บทที่ 504 เราไปดูเรื่องสนุกกันเถอะ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 504 เราไปดูเรื่องสนุกกันเถอะ?
เรื่องการประลองทางการแพทย์ ณ หอรักษา อึกทึกครึกโครม คนทั้งโลกต่างรับรู้เรื่องนี้

แม้แต่ขุนหลวงหยางทาวก็รู้เรื่องนี้ด้วย

กัวปิงผู้บังคับบัญชากองพลอาวุธ ไจ่เซี่ยงหร่วนซื่อสง ผบ.ตร.หวางฮัวเฉียง จ้าวกั๋วจู้เทพสงครามเสาหลักและคนอื่นๆ ล้วนถูกเชิญมาร่วมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เรื่องการประลองทางการแพทย์ ณ หอรักษา พวกแกคิดว่าไงกันบ้าง?ออกความคิดเห็นได้นะ”

หยางทาวเรียกให้ทุกคนนั่งลง ใบหน้าไม่มีความเคร่งขรึมแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังมีท่าทีเหมือนกำลังดูละครอยู่

หลายปีมานี้วงการแพทย์ดูวุ่นวายไปหน่อย เหล่าคนบ้าเหล่านี้ควบคุมยากมาก ไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้

หัวเวิ่นยีหัวหน้าสมาคมการแพทย์ หายหน้าหายตาไป ไม่มีใครรู้ความเคลื่อนไหว หยางทาวเองก็ปวดหัวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด

ส่วนคนอื่นๆถึงแม้จะรู้สึกอยากหัวเราะ แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ จ้าวกั๋วจู้เทพสงครามเสาหลักที่หัวเราะอย่างเริงร่า เสียงดุจระฆังก้องกังวาน”ฮ่าๆๆ ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของไอ้น้องชายอย่างเซิ่งเทียน มีแต่เขาเท่านั้นแหละที่กล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ สู้กับหมอเทวดาทั้งหกคนด้วยตัวคนเดียว คราวนี้มีอะไรสนุกๆให้ดูแล้วสินะ ฮ่าๆๆ”

หยางทาวถลึงตาใส่เขาไปหนึ่งครั้ง แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์”ที่เรียกมาก็เพื่ออยากถามความเห็น ไม่ใช่ให้มาเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลก”

หร่วนซื่อสงแสยะยิ้มราวกับสุนัขจิ้งจอก”นี่มันเป็นเรื่องตลกไม่ใช่หรอ ขุนหลวง ท่านคิดว่าใครจะชนะในศึกการประลองทางการแพทย์ครั้งนี้หรอครับ?”

หยางทาวหัวเราะหึๆพลางกล่าวว่า”ผมกลับคาดหวังว่าเซิ่งเทียนจะชนะนะ แต่ผมคิดว่าคราวนี้เซิ่งเทียนคงต้องลำบากหน่อยแล้วล่ะ ตาแก่หกคนนั้นน่ะ ถึงแม้จะนิสัยออกจะประหลาดหน่อย ไม่เหมือนมนุษย์มนา แต่ทักษะทางการแพทย์นอกจากหัวเวิ่นยีแล้ว เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถต้านทานได้น่ะสิ”

กัวปิงพูดอย่างมีลับลมคมในว่า”ผมว่าไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปหรอกครับ ตอนนี้เกรงว่าแม้แต่หัวเวิ่นยีก็ต้านทานจั่วอู๋เต้าไม่ไหว”

จิ้งจอกเฒ่าผู้มีชื่อเสียงในประเทศต้าเซี่ยอย่างหร่วนซื่อสงส่ายหัวแล้วกล่าวว่า”ตอนนี้สิ่งที่ผมเป็นกังวลก็คือ หลังจากการประลองทางการแพทย์ครั้งนี้แล้ว ถ้าหากตัวตนของเซิ่งเทียนถูกคนอื่นรับรู้ นั่นจะมีผลกระทบต่อศักดิ์ศรีของเซิ่งเทียน ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ แต่จะต้องคิดหาวิธีในการปกป้องศักดิ์ศรีของเซิ่งเทียนต่างหาก”

หยางทาวถอนหายใจพลางกล่าวว่า”ใช่แล้ว จุดนี้เป็นสิ่งที่ผมเป็นกังวล เพียงแต่ไม่รู้ว่าเซิ่งเทียนไอ้หมอนี่จะใช้วิธีอะไร แต่เจ้าเด็กคนนี้ไม่เคยสู้รบโดยที่ไม่เตรียมการอะไรมาก่อน ในเมื่อกล้าที่จะท้าทายหมอเทวดาทั้งหก เพื่อบูรณาการวงการแพทย์ นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องมั่นใจว่าจะกุมชัยชนะ”

จ้าวกั๋วจู้แสยะยิ้มหัวเราะหึๆพลางกล่าวว่า”เรื่องการประลองทางการแพทย์ ณ หอรักษา?ถึงอย่างไรผมก็จะไป ผมพบว่าขอแค่มีไอ้น้องชายอย่างเซิ่งเทียนปรากฏอย่างสถานที่แห่งใด มันก็มีก็มีเรื่องให้น่าค้นหาอยู่เสมอ เป็นเรื่องที่สะใจมากจะได้ตอกหน้าคนบางคน แต่ว่านะ หากเขาไม่ใช้ทักษะทางการแพทย์ชนะการประลองในครั้งนี้ ผมคงจะต้องเยาะเย้ยเขาหน่อยแล้วล่ะ เรื่องดีๆแบบนี้ผมคงปล่อยให้เขามีความสุขเองไม่ได้หรอก”

หร่วนซื่อสง กัวปิง หร่วนซื่อสงทั้งสามคนสบตากัน พลันเข้าใจในเสียงหัวเราะนี้ทันที

หร่วนซื่อสงกล่าวอย่างได้ใจว่า”จะต้องให้เจ้าเด็กนี้ถูกสั่งสอนเสียหน่อย เห็นผมทีไรก็เอาแต่เรียกจิ้งจอกเฒ่าๆ ผมรู้สึกไม่ชอบใจเลย”

กัวปิงเผยให้เห็นรอยยิ้มปริศนา”เย่เซิ่งเทียนเจ้าเด็กคนนี้แย่งซีนเราตั้งไม่รู้เท่าไร?ตอนนี้เขาเป็นถึงยอดฝีมือนักบู๊ที่เก่งที่สุดในโลกเชียวนะ ไม่มีใครสามารถเปรียบได้ แต่ทักษะทางการแพทย์คงไม่มีใครเปรียบได้อีกหรอกนะ?ครั้งนี้ผมจะต้องรอเยาะเย้ยเขาเสียหน่อยแล้ว”

หยางทาวพูดสำทับอีกว่า”นั่นน่ะสิ ก่อนหน้านี้เจ้าเด็กคนนี้เห็นเราเป็นตัวตลก คราวนี้ผมจะต้องเยาะเย้ยเขาบ้างแล้วล่ะ”

จ้าวกั๋วจู้พูดอย่างหัวเราะคิกคัก”งั้นเรารวมตัวกันไปดูหน่อยไหมครับ พกมือถือไปถ่ายเขาเก็บไว้ด้วย จะได้เก็บไว้ล้อเขา”

หยางทาวถลึงตาใส่เขา”หยาบคายจริงๆ เราจะไปได้ยังไง?”

หร่วนซื่อสงพูดอย่างเห็นด้วยว่า”นั่นน่ะสิ เราจะไปกินเผือกที่แบบนั้น ด้วยกันงั้นหรอ?”

กัวปิงทำเสียงหึ”ทำอะไรไม่ดูฐานะตัวเอง”

จ้าวกั๋วจู้พูดอย่างพูดอย่างไม่ใส่ใจไปว่า”ก็ได้ๆๆ ผมจ้าวกั๋วจู้เป็นคนหยาบโลน พวกแกมันพวกคนสูงส่ง ถ้าพวกแกไม่ไปฉันไปเองก็ได้ ถึงเวลานั้นฉันถ่ายคลิปข่าวฉาวของไอ้น้องชายเซิ่งเทียนได้ พวกแกอย่ามาขอคลิปจากฉันแล้วกัน!”

ทั้งสามคนกล่าวอย่างราวกับเหตุผลถูกต้องและวาทะเต็มไปด้วยสัจธรรม”แกเห็นพวกฉันหยาบคายเหมือนแกรึไง?”

ในขณะเดียวกัน ณ เมืองเฉียนถัง หัวเวิ่นยีเพิ่มก้าวออกมาจากการหนีปัญหา พอเห็นข่าวการประลองทางการแพทย์ เขาก็เงียบไม่พูดอะไรอยู่นาน

“อาจารย์ครับ ให้ผมจัดการเถอะครับ”