ตอนที่ 694 การเปลี่ยนแปลงแห่งหุบเขาพยัคฆ์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 694 การเปลี่ยนแปลงแห่งหุบเขาพยัคฆ์ โดย ProjectZyphon

ไม่รอให้หูทงเอ่ยปาก หลิ่วเหวินก็กล่าวอย่างเย็นชา “ภารกิจที่คุณชายหลินคนนั้นเข้าร่วมคือการมุ่งหน้าสู่หุบเขาพยัคฆ์ เหรียญกล้าหาญที่เก็บเกี่ยวระหว่างทาง ไหนเลยจะมีส่วนแบ่งของเขากัน”

“ถูกต้อง เพื่อปกป้องเขา พวกเราถึงขนาดให้อาปี้คุ้มกันด้วยตัวเอง เหรียญกล้าหาญที่เก็บเกี่ยวได้ในตอนนี้ ขืนแบ่งให้เขาส่วนหนึ่งอีกข้าคงไม่ยอมเป็นคนแรก!”

สมาชิกคนอื่นๆ ต่างทยอยเอ่ยปาก แสดงจุดยืนของตัวเอง

กับพวกชุบมือเปิบ พวกเขาล้วนมีความชิงชังและกีดกันโดยสัญชาตญาณ

หูทงอดมุ่นคิ้วไม่ได้ เขาไม่กลัวจะสังหารศัตรู ทว่าเวลานี้ชักเริ่มปวดหัวอยู่เหมือนกัน ฝั่งหนึ่งเป็นสหายร่วมอาชีพที่ติดตามตนมาหลายปี อีกฝั่งหนึ่งเป็นคุณชายซึ่งมีฐานะพิเศษ สิ่งนี้ทำให้เขาที่ยืนอยู่ตรงกลางทำตัวลำบากยิ่งนัก

“พวกเจ้าวางใจได้ ไร้ผลงานย่อมไม่ควรรับรางวัล ถ้าหากอยากได้เหรียญกล้าหาญ ข้าจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง”

หลินสวินมองอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาเย็นชา เวลานี้ชักเริ่มหงุดหงิดอยู่ในใจ ตลอดทางเขาประสบกับการผลักไสและเหยียดหยามก็ช่างเถิด

ทว่าตอนนี้ แม้แต่เหรียญกล้าหาญขี้ประติ๋วพวกนี้ยังจงใจเพ่งเล็งมาที่ตน เห็นว่าเขาหลินสวินจะมาเอารัดเอาเปรียบจริงๆ หรือ

“คุณชายหลิน หวังว่าคงไม่โกรธ”

สีหน้าหูทงเปลี่ยนไป เขาและหลูเหวินถิงเคยทำข้อตกลงกันไว้ ไหนเลยจะกล้ายั่วโมโหคุณชายหลินผู้นี้

เขาหันไปส่งส่งตาให้อาปี้คราหนึ่ง หมายจะให้อาปี้มาเกลี้ยกล่อมหลินสวิน

กลับเห็นว่าอาปี้กล่าวแค่นเสียง “หัวหน้า ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยท่านพูดหรอกนะ แต่การกระทำเช่นนี้ของพวกเขามันก็เกินไปจริงๆ นับตั้งแต่ที่คุณชายหลินเข้าร่วมขบวนกับพวกเรา ก็เท่ากับเป็นสมาชิกของพวกเราแล้ว ก่อนหน้าที่ภารกิจในครั้งนี้จะลุล่วง ผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับทั้งหมดย่อมมีส่วนแบ่งของเขาด้วยอยู่แล้ว นี่ถึงเรียกว่ายุติธรรม! แต่ตอนนี้… ไม่พูดก็ช่างเถิด!”

“ยุติธรรม?”

เห็นอาปี้ยังคงช่วยออกปากแทน สีหน้าของหลิ่วเหวินพลันเปลี่ยนเป็นคล้ำเขียวหาที่เปรียบไม่ได้ “เจ้าคนที่แม้แต่ปฏิบัติภารกิจยังต้องให้คนอื่นปกป้องอย่างเขา ยังต้องกล่าวถึงความยุติธรรมอะไร เหรียญกล้าหาญที่พวกเราเอาชีวิตเข้าเสี่ยง กลับต้องให้เขานั่งลอยลมรับส่วนแบ่งด้วย นี่ยุติธรรมหรือ”

“นั่นสิ ต้องการความยุติธรรมก็ง่ายนัก ให้เจ้าหนูนั่นเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยปะไร ข้าว่าเขาไม่มีแม้แต่ความกล้านี้เลยด้วยซ้ำ!”

“อย่าคาดหวังไปเลย ลูกผู้ดีมีเงินพรรค์นี้แต่ละคนกลัวตายหาที่เปรียบไม่ได้กันทั้งนั้น มีหรือจะไปสู้สุดแรงเกิดเหมือนกับพวกเรา”

“เมื่อครู่เขาไม่ได้พูดเองหรือ ไร้ผลงานย่อมไม่ควรรับรางวัล แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกผิดอยู่ในใจ ไม่มีหน้าไปโกยเหรียญกล้าหาญแบบได้เปล่าเช่นนี้!”

ภายในใจของสมาชิกคนอื่นๆ มีความไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลานี้จึงถือโอกาสระบายมันออกมา จงใจเสียดสีกระทบกระเทียบ

“พอได้แล้ว!”

หูทงตวาดลั่น สีหน้าอึมครึมยิ่ง ทำให้คนอื่นๆ เงียบปานจั๊กจั่นหน้าหนาวในบัดดล แต่ขอเพียงมองดูท่าทีของพวกเขา ก็รู้ว่าพวกเขาไม่ยอมแพ้

“หัวหน้าหูไม่จำเป็นต้องลำบากใจ ข้าพูดคำไหนคำนั้น ไร้ผลงานย่อมไม่ควรรับรางวัล เหรียญกล้าหาญของผู้อื่น ข้าสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย!”

ท่ามกลางความเงียบงัน หลินสวินกล่าวอย่างเฉยเมย “อีกอย่าง เรื่องก่อนหน้านี้ข้าคร้านจะไล่สาวเอาความ แต่ถ้าหากต่อไปยังเกิดเรื่องทำนองเดียวกันอยู่ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแล้วกัน”

ไม่เกรงใจ?

เสียงหลุดขำเย้ยหยันดังขึ้นในที่นั้น ลูกผู้ดีคนหนึ่งที่ยังต้องให้พวกเขาปกป้องเช่นนี้ ยังกล้าข่มขู่พวกเขา?

หูทงถอนหายใจเบาๆ ก็คงทำได้เพียงเท่านี้แล้ว

ละครคั่นฉากเล็กๆ นี้ไม่นานก็ผ่านไป ทั้งขบวนเริ่มออกเดินทางต่อ

เพียงแต่บรรยากาศระหว่างทางค่อนข้างอึมครึม หลินสวินไม่เอ่ยสักคำ อาปี้อยากพูดอะไรอยู่หลายครั้ง ทว่าตอนที่เห็นท่าทางเยือกเย็นผิดปกติเช่นนั้นของหลินสวิน กลับเอ่ยปากออกมาไม่ได้

ภายในใจของนางก็อึดอัดเช่นกัน ปฏิบัติการในวันนี้มันอย่างไรกันแน่ หรือทุกคนยอมปล่อยเด็กหนุ่มคนหนึ่งไปไม่ได้จริงๆ ตลอดทางเขาก็ไม่ได้ทำเรื่องเกินเหตุอะไรเลยนี่!

……

สองชั่วยามให้หลัง คนทั้งขบวนเข้าใกล้หุบเขาพยัคฆ์อย่างราบรื่น

ที่นี่คือแนวเขาอันรกร้างผืนหนึ่ง มองลงมาจากเวิ้งฟ้ามีลักษณะคล้ายพยัคฆ์ตัวหนึ่งที่ยึดครองผืนแผ่นดินใหญ่ หุบเขาสายหนึ่งในนั้นมีลักษณะคล้ายปากเสือ ดังนั้นจึงมีชื่อเรียกว่า ‘หุบเขาพยัคฆ์’

หมอกควันหนาทึบ ให้บรรยากาศอึดอัดกดดันอย่างหนึ่ง

เป้าหมายของขบวนหลินสวินก็คือสังหารผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่ประจำการอยู่ในหุบเขาพยัคฆ์ ช่วงชิงเอาแร่หายาก ‘เหล็กดาราจรัสสลาย’ ในหุบเขาพยัคฆ์ไปให้ได้!

“ตามข้อมูล มีผู้แข็งแกร่งมหาเวทเผ่าพ่อมดเถื่อนที่เทียบเท่าระดับกระบวนแปรจุติสามคนนั่งบัญชาการอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ ยังมีกองกำลังชั้นยอดจากสายคนเถื่อนอัคคีกระจายอยู่ในหุบเขาพยัคฆ์อีกด้วย จำนวนคนราวๆ ห้าสิบคน”

ไกลออกไป หูทงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช่วงหว่างคิ้วเจือความโหดเหี้ยม “พี่น้องทั้งหลาย นี่คือศึกหินศึกหนึ่ง รอเมื่อเริ่มลงมือ ข้าจะจัดการผู้แข็งแกร่งมหาเวทสามคนนั้นเอง ศัตรูคนอื่นๆ ก็มอบให้พวกเจ้าแล้ว”

ทุกคนต่างรับคำสั่ง

เพียงแต่ก่อนจะเริ่มลงมือหูทงลังเลอยู่เล็กน้อย สุดท้ายก็กล่าวกำชับ “อาปี้ ภารกิจของเจ้าก็คือปกป้องคุณชายหลิน จะต้องรับรองความปลอดภัยของคุณชายหลินให้ได้”

ครั้นประโยคนี้เอ่ยออกมา อาปี้กลับไม่มีปัญหาอะไร แต่หลิ่วเหวิน หยางสยงและคนอื่นๆ ต่างขมวดคิ้ว สีหน้าท่าทางเปี่ยมด้วยความเหยียดหยามและดูหมิ่น

พูดไปพูดมา จนแล้วจนรอด เจ้าหนุ่มนี่ก็ยังต้องให้พวกเขาปกป้องอยู่ดี ช่างน่ารังเกียจนัก

แต่ว่าศึกใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว พวกเขาเองก็ไม่มีแก่ใจจะไปเสียดสีและกระทบกระเทียบหลินสวินอีกต่อไป ติดตามหูทงไปทันที เคลื่อนไหวลับๆ มุ่งหน้าไปยังหุบเขาพยัคฆ์ที่อยู่ห่างออกไป

“เจ้าเองก็ไปเถอะ รู้อยู่แล้วว่าเจ้าคันไม้คันมือ” หลินสวินมองอาปี้ที่อยู่ข้างกายปราดหนึ่ง

“ไม่ได้ ข้าต้องคอยอยู่ข้างๆ เจ้า เผื่อเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นกับเจ้า หัวหน้าต้องฆ่าข้าแน่ๆ” อาปี้ส่ายหน้า

หลินสวินเห็นดังนี้พลันถอนหายใจอยู่ในทรวง ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว รอให้ภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นก็จะจากไปทันที เขายินดีปฏิบัติการเพียงลำพัง ดีกว่าถูกคนเหยียบย่ำและกีดกันอีก

ทั้งสองพุ่งไปยังหุบเขาพยัคฆ์ด้วยกัน อยู่รั้งท้ายไกลออกมา

ฉึบๆๆ!

สิ้นหนักทึบระลอกหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่เฝ้าหุบเขาพยัคฆ์ถูกพวกหูทงฆ่าตายอย่างเงียบเชียบ นอนราบกับพื้น ไม่ได้ก่อให้เกิดเสียงใดๆ

นี่เป็นการเปิดฉากที่ไม่เลวเลย

พวกหูทงต่างกระปรี้กระเปร่า แต่อย่างไรเสียพวกเขาล้วนเป็นพวกผ่านศึกมาร้อยสมรภูมิ แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังคงรักษาอาการตื่นตัวและเฝ้าระวัง ลอบเคลื่อนขบวนอย่างระแวดระวัง

ภายในหุบเขาพยัคฆ์เป็นผืนหาดทรายที่กว้างขวางอย่างที่สุด ลำธารแห้งแล้งสายหนึ่งกลายเป็นโกรกธาร คดเคี้ยวอยู่ภายใน

นอกจากนี้ บริเวณส่วนลึกของหุบเขายังมีถ้ำอุโมงค์ที่ถูกขุดเจาะจำนวนมาก นั่นคือเหมืองแร่ แร่ล้ำค่าอย่าง ‘เหล็กดาราจรัสสลาย’ ก็ถูกขุดออกมาจากที่นี่ด้วย

เพียงแต่ที่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกหูทงคือ พวกเขาแทบไม่พบอุปสรรคใดๆ ก็แฝงเร้นเข้าสู่ส่วนลึกของหุบเขาพยัคฆ์ได้แล้ว

ตลอดทางสังหารไปเพียงทหารยามเผ่าพ่อมดเถื่อนหนึ่งกลุ่ม แต่ทั้งหมดล้วนเป็นพวกตัวประกอบ ไม่ควรค่าให้ชายตาแล

“คงไม่ใช่ว่าพวกเศษสวะพ่อมดเถื่อนนั่นรู้ว่าพวกเราจะมา จึงวิ่งเข้าไปซ่อนตัวในเหมืองนั่นหรอกกระมัง” หลิ่วเหวินกล่าวติดตลก

คนอื่นๆ ก็อดครื้นเครงไม่ได้ มีเพียงหูทงที่มุ่นคิ้วอยู่คนเดียว เขาสัมผัสได้ว่าสถานการณ์ชักจะไม่ชอบมาพากล การป้องกันของศัตรูหละหลวมเกินไป ไม่ได้กวดขันเหมือนอย่างที่กล่าวในข้อมูลเลยแม้แต่น้อย

“เหนี่ยวนกเขา ละแวกนี้มีร่องรอยการถอยร่นของศัตรูหรือไม่” หูทงถามโดยพลัน

ผู้ที่ถูกเรียกว่าเหยี่ยวนกเขาคือชายหนุ่มรูปร่างผอมกะหร่องคนหนึ่ง เป็นสายสืบในขบวน เขาส่ายหน้า “ไม่มี”

ภายในใจของหูทงผุดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาวูบหนึ่ง

และขณะนั้นเอง ปากถ้ำเหมืองแห่งหนึ่งในส่วนลึกของหุบเขาพยัคฆ์ จู่ๆ พลันปรากฏเงาร่างสายหนึ่ง เป็นทหารยามเผ่าพ่อมดเถื่อนคนหนึ่ง ตอนที่เห็นพวกหูทงก็พลันส่งเสียงร้อง “ศัตรูบุก! ศัตรูบุก…”

ฟุ่บ!

ธนูดอกหนึ่งพุ่งออกมา เจาะลำคอของทหารยามเผ่าพ่อมดเถื่อนคนนั้นอย่างแม่นยำ นำมาซึ่งโลหิตร้อนลวกเป็นสาย ตายคาที่

หยางสยงเก็บคันธนู หัวเราะร่า “ที่แท้ก็เหมือนหลิ่วเหวินพูดเอาไว้จริงๆ พวกเศษสวะนั่นเข้าไปซ่อนอยู่ในส่วนลึกของเหมืองเหมือนหนูไม่มีผิด!”

“เตรียมพร้อมต่อสู้!”

หูทงสูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก นัยน์ตาฉายแสงเย็นเยียบออกมา ภารกิจครั้งนี้มาถึงจุดสำคัญแล้ว ขอเพียงพิชิตชัยได้ พวกเขาก็จะกลับไปพร้อมความสำเร็จเต็มเปี่ยม

ไม่นานในถ้ำเหมืองแต่ละแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในส่วนลึกของหุบเขาพยัคฆ์ ก็มีเงาร่างสายแล้วสายเล่าพุ่งออกมาแน่นขนัด เหมือนกับหนูที่ออกมาจากพื้นดินไม่มีผิด

พวกเขาส่งเสียงร้องลั่นคำรามเดือด ไอสังหารพลุ่งพล่าน

เพียงแต่ยามที่พวกเขาเพิ่งปรากฏตัวนั้น ก็ประสบกับการโจมตีเต็มกำลังจากพวกหูทง ชั่วขณะเดียวพื้นที่บริเวณนั้นมีเลือดนองเป็นแอ่ง ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากเพิ่งปรากฏกายก็ถูกฆ่าตายคาที่

สิ่งนี้ทำให้พวกหูทงต่างฮึกเหิม พละกำลังเต็มเหนี่ยว สำแดงความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคนออกมา จู่โจมสังหารผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนพวกนั้นสุดกำลัง

“ดูท่า ภารกิจครั้งนี้กำลังจะสิ้นสุดในไม่ช้า”

ปากทางเข้าหุบเขาพยัคฆ์ อาปี้มองดูทั้งหมดนี้อยู่ไกลๆ มุมปากผุดความผ่อนคลายขึ้นเสี้ยวหนึ่ง

“สถานการณ์ไม่ถูกต้อง”

เพียงแต่หลินสวินที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง นัยน์ตาดำลึกล้ำพลันหรี่ลง

อาปี้อึ้งงัน

และในตอนนั้นเอง เสียงเคร่งครัดเย็นชาเสียงหนึ่งพลันดังก้องขึ้น “เศษสวะเผ่ามนุษย์ต่ำช้า ถึงขั้นกล้ามาทำลายการใหญ่ของพวกข้าในเวลานี้!”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน มีเสียงแตกต่างกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล้วนเย็นชาและน่าเกรงขามอย่างเห็นได้ชัด

“ทุกท่าน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ข่าวรั่วไหล มาร่วมกันลงมือเถิด วันนี้ จะต้องไม่ให้ผู้ใดหนีออกไปได้เด็ดขาด!”

“ย่อมเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว!”

ทันทีทันใด ในหุบเขาพยัคฆ์ล้วนมีเสียงเหล่านั้นก้องสะท้อน ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

และบริเวณปากถ้ำเหมืองเหล่านั้น พลันปรากฏเงาร่างน่าสะพรึงร่างแล้วร่างเล่า ทันทีที่พวกเขาปรากฏกาย กลิ่นอายอันน่าสะพรึงก็แผ่ขยายทั่วลาน กดดันเสียจนอากาศร้องโหยหวน

“ผู้แข็งแกร่งมหาเวทของเผ่าพ่อมดเถื่อนเก้าคนเต็มๆ!”

ภายในใจหูทงกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมหาใดเปรียบ

หลิ่วเหวิน หยางสยงและคนอื่นๆ ที่แต่เดิมเหิมฮึกพิฆาตศัตรู เวลานี้ต่างก็ชาไปทั้งหัว หน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่ได้

เหตุใดถึง…

ในข่าวไม่ได้บอกว่า ที่นี่อย่างมากก็มีผู้แข็งแกร่งมหาเวทสามคนบัญชาการอยู่หรอกหรือ ไฉนจู่ๆ ถึงโผล่มาเพิ่มอีกหกคนได้

สิ่งที่ทำให้พวกหูทงหนังศีรษะชาวาบมากที่สุดคือ ตามหลังผู้แข็งแกร่งมหาเวทเก้าคนนั้นปรากฏตัว ยังมีกองกำลังชั้นยอดซึ่งมาจากทั้งเผ่าพ่อมดเถื่อนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า

หนาแน่นเป็นขนัด อย่างน้อยๆ มีจำนวนมากถึงหลายร้อยหลายพันคน!

“แย่แล้ว!”

“ถอย!”

พวกหูทงผ่านประสบการศึกนองเลือดมาช้านาน ไหนเลยจะไม่เข้าใจว่าครั้งนี้เผชิญหน้ากับอันตรายกะทันหันแล้ว ตัดสินใจถอยทัพอย่างเด็ดขาดโดยแทบจะเป็นไปตามจิตใต้สำนึก

“เฮอะๆ คิดหนี? สายไปแล้ว!”

ที่มาพร้อมกับเสียงคำรามดุจฟ้าร้องนั้น คือค่ายกลรอยสัญลักษณ์ขนาดใหญ่อันลึกลับ ที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันเหนือเวิ้งฟ้าทั่วทั้งหุบเขาพยัคฆ์!

สัญลักษณ์สีเลือดลึกลับและคลุมเครือแผ่แสงเรืองน่ากลัวออกมา พุ่งไปยังสี่ทิศแปดด้าน ปกคลุมหุบเขาพยัคฆ์ทุกส่วน บังเกิดกลิ่นอายสุดหยั่งที่ราวกับผนึกต้องห้าม

ตูม!

ชั่วขณะนั้น ทั่วทั้งหุบเขาพยัคฆ์ดูคล้ายมองไม่เห็น ถูกค่ายกลสัญลักษณ์ขนาดใหญ่สีแดงฉานดั่งโลหิตปกคลุมไปทั้งผืน!

แม้จะเป็นหลินสวินและอาปี้ที่ยืนอยู่ปากทางเข้าหุบเขาพยัคฆ์ ต่างยังวิ่งหนีไม่ทัน เส้นทางล่าถอยทั้งหมดถูกตัดขาด

ทันใดนั้นหัวใจของพวกหูทงล้วนเย็นวูบ ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง สีหน้าเหยเกถึงขีดสุด

เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้

ข่าวกรองมีความผิดพลาดหรือ

…………….