ตอนที่ 574 กลัวว่าวันหลังเจ้าจะลำบาก / ตอนที่ 575 ไม่มีวันเสียใจภายหลัง

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 574 กลัวว่าวันหลังเจ้าจะลำบาก

 

 

ซูจิ่วซือยังคงยิ้ม “คุณชายเฟิงอยากทำอะไรก็เชิญตามสบาย ข้าเองก็ทำสิ่งที่ข้าสมควรทำ เรื่องที่ว่าคุณชายเฟิงจะออกจากที่นี่ได้อย่างไร ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณชายเฟิงเอง

 

 

คุณชายเฟิงหน้าตาหล่อเหลาชนะใจคนได้ เจ้าแม่คงจะรักใคร่คุณชายเฟิง ขอให้คุณชายเฟิงบำรุงร่างกายให้ดี งานนี้เหนื่อยว่าทำสงครามมาก”

 

 

เฟิงเยว่ตามซูจิ่วซือไม่ทัน โกรธจนร้องด่า “เจ้าคนต่ำทราม ตำแหน่งพระชายารัชทายาทเดิมทีก็เป็นของชิงสุ่ย เจ้าหน้าด้านไม่รู้จักอาย ยังมาสมคบกับยายแก่ตัณหาจัด

 

 

มิน่าองค์รัชทายาทจึงคิดถึงเจ้าไม่รู้ลืม ดูแล้วเจ้าคงเรียนรู้จากยายแก่ไม่น้อย ทำไมตระกูลมู่จึงรับคนที่ดึงตระกูลให้ตกต่ำเข้ามา ทำให้บรรพชนตระกูลมู่อับอายขายหน้า คอยดู ชิงสุ่ยไม่มีวันให้อภัยเจ้าแน่”

 

 

อาหลานพอได้ยินคำพูดที่ขัดหูอย่างนี้ก็ปราดเข้าไป ซูจิ่วซือได้แต่ทำเหมือนไม่ได้ยิน พาอาหลานเข้าไปในห้องอย่างสงบ

 

 

“คุณหนู นี่…”

 

 

“อย่าใส่ใจ ก็แค่หมาบ้า”

 

 

เสียงของเฟิงเยว่ได้ยินเข้าหูเจ้าแม่ นางขมวดคิ้วเดินเข้ามาหาเฟิงเยว่ สีหน้าไม่พอใจ “เจ้าเรียกใครเป็นยายแก่?”

 

 

“ใครเป็นยายแก่ยังไม่รู้แก่ใจอีกหรือ?” เฟิงเยว่เป็นคนเด็ดเดี่ยว ไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ เห็นเจ้าแม่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะก้มหัว

 

 

ให้เขาขอร้องผู้หญิงอย่างนี้ อับอายขายหน้าจวนแม่ทัพสยบปฐพี อย่างน้อยเขาเป็นลูกหลานแม่ทัพ

 

 

“ดื้อด้านจริงๆ เห็นทีต้องสั่งสอนให้ดี เอาละข้าจะสั่งสอนเจ้า”

 

 

“เจ้าจะทำอะไร?”

 

 

พอเห็นเจ้าแม่เข้ามาใกล้ เฟิงเยว่ก็รู้สึกรังเกียจ ขณะที่กำลังจะลงมือก็ถูกเจ้าแม่รวบมือไว้ “ข้าจะทำอะไร เดี๋ยวเจ้าก็รู้ เฟิงเยว่ ทางที่ดีเจ้าเชื่อฟังข้า เจ้าหนีไม่พ้นแน่”

 

 

พูดจบไม่ทันรอให้เฟิงเยว่ตอบก็รวบข้อมือเฟิงเยว่ไว้

 

 

เฟิงเยว่รูปร่างสูงใหญ่ สูงกว่าเจ้าแม่มาก ดิ้นรนตลอดเวลา เจ้าแม่กดจุดที่มือเขา เฟิงเยว่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

 

 

“ถ้าขืนไม่เชื่อฟัง ข้าไม่ปล่อยเจ้าง่ายๆ ข้าบอกไว้แล้ว ใต้หล้าไม่มีผู้ชายที่ข้ากำราบไม่ได้”

 

 

เจ้าแม่เริ่มไม่พอใจ สีหน้าบึ้ง จู่ๆ นางก็นึกถึงคนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ชายคนเดียวที่นางกำราบไม่ได้ ชาตินี้นางไม่มีโอกาสกำราบเขาแล้ว

 

 

พอถึงตอนนี้เฟิงเยว่รู้สึกอับอายและโกรธเกรี้ยว แต่ไหนแต่ไรมีแต่เขาข่มเหงคนอื่น ไม่เคยถูกใครลบหลู่อย่างนี้

 

 

เขาแค้นซูจิ่วซือกับฟู่เยว่อี้จนเข้ากระดูก นอกจากเฟิงชิงสุ่ยแล้ว ผู้หญิงอื่นไม่อยู่ในสายตาของเขา ครั้งนี้เขาตกอยู่ในกำมือของผู้หญิงพวกนี้ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ แค้นครั้งนี้ต้องชำระให้ได้

 

 

ตลอดหลายวันหลังจากนั้น ซูจิ่วซือไม่พบเฟิงเยว่อีก แต่ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องของเฟิงเยว่ เหมือนเสียงคร่ำครวญและสาปแช่ง

 

 

เมื่อมีเฟิงเยว่อยู่ด้วย เจ้าแม่จึงไม่มีเวลาใส่ใจจงโม่เจียง นางสนุกกับเฟิงเยว่มากขึ้นเรื่อยๆ การปราบม้าพยศเป็นเรื่องท้าทายนาง

 

 

หลังจากกินผลเซียนหลิงแล้วยังต้องบำรุงอีกสิบวัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลเซียนหลิงในการควบคุมหนอนไหมพิษ ทุกวันเจ้าแม่จะเอายาให้ซูจิ่วซือกิน นับว่าดูแลนางดี

 

 

สิบวันผ่านไป ซูจิ่วซือเตรียมออกจากเขาเป่าหลิง

 

 

จงโม่เจียงมาส่งซูจิ่วซือด้วยตัวเอง เขาลังเลครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น “จิ่วซือ เจ้าจะกลับตูเฉิงจริงหรือ?”

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า “ใช่ จงโม่เจียง ดูแลสุขภาพให้ดี”

 

 

“กลับไปแล้วจะเป็นอย่างไร? เรื่องของเจ้าเจ้าแม่เล่าให้ข้าฟังหมดแล้ว วันหลังฟู่เฉินหรงสืบทอดบัลลังก์ เขายอมรับเรื่องที่เจ้าไม่มีลูกได้หรือ? ข้ากลัวว่าวันหลังเจ้าจะลำบาก พอถึงตอนนั้นเขามีลูกกับหญิงอื่น เจ้าจะอยู่มีความสุขหรือ?”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 575 ไม่มีวันเสียใจภายหลัง

 

 

จงโม่เจียงวิตกอยู่ลึกๆ ในใจ เขาเป็นห่วงซูจิ่วซือมาก กลัวว่าวันหลังนางจะไม่มีความสุข อย่างน้อยสภาพที่เห็นตอนนี้ วันหลังนางคงไม่มีความสุขแน่

 

 

ตัวเขาเองชีวิตนี้ไม่มีลูกก็ได้ ขอแค่มีซูจิ่วซือ แต่ฟู่เฉินหรงทำอย่างนี้ได้หรือ?

 

 

“จงโม่เจียง ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี และเข้าใจความหมายของเจ้า แต่นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเฉินหรง เจ้าไม่ต้องใส่ใจ ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”

 

 

“คนฉลาดอย่างเจ้าก็เลอะเลือนได้ ข้ารู้ว่าฟู่เฉินหรงจริงใจต่อเจ้า แต่ในเมื่อเขาต้องเป็นฮ่องเต้ ปัญหานี้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

ข้าไม่ใช่คนราชตระกูล แต่ก็เข้าใจเหตุผลนี้ ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีฮ่องเต้ที่ไม่มีพระโอรส พอถึงตอนนั้นขุนนางจะพากันคัดค้านเจ้า เขาอาจจะปกป้องเจ้าได้ระยะหนึ่ง แต่พอนานเข้าจะทำอย่างไร?

 

 

จิ่วซือ เจ้าเคยคิดหรือไม่ นี่เป็นชีวิตที่เจ้าต้องการจริงหรือ?”

 

 

พอพูดจบ จงโม่เจียงก็ถอนหายใจ เขาเป็นห่วงซูจิ่วซือจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าต่อไปซูจิ่วซือจะมีลูกไม่ได้ นางเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้แก่ชะตากรรม แต่เรื่องนี้ไม่อาจแก้ไขได้ เขากลัวว่าซูจิ่วซือจะเสี่ยงชีวิตยอมให้พิษกำเริบเพื่อมีลูกให้ฟู่เฉินหรง

 

 

เวลานี้เขาไม่มีความปรารถนาใด มีแต่อยากให้ซูจิ่วซือมีความสุข

 

 

“ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ข้าทำด้วยความเต็มใจ จงโม่เจียง ถ้าสักวันหนึ่งเขาเปลี่ยนไป ข้าจะไปจากเขา ข้าจะไม่ใช่ข้าคนเดิมอีกต่อไป

 

 

แม้ไปจากเขา ข้าก็อยู่อย่างมีความสุขได้ แต่เวลานี้ยังไม่ได้ ข้ากับเขาเคยให้คำมั่นสัญญากัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะอยู่ด้วยกัน ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ ข้าก็ไม่โทษเขา ข้าจะจากไปเอง”

 

 

เรื่องนี้ซูจิ่วซือคิดมานานแล้ว นางไม่ปฏิเสธ เรื่องนี้ทำให้จิตใจนางสับสน นางอยากแต่งงานกับฟู่เฉินหรง มีลูกกับเขา อยู่เคียงข้างเขาไปตลอดกาล แต่สวรรค์ไม่เป็นใจ ในเมื่อเป็นความจริง มีแต่ต้องยอมรับ ไม่มีทางอื่น

 

 

นางจะบอกเรื่องนี้ให้ฟู่เฉินหรงรู้ ให้เขาตัดสินใจ

 

 

ถ้าสักวันหนึ่ง นางกับเขาไม่อาจอยู่ร่วมกันได้เพราะเรื่องนี้ นางก็ไม่โทษฟู่เฉินหรง ในฐานะอย่างนั้น นางรู้ว่าฟู่เฉินหรงคงมีหลายอย่างที่ไม่อาจทำอย่างที่คิด

 

 

นางไม่สามารถยอมรับการนอกใจ อย่างที่กู้เหยี่ยนเคยนอกใจนาง ในชีวิตนี้นี่เป็นเรื่องที่นางไม่อาจให้อภัยได้

 

 

“ถ้าเป็นอย่างนี้ คิดว่ามีความหมายหรือ? เจ้าทุ่มเทมานานกลับสูญเปล่า”

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มให้จงโม่เจียงอย่างเปิดเผย “ข้าไม่มีวันเสียใจภายหลัง”

 

 

จงโม่เจียงไม่รู้จะตอบอย่างไร เขารู้สึกปวดร้าวใจขึ้นมาทันที ได้แต่หวังว่าฟู่เฉินหรงจะไม่ทำให้นางเสียใจ ไม่เช่นนั้นเขาไม่ปล่อยฟู่เฉินหรงแน่ ต้องคิดบัญชีกับฟู่เฉินหรงให้ได้

 

 

ในสายตาของเขา ซูจิ่วซือทุ่มเทให้ฟู่เฉินหรงมากมายเหลือเกิน จนทำให้เขารู้สึกอิจฉา

 

 

“จงโม่เจียง ขอบใจเจ้า”

 

 

ซูจิ่วซือรีบบอกขอบใจ เป็นการขอบใจอย่างจริงใจ นางอยากขอบใจจงโม่เจียงอย่างเต็มที่สักครั้ง

 

 

จงโม่เจียงถอนหายใจเบาๆ “แม่นางคนโง่”

 

 

นอกจากคำนี้แล้ว เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรอีก แม้เขาเองก็ทำอะไรโง่ๆ แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องโง่ๆ ที่เขาทำกับที่ซูจิ่วซือทำไม่เหมือนกัน

 

 

“เอาละ ได้เวลาแล้ว ข้าไปก่อนละ เจ้าไม่ต้องไปส่ง มีอาหลานอยู่ด้วยก็พอ จงโม่เจียง ขออภัย”

 

 

“วันหลังอย่าพูดอย่างนี้ ข้าไม่อยากฟัง นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่เราสองคนเหมือนกัน ชอบทำอะไรโง่ๆ โดยไม่มีวันเสียใจภายหลัง” จงโม่เจียงยิ้ม รอยยิ้มทำให้ใบหน้าเย็นชานั้นอ่อนโยนลงมาก

 

 

“มีแขกมาแล้ว”

 

 

จู่ๆ เสียงของเจ้าแม่ก็ดังขึ้น

 

 

ซูจิ่วซือมองไปข้างหน้า เห็นเงาคนที่คุ้นเคย นางตะลึงงัน