ตอนที่ 407

The Novel’s Extra

บทที่ 407 การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน (1)

 

จิตสังหารที่เหมือนดาบที่เต็มไปวิหาร พลังงานปีศาจปนเปจนก่อให้เกิดเปลวไฟปีศาจ

 

“โง่เขลา…เจ้ามนุษย์….”

 

ปีศาจ,มาร,แชจูชึล อย่างไรก็ตามแชจูชึลยังคงนิ่งเงียบแม้จะเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่ของมาร แชจูชึลก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหากแต่มีความรู้สึกที่เรียกว่าผิดหวัง

 

“ความผิดหวังมันเป็นแบบนี้เองเหรอ” แชจูชึล ถอนหายใจ

 

เมื่อเห็นอย่างนี้ มาร ก็โกรธ

 

“….”

 

มารเปล่งพลังปีศาจออกมาทั่งๆที่ยังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์ พลังปีศาจของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเขายื่นมือออกมาอย่างรวดเร็วแม้พลังปีศาจจะน่าสะพรึงกลัวและไฟกำลังลุกไหม้อยู่ในมือของมาร แต่แชจูชึลไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย

 

พลังเวทมนต์ปะทะกับพลังปีศาจของมารทำให้พลังงานแตกกระจาย

ออกไปทุกทิศทาง มารยังคงขยับมือของเขาพร้อมพลังปีศาจ มันเหยียดออกไปทางแขนของ แชจูชึล แต่ปรากฏขึ้นข้างหัวของเขาและในช่วงเวลาต่อมา มันพยายามคว้าคอของ แชจูชึล มือแปลกๆของมารพร้อม พลังปีศาจพุ่งออกมาจากที่พื้นและจู่โจมในทุกทิศทาง

 

อย่างไรก็ตาม แชจูชึล ตอบโต้อย่างใจเย็นและทั่วถึง เขาป้องกันการโจมตีของมารและพยายามอ่านรูปแบบในการเคลื่อนไหวของมาร

เขาไม่จำเป็นต้องใช้บาเรียหรือการเสริมพลังลมปราณ ก็สามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดลงได้

 

เนื่องจากมารใช้มือเดียวไม่สามารถคุกคามแชแชจูชึลได้ การต่อสู้จึงเข้าสู่ทางตัน

 

ถึงกระนั้นมารก็ยังคงนั่งอยู่ แชจูชึล มองบัลลังก์ของเขาอย่างรอบคอบ มันคิดว่ามีนสามารถต่อสู้ได้ขณะที่นั่งอยู่หรือว่ามันไม่มีทางเลือกอื่น?

มีความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ระหว่าง 2 คนนี้

 

“… .”

 

มารรู้เรื่องนี้เช่นกันดังนั้นเขาจึงนิ่งเงียบ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของมัน ใบหน้าของ มาร ไม่มีความเศร้าโศกและความไม่พอใจ

 

เพี๊ยวววว… ..

 

ทันใดนั้นปีศาจก็ยิงพลังปีศาจขนาดใหญ่ออกไป แชจูชึล สร้างบาเรียจากพลังเวทมนต์และจู่โจมไปพร้อมๆกัน ในขณะเดียวกันพลังเวทมนต์ของเขาก็เพิ่มขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมการใดๆ แชจูชึล รวบรวมพลังเวทมนต์ของเขาและระเบิดมันไปข้างหน้าในทันที

 

อย่างไรก็ตามคลื่นพลังเวทมนต์ไปไม่ถึง มาร อย่างที่แชจูชึลเคยทำก่อนหน้านี้ด้วยพลังเวทมนต์ของเขามารได้สร้างโดมทรงกลมด้วยพลังปีศาจเพื่อปกป้องร่างกายของเขา

 

ซ่าาาาาาาา …

 

แชจูชึล รวบรวมพลังเวทมนต์ไว้ในไม้เท้าของเขา ไม้เท้าของผู้เป็นอมตะ กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดูดซับพลังเวทมนต์และไม่ช้าเขาก็ปลดปล่อยพลังเวทมนต์ที่น่ากลัวออกมา

 

ตู้มมมมมมมมมมมมมมม… !

 

ลำแสงแห่งเวทมนตร์ยิงไปยัง มาร แต่มันก็ตบมันจนกระจายออกไปภายในฝ่ามือเดียว

 

จนถึงจุดนี้ทั้งปีศาจและผู้เป็นอมตะไม่ได้ส่งเสียงสร้างหรือหอบออกมาเลยแม้แต่น้อย

 

ภายใต้ความเงียบงันมือของปีศาจก็ทวีคูณขึ้นมาทันที หลายมือสั่นคลอนจากด้านหลังของบัลลังก์ทำให้เขามีลักษณะคล้ายกับเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างในศาสนาฮินดูหรือ ศิวะ ไม่ช้าอาวุธก็ปรากฏบนมือของมาร

 

มันเป็นเคียวอันหนึ่งที่เทพแห่งความตายจะแบกเอาไว้

 

เมื่อ แชจูชึล เห็นสิ่งนี้เขาก็รู้ทันทีว่าเขาจะไม่รอดถ้าถูกเฉือนโดยอาวุธนี้แม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นแชจูชึลจึงปลดปล่อยพลังเวทมนต์ของเขาออกมาอย่างเต็มที่

 

เปรี้ยบๆ…

 

พลังเวทมนต์ที่ยอดเยี่ยมของ ผู้เป็นอมตะ ลุกขึ้นในวิหารของปีศาจ

บางส่วนเปล่งประกายเหมือนหยดน้ำที่ถูกเผาไหม้เหมือนเปลวไฟซึ่งตอนนี้หวั่นไหวเหมือนสายลมและบางส่วนมีความแข็งแกร่งเหมือนก้อนหิน

 

“….”

 

มารยังคงนิ่งเงียบและความสว่างของผู้เป็นอมตะก็เพิ่มความสว่างให้กับถ้ำของปีศาจ พลังเวทมนต์ของผู้เป็นอมตะห้อมล้อมไปรอบๆห้องและปรากฏเป็นพลังของธาตุทั้ง 4  นี่เป็นเขตอาคมขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบเฉพาะของผู้เป็นอมตะเท่านั้น เขายืนอยู่ในดินแดนแห่งนี้ซึ่งมีพลังแห่งธรรมชาติเต็มไปหมด แชจูชึล แทงไม้เท้าของเขาลงไปบนพื้น

 

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมม-!

 

ทันใดนั้นพลังเวทมนตร์ของ แชจูชึล ก็ระเบิดออกมา ไฟไหม้ขนาดใหญ่, ดิน,น้ำ,ลมและไฟ พัดผ่านเข้าไปในวิหารและพุ่งไปทางมารซึ่งยื่นมือออกมา

 

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม…

 

มือมารเต็มไปด้วยพลังโจมตีใส่แชจูชึลที่กำลังหลบหนี ในอีกเสี้ยววินาทีแชจูชึล ก็ชั่งน้ำหนักและเลือกอย่างใจเย็น ด้านซ้าย ขวาและด้าน หลังจะนำไปสู่ความตายดังนั้นจึงมีคำตอบเดียวเท่านั้น

 

ตู้มมมมมมมมมมมมม-!

 

แชจูชึล เตะพื้นดินและพุ่งไปข้างหน้าไปในทิศทางของมาร มีหลายมือไล่ล่าเขาจากด้านหลังและจากทั้ง 2 ด้าน แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มาจากด้านหน้า

 

อย่างไรก็ตามเคียวสีดำเหวี่ยงลงมาจากทิศทางนี้ ร่างกายของเขาอยู่กลางอากาศแล้ว แชจูชึล ต้องเลือก

 

แน่นอนเขาได้ตัดสินใจแล้ว

 

แชจูชึล ไม่มี ‘อารมณ์’ ที่จะขัดขวางเขาอีกต่อไป เช่นนี้เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะให้ตัดเนื้อเฉือนกระดูก ในขณะที่เขาไม่ลังเลเขาก็สามารถหนีจากเงื้อมมือของมารไปได้ แชจูชึล เสียสละแขนของเขาและมาถึงหน้า มาร

 

พลังเวทมนต์จำนวนมหาศาลรวมตัวอยู่ในกำปั้นของเขา พลังเวทมนต์ของธาตุทั้ง 4 ที่ลุกโชติช่วงภายในวิหารก็พุ่งเข้าหามารพร้อมกัน พลังเวทมนต์ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดของ แชจูชึล นั้นเดือดและเวลาของเขาก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

 

“สำหรับแก….”

 

แชจูชึล พึมพำในขณะที่เขาชกกำปั้นออกไป พลังเวทมนต์อันไร้ขอบเขตกำปั้นของเขาพุ่งเข้าหากระเพาะอาหารของมาร

 

แกร๊ก-!

 

พลังเวทมนต์ที่ทรงพลังทำลายพลังมารและพลังเวทมนต์ที่สร้างเขตแดนของผู้เป็นอมตะก็เข้ามาจับร่างของมาร

 

ตาของมันเบิกกว้างและแชจูชึลก็จ้องมองเข้าไปในดวงตาของมันตรงๆ

 

“… .”

 

ดวงตาของแชจูชึลดูไร้อารมณ์เช่นเคย มารจ้องมองที่แชจูชึลด้วยตาที่คล้ายกัน พวกเขาคล้ายกันที่ไม่มีความรู้สึก แต่สถานการณ์ที่พวกเขาเป็นอยู่นั้นแตกต่างกันอย่างมาก

 

“…มนุษย์ที่ไม่มีหัวใจ”

 

ในที่สุดมารก็พึมพำออกมาระหว่างเขากับแชจูชึล มาร มองลึกเข้าไปในดวงตาของ แชจูชึล ซึ่งไร้อารมณ์และทำหน้าที่เหมือนเครื่องจักร

 

จากนั้นแชจูชึลก็ยิ้มเล็กน้อย แม้เขาไม่สามารถเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังมัน แต่รอยยิ้มก็หายไปและแชจูชึลก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

“เพราะแกไม่ได้อยู่บนโลกนี้มานาน…”

 

แชจูชึล วางมือบนหัวของปีศาจ

 

“สำหรับแก แกหยิ่งเกินกว่าที่จะเข้าใจว่ามันสำคัญยังไง…”

 

จากนั้นเขาคว้าไปที่หัวของมาร

 

“แกดูเหมือนจะไม่รู้จักคำพูดที่ว่า ‘มนุษย์น่ากลัวกว่าปีศาจ’”

 

แคร็กแคร็ก….เสียงดังขึ้นเรื่อยๆเป็นเสียงแตก ถึงกระนั้นมารก็ดูเต็มไปด้วยความบันเทิง แชจูชึล ผสมผสานพลังเวทมนต์ของเขาเข้ากับร่างกายของมาร

 

“น่าสมเพชจริงๆ”

 

พลังเวทมนต์ของ แชจูชึล กลายเป็นไฟและน้ำแข็งที่ปะทะกันภายในร่างกายของปีศาจ

 

“…มนุษย์ผู้หยิ่งผยอง”

 

มารรู้สึกถึงธาตุที่ขัดแย้งกัน 2 อย่างกำลังปะทะกันอยู่ภายในร่างกายของเขา เขารู้ว่านี่คือจุดจบ

 

โพ๊ะ-!

 

พลังเวทมนต์ของผู้เป็นอมตะ ระเบิดทำให้แขนขาของปีศาจแตกออกจากกัน ร่างมนุษย์ที่มารได้ครอบครองดูเหมือนไม่เป็นร่างกายอีกต่อไป

 

ทันในนั้นวิหารก็นิ่งเงียบ

 

พลังปีศาจที่พัวพันกับพลังเวทมนต์หายไปและมีเพียงกลิ่นเลือดสาดกระเซ็นใส่จมูกของแชจูชึล

 

อย่างไรก็ตาม แชจูชึล ไม่สนใจ

 

เขาจ้องมองไปที่มารในมือของเขา มันเปล่งพลังปีศาจจำนวนมากออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นร่างที่มีคุณสมบัติมากมาย

 

“…?”

 

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวด มันเป็นที่ที่ถูกเคียวปีศาจเฉือน แชจูชึล ใส่พลังเวทมนต์ของเขาลงไป แต่อย่างที่คาดไว้มันไม่หายไป นอกจากนี้เขายังมีสัญชาตญาณความรู้สึกว่ามันจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ตามธรรมชาติตลอดชีวิตของเขา

 

“… อืมมม.”

 

แชจูชึล มองดูมารอีกครั้ง ศพของมันอยู่ในวัด แต่.แต่ละชิ้นก็ถูกเผาไหม้ภายใต้พลังเวทมนต์ของ แชจูชึล

 

เมื่อหัวของมันถูกทำลายแขนขาก็ถูกฉีกขาดและมือและเท้าก็เกรียมแม้แต่มารก็ไม่สามารถกลับมามีชีวิตอยู่ได้อีกครั้ง

 

นั่นก็เพียงพอแล้ว

 

แชจูชึล เดินออกจากวิหารพร้อมมือที่มีแผล เขายังคงเย็นชาแม้เขาจะเสียเลือดไปมากจากอาการ เพื่อให้มีอายุยืนยาวขึ้นเขาได้เลี้ยงเด็กที่มีพลังรักษาและหากเขาไปเยี่ยมเธอ เธอน่าจะสามารถรักษาได้แม้กระทั่งบาดแผลที่อันตรายที่สุด….

 

 

เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากที่ไกลและ มาร ก็ตายไปแล้วอย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปและการปรากฏตัวของ แชจูชึล หายไปอย่างสมบูรณ์นั้น…

 

มาร แขวนอยู่บนวิหารลืมตาขึ้นมา ดวงตาของมารติดอยู่ที่เท้าของเขาซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นกองขี้เถ้า มารกระพริบตาและเริ่มฟื้นฟูร่างกายของเขาเอง

 

มารไม่สามารถถูกฆ่าได้ง่ายๆ ไม่นานมันก็ฟื้นฟูสำเร็จ มารไม่มีวันตายมันมีชีวิตนิรันดร์ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ นี่คือเหตุผลที่มนุษย์จาก

ดาวเคราะห์นับไม่ถ้วนหายกลายเป็นปีศาจและทำให้บ้านเกิดของ

พวกเขากลายเป็นอาณาจักรปีศาจ….

 

มาร เปิดเผยเหตุผลที่เขานิ่งสงบแม้จะเผชิญหน้ากับความตาย เขาฟื้นคืนชีพอย่างช้าๆได้นั้นเอง

 

และแล้ว

 

“ชายชราคนนั้นเพิ่งพูดว่ามนุษย์น่ากลัวกว่าผี”

 

เสียงดังขึ้น ดวงตาของมารเปิดออกและหันไปทางเสียง

 

ดวงตาแดงก่ำของมันจับร่างที่มืดมิด คนที่ปรากฏตัวหลังจากนั้นจ้องมองมาที่เขา

 

– เจ้าคือ….

 

“ฉันเองก็คิดแบบเดียวกัน”

 

แกร๊ก.

 

เสียงลางร้ายไหลเข้าสู่หูของปีศาจ

 

แม้ว่าหัวใจของเขายังไม่งอกใหม่ แต่เขาก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นอย่างชัดเจน

 

“แค่คิดว่าฉันเป็นผีที่กัดกินสิ่งมีชีวิตเช่นแกก็แล้วกัน”

 

ต่อจากนั้นเหล็กเย็นๆก็สัมผัสดวงตาของมาร จากปากกระบอกปืนกระแสลมที่ดุร้ายไหลเวียนรอบๆ

 

– ไม่…ไม่…

 

ตอนนั้นเองที่ มาร เสียความใจเย็นลง มันรู้สึกถึงพลังแห่งการสังหารอันเยือกเย็นจากปากกระบอกปืน

 

– จะ-เจ้า, มะ-มนุษย์, ฟังข้า….

 

ความตายที่แท้จริง มารรู้โดยสัญชาตญาณว่าสิ่งนี้กำลังใกล้เข้ามา

 

“อย่ากลัวไปเลย”

 

นิ้วของชายคนนั้นเหนี่ยวไก เขาพูดต่อพร้อมรอยยิ้ม

 

“ มันจะจบลงในพริบตา”

 

ไม่! ไม่ … !

 

เสียงร้องที่สิ้นหวังของมารดังก้อง แต่ชายคนนี้ก็เหนี่ยวไกอย่างง่ายดาย

 

…ปัง!

 

กระสุนถูกยิงออกมา มาร เสียชีวิตลงอย่างเงียบๆโดยไม่มีเสียงอะไรอีก โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้มันกระจัดกระจายไปในอากาศเหมือนเถ้าถ่าน

 

โลหะที่ทำลายล้างมารนั้นไหลเข้าไปในกระเป๋าของมนุษย์ ในไม่ช้า

นกล่าเหยื่อก็ร่อนลงบนบ่าของเขา

 

คิมฮาจิน ชายผู้ค้นหาแม้กระทั่งเศษเล็กเศษน้อยที่มารทิ้งไว้ จากนั้นเขาพูดอย่างสบายๆ

 

“กลับไปที่ชั้น 28 กันเถอะ”

 

ข้อความนับไม่ถ้วนเติมเต็มสายตาของเขา เป็นข้อความใหม่ที่คุ้นเคย

 

[คุณได้ 300SP จากการฆ่ามาร!]

[ปราบมารเป็นตัวที่ 2 – คุณทำสำเร็จได้อย่างน่าทึ่ง!]

[ด้วยการทำลายมาร 2 ตัวคุณจะได้รับสิทธิ์พิเศษ]

[ปรมจารย์นักแม่นปืน ได้รับการเลื่อนระดับเป็นระดับ 2! ตอนนี้ระดับ 1 อยู่ใกล้แค่เอื้อม!]

[โดยการฆ่า มาร …]

 

***********************************2*************************************