ตอนที่ 405

The Novel’s Extra

บทที่ 405 ดอกบัวดำ (5)

 

ความเงียบที่ยาวนานทำให้บรรยากาศตึงเครียด สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาทำให้ไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งไอลีนและคิมฮาจิน

 

“………อะไร”

 

ทันใดนั้นไอลีนก็เปล่งเสียงตะลึงออกมา ครั้งนี้คำพูดของเธอใช้ไม่ได้ผลอีกครั้ง

 

“……………..”

 

คิมฮาจินมองไม่เห็นไอลีน วาจาสิทธิ์ของเธอไม่ทำงานกับเขา

เขาไม่แน่ใจว่าทำไมในตอนแรก แต่แล้วเขาก็มีคำอธิบายที่น่าเชื่อถือให้กับตัวเอง

 

พลังจากวาจาสิทธิ์ของเธอจำกัดเฉพาะกับผู้ที่อยู่ในโลกนี้ แต่เขาไม่ได้อยู่ในโลกนี้ รอยสักบนแขนของเขาทำหน้าที่เป็นหลักฐาน ดังนั้น

วาจาสิทธิ์ของไอลีนจึงไม่สามารถส่งผลกระทบต่อคิมฮาจินได้เนื่องจากเขาไม่ได้มีอยู่ในโลกนี้

 

“บ้าเอ้ย … !”

 

เมื่อเห็นความจริงข้อนี้แล้วไอลีนก็หงุดหงิด คิมฮาจินถอนหายใจอย่างเงียบๆ ตอนนี้เขาไม่สงสัยอะไรแล้วเธอไม่เห็นม้วนกระดาษจริงๆ

 

“ครื่นน… .”

 

พลังเวทมนต์ที่ไอลีนปล่อยออกมาลอยอยู่ในอากาศ ผมของไอลีนตั้งตรง เธอดูเหมือนซุปเปอร์ไซย่าจากมังงะเรื่องหนึ่งพร้อมที่จะเปล่งพลังจากวาจาสิทธิ์ออกมา

 

“ถอดฮูดออกมาเดี๋ยวนี้!”

 

เสียงดังกึกก้องไปทั่วเวทีจากปากเล็กๆของไอลีนออกมาเป็นพลังเวทย์ที่ไม่น่าเชื่อซึ่งต่อมากลายเป็นคลื่นเสียงขนาดใหญ่ที่กลืนร่างกายของ

คิมฮาจิน

 

อย่างไรก็ตาม … ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม

 

แม้ว่าปลายเสื้อคลุมของเขาจะแกว่งไปมาเล็กน้อย แต่ดอกบัวดำก็ไม่สะดุ้งเลยแม้แต่น้อย จริงๆแล้วผู้ชมที่ดูพวกเขาอยู่และไม่ใช่ดอกบัวดำต่างก็ตกเป็นเหยื่อจากวาจาสิทธิ์ของเธอและใครที่สวมหมวกหรือฮูดอยู่ก็ถอดออกทันที

 

“….”

 

จากนั้นใบหน้าของไอลีนก็ยังรุนแรงเช่นเคย เธอค่อนข้างขี้เล่นอยู่เสมอ แต่คราวนี้เธอจริงจังมาก ไอลีนรู้ว่าเธอไม่สามารถทำให้เขาถอดฮูดได้ด้วย วาจาสิทธิ์

 

“ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ”

 

เธอรวบรวมพลังเวทมนต์ของเธอและเร่งพลังขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง

 

“…แต่มันไม่สำคัญ”

 

เพราะเธอใช้คำพูดเป็นอาวุธ เธอเลยเลี่ยงไม่ได้ที่เธอจะพัฒนานิสัยการพูดคุยกับตัวเอง

 

“ลมรอบๆจะบังคับให้นายถอกฮูดออกมา”

 

ทันใดนั้นลมขนาดใหญ่ปรากฏตัวในเวทีซึ่งเงียบสงบอยู่เมื่อไม่นานมานี้ วิ้งงงงงงงงง-! ลมกรดลอยผ่านเหมือนใบเลื่อยไปยัง ดอกบัวดำ

 

“…อืมมมม?”

 

แต่ดอกบัวดำไม่เป็นไรเพราะบาเรียล้อมรอบร่างกายของเขาดูดลมเข้าไป

 

“นั่นมันอะไรน่ะ?”

 

ปรากฏการณ์ที่เข้าใจยากเกิดขึ้นอีกครั้ง

 

‘เขามีเทคนิคแปลกๆมากมายเหลือเกิน’

 

– เธอไม่เห็นม้วนกระดาษเหรอ?

 

ทันใดนั้นการโทรจิตก็ดังก้องในจิตใจของไอลีนและขัดจังหวะความคิดของเธอ เห็นได้ชัดว่าใครเป็นเจ้าของเสียง ไอลีน ขมวดคิ้วและถามกลับ

 

“ม้วนกระดาษ? นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”

 

ในขณะเดียวกันเสียงอื่นๆก็เข้ามาแทรก

 

– ฉันเอง…. ไอลีน … จินเซ…ยอน….

 

เสียงคุ้นเคยและพลังเวทมนต์ที่คุ้นเคยทำให้ดวงตาของ ไอลีนเบิกกว้างเสียงนี้มาจาก จินเซยอน

 

“อะ-อะไรกัน? เธอคือจินเซยอนใช่ไหม?”

 

– ใช่….

 

ใบหน้าของไอลีนเปล่งประกายด้วยความดีใจ

 

‘ฉันรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ผู้คุมบอกว่าเธอตายแล้ว แต่ฉันไม่เชื่อพวกนั้น!’

 

“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว?!”

 

– ดอกบัวดำ…สอนฉัน…เรื่อง…โทรจิต……การส่ง…

 

ความสามารถของฮีโร่ระดับปรมจารย์นั้นยอดเยี่ยมมากเพราะใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้นก็สามารถใช้โทรจิตได้แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม แน่นอนมันเป็นไปไม่ได้ด้วยความช่วยเหลือจากดอกบัวดำ

 

“ไม่ ฉันพูดไปเธอละอยู่ที่ไหน”

 

จินเซยอน เลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำถามของ ไอลีน และบอกสิ่งที่เธออยากรู้แทน

 

– ยอมรับ…ลูกศรสีดำของ โลตัส …ลูกศร….

 

“อะไร?”

 

ไอลีนมองดอกบัวดำด้วยความสับสน ในขณะที่สายตาของพวกเขาสบกันเสียงของดอกบัวดำไหลผ่านเข้าไปในหูของเธออีกครั้ง

 

– ฉันช่วย จินเซยอน เอาไว้เอง

 

“… 2 คนนี้ พูดอะไรกันน่ะ”

 

คิมฮาจิน ส่งข้อความอีกฉบับถึงไอลีนเธอเอียงศีรษะของเธออย่างสงสัย

 

– ผมทำตามคำขอของ จินเซยอน ผมหวังว่าจะช่วยเธอได้เช่นกัน

 

************************************************************************

 

…ผมทำซ้ำแบบเดียวกันในอีก 3 สัปดาห์ถัดไปและช่วยเหลือสมาชิกของทีม ไอลีน จาก โคลอสเซียม ทุกคนได้สำเร็จ

 

“คำพูดที่ว่า ‘สัญญาณจะไม่เปร่งประกายบนฐานของมันเอง’ ดูเหมือนจะเป็นจริง”

 

ทีม ‘ไอลีนและเด็กๆ’ รวมตัวกันในที่ซ่อนที่ผมได้เตรียมไว้ใต้ศพ

 

“เป็นที่หลบภัยที่สะดวกสบายมาก”

 

อียองอา พูดด้วยความตื่นเต้นขณะเฝ้าสังเกตที่ซ่อนตัวที่ตกแต่งอย่างดี

ผมนั่งบนเก้าอี้หินและมองดู คิมซูโฮ ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของผม เมื่อดวงตาของพวกเราสบกันคิมซูโฮก็พยักหน้าเบาๆ เขาขอบคุณผมมาพักหนึ่งแล้ว แต่ผมก็ไม่สามารถพูดอะไรกับเขาได้เลย

 

“….อะแฮ่ม”

 

และไม่ใช่แค่ฉัน คิมซูโฮก็เกาแก้มของเขาอย่างงุ่มง่ามอาจเป็นเพราะ

เกอิต้นที่เขาฆ่าตายไป เกอิต้นซึ่งเป็นสมาชิกของ Chameleon Troupe 3 ครั้งแล้ว

 

– ขอบคุณ.

 

ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงในหูของผม แน่นอนว่ามาจาก จินเซยอน

 

ผมมองเธอ ผมสงสัยว่าทำไมเธอถึงพยายามอย่างหนักที่จะใช้ โทรจิต ในเมื่อเธอสามารถพูดกับผมได้ด้วยตนเอง พวกเรานั่งถัดจากกันใกล้ๆ

 

– พวกเรา…ฆ่านายไปครั้งหนึ่ง…ก่อนหน้า….นี้

 

ผมสอนเธอเกี่ยวกับวิธีใช้ โทรจิต รอยสักสามารถใช้งานได้หลายวิธี

ผมสอน จินเซยอน ใช้ ‘โทรจิต’ และเธอก็เรียนรู้ได้อย่างเชี่ยวชาญ

 

– อย่างไรก็ตาม…ฉันมีบางอย่าง…ที่ฉันต้องการ…ให้นาย… ..

 

“แฮ่ก แฮ่ก”

 

จินเซยอนยังคงพยายามต่อไปแม้ขณะที่เธอกำลังหอบ

 

– นายเป็นสมาชิกของ Chameleon Troupe…เรื่องนี้เกิดขึ้นนานมาแล้ว แต่…เกี่ยวกับอุบัติการณ์ควังโอ…

 

ผมสะดุ้งทันที,ผมจ้องมองไปที่ จินเซยอน ด้วยความประหลาดใจ

อุบัติการณ์ควังโอ ผมไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านั้นจาก

จินเซยอน

 

– นายรู้เกี่ยวกับ….

 

“ไง ดอกบัวดำ”

 

ทันใดนั้นไอลีนก็เข้ามาแทรกแซง เธอเดินเข้ามาหาผมด้วยก้าวสั้น ๆ และรวดเร็วโดยที่ไขว้กัน ‘เธอจะพูดอะไรในเวลาแบบนี้?’ ผมคิดอย่างรวดเร็ว

 

“…ขอบคุณ.”

 

แต่สิ่งที่ไอลีนพูดนั้นไม่คาดคิดอย่างสิ้นเชิง

 

“พวกนายอยู่ในบัญชีดำของสมาคม แต่ถ้าฉันบังเอิญเจอนายบนโลก…ฉันจะปล่อยนายไปสักครั้ง”

 

เธอพึมพำอย่างเขินอายและหันหน้าหนีไปอย่างรวดเร็วด้วยความเขิน

ผมลุกขึ้นจากที่นั่งโดยไม่ตอบอะไร

 

“ …ถึงเวลาหนีแล้ว”

 

ทุกคนเปลี่ยนความสนใจของพวกเขามาที่ผมทันที

 

– นายพูดว่า…

 

“ไม่ต้องพูดคุยกันโทรจิตหรอก”

 

ผมพยายามหยุด จินเซยอน จากการใช้ โทรจิต ทุกครั้งที่มีโอกาส

จินเซยอน พยักหน้าและส่ง โทรจิต ให้ผมอีกครั้ง

 

– ฉันเข้าใจ….

 

“ไม่ต้องทำอะไรนี้น่า นายจะได้รับ 10 ชัยชนะแล้วนะ”

 

ผมส่ายหัวในคำพูดของไอลีน

 

“ความตายรออยู่หลังจากชัยชนะครั้งที่ 10 ปีศาจไม่ใจดีอย่างที่เธอคิด”

 

จากนั้นผมขุดหลุมบนพื้น พลังเวทมนต์ของรอยสักก็แทรกซึมลงบนดินและทั้ง 4 ก็ตามผมมาจากด้านหลัง

 

ผมลงหลุมต่อไปจนกระทั่งลึก 5 เมตรจากนั้นเลี้ยวซ้าย 30 กม. ตรงจากที่นี่และพวกเราน่าจะหนีออกจากโคลีเซียมได้

 

“เฮ้ ถอยไปซะ ตอนนี้ถึงตาฉันแล้ว”

 

เนื่องจากระยะทาง 30 กม. ค่อนข้างไกลพวกเราจึงต้องแบ่งขุดอุโมงค์ ผมเป็นคนแรก อันดับ 2 ไอลีน อียองอาและจินเซยอนส่วนคิมซูโฮเป็นคนสุดท้าย หลังจากนั้น 30 นาทีพวกเราก็มาถึงจุดที่ถูกต้อง

 

“น่าจะพอแล้ว”

 

ผมจับไหล่คิมซูโฮผู้ซึ่งกำลังขุดอยู่ ผมรับช่วงต่อและเริ่มขุดตามแนวทแยงมุม ผมปล่อยรอยสักและแสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าพวกเขาท้ายที่สุดพวกเราก็จะเห็นแสงสว่าง

 

“เอ่อ นั่นไง!”

 

ไอลีนตะโกน เราออกไปทางอุโมงค์

 

[ชั้น 28 – เมืองปีศาจ]

 

พวกเรามาถึงเมืองปีศาจหลังจากหนีออกจากโคลอสเซียม มันน่าแปลกมากที่ชั้น 28 อยู่นอกชั้น 27 แต่นั่นเป็นเพราะผมเขียนไว้แบบนั้นมีเพียงชั้นเดียวที่เหลืออยู่ในหอคอยอย่างไรก็ตามผู้อ่านได้สนใจอะไรมาก

 

“หืมนั่น….”

 

“บ้าน่า….”

 

ปาร์ตี้จ้องมองวิวเมืองของด้วยความงุนงง เมืองปีศาจนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากของมนุษย์ มีตาอยู่ในอาคารของพวกมันและพวกมันหายใจราวกับว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่

 

“มันพิลึกมาก”

 

ถ้านรกมีอยู่จริงที่นี่คงเป็นคำนิยามที่ดี ทุกคนต่างก็ตัวแข็งชั่วขณะเมื่อเผชิญกับทิวทัศน์ที่โหดเหี้ยม ผมใช้ประโยชน์จากความว้าวุ่นใจของ

พวกเขาและกระซิบอย่างเงียบ ๆ

 

“สปาร์ตันพาฉันไปที่โลก”

 

สปาร์ตันตอบคำขอของผมอย่างรวดเร็ว

 

เมืองปีศาจหายไปจากในตาของผมในทันทีและผมถูกส่งไปยังที่ฐานของ Chameleon Troupe ใน Pandemonium

 

การหายตัวไปอย่างกะทันหันของผมทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างแน่นอน แต่พวกเราจะได้พบกันอีกครั้งมีเพียงหนึ่งเดียวที่แตกต่างกัน

ผมจะเป็นคิมฮาจินและไม่ใช่ดอกบัวดำ

 

*************************************************************************