ตอนที่ 603 บีบบังคับ / ตอนที่ 604 ลูบกระดูกทายชะตา

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ตอนที่ 603 บีบบังคับ 

 

 

 

 

 

ในยามนี้ ฉู่ป๋ายก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามา แล้วยิ้มให้ชายชราตาบอดน้อยๆ “ท่านผู้อาวุโสอย่าได้โกรธเคือง พวกนางยังเป็นเด็กยังไม่รู้ประสา แม้ว่าท่านผู้อาวุโสจะตาบอด แต่ความสามารถในการอ่านใจคนและความสามารถทางการได้ยินนั้นยังเก่งกาจ คงจะเป็นผู้มีวิชาสูงส่ง ไม่ทราบว่าท่านมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร” 

 

 

“คนในยุทธภพล้วนไม่คิดเล็กคิดน้อย เมื่อเห็นท่านเข้าใจชายแก่เช่นข้าก็ถือว่าแล้วไปเถิด” เมื่อชายชราได้ยินฉู่ป๋ายพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เขาก็โอนอ่อนตามไปด้วย 

 

 

ฉู่ป๋ายว่าเช่นนี้ ถือเป็นการยกยอปอปั้นเสียเต็มประดา จนน่าจะทำให้ชายชราคิดว่าตัวเองเก่งกาจเสียเหลือเกินกระมัง อวี้อาเหราเห็นดังนั้นแล้ว มุมปากของนางก็เหยียดออก จากนั้นก็หัวเราะพร้อมเลิกคิ้วขึ้น แล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “ท่านผู้อาวุโส เมื่อครู่นี้ข้าผิดไปแล้ว แต่หากท่านผู้อาวุโสมีวิชาแก่กล้าจริง เช่นนั้นก็เชิญทำนายทายทักชะตาให้ข้าเสียหน่อยเถิด” 

 

 

“หึ” ชายชราตาบอดสะบัดหน้าอย่างอารมณ์ไม่ดี 

 

 

“พี่เหราเอ๋อร์จะทำอะไร?” ฉู่เกอรีบเข้าไปดึงแขนอวี้อาเหราทันที เพื่อขัดขวางการกระทำของนาง เพราะเกรงว่านางจะไปทะเลาะกับชายชราตาบอดเรื่องดูดวงอีก เมื่อถึงตอนนั้นแล้วคนอื่นเห็นเข้าก็คงจะหัวเราะเยาะแย่ นางเองก็อยากไปถึงจวนหลิงอ๋องเสียเร็วๆ ด้วย 

 

 

อวี้อาเหราตบมือนางเบาๆ อย่างปลอบโยน ยิ้มพลางมองไปที่ใบหน้าของชายชราตาบอดผู้นั้น “ท่านผู้อาวุโสทำนายไม่ได้ หรือว่ากลัวว่าข้าจะไม่มีเงินจ่ายกันแน่?” 

 

 

“ในเมื่อแม่นางไม่เชื่อ แล้วเหตุใดจึงต้องทำเช่นนี้ด้วย” ชายชราตาบอดยังคงหรี่ตามองอย่างไม่พอใจในเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ น้ำเสียงเวลาพูดกับอวี้อาเหราจึงฟังดูไม่ค่อยพอใจนัก แต่อวี้อาเหรากลับไม่โกรธ ยังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง นางอยากจะรู้จริงๆ ว่าตาเฒ่านี่จะพูดจามั่วๆ อะไรขึ้นมาอีก จะทำนายออกมาเป็นอย่างไร หากทำนายออกมาไม่ได้ ดูสิว่าเข้าจะพูดว่าอย่างไรด้อีก! 

 

 

“ในเมื่อท่านอาวุโสกล่าวเช่นนี้ ก็คงจะหมายถึงทำนายออกมาไม่ได้กระมัง?” 

 

 

ฉับพลันที่พูดออกไปเช่นนั้น ชายชราตาบอดก็ไม่พอใจขึ้นมาในทันที “เจ้าบอกว่าใครทำนายไม่ได้?” 

 

 

“ก็ท่านอย่างไร” อวี้อาเหราไม่ลังเลแม้แต่น้อย มองหน้าเขาตรงๆ 

 

 

ความโกรธของชายชราตาบอดปะทุถึงขีดสุด ก่อนที่จะค่อยๆ บรรเทาลง มุมปากยกโค้งขึ้น “แม่นางน้อย เจ้าต้องการจะยั่วโมโหข้าหรืออย่างไร บอกเลยว่าไม่มีทาง” 

 

 

“มองออกด้วยหรือ?” อวี้อาเหราไม่ปิดบังอะไรอีก จากนั้นก็หันไปมองฉู่ป๋ายและฉู่เกอสองพี่น้อง “ในเมื่อเขาทำนายไม่ได้ เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถิด” 

 

 

เมื่อพูดจบ ก็หันไปสั่งเจาเอ๋อร์ว่า “เจ้าเอาเงินให้ท่านผู้อาวุโสหน่อยสิ” 

 

 

“หา?” เจาเอ๋อร์ชะงัก นางต้องการที่จะตบหน้าเขาจริงๆ อย่างนั้นหรือ? คนตั้งมากมายเช่นนี้จะมองไม่ออกหรืออย่างไร 

 

 

“รีบไปสิ” อวี้อาเหราไม่อยากจะเจรจาอะไรอีกต่อไป 

 

 

เจาอ๋อร์กำลังจะยื่นเงินออกไป แต่ใบหน้าของชายชราตาบอดกลับดูดุดัน สีหน้าเดี๋ยวขาวเดี๋ยวแดง ราวกับใบหน้ามีเครื่องสำอางทาทับเอาไว้ แล้วหันไปต่อว่าใส่อวี้อาเหรา “แม่นางน้อยผู้นี้ เจ้าก็อยากให้ข้าทำนายดวงชะตาให้มิใช่หรือ เช่นนั้นก็อย่าได้ใช้เงินบีบบังคับคนเช่นนี้สิ” 

 

 

“ในเมื่อพูดเช่นนี้แล้ว ท่านก็ยอมรับที่จะทำนายแล้วหรือ?” อวี้อาเหราปรายตามอง 

 

 

“แน่นอนอยู่แล้ว ข้าไม่รับเงินมาเปล่าๆ แน่ หากไม่แม่นข้าไม่รับเงิน แต่เจ้ามีเงินหนึ่งพันตำลึงเงินหรือไม่เล่า” 

 

 

เมื่อชายชราตาบอดพูดจบ อวี้อาเหราก็ส่งสายตาให้เจาเอ๋อร์ เพื่อให้นางมอบเงินจำนวนหนึ่งพันตำลึงเงินให้เขา 

 

 

เจาเอ๋อร์ลังเลเล็กน้อย ค่าทำนายดวงชะตาของชายชราตาบอดนี่ช่างแพงนัก ตั้งหนึ่งพันตำลึงเงิน ไม่รู้ว่าคนธรรมดาจะต้องใช้เวลาหาเงินจำนวนนี้นานเพียงใด ช่างขูดรีดเสียเหลือเกิน ชั่วขณะนั้นนางก็เกิดเสียดายขึ้นมา ดังนั้นจึงมองอวี้อาเหราด้วยความลังเลใจ 

 

 

อวี้อาเหราเร่งเร้าขึ้น “เอาเงินมาสิ” 

 

 

นางไม่ได้จะมอบเงินให้คนทำนายดวงชะตาไปเปล่าๆ เสียหน่อย นางต้องการที่จะจัดการชายชราตาบอดคนนี้ เพราะเขากล้าด่านางว่าเจ้ากวางบ๊อง เพราะอย่างนั้นนางจึงใช้โอกาสนี้ให้เขาได้สัมผัสถึงความสุดยอดที่แท้จริง หากทำนายไม่แม่น ไม่เพียงแต่จะไม่ได้เงิน แต่ยังเสียหน้าอีกด้วย 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 604 ลูบกระดูกทายชะตา 

 

 

 

 

 

สถานะของนางในตอนนี้คือคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋อง หากพบเข้ากับนักต้มตุ๋นเข้า จะต้องขจัดทุกข์ให้ชาวบ้าน เช่นนั้นจึงจะสามารถบรรเทาทุกข์ได้ 

 

 

ชายชราตาบอดเห็นท่าทีลังเลของเจาเอ๋อร์แล้วจึงโบกมือไล่ “ไม่จำเป็นต้องให้เงินก่อน หากไม่แม่นก็ไม่ต้องให้เงิน” 

 

 

อวี้อาเหรากลับยิ้มน้อยๆ ให้เจาเอ๋อร์ถอยออกไป ในใจคิดว่าตาเฒ่าผู้นี้ก็ช่างกล้าหาญนักเชียว หากไม่แม่นจริงๆ ก็ไม่สามารถรับเงินนี้ไปได้ ตามปกติแล้วเขาก็ควรที่จะรับเงินก่อนแล้วหนีไปไม่ใช่หรือ? 

 

 

ดูท่าแล้ว คงยังมีช่องทางอยู่กระมัง 

 

 

อวี้อาเหราคิดในใจอย่างระมัดระวัง 

 

 

ชายตาบอดค่อยๆ คลำทางไปหาอวี้อาเหรา ก่อนพูดแสดงความนัยว่า “แม่นางน้อย เจ้านั่งตรงนี้ให้ข้าดูหน่อย” 

 

 

อวี้อาเหราเดินไปนั่งลงอย่างอิดออด สายตามองไปทางชายชราตาบอดผู้นั้น แล้วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสียงเยาะออกมาว่า “ท่านคงจะไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้ดวงตาทั้งสองข้างมองมาหรอกใช่หรือไม่” 

 

 

“ในเมื่อเป็นการทำนายดวงชะตา เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตามอง” ชายชราตาบอดให้เหตุผล ราวกับกำลังเลียนแบบท่าทีของผู้รู้แสนสูงส่ง นางเริ่มที่จะสนใจขึ้นมาแล้ว จ้องมองชายชราตาบอด หลังจากพินิจพิจารณาอยู่นาน จากนั้นก็เห็นชายชราตาบอดยื่นมือออกมา แล้วลูบมือของนาง 

 

 

หรือว่าเป็นการลูบกระดูกทายชะตา? 

 

 

หรือว่า จะใช้ประโยชน์จาก… 

 

 

ยังไม่ทันที่อวี้อาเหราจะกล่าวอะไร ฉู่เกอก็รีบดึงมือของอวี้อาเหราให้หลบไปอีกทาง มองไปทางชายชราตาบอดด้วยสายตาไม่พอใจ “ท่านผู้อาวุโส ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด อีกอย่างคนอย่างพี่เหราเอ๋อร์นั้น ท่านจะแตะต้องนางได้หรืออย่างไร?” 

 

 

“นางหนู เจ้าไม่รู้อะไร นี่เรียกว่าการลูบกระดูกทายชะตา ไม่เคยได้ยินหรือ?” ชายชราตาบอดชะงักไป จากนั้นก็ยิ้มพลางอธิบาย 

 

 

“ลูบกระดูกทายชะตาหรือ?” ฉู่เกอแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่ นางไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ในโลกนี้ยังมีการทำนายดวงชะตาเช่นนี้อีกหรือ นี่ก็เป็นการเอาเปรียบกันชัดๆ! เมื่อคิดเช่นนี้ นางก็มองไปทางด้านหลังด้วยสีหน้าไม่ใคร่ดีสักเท่าไร 

 

 

เมื่อฉู่ป๋ายได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็ชะงักไป “ท่านผู้อาวุโส คงไม่ได้มีวิธีดูดวงเพียงวิธีเดียวหรอกกระมัง?” 

 

 

“แน่นอนอยู่แล้ว” ชายชราตาบอดลังเล จากนั้นจึงค่อยพูดขึ้น 

 

 

ดูท่าทีแล้วเหมือนกำลังรอคอยอยู่เช่นนั้น อวี้อาเหราถอนสายตาสำรวจตรวจตรากลับมา แล้วมองไปทางชายชราตาบอดอีกครั้ง เอ่ยถามว่า “ถ้าเช่นนั้นก็เชิญแม่นางบอกชื่อและเวลาตกฝากให้ข้าที” 

 

 

อวี้อาเหราบอกออกไปจนหมด 

 

 

ชายชราตาบอดใช้มือเ**่ยวย่นทำท่าลูบหนวดเคราที่ไม่มีอยู่จริง บางครั้งก็ยกมือขึ้นทำท่าคำนวณ ไม่รู้ว่าทำลังทำนายอะไรอยู่ คนรออยู่ก็เริ่มหมดความอดทน ฉู่เกอรีบถามขึ้นมาในทันที “ท่านผู้อาวุโสทำนายอะไรได้บ้างหรือไม่” 

 

 

“ไอ้ทำนายก็ได้หรอก เพียงแต่ว่า…” ชายชราตาบอดลังเลขึ้นมาอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยพูดขึ้น 

 

 

“เพียงแต่อะไร” ฉู่เกอเอ่ยถาม 

 

 

ทุกคนต่างพากันจ้องมาที่ร่างของชายชราตาบอด นึกสงสัยว่าเขาจะทำนายออกมาว่าอย่างไร  

 

 

ชายชราหันไปทางอวี้อาเหรา เอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเรื่องของแม่นางน้อย ก็ควรจะมีเพียงแม่นางน้อยคนเดียวเท่านั้นที่รู้” 

 

 

“ก็ได้ ถ้าเช่นนั้นท่านก็เขียนบอกข้าก็ได้” สายตาของอวี้อาเหราแสดงท่าทีสนใจขึ้นมา นางอยากจะรู้จริงๆ ว่าชายชราคนนี้จะเล่นอะไรกันแน่ 

 

 

ชายชราตาบอดหัวเราะแล้วส่ายหน้า “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้านั้นตามองไม่เห็น แล้วจะเขียนออกมาได้อย่างไรกัน?” 

 

 

“หึ เช่นนั้นท่านก็อย่าบอกนะว่าท่านสามารถทำนายได้ แต่บอกข้าไม่ได้” อวี้อาเหราหัวเราะเยาะ