ตอนที่ 1699

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,699 : อันดับแรกในการประลองยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง!

 

ผู้ฝึกตนพเนจรทั้งหลาย พอเห็นต้วนหลิงเทียนฆ่าฉีจิ้งได้แบบนี้ พวกมันก็ดีใจกันแทบคลั่ง!

 

ต้องทราบด้วยว่าไม่ใช่แค่เขตอิทธิพลหลักของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง แต่ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคเบื้องบนหรือเบื้องล่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ผู้ฝึกตนพเนจรนั้นมักถูกผู้คนที่มีขุมพลังอยู่เบื้องหลังดูแคลนหยามหมิ่นเสมอ!

 

เพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่มีขุมพลังหนุนหลัง ย่อมได้รับทรัพยากรบ่มเพาะที่ดีกว่า

 

ส่วนผู้ฝึกตนพเนจรนั้น ได้แค่พึ่งพาพรสวรรค์และวาสนาจากการเดินทางไปเรื่อยๆ เช่นนั้นส่วนใหญ่แล้วย่อมขาดแคลนทรัพยากร ทำให้ความต่างของพลังฝีมือยิ่งมายิ่งมาก..

 

ทว่าวันนี้ต้วนหลิงเทียนกลับฆ่าฉีจิ้งในฐานะผู้ฝึกตนพเนจร!

 

ฉีจิ้งเป็นใคร?

 

นายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!

 

หากต้วนหลิงเทียนฆ่าฉีจิ้งคนเก่าก่อนหน้านี้ แม้พวกมันจะดีใจแต่คงไม่คลั่งไคล้กันแบบนี้!

 

เพราะฉีจิ้งในวันนี้ต่างจากในอดีต!

 

เพราะอีกฝ่ายไม่เพียงแต่ฆ่าคู่ปรับเก่าอย่างจงกู้ รวมถึงหลวงจีนลายบุผาและจิ้งชวีจื่อได้อย่างง่ายดาย!

 

ต้องทราบด้วยว่าในอดีตไม่ว่าหลวงจีนลายบุปผาหรือจิ้งชวีจื่อก็เอาชนะฉีจิ้งได้ง่ายดาย

 

ทว่าฉีจิ้งกลับใช้วลาเพียง 1 ปีทะลวงผ่านมาจากเซียนขัดเกลาขั้นต้นจนบนนลุเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด! ทำให้มันกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่อายุน้อยกว่า 50 ปีในเขตอิทธิพลหลักคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!!

 

ชัดเจนเลยว่าหากไม่มีต้วนหลิงเทียน อันดับ 1 ในการประลองยอดนักรบฟ้าลิ่วล่องจะเป็นใครได้อีกนอกจากมัน?

 

น่าเสียดายที่การมาถึงของต้วนหลิงเทียนในคราบลี่เฟิง..ตัวตนปลอมที่เขาสร้างขึ้นเพื่อการนี้ ไม่เพียงแต่ดับฝันของมัน แต่ยังทำให้มันร่วงหล่นไร้วันได้ผงาด!

 

ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกตนพเนจรและผู้ชมทั้งหลายถึงได้ตื่นตระหนกตกใจกันนัก

 

ที่สำคัญไปกว่านั้น ต้วนหลิงเทียนยังมีอายุไม่ถึง 40 ปี

 

“อายุมิถึง 40 ปีแต่บรรลุสูงสุดเซียนขัดเกลา…ลี่เฟิงผู้นี้เป็นสัตว์ประหลาดชัดๆ! ก่อนหน้านี้เขาเผยความสนใจจะเข้าร่วมคฤหาสน์ข้ามฟ้ากับคฤหาสน์คลื่นคลั่ง…เช่นนั้นมิว่าเขาเข้าร่วมกับขุมพลังใด น่ากลัวว่าอีกมิกี่ 10 ปีขุมพลังนั้นต้องยกระดับเป็นขุมพลังกึ่งชั้น 3 ได้แน่!!”

 

ทันใดนั้นบางคนพลันอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก

 

ทำให้ทุกสายตาหันไปมองเริ่นจงกับหลิวหงกวงทันที ด้วยอยากรู้ว่าสุดท้ายผู้ใดจะคว้าเพชรน้ำเอกเม็ดนี้ไปเข้าร่วมขุมพลังของตัวได้

 

เริ่นจงกับหลิวหงกวงก็หันมามองสบตากันทันที ยังคล้ายมีกระแสไฟฟ้าพุ่งยิงออกมาจากลูกตาไปปะทะกันแปลบๆกลางอากาศ!!

 

เพราะสุดท้ายแล้วลี่เฟิงก็มีคนเดียว 1 ในพวกมันเท่านั้นที่จะได้ไป!!

 

“ลี่เฟิงในฐานะอาวุโสหลักของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องข้าขอเชิญเจ้าเข้าร่วมกับพวกเรา…ตราบใดที่เจ้ายินดีเข้าร่วมคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องของเราและสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะไม่คิดร้ายต่อคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง ข้าสามารถอภัยเรื่องทั้งหมดให้แก่เจ้าในนามคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง! นอกจากนี้คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจะสนับสนุนทรัพยากรบ่มเพาะให้เจ้าอย่างดี และไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะขึ้นนั่งตำแหน่งผู้นำ!!”

 

ตอนนี้เองพลันมีเสียงผ่านปราณแรกกำเนิดส่งตรงถึงหูของต้วนหลิงเทียน และเจ้าของเสียงก็คืออาวุโสหลักคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องฉีเสิ่น!!

 

ฟังจากคำของฉีเสิ่น ความหมายนั้นชัดเจนเพียงต้วนหลิงเทียนสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ โทษที่เขาฆ่าคนจะหมดไป ยังได้รับการสนับสนุนอย่างดี! กระทั่งมีโอกาสได้เป็นผู้นำ!!

 

ถึงแม้ฉีเสิ่นแทบจะอดรอฆ่าต้วนหลิงเทียนไม่ไหว เพื่อล้างแค้นให้หลานชายที่ตายตก! แต่พอได้เห็นศักยภาพพรสวรรค์ที่น่ากลัวปานปีศาจของอีกฝ่าย มันก็ได้แต่ละวางความแค้นลง!!

 

เพราะหากมันสามารถรับตัวอัจฉริยะเช่นนี้กลับไปได้ ย่อมกลายเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่แน่นอน!

 

หลังจากนั้นก็คงไม่มีใครคิดตำหนิมันเรื่องการตายของฉีจิ้ง!

 

สำหรับผู้นำคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง แม้ลี่เฟิงจะเป็นศัตรูฆ่าลูกชาย แต่เพื่อภาพรวมและความยิ่งใหญ่ของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง มันย่อมละวางความแค้นได้!

 

คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องเคยเป็นขุมพลังกึ่งชั้น 3 มาก่อน…ทว่าจำต้องร่วงลงมาเป็นขุมพลังชั้น 4!

 

ด้วยเหตุนี้คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจึงมีความหวังอันแรงกล้าว่าจะได้หวนคืนสู่ความรุ่งโรจน์ในกาลก่อน!

 

เผชิญกับความหวังของคนทั้งคฤหาสน์ ไหนเลยคนเป็นผู้นำยังละวางเรื่องราวส่วนตัวไม่ได้?

 

“หืม? อาวุโสฉีเสิ่น นี่ข้าได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า?”

 

พอได้ยินเสียงผ่านปราณจากฉีเสิ่น ต้วนหลิงเทียนหันไปฉีกยิ้มกว้างกล่าวออกเสียงดังฟังชัด “นี่ท่านขอให้ข้าเข้าร่วมคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง โดยที่ยินดีละวางความแค้นฆ่าหลานชายงั้นเหรอ? แล้วนี่อย่าได้บอกข้านะว่ากระทั่งผู้นำของท่านยังยินดีละวางความแค้นฆ่าบุตรชายคนเดียวของมันด้วยอีกคน และจะไม่มาสร้างปัญหาให้ข้าภายหลังจริงๆ?”

 

พอต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาประโยคนี้ออกมา ผู้คนโดยรอบก็อึ้งกิมกี่กันหมด!

 

ทุกคนไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าฉีเสิ่นยังจะกล้ายืนข้อเสนอให้ลี่เฟิงแบบนี้! ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้าเป็นมันที่คิดลงมือเข่นฆ่าผู้อื่นเค้าด้วยซ้ำ!!

 

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เริ่นจงกับหลิวหงกวงเข้าใจฉีเสิ่นดี เพราะสุดท้ายแล้วพรสวรรค์ของลี่เฟิงน่ากลัวเกินไป! หากไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ในภายภาคหน้าขุมพลังใดที่รับตัวลี่เฟิงไป..ต้องกลายเป็นขุมพลังกึ่งชั้น 3 ได้แน่!

 

ครู่หนึ่งทั้งคู่จึงหันไปมองฉีเสิ่นด้วยสายตาดุร้ายทันที

 

“สหายน้อยลี่เฟิง อย่าได้หลงเชื่อวาจาของมันเชียว! มันแค่คิดล่อเจ้าให้ร่วมเดินทางไปกับมันและจะฆ่าเจ้าทิ้งระหว่างทางเป็นแน่!!”

 

เริ่นจงส่งเสียงถึงต้วนหลิงเทียนทันที ยังหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยระหว่างต้วนหลิงเทียนกับฉีเสิ่นอีกด้วย นี่เพื่อไม่ให้ต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมกับคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง แม้มันจะรู้ดีแก่ใจว่าฉีเสิ่นตั้งใจรับตัวต้วนหลิงเทียนจริงๆ

 

และครู่ต่อมาเสียงหลิวหงกวงก็ดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียนเช่นกัน วาจาก็ทำนองเดียวกันกับเริ่นจง พยายามสร้างความบาดหมางระหว่างเขากับฉีเสิ่น!

 

ต้วนหลิงเทียนไหนเลยจะเดาความคิดของทั้งคู่ไม่ได้ จึงอดรู้สึกขำไปในใจเสียไม่ได้ แต่แม้เขาจะคิดว่าเรื่องนี้มันน่าขำเพียงใด แต่สุดท้ายเขาก็จำต้องส่งเสียงตอบกลับทั้งคู่…ว่าจะไม่เข้าร่วมคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องแน่นอน!

 

หลังได้รับคำตอบของต้วนหลิงเทียน เริ่นจงกับหลิวหงกวงก็เผยความยินดีไม่น้อย เพราะนี่หมายความว่าคู่แข่งของพวกมันน้อยลงไปคนนึงแล้ว!

 

“อะไร? อาวุโสหลักคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องยื่นข้อเสนอให้ลี่เฟิงเข้าร่วมคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องงั้นเหรอ?”

 

ตอนนี้เองหลายต่อหลายคนกลับมารู้สึกหลังจากอึ้งกิมกี่ ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเหลวไหลไม่น้อย

 

“นี่มันลืมไปแล้วหรือไรว่าหลานชายคนเดียวของมันถูกลี่เฟิงฆ่าตาย แถมลี่เฟิงพึ่งฆ่านายน้อยของมันไปหยกๆ?”

 

หลายคนอยากรู้ไม่น้อย

 

“เจ้ายังมิเข้าใจหรือ? ด้วยพรสวรรค์ของลี่เฟิง อย่าว่าแต่นายน้อยคฤหาสน์เลย ให้เขาลอบปาดคอผู้นำคฤหาสน์มาอีกคน แต่ตราบใดที่เขาเต็มใจเข้าร่วมคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องล่ะก็…คนของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องย่อมยินดีต้อนรับ! อายุมิถึง 40 แต่บรรลุเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด…เรื่องนี้มิใช่เรื่องล้อเล่น!!”

 

“มิผิด! ยังเยาว์แต่บรรลุพลังฝึกปรือขนาดนี้ หากมีเวลาให้เขาเติบโต ย่อมไม่ยากที่จะนำพาขุมพลังชั้น 4 ให้กลายเป็นขุมพลังชั้น 3!”

 

“กับอนาคตที่สดใส ความแค้นส่วนตัวใดๆย่อมกลายเป็นเล็กน้อย”

 

……

 

หลายคนกล่าวออกมา และเข้าใจได้ว่าไฉนฉีเสิ่นถึงได้ยื่นข้อเสนอออกมา

 

ด้านคนของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องตอนแรกพอได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน พวกมันก็มีโมโหฉีเสิ่นไม่น้อย! เพราะรู้สึกว่าฉีเสิ่นกำลังทำให้คฤหาสน์ขายหน้า…!!

 

แต่พอได้ฟังวาจาโดยรอบ อารมณ์ของพวกมันก็เริ่มเย็นลง และคิดว่าฉีเสิ่นไม่ได้ทำผิดอะไร

 

“เรื่องนี้เจ้ามั่นใจได้ ตราบใดที่เจ้าสาบานต่อทันฑ์สวรรค์ว่าจะภัคดีต่อคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง ข้าสาบานว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่ให้ใครในคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องสร้างปัญหาให้เจ้า!”

 

แม้จะถูกต้วนหลิงเทียนเปิดโปงต่อหน้าผู้คนแต่ฉีเสิ่นก็ไม่โกรธ เพียงกล่าวตอบออกไปเสียงดังฟังชัด

 

“อ้อ ดูเหมือนว่าคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องของพวกเจ้าจะเป็นศูนย์รวมพวกเลือดเย็นงั้นสินะ…ขอโทษทีแต่ข้าไม่อยากเข้าร่วมกับขุมพลังที่ไร้หัวใจพรรค์นี้..”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวปฏิเสธออกมาตรงๆ

 

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนปฏิเสะฉีเสิ่นออกมาโต้งๆ เริ่นจงกับหลิวหงกวงแสยะยิ้มออกมาอย่างถูกใจ ทว่าด้านฉีเสิ่นกับชักสีหน้าอัปลักษณ์ปั้นยากนัก!

 

ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนพลันหันมองไปยังเริ่นจงกับหลิวหงกวง ก่อนที่จะส่งเสียงไปถึงทั้งคู่ “รองผู้นำคฤหาสน์เริ่น อาวุโสหลิว ข้าเกรงว่าหลังจากนี้คงไม่มีคนของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องคิดเข้าร่วมประลองอีกต่อไปแล้ว และหากข้าเดาไม่ผิดเดี๋ยวพวกมันต้องแสร้งทำเป็นกลับไปก่อน เพื่อไปวางกำลังคนซุ่มรอฆ่าข้าแน่นอน…เช่นนั้นข้าจึงอยากขอกลับไปก่อนได้หรือไม่..และข้าจะไปรอสนทนากับพวกท่านแถวๆหุบเขาทิศตะวันตกที่ห่างจากจุดนี้ 100 ลี้?”

 

เริ่นจงกับหลิวหงกวงหันหน้ามองสบตากันทันใดหลังได้ยินเสียงของต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะหันกลับมามองเขาพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย

 

ถูกแล้ว

 

หากฉีเสิ่นแสร้งพาคนกลับไปแต่ไม่ได้จากไปจริงๆ เลือกที่จะไปซุ่มรอเล่นงานต้วนหลิงเทียนอยู่ล่ะก็ …

 

กระทั่งพวกมันก็คงยากจะปกป้องคุ้มครองคน ดั่งคำ ‘ทวนเปิดเผยหลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์เร้นลับยากระวัง’

 

ถึงแม้ว่าฉีเสิ่นจะนับเป็นยอดฝีมือของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องที่พวกมันสามารถรับมือได้ ทว่าไม่ไกลจากหุบเขาหลิงหลงก็มีรองผู้นำคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องประจำการอยู่ในเมืองเช่นกัน!

 

หากฉีเสิ่นส่งคนไปตามอีกฝ่ายมาล่ะก็ คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะซุ่มฆ่าต้วนหลิงเทียน!

 

ด้วยเหตุนี้หลังได้ยินคำต้วนหลิงเทียนพวกมันก็เห็นด้วยทันที “เอาล่ะ เจ้าไปรอพวกเราที่หุบเขาทางทิศตะวันตก 100 ลี้จากจุดนี้เลยเถอะ เพราะจะอย่างไรการประลองจัดอันดับก็มิมียอดฝีมือคนใดที่สู้เจ้าได้แล้ว แม้พวกเราจะประกาศให้เจ้าเป็นอันดับ 1 ก็คงมิมีผู้ใดคัดค้าน”

 

“เพราะสุดท้ายแล้วพลังฝีมือของเจ้าทุกผู้คนล้วนกระจ่างชัดนัก…อันดับ 1 สมควรเป็นเจ้า”

 

เริ่นจงกับหลิวหงกวงกล่าวตอบต้วนหลิงเทียน

 

“เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณรองผู้นำเริ่นกับอาวุโสหลิวแล้ว”

 

หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนประสานมือเขย่าพร้อมกล่าวขอบคุณทั้งคู่เสร็จ เขาก็เหินร่างขึ้นฟ้าผ่านม่านพลังค่ายกลหลิงหลง หายลับไปจากสายตาของผู้คนทันที…

 

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเหินร่างออกจากกระดานหมากหลิงหลง สองตาฉีเสิ่นพลันทอประกายเรืองวูบคิดไล่ตามต้วนหลิงเทียนไปทันที ยังโบกมือเรียกคนของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องให้กลับไปกับมันด้วย!

 

น่าเสียดายที่เริ่นจงกับหลิวหงกวงพลันมาขวางมันเอาไว้ไม่ให้ไปไหน

 

“รองผู้นำเริ่น อาวุโสหลิว นี่พวกท่านคิดจะทำอะไร?”

 

ใบหน้าฉีเสิ่นเปลี่ยนเป็นดุร้ายเอาเรื่องทันที “อัจฉริยะของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องข้าตายตกหมดสิ้น ตอนนี้จึงไม่มีผู้ใดมีสามารถสูงพอจะประลองสืบต่อ…แล้วใยแค่ข้าคิดจะพาคนกลับพวกท่านต้องมาขวางข้าด้วย?”

 

“อาวุโสเสิ่นท่านจะไปมิใช่ว่าไปไม่ได้ แต่ขอให้ท่านออกเดินทางหลังจากนี้สักเค่อนึงเถอะ…อ่อ นี่รวมถึงคนของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องทุกคนด้วย”

 

เริ่นจงกล่าวออกเสียงเรียบ

 

ถึงแม้หลิวหงกวงจะไม่พูดอะไร แต่มันโบกมือคราหนึ่ง ปรากฏคนของคฤหาสน์คลื่นคลั่งที่ติดตามมันมาด้วยพลันเหินร่างมาปิดล้อมคนของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องเอาไว้ทันที ไม่ให้ใครคิดเล่นลูกไม้อะไรจนคลาดสายตาไปไหนแน่!

 

ตอนนี้ให้ฉีเสิ่นโง่เขลาปานใด ไหนเลยมันจะไม่รู้ว่าเริ่นจงกับหลิวหงกวงได้บรรลุข้อตกลงอะไรบางอย่างกับลี่เฟิงเรียบร้อยแล้ว!

 

จังหวะนี้แม้มันจะฮึดฮัดขัดข้องทั้งโมโหปานใด ก็ไม่มีอะไรที่มันทำได้!

 

หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนพุ่งร่างออกจากกระดานหมากหลิงหลง เริ่นจงก็หันมองไปยังทุกคนโดยรอบรวมถึงจ้าวเวทีทั้ง 9 ที่ยังคงสับสนว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงจากไป ค่อยประกาศออกมาเสียงดัง “ทุกๆคน การประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่องครานี้ กล่าวได้ว่าเป็นการประลองที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา”

 

“ลี่เฟิงที่อายุมิถึง 40 ปีแต่กลับบรรลุเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุด นอกจากนี้ยังฆ่าฉีจิ้งที่บรรลุเซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดได้…เช่นนั้นข้าจึงขอตัดสินให้เขาเป็นอันดับ 1 ในการประลองจัดอันดับยอดนักรบฟ้าลิ่วล่องครั้งนี้ พวกเจ้าคงไม่มีใครขัดข้องใช่หรือไม่?”