กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 955

“ลูกสามคนแรกของท่านก็ไม่ได้ถูกคนอื่นฆ่าตาย แต่เป็นท่านเองที่ฆ่าพวกเขา ท่านทำเพื่อได้ขึ้นครองบัลลังก์ จึงได้ฆ่าลูกแท้ๆ ของตัวเองทิ้ง และโทษพี่น้องคนอื่นๆ ที่แก่งแย่งตำแหน่งจักรพรรดินีกับท่านใช่หรือไม่”

จักรพรรดินีเงยหน้าขึ้นมองกู้ชูหน่วนอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

อย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าเพียงได้พบเจอกันครั้งเดียว นางก็รู้เรื่องราวของนางมากมายเช่นนี้

เรื่องราวเหล่านี้ แม้แต่ไป่หนิงคนสนิทของนางก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

“อยากรู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงรู้เรื่องเหล่านี้?”

จักรพรรดินีตัวจริงจ้องมองนางอย่างคาดหวัง ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยันและกล่าวประชดประชัน “ข้าเดาเอาเอง”

เพียงคำเดียวก็สามารถทำให้จักรพรรดินีสีหน้าแย่ลง

“เจ้า……เจ้าออกอุบายต่อข้าอย่างนั้นหรือ”

“หากท่านไม่ได้ทำอะไรไม่ดี เหตุใดถึงต้องกลัวคนอื่นออกอุบายต่อท่านอย่างนั้นหรือ”

กู้ชูหน่วนรู้สึกดูถูกเหยียดหยามผู้หญิงตรงหน้าคนนี้อย่างมาก

นางไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางถูกกักขังนานเกินไป และถูกทรมานนานเกินไป เมื่อเพียงได้เห็นลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองก็ทำให้ลืมความเป็นจักรพรรดินีที่ควรเป็นไปอย่างสนิท

หรือเป็นเพราะเดิมทีนางเป็นเพียงจักรพรรดินีที่ไร้ความสามารถเท่านั้น

ทว่านางอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดินีมาหลายปี กลับไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชากรและต่ออาณาจักรเลยสักนิด

“และที่ท่านไม่ได้ฆ่าข้าทิ้ง นั่นเป็นเพราะตอนนั้นท่านไม่ได้ถูกข่มขู่เท่าไรนัก และรวมถึงท่านรู้สึกผิดที่ได้ฆ่าลูกสามคนก่อนหน้าไป ฉะนั้นท่านจึงปล่อยให้ข้ามาแทนที่มู่หน่วนตัวจริงและใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลมู่ต่อไป”

จักรพรรดินีตัวจริงนิ่งเงียบ

นางคิดมาเสมอว่านางเป็นเพียงคนไร้ความสามารถที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้น

นางคิดว่านางจะรู้สึกละอายแก่ใจ

ทว่าเมื่อได้มาเห็นวันนี้แล้วนั้น ลูกสาวของนางไม่เพียงจะไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถคนหนึ่งเท่านั้น หากนางได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินี นางอาจได้เป็นจักรพรรดินีที่มีความสามารถและยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัย

“หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ท่านสามารถรักษาตำแหน่งจักรพรรดินีเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่คิดจะรับข้ากลับเข้าไปในวัง นี่หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ หมายความว่าท่านไม่คิดอยากจะมีลูกสาวที่ไร้ประโยชน์อย่างข้าที่ไม่เก่งทั้งด้านวิชาการและด้านการต่อสู้เลยด้วยซ้ำ”

“ลูก……”

“แต่ก็ไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องการข้า และข้าก็ยิ่งไม่ยอมรับท่าน ข้าเป็นลูกสาวของมู่ซินและเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลมู่ตลอดไป”

จักรพรรดินีตัวจริงรู้สึกตื่นตระหนก นางพยายามตะเกียกตะกายจะคว้ามือของกู้ชูหน่วน ทว่านางไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ จึงทำได้เพียงมองไปยังนางด้วยใบหน้าที่น้ำตาคลอและรู้สึกผิดเสียใจต่อการกระทำของตัวเอง

“ขอโทษ ข้าขอโทษ ข้า……ข้าปล่อยให้เจ้าต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานมามากมาย……”

“คนที่ท่านควรขอโทษก็คือมู่หน่วนตัวจริง คือท่านพ่อของข้า คือทุกคนในตระกูลมู่ทั้งหมด ท่านได้ฆ่าลูกสาวแท้ๆ ของท่านพ่อไป ตามหลักแล้วข้าควรจะแก้แค้นแทนท่านพ่อ แต่ตอนนี้……ท่านก็คงไม่อาจมีชีวิตต่อไปได้อีกนานเท่าไรนัก เช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาของท่านเอง”

“ข้ารู้ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ขอร้องให้เจ้ายกโทษให้กับข้า แต่อาณาจักรรัฐปิงไม่อาจตกไปอยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้น เจ้าสามารถ……”

“ไม่ได้ รัฐปิงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า คนในราชวงศ์มีเป็นจำนวนมาก เกี่ยวข้องอะไรกับข้าด้วย สิ่งที่ข้าต้องการก็คือขอให้เซี่ยวอวี่เซวียนและอาม่อปลอดภัยดี และรวมไปถึง……สังหารฆาตกรคนที่ลงมือฆ่าคนในตระกูลมู่ให้หมดทุกคน”

“พวกเขาล้วนไม่ใช่สายเลือดของราชวงศ์ตัวจริง”

กู้ชูหน่วนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้

“อะไรนะ……บ้าไปแล้ว เพื่อตำแหน่งจักรพรรดินี ท่านสามารถทำได้ทุกอย่างอย่างนั้นหรือ”

จักรพรรดินีตัวจริงรู้สึกผิดอย่างมาก แม้ว่าไม่มีมือก็คิดอยากจะใช้แขนของตัวเองตบตีศีรษะของตัวเองไม่หยุด

เดิมทีนางก็กำลังจะตาย

และเมื่อทุบตีไปเช่นนี้ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว จึงทำให้กระอักเลือดออกมาอีกครั้งและทรุดตัวล้มลงกับพื้นโดยไม่สามารถขยับได้ และปากก็เอาแต่พูดพร่ำ

“ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว เพื่อตำแหน่งจักรพรรดินีข้าได้ฆ่าคนไปจำนวนมากเหลือเกิน แม้แต่ลูกสาวของตัวเองข้าก็ฆ่าตาย ข้าผิดไปแล้ว…….ข้าผิดไปแล้ว…….ข้าสมควรตาย ข้าสมควรตาย……”

กู้ชูหน่วนหยิบยาอายุวัฒนะขึ้นมาหนึ่งเม็ดและยัดเข้าไปในปากของนาง ทำให้สีหน้าของจักรพรรดินีตัวจริงดีขึ้นเล็กน้อย

นางไม่สามารถบอกตัวเองให้พูดปลอบใจนางหรือเข้าใจความรู้สึกของนางได้

ทว่านางรู้ทักษะการแพทย์ และรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

เดิมทีนางสมควรตายไปตั้งนานแล้ว ทว่าไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงยังฝืนทนมีชีวิตอยู่ต่อได้จึงถึงตอนนี้

และตอนนี้ ร่างกายภายในของนางก็กำลังฝืนทนกับการสูญสลายของลมหายใจ และหากลมหายใจดับสิ้นลงทั้งหมด นางก็จะจบชีวิตลง

“หน่วนเอ๋อร์……”

“อย่างแตะต้องตัวข้า”

“ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับข้า ล้วนเป็นความผิดของข้าทั้งหมด ข้าไม่โทษเจ้า”

“ฮึ ท่านมีสิทธิ์โทษข้าอย่างนั้นหรือ? เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง ท่านทำให้อำนาจ แม้แต่ลูกสาวของตัวเองก็สามารถฆ่าได้หมด ท่านก็ไม่ต่างไปจากสัตว์เดรัจฉานหรอก”

จักรพรรดินีตัวจริงหมดหนทางอธิบายใดๆ และไม่สามารถอธิบายอะไรได้ เพราะทุกสิ่งที่นางพูดออกมาคือเรื่องจริง

ตั้งแต่ที่ถูกผู้หญิงคนนั้นนำตัวมากักขังที่นี่ และถูกทรมานนับคืนนับวัน นางเพิ่งจะได้รู้ความหมายของการมีชีวิตอยู่ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในโลกใบนี้

และเพราะเหตุนี้ เรื่องราวในอดีตได้ย้อนกลับมาปรากฏขึ้นในหัวของนาง ยิ่งทำให้นางรู้สึกผิดและรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

“เจ้าโกรธเกลียดข้าก็สมควรแล้ว……สมควรแล้ว อะแอ่ม……หน่วนเอ๋อร์ ต่อให้เจ้าจะโกรธเกลียดข้ามากเพียงใด เจ้าก็ไม่สามารถปล่อยให้อาณาจักรรัฐปิงตกไปอยู่ในเงื้อมมือของผู้หญิงคนนั้นได้ ในบรรดาองค์หญิงทั้งราชวงศ์แล้วนั้น มีเจ้าเพียงคนเดียวที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ คิดเสียว่าข้าขอร้องล่ะ?”

“ข้าจะไปตามหาเพื่อนของข้า”

“หน่วนเอ๋อร์ ข้าขอร้องล่ะ ข้าขอร้องจริงๆ เห็นแก่ประชาชนที่ไม่ผิดอะไร เจ้าช่วยปกป้องคุ้มครองรัฐปิงด้วยเถอะ ผู้หญิงคนนั้นจิตใจไม่ปกติ หากรัฐปิงตกอยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้น ต้องมีสักวันที่รัฐปิงจะถึงคราวล่มสลายลง”

เพราะความตื่นตระหนกทำให้จักรพรรดินีตัวจริงทรุดตัวลงกับพื้น ทว่านางยังคงใช้ฟันตัวเองกัดเสื้อผ้าของกู้ชูหน่วนเอาไว้แน่น

ราวกับคนที่ตกน้ำและกำลังพยายามคว้าฟางเส้นสุดท้ายอย่างสิ้นหวัง

ลมหายใจของนางอ่อนลงอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของนางก็บิดเบี้ยวขึ้นมาและส่งเสียงร้องออกมาอย่างทุกข์ทรมาน เจ็บปวดจนดิ้นทุรนทุรายกับพื้น

กู้ชูหน่วนสังเกตเห็นร่างกายของนางเดี๋ยวแดงเดี๋ยวดำและประเดี๋ยวขาวซีด คาดว่าคงจะถูกวางยาพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรง

และเป็นพิษที่แทบทำให้คนต้องเจ็บปวดราวกับตายทั้งเป็น

แม้ว่าโกรธแค้นนาง ทว่าในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ใจอ่อนและกดจุดไปที่จุดชีพจรของนาง เพื่อให้นางหยุดดิ้นทุรนทุราย จากนั้นได้หยิบเข็มเงินออกมาเพื่อช่วยกำจัดพิษออกจากร่างกายของนาง และสุดท้ายก็ใช้มีดขนาดเล็กกรีดเพื่อนำเลือดสีดำที่เป็นพิษออกจากร่างกาย

“ข้าใกล้จะ……ใกล้จะไม่รอดแล้วใช่หรือไม่”

กู้ชูหน่วนไม่ได้ตอบอะไรออกไป ทว่ากลับนำเข็มเงินเก็บกลับเข้าไปในวงแหวนอวกาศเหมือนเดิม

สาเหตุของพิษร้ายแรง

ยาพิษชนิดนี้จะไม่ทำให้คนตายลงในทันที ทว่าจะทำให้เสมือนตายทั้งเป็นและทุกครั้งที่ออกฤทธิ์ขึ้นมา จะทำให้รู้สึกเจ็บปวดทรมานเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยมีดนับพันนับหมื่นไปที่หัวใจ

ถือว่าความอดทนอดกลั้นของนางไม่เลวเลยทีเดียว ที่สามารถอดทนมาได้หลายปีเช่นนี้

“ข้าได้เก็บราชโองการสืบทอดตำแหน่งจักรพรรดินีไว้ที่ตำหนักเฟิ่งหลวน เพียงแค่เจ้า……สามารถหาราชโองการฉบับนั้นเจอ เจ้าก็……ก็สามารถขึ้นครองบัลลังก์จักรพรรดินีได้”

กู้ชูหน่วนนั่งฟังสิ่งที่นางพูดอยู่ข้างๆ

ตำแหน่งจักรพรรดินีอะไรเหล่านั้น นางไม่สนใจเลยสักนิด

“ผู้หญิงคนนั้นไม่มีตราประทับ ตราประทับของนางเป็นของปลอม ตราประทับของจริงอยู่ที่……อยู่ภายในสุสานหยางอันที่อยู่นอกวังหลวง”

“นั่นถือเป็นอาณาจักรที่บรรพบุรุษของเราต่อสู้อย่างหนักเพื่อสืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน”

“หากอาณาจักรถึงคราวล่มสลายลง ข้า……ต่อให้ข้าตายไป ข้าก็ไม่มีหน้าไปเจอบรรพบุรุษอย่างแน่นอน”

ไม่ว่านางจะรู้สึกผิด รู้สึกเสียใจกับอดีตที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ทว่าการแสดงออกของนางในตอนนี้ไม่เหมือนเสแสร้งเลยสักนิด

กู้ชูหน่วนรู้ดีว่าอายุขัยของนางได้มาถึงแล้ว เพียงแต่นางยังคงฝืนอดทนกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็เท่านั้น

บาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ หากยังฝืนอดทนต่อไปเช่นนี้ จะเจ็บปวดยิ่งกว่าตายทั้งเป็น

เช่นนั้นแล้วกลั้นหายใจเพื่อจากไปยังดีเสียกว่า

กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “หากนางทำเรื่องไม่ดีขึ้นละก็ ข้าไม่มีทางปล่อยนางเอาไว้ แต่ข้าจะไม่ขึ้นเป็นจักรพรรดินีของอาณาจักรรัฐปิงอย่างแน่นอน”

“หน่วนเอ๋อร์……”

“ข้าไม่เป็น แต่หยางมั่นสามารถเป็นได้”

“นางไม่ได้เป็นสายเลือดราชวงศ์ที่แท้จริง”

“นางถือเป็นคนหนึ่งของราชวงศ์ ตั้งแต่วินาทีที่ท่านแต่งตั้งให้นางเป็นองค์หญิง”

“เจ้า……จะเป็นเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?”

“ไม่ว่าท่านจะยอมรับได้หรือไม่ สิ่งที่ข้าสามารถทำได้ก็มีเพียงเท่านี้”

จักรพรรดินีที่แท้จริงก้มศีรษะลงอย่างอ่อนแรง มีเพียงความสำนึกผิดและรู้สึกผิดเท่านั้น

“อาณาจักรที่ข้าได้ครอบครองมาอย่างยากลำบาก สุดท้ายแม้แต่คนสืบทอดกลับไม่มี ข้า……ข้าทำไปเพื่ออะไรกัน……ฮือๆ……”

“ถือว่าเป็นโชคดีของข้าแล้วที่ได้เจอกับเจ้า ก่อนที่ข้าจะหมดลมหายใจลง”

“หน่วนเอ๋อร์……ลูก……ลูกเรียกข้าว่าแม่ให้ข้าได้ยินสักคำได้หรือไม่?”

“หน่วน……หน่วนเอ๋อร์……ข้าขอร้องล่ะ อย่าปล่อยให้อาณาจักรรัฐปิงต้องพังลงด้วยเงื้อมมือของผู้หญิงคนนั้นเลย”