บทที่ 545 ออร์เคสตราบรรเลงเดี่ยว

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

บทที่ 545 ออร์เคสตราบรรเลงเดี่ยว
หลังจากจบทำนองเศร้าหมองแล้ว เชลโลก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าลูเซียน ซึ่งบรรจงหมุนเชลโลกลับด้านและบรรเลงเพลงที่ทุ้มหนักราวกับเสียงร้องของผู้ชาย แล้วไวโอลินก็ค่อยๆ เสียงหายไปแล้วก็ลอยขึ้นกลางอากาศ

ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกที่ถักทอด้วยการสนทนาของเสียงเชลโลสบายหูและเสียงไวโอลินแสนนุ่มนวล นาตาชาคิดทบทวนถึงครั้งแรกที่นางพบกับลูเซียน ด้วยเพลงซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต ทั้งสองเลยได้ทำความรู้จักกันเป็นครั้งแรก และเพราะมีความสนอกสนใจในดนตรีเหมือนกัน และอารมณ์ขันและความขี้อายที่น่าเอ็นดูของลูเซียนในบางที นางก็ค่อยๆ กลายเป็นสหายที่ดีของเขา ซึ่งทำให้นางค้นพบความสามารถนอกเหนือจากดนตรีของเขา เขาเป็นคนสุขุม อ่อนโยน ฉลาด และตลก ไม่มีแรงกดดันใดๆ เมื่ออยู่กับเขา และนางสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่

ช่วงเวลาในอดีตเหล่านั้นแสนงดงามราวกับใบผลิไม้ในเดือนเมษายน อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของทั้งคู่ที่ทำให้นางค่อยๆ ลืมเพศของลูเซียนไป ความรักของทั้งสองจึงงอกงามเป็นครั้งแรก

ในทำนองที่เรียบง่ายและเพลิดเพลิน เครื่องดนตรีที่อยู่ด้านหลังและด้านข้างของลูเซียนส่งเสียงบรรเลงขึ้นด้วยตัวเองพร้อมกับไวโอลินของเขา

เครื่องดนตรีพวกนี้ดูเหมือนจะได้รับวิญญาณของตัวเองและมารวมตัวกันเพื่อแสดงคอนเสิร์ตออร์เคสตรา และราวกับว่ามีนักดนตรีล่องหนหลายคนกำลังเล่นเครื่องดนตรีไปพร้อมกับลูเซียน

ด้วยเวทมนตร์ การบรรเลงดนตรีเดี่ยวลูเซียนฟังดูเหมือนกับวงออร์เคสตราขนาดย่อมๆ

เสียงไวโอลินอันนุ่มนวลและเสียงเชลโลอันสง่างามก็ ‘ผงาดขึ้น’ พร้อมกันอีกครั้ง ความรู้สึกภายในลึกๆ และความไม่เต็มใจจะเอ่ยคำลาผุดขึ้นในหัวใจของนาตาชาอย่างแจ่มชัด นั่นเป็นการร่ำลาหลังจากการหนีตายและการช่วยเหลือกันและกัน ลูเซียนกำลังจะเดินทางออกจากนครอัลโต้มาที่โฮล์ม นางเชื่อว่าทั้งคู่จะได้พบกันใหม่ และนางก็รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับลูเซียน นางจึงใจกว้างยอมปล่อยเขาไป แต่นางก็ยังรู้สึกคิดถึงเขา แม้ทั้งสองจะไม่ได้แยกย้ายกัน

บางทีในตอนนั้น ตอนที่ลูเซียนอุ้มนางวิ่งผ่านป่าดำด้วยความมุ่งมั่นทำให้มิตรภาพของทั้งสองเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความเจ็บปวดที่นางได้รับจากซิลเวียและความไม่สนใจไยดีของนาง นางจึงคิดว่าความรู้สึกระหว่างทั้งสองคนเป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างสหายที่ดีเท่านั้น

ด้วยเครื่องลมทองเหลือง ทำนองเชื่องช้าและแข็งทื่อก็แผ่ซ่านออกมา ความอาลัย ความกลัว ความวิตก ความเศร้า และความรู้สึกอื่นๆ ล่องลอยออกมาขณะที่ไวโอลินกำลังประชันจังหวะอัลเลโกร[1] ในวง นาตาชาดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความลังเลและความกลัดกลุ้มของลูเซียน หลังจากเขารู้ตัวว่าตกหลุมรักนาง นางเองก็จดจำความทุกข์ทรมานตอนที่นางถูกจองจำในอารามหลวง สิ่งปลอบประโลมจิตใจของนางสิ่งเดียวในตอนนั้นก็คือจดหมายจากลูเซียน อย่างไรก็ตาม ยิ่งเดือนถลำลึกเข้าไปในเส้นทางสายเวทมนตร์ และการดูหมิ่นพระคัมภีร์และหลักคำสอนครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่อาจแม้แต่รักษาสถานะสหายที่ดีของนาง ซึ่งเป็นผู้มีศรัทธาแรงกล้าและว่าที่ดัชเชส

ไวโอลินปลดปล่อยปณิธานและความเกรี้ยวกราด นาตาชาดูเหมือนได้ยินเสียงลูเซียนถอนหายใจ ขณะกำลังตัดสินใจ และจำได้ว่านางเคยปฏิบัติต่อลูเซียนในฐานะสหายสนิทอย่างไร จนก้าวข้ามอุปสรรคด้านจิตใจ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันจากศาสนจักร ราชรัฐ บิดาของนาง ตระกูลไวโอเล็ต และพลเมืองทำให้ความรู้สึกรักใคร่ตกเป็นปัญหาอีกครั้ง แรงกดดันรุนแรงราวกับพายุและลางร้ายถึงจุดจบอย่างโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้น

ระหว่างหวนระลึกถึงอดีต นาตาชาตระหนักดีว่านางถือว่าลูเซียนเป็นส่วนที่สงบสุขและอ่อนโยนที่สุดในจิตใจของนาง เนื่องจากสภาวะจิตของนางถูกห้อมล้อมด้วยม่านหมอกภารกิจอันหนักอึ้งในสมัยนั้น

ลูเซียนเล่นไวโอลินต่อไป และเชลโลก็เริ่มบรรเลงด้วยตัวเอง แม้ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ ราวกับว่ามันกำลังฟังการสารภาพรักอันเฉียบแหลมของไวโอลิน แล้วลูเซียนก็หันไปทางเชลโล และไวโอลินก็เริ่มบรรเลงด้วยตัวเอง ราวกับว่าถึงเวลาที่สุภาพบุรุษกำลังจะบอกความรู้สึกและสุภาพสตรีกำลังรอฟัง

นั่นทำให้นาตาชาหวนคิดถึงฉากหลังอันงดงามตอนที่ทั้งสองพบกันอีกครั้งในราชอาณาจักรโฮล์ม และได้เปิดเผยความรู้สึกของตนให้ฟัง นับเป็นความทรงจำที่หวานละมุน อบอุ่น และงดงาม แต่คงอยู่ไม่นาน เมื่อทำนองเปลี่ยนเป็นจังหวะเร่งเร้าและรุนแรง สถานการณ์ในโฮล์ม ภัยร้ายในอีกหนึ่งปีให้หลัง และความกังวลเรื่องบิดาของนางซึ่งอยู่ไกลออกไปถึงราชรัฐโอวาริตต่างตกผลึกเป็นโน้ตที่รวดเร็วที่สร้างภาพที่หม่นหมอง ทำนองที่เล่าถึงความพิศวงแห่งความรักแผ่กลิ่นอายความเศร้าสลดที่อาจทำให้วิญญาณร่ำไห้ได้ในบรรยากาศนั้น

นาตาชาเคยอยู่ในจุดที่ต้องเผชิญวิกฤตทางอารมณ์ขนาดนั้นมาก่อน แต่ประสบการณ์ทางอารมณ์ที่มีกับซิลเวียไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้น ช่วงเวลาที่นางคิดถึงลูเซียน แล้วนางก็ต้องมาลงเอยอย่างนี้ นางรู้สึกว่าดนตรีที่ความเศร้าเข้าถึงวิญญาณของนางกำลังพูดแทนตัวนาง นางกำหมัดและให้คำปฏิญาณที่จะทลายอุปสรรคทั้งปวง

แต่จะเป็นอย่างไรถ้าบิดาของนางเป็นอุปสรรค และเป็นตัวเลือกที่พึ่งพาไม่ได้สำหรับความปลอดภัยของลูเซียน?

อุปสรรคไม่สามารถทลายลงได้โดยง่าย!

สีหน้าของนาตาชาค่อนข้างเหยเก ขณะที่นางกำลังต่อสู้กับความรู้สึกภายในใจ ขณะที่นางรู้สึกเศร้าจับขั้วหัวใจ และนางก็ต้องตัดสินใจในที่สุด ความยากลำบากต่างๆ ก็อาจบรรเทาลงได้ และการยอมแพ้ย่อมหมายความว่าทั้งสองจะไม่ได้เห็นแสงยามเช้า ในห้วงเวลานั้น นางทำได้เพียงเร่งรุกไปข้างหน้าและพยายามแก้ปัญหาความยากลำบากจนกว่านางจะหมดลมหายใจ!

ด้วยแรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นของนาง หลังจากจบช่วงทำนองโศกที่รุนแรง ฟลูตก็บรรเลงทำนองอันนุ่มนวลและสง่างามร่วมกับพิณ ดูเหมือนนาตาชาจะเห็นภาพหุบเขาวิมานซึ่งความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งปวงสลายไป และเหลือเพียงความสุข ในท้ายที่สุด ไวโอลินก็เริ่มบรรเลงท่วงทำนองหลักในการเล่นเดี่ยวอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ ไม่มีความเศร้าที่แสนคลุมเครืออีกต่อไป แต่มีเพียงความงดงามอันปลอบประโลมใจ

บรรยากาศเช่นนั้นเปรียบเสมือนมือสองข้างที่กำลังกุมมือกันหลังผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันในชีวิต ราวกับดวงตาอันอบอุ่นที่แสดงถึงความเข้าอกเข้าใจหลังจากความยากลำบากในชีวิตพ้นผ่านไป และผีเสื้อสองตัวที่เต้นระบำด้วยปีกอันงดงามเหมือนความฝันไปรอบๆ กันและกัน หลังจากทะลุออกมาจากรังหนาที่ห่อหุ้มตัวมันไว้

แล้วดนตรีก็หยุดลง แต่ท่วงทำนองยังก้องสะท้อนอยู่ ทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันด้วยความไพเราะ

“ข้าไม่เคยได้ยินรูปแบบดนตรีแบบนี้มาก่อน แต่ก็เป็นทำนองไวโอลินที่ไพเราะที่สุดที่ข้าเคยได้ยิน ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิด และขอบคุณ ‘วงออร์เคสตราลูเซียน’ สำหรับการแสดงครั้งนี้” หลังจากผ่านไปสักใหญ่ นาตาชาก็พูดขึ้นด้วยเสียบแหบแห้ง “ข้าชอบท่อนสุดท้ายที่สุด ดูเหมือนจะทำให้ทั้งเพลงใสบริสุทธิ์ขึ้นมา”

ครึ่งเดือนที่แล้ว หลังจากพิจารณาด้วยความรอบคอบแล้ว ลูเซียนก็เลือกเพลงไวโอลินคอนแชร์โตเหลียงจู้[2] ซึ่งประพันธ์โดยเหอ ฉ่านหาว และเฉิน กัง แม้ทำนองจะแสดงถึงความโศกนาฏ ท่อน ‘โตเป็นผีเสื้อ’ เล่าถึงความหวังอันสวนงาม และเขาก็แสดงความรู้สึกของเขา หลังผ่านการเรียบเรียงใหม่มาเล็กน้อย เป็นเพลงที่เข้ากับสถานการณ์ระหว่างเขากับนาตาชา

ลูเซียนวางไวโอลินลงแล้วยืนขึ้นค้อมศีรษะ “ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เจ้าชอบ”

“ข้าสังเกตว่าเจ้าใช้กลวิธีหลากหลายรูปแบบตอนเจ้าเล่นไวโอลิน อย่างบางทีเจ้าเล่นแค่สองสาย” นาตาชาเดินเข้าไปด้านข้างของลูเซียนพร้อมกับรอยยิ้มและดึงเขาขึ้นมาบนโต๊ะ ขณะที่เขากำลังจะอธิบาย นางก็รีบทำท่าบอกว่าไม่จำเป็นและพูดต่อ “ไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นเจ้าเล่นไวโอลิน เสน่ห์ของไวโอลินแตกต่างจากเปียโนโดยสิ้นเชิง แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลา เพลงนี้ทำให้เขาได้หวนทบทวนความสัมพันธ์ของเรา เขาต้องระงับอารมณ์ไว้ ข้าเพียงอยากมีเจ้าอยู่ด้วย อยากรู้สึกถึงเจ้า”

ลูเซียนยิ้มออกมา “วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้า เจ้าจะเป็นราชินี”

การซุกซนฉายออกมาจากรอยยิ้มของนาตาชา “อย่างนั้นเองหรือ? เยี่ยมเลย นี่แหละสิ่งที่ข้าต้องการ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดข้า ข้าจะเป็นคนนำทุกอย่างเอง เจ้าต้องยอมรับและห้ามทำอะไรจนกว่าข้าจะสั่ง เจ้าเข้าใจไหม?”

ลูเซียนกำลังจะตอบตอนที่นาตาชาพูด “รับรองได้เลย ข้าจะไม่ฝืนก้าวล่วงโลกของเจ้า แต่จริงๆ ข้าพยายามทำให้เจ้าเป็นเด็กสาวก็เพราะข้าต้อง ‘ดูแล’ เจ้า ตำแหน่งของเจ้าจะดูแลเจ้าเอง เจ้าคงรู้สึกถึงชัยชนะสินะ เจ้าเต็มใจจะร่วมมือกับข้าไหม?”

ลูเซียนยิ้ม “วันนี้ เจ้าเป็นราชินี”

นาตาชาหัวเราะคิกคัก “สำหรับข้า เพลงนี้เป็นของขวัญวันเกิดที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดอย่างเดียวก็คือเจ้า”

ขณะกำลังพูด นางป้ายครีมขึ้นมาจากโต๊ะและละเลงลงบนคอของลูเซียน ก่อนที่นางจะชิมครีม ขณะที่ลูเซียนพยายามจะกอดนาง นางก็หยุดเขา “อย่าขยับ ทำตามคำสั่งข้า”

ผ้านวมกำมะหยี่ที่ยับยู่ยี่คลุมร่างเปลือยเปล่าของทั้งสอง กลิ่นอายแห่งความรักฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง

ลูเซียนรู้สึกโชคดีที่เขาเปลี่ยนเตียงนอนเป็นเตียงเวทมนตร์ ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องเจอกับสถานการณ์เตียงพังอีก อีกฝ่ายหนึ่ง นาตาชาก็เหมือนกับเด็กที่กำลังครอบครองของเล่นชิ้นโปรด นางพยายามกอดก่ายลูเซียนด้วยมือและขา ขณะที่นางหายใจอย่างมั่นคงผล็อยหลับไป

‘นางเป็นฝ่ายนำอยู่สองสามชั่วโมงเลย นางคงหมดแรง’ มือขวาของลูเซียนสอดอยู่ใต้ตัวนาตาชา แล้วขาก็ยื่นมือซ้ายมาสัมผัสคลายความกังวลบนหน้าของนาง

ทันใดนั้นเอง นาตาชาก็ลืมตาขึ้นและพูดขึ้นด้วยความงงงวย “ฟ้าสางแล้วหรือ? ข้าหลับไปสินะ”

“ไม่เลย ขอโทษที่ปลุกเจ้า” ลูเซียนตอบอย่างอ่อนโยน

นาตาชายิ้มสดใสออกมา “ดีเลย ข้าคิดว่าคืนนี้จะไม่นอนทั้งคืน อย่างน้อยคงประมาณครึ่งเดือนหรือเดือนหนึ่งกว่าเราจะได้เจอกันอีก จะมัวมานอนหลับอยู่ทำไม? คุยสัพเพเหระไปเรื่อยๆ ก็ยังดีกว่า!”

ลูเซียนยิ้ม! “ไม่มีปัญหา นี่ ข้ามีเรื่องสับสนอยู่ ทำไมซาร์ดไม่กังวลว่าโป๊บจะรู้ว่าเขากำลังทำอะไร?”

ลูเซียนไม่ได้มองว่าช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแบบนี้ไม่ควรหาเรือกันเรื่องนี้ และนาตาชาก็ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร นางยังนอนหนุนมือขวาของลูเซียนและตอบว่า “ก็เพราะข้าเป็นราชินีแห่งโฮล์ม”

“ฮะ? เจ้าหมายความว่าอะไร?” ลูเซียนสงสัย

นาตาชายิ้ม “นี่เป็นวิธีลับที่โป๊บทรงตรวจสอบสังฆมณฑลสำคัญๆ หลังจากการแบ่งศาสนจักรฝ่ายเหนือ โป๊บทรงค้นพบว่าขุนนางฝ่ายเหนือบางคนพบความไม่ปกตินานมาแล้ว แต่ก็ถูกเก็บก่อนที่จะทันได้รายงานเรื่องนี้ นับจากนี้ไป จักรพรรดิ กษัตริย์ และราชรัฐจะสามารถติดต่อโป๊บโดยตรง เมื่อพระคาร์ดินัลหลวงพฤติตัวไม่เหมาะสม จักรพรรดิ กษัตริย์ และราชรัฐก็ถวายรายงานต่อโป๊บได้เลย”

นางเลิกเรียกถึงโป๊บว่าพระสันตะปาปาแล้ว

“บางที ขุนนางและอัศวินดำคนอื่นก็อาจเข้าถึงศาสนจักรโดยทางลับเหมือนกัน แต่สิทธิในการคุยกับโป๊บน่าจะยังพระราชอำนาจ ข้าจะไม่รายงานโป๊บถึงเรื่องผิดปกติในอาณาจักรของข้า ซาร์ดก็ไม่ต้องกังวลอะไร”

“มีเหตุผลฟังขึ้น…” ลูเซียนพยักหน้า แล้วเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง “เป้าหมายของซาร์ดไม่ชัดเจน หากเกิดอุบัติเหตุ เอาโครงสร้างวงพลังอาคมเทพในปราสาทเนคโซมาให้ข้าดู ถ้าเจ้ามีโอกาส ข้าจะลองพัฒนาให้ แล้วเจ้าค่อยสั่งให้ริชาร์ดปรับปรุงตามแบบ แล้วซาร์ดจะไม่ได้ควบคุมการป้องกันปราสาทเนคโซในทันที”

นาตาชาตกตะลึง “เจ้าจะพัฒนาวงพลังอาคมเทพ?”

มันน่าจะเป็นงานของคณะนักบวชไม่ใช่หรือ?

ลูเซียนยิ้ม “เจ้าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้วหรือ? สำหรับนักเวท ความยากที่สุดในการพัฒนาวงพลังเทพก็คือมันอาจตัดแหล่งพลังของวงพลัง หลังจากการปะทะกับแอลและฟรานซิส ข้าก็สามารถระบุแกนกลางของจ่ายพลังและสามารถเปลี่ยนแปลงส่วนอื่นๆ ได้”

นอกจากนี้ เขาก็มี ‘เครื่องรางมงกุฎสุริยัน’ เป็นแหล่งพลัง

“เจ้าก็เก่งขึ้นตลอดนั่นแหละ ข้าจะให้แปลนโครงสร้างกับเจ้าถ้ามีโอกาส” นาตาชาหยอกล้อลูเซียน

หลังจากครึ่งคืนหลังผ่านไปช้าๆ นาตาชาก็สวมเสื้อผ้าของนางและจากไปด้วยความห่วงหาอาลัยตอนฟ้าสาง

ลูเซียนเพลียหลับอีกครึ่งวัน แล้วก็เดินทางกลับไปยังนครอัลลินอย่างอารมณ์ดี จนเท้ายืนไม่ติดพื้น

“อาจารย์คะ วารสารอาร์คานาและเวทมนตร์ตีพิมพ์ล่วงหน้าแล้วค่ะ การอภิปรายกำลังดุเดือดเลย” วันรุ่งขึ้น เมื่อลูเซียนเดินเข้ามาในสถาบันอะตอม ไฮดี้และลูกศิษย์คนอื่นๆ ทักทายเขาพร้อมกับวารสารและถามขึ้นด้วยความสับสนและความตื่นเต้น “แต่ทำไมบทความของท่านไม่ได้ตีพิมพ์? พวกที่หนุนหลังทฤษฎีคลื่นต่างอ้างว่าท่าน… ท่านยอมรับความจริงแล้ว”

…………………………………………………

[1] จังหวะเร็วปานกลาง

[2] ไวโอลินคอนแชร์โตที่บรรเลงด้วยวงออร์เคสตราแบบตะวันตก ด้วยนองบางส่วนจากอุปรากรจีนเรื่อง ‘ม่านประเพณี’