เมือง

ไม่นานหลังจากที่ทีมของซือเฟิงจากไป สถานการณ์ที่บริเวณเส้นเลือดแร่เงินปีศาจก็เงียบลงอย่างมาก และทุกคนก็สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของคนแปลกหน้าเหล่านี้มากๆ

นี่เขาได้รับคำเชิญจากผู้อาวุโสสูงสุดอดอล์ฟจริงๆงั้นหรอ ? ผู้ชายคนนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ดูเหมือนว่าตระกูลหลงนั้นมีสิทจะชนะการแข่งขันในครั้งต่อไปอย่างมากเลยทีเดียว ผู้อาวุโสที่เป็นราชันเบอเซิกเกอร์จากหอการค้าอาซูนั้นครุ่นคิด ขณะที่เขาจ้องมองไปยังทิศทางที่ทีมของซือเฟิงจากไป นอกจากนี้ตอนนี้เขายังรู้สึกว่ามันมีความจำเป็นเร่งด่วนมากๆที่จะต้องกระชับความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลหลงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หากผู้เล่นต้องการจะเติบโตอย่างรวดเร็วใน God domain ทรัพยากรนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามไอเทมต่างๆเช่นอาวุธ อุปกรณ์ รวมไปถึงหนังสือสกิล และเทคนิคการต่อสู้นั้นจะต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากกว่าจะได้รับมันมา โดยเฉพาะยิ่งสำหรับผู้เล่นที่มักจะทำอะไรต่างๆคนเดียว หากผู้เล่นต้องการจะตามผู้เล่นชั้นแนวหน้าให้ทัน พวกเขาก็จำเป็นจะต้องทำทุกอย่างตามเป้าให้สำเร็จ แม้ว่ามันจะเป็นการทำงานจนตายก็ตาม ดังนั้นผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ต้องการจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็วนั้นจึงจำเป็นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ หรือไม่ก็มหาอำนาจเพื่อที่ว่าพวกเขานั้นจะได้มุ่งเน้นไปที่การเก็บเลเวล และปรับปรุงมาตราฐานการต่อสู้ของพวกเขาได้

ด้วยเหตุนี้การเอาชนะผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการสนับสนุนที่ทรงพลังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้เล่นอิสระ

มันมีตระกูลหลักอยู่หลายตระกูลที่ทำหน้าที่ควบคุมทรัพยากรส่วนใหญ่ของหอการค้าอาซูอยู่ และแม้แต่ผู้อาวุโสแบบตัวเขาเองนั้นก็ควบคุมได้แค่เพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น โดยไม่สามารถจะเทียบกับสิ่งที่พวกตระกูลหลักสามารถเข้าถึงได้เลย ตระกูลเหล่านี้นั้นเป็นผู้ที่ริเริ่มก่อตั้งหอการค้าอาซู และพวกเขาก็ถือหุ้นส่วนใหญ่ของหอการค้าอาซูอยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทรัพยากรส่วนใหญ่ของหอการค้าอาซูจะถูกจัดสรรให้กับพวกเขา
ในความเป็นจริง การแข่งขันประจำปีระหว่างรุ่นเยาว์ของตระกูลผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่นั้นคือตัวกำหนดเลยว่าจะจัดสรรทรัพยากรอย่างไร และการแข่งขันประจำปีที่กำลังจะมาถึงก็จะดุเดือดเป็นพิเศษแน่นอน เนื่องจากตระกูลหลักเหล่านี้ได้เริ่มวางแผนจะทุ่มทุกอย่างที่มีให้กับ God domain เพราะท้ายที่สุดตอนนี้เกมนี้มันเริ่มมีอิทธิพลในโลกจริงอย่างมากแล้ว และผลกำไรที่หอการค้าอาซูได้รับจากเกมๆนี้ก็มากยิ่งกว่าที่พวกเขาเคยได้รับจากเกมเสมือนจริงในอดีตอย่างมาก

ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นได้รับการสนับสนุนจากสัตว์ประหลาดที่แท้จริงอย่างซือเฟิง ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้เลยว่าการแสดงของเธอในการแข่งขันครั้งต่อไปจะไม่ธรรมดาแน่นอน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตระกูลหลงนั้นมีสิทจะได้รับทรัพยากรของหอการค้าอาซูมากกว่าที่พวกเขาได้รับอยู่ในปัจจุบันซะอีก

แบล๊คเฟรมมาถึงทวีปด้านตะวันตกได้แล้วยังไงล่ะ ? ฉันจะเอาชนะไซเร้นวอร์นเดอร์ให้ได้ในการแข่งขันครั้งต่อไป !!! หยานเซี่ยวเฉียนนั้นมองไปยังราชันเบอเซิกเกอร์ด้วยความรังเกียจ ดูจากท่าทีของเขาแล้ว เขากะจะเข้าไปอยู่ฝั่งของตระกูลหลงในระยะยาวแน่นอน

แม้ว่าเธอจะไม่คาดคิดว่าซือเฟิงจะเดินทางมายังทวีปด้านตะวันตกได้ และก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถจะช่วยให้ไซเร้นวอร์นเดอร์เอาชนะเธอได้แน่นอน การแข่งขันในครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นนั้นจะไม่ใช่การแข่งขันเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุหรือมาตราฐานอุปกรณ์ แต่มันจะเป็นการแข่งขันเพื่อวัดมาตราฐานพลังการต่อสู้ของแต่ละคน ซึ่งความแข็งแกร่งนั้นก็เป็นทุกอย่างใน God domain และพลังการต่อสู้นี้ก็จะเป็นตัวกำหนดว่าใครกันที่จะได้รับทรัพยากรมากกว่ากัน

ไม่เพียงต่อการต่อสู้ในทวีปด้านตะวันตกนั้นจะรุนแรงกว่าทวีปด้านตะวันออก แต่ที่นี่ยังมีมรดกและทรัพยากรจำนวนมากที่ช่วยปรับปรุงมาตราฐานการต่อสู้ของผู้เล่นได้อย่างรวดเร็ว และการได้ต่อสู้กับกองทัพสัตว์ปีศาจอยู่เรื่อยๆนั้นก็นับเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง และเป็นผลประโยชน์ที่ทวีปด้านตะวันตกมีให้ผู้เล่น แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะทุ่มทุกอย่างที่มีให้กับการพัฒนาของไซเร้นวอร์นเดอร์ แต่เธอก็ไม่มีทางจะเทียบกับหยานเซี่ยวเฉียนและอัจฉริยะคนอื่นๆของหอการค้าอาซูที่ฝึกฝนอยู่ในทวีปด้านตะวันตกได้แน่นอน

นี่เป็นเหตุผลที่หลงเซี่ยงหลงนั้นพยายามจะนำไซเร้นวอร์นเดอร์มายังทีวปด้านตะวันตก หลังจากการแข่งขันครั้งล่าสุด แต่ซือเฟิงกับยืนยันอย่างน่าขำว่าสภาสิบแปดปีกนั้นสามารถจะช่วยเธอได้มากกว่าหอการค้าอาซู ซึ่งเป็นมหาอำนาจที่สามารถเดินทางไปมาระหว่างทวีปสองด้านได้

หลังจากทีมของซือเฟิงจากไป หอการค้าอาซูและเผ่าศักสิทธิ์นั้นก็ได้หยุดการต่อสู้ระหว่างกันลงทันที แม๊คอาฟรี่ ผู้ซึ่งรับผิดชอบบัญชาการ การต่อสู้ครั้งนี้ในนามของเผ่าศักสิทธิ์เองก็ไม่มีอารมณ์ที่จะต่อสู้ใดๆอีกต่อไป และกองทัพของเขาก็มีท่าทีผ่อนคลายลงเล็กน้อยจากเดิม ซึ่งเขาก็ได้สั่งให้ทุกคนถอยกลับไปยังเมืองสิงโตเงิน พร้อมกับคริสสันวิชและคนอื่นๆทันที ซึ่งเขาก็ต้องการจะพูดคุยกับผู้อาวุโสสูงสุดและต้องการคำอธิบาย

แม้ว่าซือเฟิงจะเป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง แต่เผ่าศักสิทธิ์นั้นก็ไม่ใช่มหาอำนาจทั่วไป หลังจากที่ทำการจ่ายค่าชดเชยจำนวนมากแบบนี้ให้กับคนแปลกหน้า กิลจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะท่ามกลางมหาอำนาจในทวีปด้านตะวันตกแน่นอน

จักรวรรดิจันทราสีเงิน เมืองสิงโตเงิน :

ลำแสงหลายดวงนั้นส่องสว่างที่ห้องเทเลพอร์ตของเมือง ขณะที่ทีมของซือเฟิงนั้นก็ได้เข้าสู่เมืองสิงโตเงิน ซึ่งเป็นเมือง NPC ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจักรวรรดิจันทราสีเงินภายใต้การนำของผู้อาวุโสสูงสุดอดอล์ฟ

ทันทีที่ซือเฟิงและคนของเขาโผล่ออกมาจากห้องเทเลพอร์ต พวกเขาก็ได้ตระหนักว่าเมืองของ NPC ในทวีปด้านตะวันตกนั้นแตกต่างจากด้านตะวันออกอย่างมาก และแม้แต่บรรยากาศภายในเมืองก็แตกต่างกัน

“นี่คือเมืองในทวีปด้านตะวันตกงั้นหรอ ?” อควาโรสนั้นหมุนตัวสังเกตสภาพแวดล้อม
รอบๆไปอย่างช้าๆด้วยความประหลาดใจ

ในทวีปด้านตะวันออกโดยทั่วไปเมืองของ NPC จะมีบรรยากาศที่เงียบสงบมากๆ แต่อย่างไรก็ตามบรรยากาศภายในเมืองสิงโตเงินนี้มมันกับตึงเครียดเป็นพิเศษ และมันก็รู้สึกราวกับว่าทั้งผู้เล่นและ NPC นั้นพร้อมรบอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความประหลาดใจมากๆ เมื่อเห็นว่าถนนในเมืองนั้นไม่ได้มีทหาร NPC คอยลาดตระเวน แต่เป็นสมาชิกของเผ่าศักสิทธิ์กับสมาคมนักผจญภัยเท่านั้นที่คอยจัดการลาดตระเวนและตรวจสอบความเรียบร้อยของเมือง โดยมันมีผู้เล่นบางส่วนที่ทำงานให้กับสมาคมนักผจญภัยโดยตรงซึ่งทำหน้าที่เก็บค่าเข้าเมืองด้วยซ้ำ โดยมันดูเหมือนว่าเมืองนี้นั้นจะได้รับการจัดการโดยผู้เล่นที่ถูกว่าจ้างจากสมาคมนักผจญภัย

ขณะที่ซือเฟิงและคนอื่นๆติดตามอดอล์ฟที่พาทัวเมืองไปติดๆ พวกเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงลิ่วของผู้เล่นโดยรอบเลย และผู้เล่นเหล่านี้นั้นสามารถควบคุมมานาได้ดีกว่าผู้เล่นในทวีปด้านตะวันออกมาก สิ่งนี้มันชัดเจนมากโดยอ้างอิงจากม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์จำนวนมากที่มีขายในร้านค้า และตามแผงลอยริมถนน

แม้ว่าผู้เล่นผู้เล่นฝั่งทวีปด้านตะวันออกจะขายม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์เช่นกัน แต่มันก็มักจะเป็นไอเทมคุณภาพต่ำมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแค่ม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์ขั้นหนึ่งเท่านั้น และม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์ขั้นสองกับขั้นสามนั้นก็จัดว่าหายากมากๆ

อย่างไรก็ตาม ในเมืองสิงโตเงินนี้ พวกเขากับพบเห็นม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์ขั้นสองวางขายอยู่ทั่วไป ขณะที่ร้านค้าบางแห่งนั้นก็ถึงขั้นขายม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์ขั้นสามด้วยซ้ำ และที่นี่วงเวทย์บาเรียขั้นกลางก็ถูกกว่าที่ทวีปด้านตะวันออกราวห้าสิบเปอเซ็นต์เลยทีเดียว

แน่นอนว่าซือเฟิงไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้เลย

ทวีปด้านตะวันตกนั้นต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดกับกองทัพสัตว์ปีศาจมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้นงานวิจัยด้านเวทย์มนต์ของพวกเขาจึงไปไกลกว่าทวีปด้านตะวันออกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการใช้มานา อันที่จริงที่นี่พวกเขามีวิธีการจำนวนหนึ่งที่จะสามารถใช้เพื่อปรับปรุงและให้ผู้เล่นเรียนรู้การควบคุมมานาได้ดีขึ้นด้วย

การควบคุมมานานั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนักเวทย์ เพราะยิ่งการควบคุมมานาของนักเวทย์ดีเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งสร้างวงเวทย์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น และเนื่องจากในทวีปด้านตะวันตกนั้นมีนักเวทย์ทำการวิจัยเรื่องนี้มากกว่าที่ทวีปด้านตะวันออก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่ในด้านนี้ทวีปด้านตะวันตกจะพัฒนาไปมากกว่าทวีปด้านตะวันออก ซือเฟิงนั้นคิดไว้แล้วด้วยซ้ำว่ามหาอำนาจในทวีปด้านตะวันตกน่าจะมีปรมาจารย์นักเวทย์แล้วในระยะนี้ของเกม

ด้วยผู้เล่นจำนวนมากที่ทำการเรียนรู้อาชีพรองเป็นนักเวทย์ นอกจากนี้สัตว์ปีศาจที่นี่ยังจะดรอปแกนเวทย์ และวัสดุอื่นๆที่จำเป็นในการสร้างวงเวทย์ออกมาเมื่อตาย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่ของพวกนี้จะมีราคาถูกกว่าที่ทวีปด้านตะวันออก

ซึ่งนี่มันก็ทำให้มหาอำนาจจากทวีปด้านตะวันออกที่สามารถเดินทางมาที่ทวีปด้านตะวันตกได้นั้น มักจะใช้ประโยชน์จากข้อนี้ และทำการจัดซื้อม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์กับม้วนคัมภีร์วงเวทย์จำนวนมาก ซึ่งนี่มันก็ทำให้พวกเขานั้นสามารถทำกำไรได้อย่างมาก และมันก็ช่วยเพิ่มความเร็วในการพัฒนาของสมาชิกพวกเขาได้อย่างมาก

อย่างไรก็ตามหลังจากที่อดอล์ฟพาพวกเขาเข้าสู่ถนนสายหลักของเมืองสิงโตเงินนั้น แม้แต่ซือเฟิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับสิ่งที่เขาได้เห็น เมืองนี้นั้นมีผู้เชี่ยวชาญอิสระขั้นสามจำนวนมากจริงๆ แม้ว่าจะไม่เทียบเท่ากับเมืองป่าหิน แต่มันก็มีจำนวนที่น่ากลัวและมากกว่าเมือง NPC ในทวีปด้านตะวันออกหลายเมืองอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของผู้เล่นขั้นสามเหล่านี้ยังสูงอย่างน่าประหลาดใจ

ซือเฟิงนั้นได้เห็นเรื่องนี้มาจากทีมของแม๊คอาฟรี่แล้ว อย่างไรก็ตามเขาก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะทีมๆนี้นั้นเป็นถึงกองกำลังหลักของเผ่าศักสิทธิ์ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพูดแบบเดียวกันได้กับผู้เชี่ยวชาญอิสระขั้นสามพวกนี้

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณนี่ดูค่อนข้างจะตกตะลึงเกี่ยวกับคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของผู้เล่นอิสระของเรานะ …” อดอล์ฟกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาเห็นท่าทีของซือเฟิง

“แน่นอนสิ ตามหลักแล้วเครื่องมือที่สามารถปรับปรุงคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของผู้เล่นได้นั้นน่าจะหายากมากๆ และควรจะมีเพียงแค่มหาอำนาจต่างๆเท่านั้นที่จะมีความสามารถในการได้รับเครื่องมือแบบนี้มา ซึ่งแม้แต่ผู้เล่นอิสระที่ทรงพลังมากเป็นพิเศษก็ยังคงจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการรับเอาเครื่องมือเหล่านี้แน่นอน แต่ที่นี่ผู้เล่นอิสระจำนวนมากกับประสบความสำเร็จ นี่มันน่าตกตะลึงมากจริงๆ” ซือเฟิงกล่าพลางพยักหน้า

“พูดกันตามจริง นี่คือเหตุผลที่ฉันหยุดแม๊คอาฟรี่ และเชิญคุณมาที่นี่” อดอล์ฟพูดพลางหัวเราะเบาๆ “เผ่าศักสิทธิ์นั้นต้องการจะเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจระยะยาวกับคุณ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม และหนึ่งในสิ่งที่เราตั้งใจจะนำเสนอคือสายเลือดพิเศษ ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของผู้เล่นได้ คุณสนใจไหม ?”

“ข้อตกลงทางธุรกิจ ? ดูเหมือนว่าคุณจะตรวจสอบพวกเรามาอย่างดีเลยนะ ผู้อาวุโสสูงสุด …” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ก็แน่นอน ก่อนที่แม๊คอาฟรี่จะรายงานการปรากฎตัวของคุณมาที่สำนักงานใหญ่หลักของเรา ฉันก็ได้ทำการตรวจสอบคุณ และกิลของคุณมาอย่างละเอียดแล้ว มันมีกิลไม่มากนักหรอกนะที่สามารถจะเสนอราคาสูงกว่าไมโทโลจี้ได้” อดอล์ฟกล่าวพลางพยักหน้า “ฉันเองก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะสามารถเข้ามาที่ทวีปด้านตะวันตกได้เช่นกัน หากไมโทโลจี้รู้เรื่องนี้ พวกเขาจะต้องประหลาดใจมากแน่นอน”

“นี่คือเหตุผลที่คุณหยุดแม๊คอาฟรี่ และเชิญฉันมาเพื่อเจรจาเป็นหุ้นส่วนสินะ …” คำอธิบายของอดอล์ฟทำให้ซือเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าข่าวจากทวีปด้านตะวันออกจะมาถึงทวีปด้านตะวันตกเร็วขนาดนี้

มันไม่ควรมีการติดต่อกันมากนักระหว่างทวีปทั้งสองด้านในระยะนี้ของเกม และทั้งสองฝ่ายก็แทบไม่ได้ทำวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลย ทุกคนนั้นยังคงยุ่งอยู่กับเป้าหมายในทวีปด้านของตัวเอง แล้วใครกันจะมีเวลามากพอมาสนใจเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ?

“แน่นอน มันมีมหาอำนาจน้อยมากที่สามารถเดินทางไปมาระหว่างทวีปทั้งสองด้านได้ และเผ่าศักสิทธิ์นั้นก็พยายามจะส่งผู้เล่นไปยังทวีปด้านตะวันออกเพื่อพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็ยังไม่พบวิธีการเดินทางที่เหมาะสม และแม้ว่าเราจะพิจารณาการทำงานร่วมกับมหาอำนาจอื่นๆที่สามารถทำได้ แต่ราคาของพวกเขาก็สูงเกินไป” อดอล์ฟกล่าว “ซึ่งมันก็นำให้เรามาเจอคุณ การมาถึงของคุณนับเป็นข่าวดีสำหรับเผ่าศักสิทธิ์ และฉันก็เชื่อว่าสภาสิบแปดปีกนั้นต้องการพันธมิตรที่ทรงพลังในทวีปด้านตะวันตก แม้ว่าคุณจะสามารถจัดหาทรัพยากรจำนวนมากเองได้ แต่คุณก็ไม่ได้มีคอนเนคชั่นที่จะทำการซื้อขายกันได้ที่นี่”

ตามที่อดอล์ฟตรวจสอบมา แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็ยังต้องเจอกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่พวกเขาต้องการผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจำนวนมากอย่างเร่งด่วนเพื่อมาปกป้องกิล ไม่งั้น มันจะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่กิลจะพินาศลงภายใต้แรงกดดันที่ตัวเองสร้างขึ้น

โชคดีที่เผ่าศักสิทธิ์นั้นสามารถจะช่วยให้สภาสิบแปดปีกแก้ไขปัญหานี้ได้

“คุณพูดถูก สภาสิบแปดปีกต้องการพันธมิตรที่ทรงพลังในทวีปด้านตะวันตก และเผ่าศักสิทธิ์ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมาก อย่างไรก็ตามฉันมีคำขอหนึ่งข้อ” ซือเฟิงกล่าว เขาเห็นด้วยกับคำพูดของอดอล์ฟอย่างมาก

ในตอนแรกเขาได้พิจารณาถึงการที่จะเป็นพันธมิตรกับหอการค้าอาซูซึ่งมีความสามารถในการเดินทางไปมาระหว่างทวีปทั้งสองด้านอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะส่งไซเร้นวอร์นเดอร์ไปเจรจา แต่เขาก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างจำกัดมากๆ

“คำขอ ?” อดอล์ฟกล่าวอย่างสงสัย “โปรดลองบอกฉันมาหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม”

“มันง่ายมาก ฉันต้องการจะสร้างเมืองขึ้นในทวีปด้านตะวันตก หากเผ่าศักสิทธิ์ยินดีช่วยเหลือสภาสิบแปดปีกในเรื่องนี้ เผ่าศักสิทธิ์ก็จะเป็นพันธมิตรแต่เพียงผู้เดียวของสภาสิบแปดปีกในทวีปด้านตะวันตก” ซือเฟิงกล่าวคำพูดของเขาอย่างจริงจัง