บทที่ 416 ความกลัวของชวนชม

รักหวานอมเปรี้ยว

“มายมิ้นท์ ผมมีธุระต่อ ไม่ไปส่งคุณแล้วนะ ”เปปเปอร์พูดขึ้นพลางมองไปยังมายมิ้นท์

ริมฝีปากแดงของมายมิ้นท์ตอบขึ้นอย่างราบเรียบ:“ไม่จำเป็นต้องให้คุณไปส่ง ไปกันเถอะป้าทิพย์”

ป้าทิพย์พยักหน้า แล้วเข็นเธอไปยังลิฟต์

เปปเปอร์มองดูพวกเธอทั้งสองอยู่กับที่ ขณะที่มองเห็นทั้งสองกำลังเข้าไปในลิฟต์ จู่ๆเขาก็เอ่ยขึ้นว่า“มายมิ้นท์ คุณเคยได้ยินประโยคประโยคหนึ่งไหม?”

“อ่า?”มายมิ้นท์หันศีรษะกลับไปด้วยความสงสัย“อะไร?”

“โอกาสจะต้องดิ้นรนด้วยตนเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้”เปปเปอร์เม้มริมฝีปากเล็กน้อย

มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว“คุณหมายความว่ายังไง?”

“ในเมื่อคุณไม่ยอมให้โอกาสผม ถ้าอย่างงั้นผมก็จะให้โอกาสตัวเอง ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่ง ผมจะทำให้คุณใจอ่อนได้”ลูกกระเดือกของเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย สีหน้าบนใบหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เขาสามารถรักเธอได้ถึงสองครั้ง

ดังนั้นเขาเชื่อว่า ถ้าเขาพยายาม เธอก็สามารถทำได้เช่นกัน

มายมิ้นท์พูดเยาะเย้ยขึ้นว่า“เหรอ?งั้นคุณก็ลองดู ดูสิว่าคุณจะทำให้ฉันใจอ่อนได้ไหมป้าทิพย์ ไป”

เธอตบที่เท้าแขนของรถเข็นเบา ๆ

หลังจากที่ป้าทิพย์หันศีรษะไปมองเปปเปอร์พลางทำท่าทีสู้ๆกับเขาแล้ว ก็เข็นมายมิ้นท์เข้ามายังลิฟต์

เมื่อได้ยินเสียงติงต๊อง ซึ่งเป็นสัญญาณปิดประตูลิฟต์ดังออกมา เปปเปอร์ก็หันลำตัวกลับมา แล้วเดินมุ่งไปทางตรงกันข้าม

ด้านนั้น ห้องประชุมของหน่วยงาน

เมื่อมาถึงทางด้านหน้าห้องประชุมของหน่วยงาน เปปเปอร์เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนยืนอยู่ที่นั่น

เขาเดินเข้าไป พลางพยักหน้าให้กับตำรวจทั้งสองคนนั้น“รบกวนพวกคุณแล้ว”

“ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าประธานเปปเปอร์มีเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงนะครับ หลังจากครึ่งชั่วโมง ผมจะต้องนำตัวคนไปสถานกักกัน

ดังนั้นประธานเปปเปอร์ต้องรีบหน่อย”ตำรวจหนึ่งคนมองดูนาฬิกาพลางพูดขึ้น

เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นผลักประตูของห้องประชุมแล้วเดินเข้าไป

เมื่อคนในห้องประชุมเห็นว่าประตูถูกเปิดออก จึงรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วมองไปยังหน้าประตู

เมื่อเห็นเปปเปอร์เดินเข้ามา ร่างกายของชวนชมก็บีบตัวรัดแน่น ฝ่ามือทั้งสองข้างก็ค่อยๆกระชับขึ้น จึงตะโกนเรียกเปปเปอร์อย่างประหม่าว่า“ประธานเปปเปอร์”

เปปเปอร์ก้าวขายาวเดินเข้าไป เสียงก้าวเท้าที่คมชัดราวกับเหยียบย่ำบนหัวใจของหล่อน ทำให้หัวใจของหล่อนบีบรัดตัวเข้าหากัน ความประหม่าที่อยู่ในใจก็เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น

เปปเปอร์หยุดอยู่ที่ด้านหน้าของชวนชมพลางเว้นระยะห่างสองก้าว พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“สองสามีภรรยาเยี่ยมบุญไม่มาเป็นเพื่อนคุณเหรอ?”

“อึม”ชวนชมพยักหน้า“เดิมทีพ่อกับแม่ตั้งใจจะมาส่งฉันไปสถานกักกัน แต่ว่าใช้เหตุผลต่างๆนานาปฏิเสธพวกเขา เพราะเรื่องที่คุณให้ฉันมาพบ จะให้พ่อกับแม่รู้ไม่ได้”

เปปเปอร์มองด้วยสายตาเย็นชาพลางหัวเราะ เหอะ หนึ่งที“คำว่าพ่อ แม่ นี้ คุณเรียกได้คล่องปากไม่น้อยเลย”

แน่นอนว่าชวนชมฟังออกว่า เขากำลังเสียดสีหล่อนและกำลังเตือนเธอ สองสามีภรรยาเยี่ยมบุญไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ

แม้ว่าในใจจะไม่รู้สึกสบายใจ แต่เขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ

แม้ว่าหล่อนจะเพิ่งเข้าสู่วงการคนชั้นสูงได้เพียงเดือนกว่า แต่สิ่งที่ควรรู้ก็ได้รู้หมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบ่งชั้นและสถานะในแวดวงในวันที่สองที่ไปถึงตระกูลภักดีพิศุทธิ์ คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ได้บอกให้หล่อนให้ความสำคัญ เพื่อที่จะให้หล่อนระวังตัวไม่ไปล่วงเกินคนเหล่านั้น

เพราะว่าหลังจากที่ไม่มีงานแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลนวบดินทร์แล้ว สถานะของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ในแวดวงก็ลดลงทันที สมัยก่อนพวกคนที่ประจบตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ปัจจุบันนี้ก็ได้กลายเป็นคนที่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่สามารถล่วงเกินได้ และหนึ่งในนั้นคือเปปเปอร์ที่ห้ามล่วงเกินอย่างเด็ดขาด

ไม่เพียงแต่เป็นเพราะตระกูลนวบดินทร์ที่คอยหนุนหลังเปปเปอร์ แต่เป็นเพราะความสามารถและวิธีการของเปปเปอร์คนคนนี้ สมแล้วที่คนในวงการธุรกิจต่างเรียกเขาว่าคนที่ชั่วร้ายดั่งราชาแห่งนรก

แม้ว่าหล่อนจะแค่เคยได้ยิน ไม่เคยเห็นวิธีการของผู้ชายคนนี้ ว่าน่ากลัวขนาดไหน แต่ว่าตอนนี้หล่อนก็พอที่จะจินตนาการได้บ้าง

เพราะว่าแค่หล่อนต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ก็ยังรู้สึกกลัว อีกทั้งผู้ชายคนนี้ยังไม่ได้เผย ท่าทางที่สง่างามใดออกมาก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าเผยท่าทางที่สง่างามแบบนั้นออกมา เกรงว่าหล่อนคงตกใจจนสลบลงที่พื้น

แต่แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะน่ากลัว แต่ว่ากลับเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และยอดเยี่ยมมาก แค่รูปลักษณ์ภายนอกและฐานะ ก็ถือว่าไกลเกินเอื้อมของผู้ชายส่วนใหญ่ในโลก

หล่อนคิด หากไม่ได้เป็นเพราะหล่อนได้เจอกับทามทอยก่อน เกรงว่าหล่อนคงมีใจให้กับเขาแล้ว

เปปเปอร์ไม่รู้ว่าชวนชมกำลังคิดอะไรอยู่ เขาหรี่ตาพลางพูดขึ้นว่า:“ฟังให้ดีนะเจินเจิน ผมยื่นมือช่วยคุณให้คุณได้นั่งในตำแหน่งของชวนชม คุณจะต้องเชื่อฟัง เป็นลูกสาวที่ดีของสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญ เลิกคิดที่จะสร้างความวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมายมิ้นท์ ทางที่ดีคุณอย่าได้คิดที่จะสร้างเรื่องอีก ไม่งั้นผมมีวิธีที่จะจัดการกับคุณแน่ เข้าใจไหม?”

“เข้าใจค่ะ”ชวนชมพยักหน้า

หล่อนไม่ใช่คนโง่ จะกล้าต่อกรกับเขาได้ยังไง เพราะถึงยังไงเขาก็รู้ว่าคุณมายมิ้นท์คือชวนชมตัวจริง

ที่หล่อนกล้าต่อกรกับคุณมายมิ้นท์และคุณทามทอย สาเหตุที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นเพราะว่าคุณมายมิ้นท์และคุณทามทอยไม่ทราบในจุดจุดนี้

แต่ว่าเปปเปอร์ทราบ ดังนั้นขอเพียงแค่หล่อนไม่อยู่อย่างสงบ เขาจะเป็นคนแรกที่จะทำให้หล่อนต้องตาย

“เข้าใจก็ดี”เปปเปอร์เม้มริมฝีปาก

ชวนชมสูดหายใจลึกพลางมองไปที่เขา“ประธานเปปเปอร์ฉันสามารถจะรู้ได้ไหมคะว่าทำไมคุณถึงช่วยฉัน?คุณรักคุณมายมิ้นท์ ตามหลักแล้วคุณน่าจะช่วยคุณมายมิ้นท์ถึงจะถูก”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาที่มืดมิดของเปปเปอร์จ้องมองไปที่หล่อน“นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรถาม”

เผชิญหน้ากับแววตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกของเขา ชวนชมรู้สึกว่าหัวใจของตนเองราวกับถูกคนจับไว้แน่น ไม่สามารถหายใจได้ ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะตามหาเสียงของตัวเองกลับมาได้“ขอ……ขอโทษ”

พระเจ้า นี่คือสิ่งที่พ่อเรียกว่าคนที่ชั่วร้ายดั่งราชาแห่งนรกใช่ไหม?

ที่แท้ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ ท่าทางที่สง่างามของเขา หล่อนไม่สามารถที่จะรับไหวเลย แค่ถูกเขาเหลือบมองก็ราวกับมีได้รับความรู้สึกเหมือนถูกฆ่า

คนคนนี้ หล่อนไม่ควรที่จะไปล่วงเกินจริงๆ

เปปเปอร์เห็นแววตาที่หวาดกลัวของชวนชม จึงค่อยๆหดสายตากลับ“พอได้แล้ว ได้เวลาแล้ว คุณกลับสถานกักกันได้แล้ว”

“ค่ะ”ชวนชมก้มหน้าพลางตอบกลับเสียงเบา จากนั้นเดินผ่านเขาไปที่ประตู

เดิมทีหล่อนไม่อยากกลับสถานกักกันเลย

แต่ว่าตอนนี้ หล่อนเฝ้าคอยที่จะได้กลับไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะได้สามารถออกห่างจากผู้ชายที่น่ากลัวคนนี้ได้

เปปเปอร์หรี่ตา จ้องมองด้านหลังของชวนชมด้วยสายตาเย็นชา

ทำไมไม่ช่วยมายมิ้นท์?

นั้นเป็นเพราะว่าไม่มีทางที่จะช่วยได้ต่างหาก!

แต่หากความแค้นของมายมิ้นท์กับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ค่อยๆลดลง เขาก็จะยืนอยู่ข้างมายมิ้นท์ บอกความจริงกับมายมิ้นท์ แต่ว่าตอนนี้มายมิ้นท์กับตระกูลภักดีพิศุทธิ์เต็มไปด้วยความโกรธแค้นขนาดที่ไม่คุณตายก็ฉันตาย หากบอกมายมิ้นท์ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

อีกอย่างเขาก็คิดว่า ในเมื่อสถานะของมายมิ้นท์ผิดมาตั้งแต่แรกแล้วก็ให้เป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตน่าจะดีกว่า ขอเพียงแค่ชาตินี้เธอไม่รู้สถานะที่แท้จริงของตนเองเธอก็จะไม่ทุกข์ทรมาน และไม่ทำเรื่องโง่ๆที่ไร้สติเพราะต้องอยู่ตรงกลางระหว่างตระกูลกิตติภัคโสภณและตระกูลภักดีพิศุทธิ์สองครอบครัว

สำหรับความแค้นที่มายมิ้นท์มีต่อตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ขอเพียงแค่มายมิ้นท์ไม่ได้ทำร้ายสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญจึงถึงแก่ชีวิต แม้ว่าจะเป็นการทำลายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ไม่เป็นไร เพราะถึงยังไงเมื่อหกปีก่อนเยี่ยมบุญก็เป็นคนบีบให้ไตรภูมิต้องตาย บีบให้ตระกูลกิตติภัคโสภณบ้านแตกสาแหรกขาด ดังนั้นตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ควรที่จะได้รับผมเช่นนี้

นั้นก็หมายความว่า เขาทำได้เพียงคอยปกป้องความปลอดภัยของสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญอย่างลับๆ ในส่วนอื่น ไม่ว่ามายมิ้นท์จะทำอะไร เขาจะไม่ขัดขวางเลยแม้แต่น้อย

สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นวิธีในการจัดการกับความแค้นและความสัมพันธ์ของมายมิ้นท์และตระกูลภักดีพิศุทธิ์ที่ดีที่สุด

ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลนิวเวอร์

มายมิ้นท์นั่งอยู่ในห้องทำงานของการันต์ การันต์กำลังตรวจดวงตาให้กับเธอ

หลังจากนั้นไม่นาน มายมิ้นท์ก็ได้ยินเสียงการันต์ปิดไฟฉาย กำมือแน่นพลางถามขึ้นว่า“เป็นยังไงบ้าง?ดวงตาของฉันจะกลับมาเหมือนเดิมเมื่อไหร่?”