาเทพพลิกทะเล!

เฟิงหลินหายใจออกเสียงดัง ใบหน้าของเขาแดงก่ำและพลังทางพันธุกรรมทั้งหมดในร่างกายของเขาดูเหมือนจะเดือดพล่าน พลังของเขาถูกกระตุ้นจนถึงระดับสูงสุด กระบองโลหะในมือของเขาพลันขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว มันพุ่งลงมาเหมือนเสาค้ำสวรรค์ขนาดใหญ่ พร้อมกับพลังที่สามารถพลิกผืนทะเลทั้งหมด

มนุษย์และเสาค้ำเป็นหนึ่งเดียวกัน เต็มไปด้วยพลัง โอบล้อมคู่ต่อสู้ของเขาอย่างสมบูรณ์

จักรกลยักษ์เพียงแค่เหลือบมองอย่างเย็นชา ชกหมัดออกมา กระแทกการโจมตีของกระบองออกไป

เฟิงหลินถูกโจมตีลอยออกไปเหมือนขีปนาวุธ ร่างกายของเขารู้สึกราวกับว่าถูกบดขยี้และเจ็บปวดอย่างมาก

ด้วยการโจมตีครั้งนี้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที เขาไม่ใช่คู่มือมันเลย

สีหน้าของนักรบดวงดาวเปลี่ยนไปอย่างมาก อย่างไรก็ตามหลังจากยืนดูแล้วพวกเขาก็ไม่ได้หนี แต่รีบเข้ามายืนต่อหน้าจักรกลยักษ์แทน

หลังจากมีส่วนร่วมในการต่อสู้เป็นเวลานาน พวกเขาก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

เฟิงหลินมีศักยภาพที่น่าอัศจรรย์และมีความเชี่ยวชาญสูง เขามีความสามารถในการต่อสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้ทั้งๆที่อยู่ในระดับสุดยอดผู้บ่มเพาะเท่านั้น

 

หากเขาเติบโต เขาจะกลายเป็นกองกำลังหลักในการต่อต้านเผ่าพันธุ์นอกโลกในอนาคต เขาไม่สมควรมาตายที่นี่

แม้พวกเขาจะไม่รู้จักเฟิงหลิน แต่พวกเขาก็ได้ตัดสินใจแล้ว

แม้ว่าพวกเขาจะต้องเสียสละตัวเอง แต่ก็ต้องไม่ปล่อยให้บุคคลที่จะกลายเป็นความหวังของมนุษยชาติในอนาคตต้องมาตายที่นี่

ในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดชีวิตหรือความตายของเผ่าพันธุ์ทั้งหมด แผนการใด ๆ จะดูไร้ความหมาย หลงเหลือแต่ความทุ่มเทเสียสละ

จักรกลยักษ์ส่งเสียงหัวเราะอำมหิต เข้ามาพร้อมกับลูกน้องจำนวนมาก ราวกับว่าพวกมันกำลังจะกดทับคนเหล่านี้

พวกเขาทุกคนหน้าซีด แต่พวกเขาก็ไม่ถอย

เช่นเดียวกับคนที่พยายามจะหยุดรถม้า ขณะที่พวกเขาทั้งหมดกำลังจะถูกฆ่า พวกเขากลับส่งเสียงร้องพร้อมกัน“ หนีไปเร็ว! เราจะยั้งจักรกลยักษ์ตัวนี้ไว้!นายสามารถล้างแค้นแทนเราได้ในอนาคต!”

พวกเขาตัดสินใจที่จะเสียสละชีพ และอยากถ่วงเวลาให้เฟิงหลินหนี

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตอบกลับมาคือการร้องอย่างเย็นชา“ ถอยไป!”

ตูม!

ทุกคนไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาและถูกผลักไปสองข้างทันทีด้วยพลังมหาศาลที่มองไม่เห็น เฟิงหลินลุกขึ้นยืนอีกครั้งพร้อมกับรอยเลือดที่มุมปาก สายตาเขาเย็นชาและแหลมคม มองตรงไปยังจักรกลยักษ์ด้วยจิตสังหาร

ดาวสีทองมากมายวนรอบตัวเขา ร่ายรำไม่หยุดเหมือนนกกระพือปีกที่มีน้ำหนักเบา ว่องไวและเป็นอิสระ

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นยาเม็ดสีทองหลายเม็ด!