แดนนิรมิตเทพ บทที่ 830
ใบหน้าของเล่ชิงชางสั่นเล็กน้อย และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่ใช่ตระกูลธรรมดา ในเมื่อพวกเราเสพสุขกับสถานะและความมั่งคั่งที่ตระกูล มอบให้ เมื่อตระกูลอยู่ในภาวะวิกฤติ ก็ต้องทำเพื่อตระกูลบ้าง”

เล่หรูหั่วยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เปล่าเปลี่ยว ทั้งที่เธอรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังถาม

นี่เป็นการหาเรื่องใส่ตัว?

“ไปกันเถอะ!” เล่หรูหั่วหุบยิ้ม และไม่มีความอาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย เดินออกไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

งานแต่งงานจัดขึ้นที่โรงแรมตงฟางหมิงจู ซึ่งเป็นโรงแรมหรูหราที่สุดในเมืองจงไห่ และเป็นโรงแรมของตระกูลหยุน

ตระกูลหยุนกับตระกูลเล่ ตระกูลหนึ่งเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกมนุษย์ของเมืองจงไห่ ส่วนอีกตระกูลหนึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในโลกฝึกบู๊ของเมืองจงไห่

สองตระกูลนี้แต่งงานเป็นญาติกัน ทำให้บุคคลสำคัญเกือบทั้งหมดในจงไห่มาร่วมงาน

เห็นได้ชัดว่างานแต่งงานของสองตระกูลครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณถึงคนภายนอก

เดิมทีคนบางคนที่เห็นตระกูลเล่ตกต่ำ และกำลังคิดที่จะทรยศตระกูลเล่ แล้วเปลี่ยนไปพึ่งพาอาศัยบารมีของหอการค้าโม่เจียแทน เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวการแต่งงาน ทำให้พวกเขารู้สึกลังเลอีกครั้ง

งานแต่งงานดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ตระกูลเล่และตระกูลหยุนได้แจ้งญาติมิตรล่วงหน้า แม้แต่เพื่อนร่วมชั้นของเล่หรูหั่วและหยุนเทียนหลิงก็ได้รับข่าวเช่นกัน

มุมหนึ่งของล็อบบี้โรงแรมที่เต็มไปด้วยความคึกคัก เจียงเสวี่ยเพื่อนสนิทของเล่หรูหั่วและเพื่อนนักศึกษาหญิงที่สนิทสนมกับเล่หรูหั่วหลายคน นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบ ๆ กำลังมองคนที่มาแสดงความยินดีอย่างไม่ขาดสาย ด้วยสีหน้าตกใจ

สถานะของทุกคนที่มาร่วมงานวันนี้ สามารถทำให้พวกเธอที่มีฐานะครอบครัวธรรมดารู้สึกตกใจ

แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองจงไห่ก็มาร่วมงานด้วย

เล่ชิงชางและหยุนซานในฐานะผู้ปกครองของทั้งสองฝ่าย กำลังทักทายแขกอยู่ที่ประตู แต่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวยังไม่ปรากฏตัวออกมา

เมื่อเวลาผ่านไป แขกผู้มีเกียรติมากันเกือบครบแล้ว พิธีกรขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เพื่อเตรียมเชิญบ่าวสาวออกมา

ขณะเดียวกัน บริเวณลานบ้านเล็ก ๆ ที่เฉินโม่อาศัยอยู่ ที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยหัวหนาน

จี๋ต๋าจิ่วตู มู่หรงยานเอ๋อร์และคนอื่น ๆ มาถึงประตูของลานบ้านเล็ก ๆ

“โทรหาเฉินโม่ไม่ติด เขาจะอยู่ที่นี่ไหม?” จี๋ต๋าจิ่วตูถาม

สีหน้าของมู่หรงยานเอ๋อร์เต็มไปด้วยความกังวล “ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่นี่หรือไม่ พวกเราก็ต้องลองหาดู ถ้าหาไม่พบจริง ๆ ถือว่าพวกเราพยายามที่สุดแล้ว”

กู่หลินเฟิงกล่าวด้วยสีหน้ากังวลเช่นกัน “ถูกต้อง วันนี้เป็นวันแต่งงานของเล่หรูหั่ว หากเฉินโม่พลาดไป เกรงว่าเขาจะเสียใจไปตลอดชีวิต”

“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้!”

หลายคนพยักหน้าพร้อมกัน เห็นด้วยกับคำพูดของกู่หลินเฟิง

“พวกนายรออยู่ที่นี่ก่อน ฉันจะกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปดู!” หลังจากกู่หลินเฟิงกล่าวจบ เขาก็กระโดดขึ้นแล้วลงที่ลานบ้าน

ขณะนี้ ร่างของเฉินโม่บินออกมาจากห้อง และปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ากู่หลินเฟิง

“เมื่อสักครู่นายบอกว่าใครจะแต่งงานน่ะ?” เฉินโม่มองกู่หลินเฟิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

กู่หลินเฟิงรู้สึกตกใจกับสายตาของเฉินโม่ เขารู้สึกว่าเบื้องหลังดวงตานั้นเหมือนนรก ที่สามารถกลืนกินวิญญาณของคนได้ตลอดเวลา

“เล่หรูหั่วแต่งงานกับหยุนเทียนหลิง!” กู่หลินเฟิงกลืนน้ำลาย น้ำเสียงของเขากลวงเล็กน้อย

“จัดที่ไหน” เฉินโม่ถามอย่างรวดเร็ว

“โรงแรมตงฟางหมิงจูในเมืองจงไห่!” กู่หลินเฟิงตอบ

หลังจากกล่าวจบ กู่หลินเฟิงกะพริบตา หลังจากนั้นเขามองไม่เห็นเฉินโม่แล้ว

“พวกนายกลับไปก่อน ฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง” น้ำเสียงเยือกเย็นของเฉินโม่ลอยมาจากระยะไกล

พวกเขามองร่างของเฉินโม่ที่หายไป และรู้สึกอึ้งอยู่สักพัก

“เฮ้อ เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดพวกเราก็ได้บอกให้เฉินโม่ทราบแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเฉินโม่” มู่หรงยานเอ๋อร์ยิ้มด้วยความโล่งใจ ซึ่งทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอเป็นคนไร้หัวใจ

ห่าวเจี้ยนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณหนูยานเอ๋อร์ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

มู่หรงยานเอ๋อร์ถามด้วยความสงสัย “แล้วฉันจะเป็นอะไรได้? เอาล่ะ พวกเรากลับกันเถอะ”