บทที่ 556 เสี่ยวหานหาน ข้าปกป้องเจ้า

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 556 เสี่ยวหานหาน ข้าปกป้องเจ้า
มังกรดำถูกโจมตีขนาบซ้ายขวา โดนกักขังไว้ในพริบตา

รองหัวหน้าเผ่าซือคงสีหน้าเคร่งขรึม ท่องมนต์เงียบๆ รวบรวมกำลังภายในต่อไป

พลังชีวิตของมังกรดำที่ค่อยๆหมดลงกลับแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง และยิ่งรวบรวมก็ยิ่งใหญ่ขึ้น ร่างกายของมังกรดำขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าลอยล่องอยู่กลางอากาศ มองฝูงชนจากเบื้องบนมายังด้านล่าง

ราวกับว่าต้องการจะกลืนกินกลุ่มของเย่จิ่งหานทั้งกลุ่ม

มังกรดำมีพลังชั่วร้าย เพียงแค่ถูกสัมผัส ก็จะกลายเป็นน้ำสีดำทันที

เย่จิ่งหานและไป๋จิ่นสบตากันแวบหนึ่ง ปล่อยพลังออกมาพร้อมกัน ตั้งใจโจมตีรองหัวหน้าเผ่าซือคงให้พ่ายแพ้ไปในคราเดียว

แต่คาดไม่ถึงว่าจะเย่จิ่งหานรู้สึกเจ็บปวดทรวงอกขึ้นมาอย่างกะทันหันในช่วงเวลาสำคัญ เลือดทั้งร่างกายพุ่งกลับกับ ไม่เพียงร่างกายสั่นเทาไม่หยุด แม้แต่กำลังภายในที่มีอยู่ก็สูญหายไปในพริบตา

ไม่มีการช่วยเหลือของเย่จิ่งหาน การโจมตีอันร้ายแรงถึงแก่ชีวิตที่ไป๋จิ่นปล่อยออกไปต้านทานรองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่ได้ ถูกมังกรดำทำร้ายได้รับบาดเจ็บไปพร้อมกับเย่จิ่งหาน

“ฟู่ว……”

“ฟู่ว……”

ทั้งสองล้วนกระอักเลือด แทบจะหมดลม

หากไม่ได้มีอาวุธวิเศษระดับหกปกป้องไว้ เกรงว่าพวกเขาคงได้ตายอย่างน่าอนาถไปนานแล้ว

“เย่จิ่งหาน……”

กู้ชูหน่วนที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่ตกใจทันที กระบี่ฟาดฟันสังหารออกไปเป็นเส้นทางเลือด พุ่งไปทางเย่จิ่งหานและคนอื่นๆ

ตั้งแต่ต้นจนจบสีชิ่นก็คุ้มกันอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนตลอด เมื่อเห็นว่ามังกรดำของรองหัวหน้าเผ่าซือคงโฉบเข้ามาโจมตีอีกครั้ง แววตาของสีชิ่นเด็ดเดี่ยว ต่อสู้เพียงลำพัง เผชิญหน้ากับมังกรดำ

“เย่จิ่งหาน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง” กู้ชูหน่วนพยุงเขาขึ้นมา ตรวจชีพจรให้เขา สีหน้าเปลี่ยนไปมากอย่างอดไม่ได้

เย่จิ่งหานอดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัส พ่นประโยคหนึ่งออกมาจะซอกฟัน “ข้า……พิษข้ากำ……กำเริบแล้ว เจ้ารีบไป……”

กู้ชูหน่วนเทยาเม็ดหนึ่งออกมาป้อนเขาอย่างชำนาญ แบกเย่จิ่งหานขึ้น กล่าวอย่างเย็นชา “จะไปก็ไปด้วยกัน ไป๋จิ่น เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ยังไม่ตาย”

ไป๋จิ่นกุมทรวงอกไว้ ยืนขึ้นด้วยความโซซัดโซเซ ยกฝ่ามือขึ้น ก็เป็นหอกน้ำแข็งอีกอันหนึ่งยิงออกมา

หอกน้ำแข็งทุกอันล้วนยิงตายไปหนึ่งคนโดยแม่นยำไม่พลาด

นี่เป็นสงครามนองเลือดฉากหนึ่ง

ระดับความยากของสงครามนองเลือดนี้แข็งแกร่งเป็นที่สุด

ระหว่างการสังหาร กู้ชูหน่วนเห็นว่าจอมมารและสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ต่อสู้กันจนแยกกันได้ยาก ทุกกระบวนท่าล้วนเขย่าฟ้าสะเทือนดินทำให้คนตกใจ

ทุกคนล้วนไม่กล้าเข้าใกล้พวกเขา เพราะเมื่อเข้าใกล้ ก็จะได้รับบาดเจ็บจากลูกหลงกลายเป็นหมอกเลือดทันที

นางเห็นว่าจอมมารเห็นว่าสีชิ่นสู้รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่ได้ รองหัวหน้าเผ่าซือคงยื่นกรงเล็บไปทางนาง จอมมารเริ่มกระบวนท่าสุดยอดยิงถล่มไปทางรองหัวหน้าเผ่าซือคง ใช้หนึ่งสู้กับสองคน

จอมมารต่อสู้ตัวต่อตัวกับสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ ยังนับได้ว่าอยู่ในจุดได้เปรียบ แต่หนึ่งต่อสอง จอมมารถูกตีขนาบซ้ายขวา ก็ทำได้เพียงรับมือกับพวกเขาอย่างสุดความสามารถเท่านั้น ทุกกระบวนท่าของเขาล้วนอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เพียงแค่ไม่ระวัง ก็จะปลิดชีพไปตรงนั้น

นางยังเห็นว่าสีชิ่นและไป๋จิ่นกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการสังหารอีกด้วย คนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่งอยู่หลังพุ่งสังหารเป็นเส้นทางเลือดออกไป คิดจะปกป้องนางทั้งจิตใจ แต่คนของเผ่าเทียนเฟิ่นมากมายเกินไป ยอดฝีมือก็มากเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงไหน คนน้อยก็ต้านทานคนจำนวนมากไม่ได้ ยืดเยื้อต่อไป จะต้องแพ้พ่ายอย่างไรข้อกังขา

เผ่าเทียนเฟิ่นแข็งแกร่งกว่าที่นางคาดคิดไว้

โดยเฉพาะพวกลูกศิษย์ที่เห็นว่าถูกตีพ่ายจนยับเยินเหล่านั้น ได้รวมตัวขึ้นเป็นกลุ่มกลุ่มหนึ่งและอีกค่ายกลหนึ่งขัดขวางพวกเขาไว้เอง

ผู้อาวุโสทยอยไล่ตามมาทีละคนทีละคนอย่างต่อเนื่อง

“เสี่ยวหานหาน หากว่าเจ้ากลัวก็หลับตาซะ มีพี่สาวอยู่ พี่สาวจะไม่ให้เจ้าไปพบพญายมราชก่อนเป็นแน่”

ดวงตาของเย่จิ่งหานหม่นหมองลง

ท่ามกลางสายฝนโลหิตและแสงดาบเป็นประกาย เขาเห็นกู้ชูหน่วนพุ่งสังหารออกไปตลอดทางเพื่อปกป้องเขา แม้ว่าจะมีสีชิ่นและไป๋จิ่นคุ้มกัน ก็ยังถูกดาบฟันไปไม่น้อย

เลือดสดไหลหยดไปตามเสื้อผ้าของนางช้าๆ แม้แต่ใบหน้าของนางก็เปื้อนเลือดเต็มไปหมดเช่นกัน แต่นางไม่สนใจใดๆ เพียงแค่แบกเขาไว้แน่นๆ วิ่งพุ่งสังหารไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญ

“พาข้าไปด้วย พวกเจ้าทั้งหมดจะหนีไปไม่พ้น เจ้าจะทำเช่นนี้ทำไมล่ะ”

“ท่านพูดพร่ำไร้สาระอะไรน่ะ มีกำลังวังชาพูดเพ้อเจ้อเช่นนี้ นอนหลับให้ดีๆสักตื่นยังจะดีซะกว่า ฟื้นฟูร่างกาย”

“……”

นอน?

เวลานี้ใครนอนได้?