GMC ตอนที่ 819 ความนิยมที่กลับมา
“เชิญ”
ชิงหยางกล่าวส่งซูฮ่าวและเหว่ยจ้วงออกไปอย่างสงบ ใบหน้าของเขาแสดงรอยยิ้ม ท่าทางที่ไม่แยแสของเขาเผยให้เห็นความสง่างามของเอสเปอร์โลกที่แตกต่างจากมืดสนิทก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพียงจินตนาการของทุกคน
“ศิษย์พี่ไม่ใช่ว่าคลั่งไปแล้วงั้นเหรอ” สมาชิกที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิครู้สึกโล่งใจ
“โอ้เจ้าไปได้ยินมาจากไหน?”
“เจ้าเห็นหรือไม่ในตอนนี้ศิษย์พี่ใจเย็นขนาดไหน” เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคอีกคนชี้ไปที่ชิงหยาง
“ข้าได้ยินมาว่าศิษย์พี่โกรธอย่างมากจนเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปเขาจึงใช้กฏแห่งพลังรักษาความสงบของร่างกายให้มากที่สุด…”
เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคบางคนตัวสั่นเมื่อได้ยินสิ่งนี้
กฏแห่งพลัง? เขาใช้มันเพื่อควบคุมการแสดงออก? หรือเป็นเพราะกฎแห่งพลังของเขามีมากเกินไป จนเขาไม่รู้จะใช้มันทําอะไร หรือผู้อาวุโสชิงหยางกําลังจะปะทุขึ้นแล้ว
“ดีใจที่ได้ร่วมมือกับคุณ” ซูฮ่าวจับมือเขาด้วยรอยยิ้มจากนั้นก็นําเหว่ยจ้วงจากไป
“กลับกันเถอะ”
ขณะที่มองการจากไปของซูฮ่าว ชิงหยางยังคงไม่แยแสราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามตามบันทึกระบุว่าในช่วงบ่ายของวันนั้นสมาคมความสามารถต้นกําเนิดสาขานี้ถูกทําลายด้วยกฏแห่งพลังซึ่งทําให้ทุกคนตกใจ มีเรื่องเล่ากันว่าผู้อาวุโสชิงหยางใช้กฎแห่งพลังทําลายกิ่งไม้เพื่อระบายความโกรธแค้น..
ตระกูลเทียน
ที่ห้องโถงหลัก
คนดูแลของตระกูลเทียนกําลังคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ แม้แต่เทียนกังและเทียนฉีก็อยู่ที่นั่น เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเซี่ยเคอและคนอื่นๆ กลับมาแล้ว ก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกดีใจ
“แล้วอาร์ติเฟคล่ะ?” ผู้อาวุโสถามอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเซี่ยเคอและคนอื่นๆ กลับมา
เซี่ยเคอดูเศร้าๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” ในใจของผู้อาวุโสรู้สึกไม่ดี “หรือว่า…”
“ผมขอโทษ” เชี่ยเคอเสียใจและพูดด้วยน้ำเสียงอับอาย “ภารกิจล้มเหลว”
“อะไรนะ?”
ทุกคนตกใจ เมื่อมองที่เชี่ยเคอและคนอื่นๆ ที่กลับมาโดยไม่เป็นอันตรายใบหน้าของพวกเขาก็เผยท่าทีแปลกๆ “พวกเจ้าไม่พบอาร์ติเฟคงั้นเหรอ”
เมื่อลองคิด นั่นเป็นคําอธิบายเดียว
ภายใต้สถานการณ์ปกติเมื่อภารกิจล้มเหลวทั้งทีมย่อมถูกทําลาย สําหรับการที่เซี่ยเคอและคนอื่นๆ สามารถกลับมาอย่างปกตินั่นอาจหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เซี่ยเคอยิ้มอย่างขมขึ้นและกําลังจะพูดอะไรบางอย่าง เทียนซีผู้ที่ดูเงียบๆ ทันใดนั้นก็พูดขึ้น “เพื่อนร่วมทีมของเจ้าอยู่ที่ไหนชายที่ชื่อหลินฮูคนนั้น”
“หืม?”
ทุกคนมองแล้วสังเกตเห็นว่าแม้จะไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ก็มีเพียงแปดคนเท่านั้นมีสองคนหายไป!
“ตาย”
เซี่ยเคอดูเศร้าและเขาอธิบายทุกอย่างแบบย่อๆ หลังจากฟังแล้วทุกคนก็ตกตะลึง เอสเปอร์โลก! เอสเปอร์โลกได้ลงมือด้วยตนเอง! พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเซี่ยเคอและของคนอื่น ด้วยพลังเต็มที่แม้แต่หนึ่งต่อห้าก็ไม่เป็นปัญหา สิ่งเดียวที่สามารถปราบปรามเขาได้ก็คือ เอสเปอร์โลก!
เอสเปอร์โลกที่มีเกียรติยศและสง่าราศีให้ตัวเองมีส่วนร่วมในเรื่องดังกล่าว?
พวกเขาว่างกันถึงเพียงนั้น?
สานตาของเทียนกังดูเย็นชา “ดูเหมือนว่าเราประเมินความแข็งแกร่งของศัตรูต่ำเกินไปภายใต้แรงกดดันของเรา พวกเขายังส่งเอสเปอร์โลกเข้ามาขัดขวางภารกิจของเรา เราจําเป็นต้องตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน ผู้อาวุโสสามให้ผู้ที่เพิ่งทะลวงขอบเขตโลกไปเดินเล่นที่ฝั่งศัตรู”
“อืม” ผู้อาวุโสสามแสดงสีหน้าไร้ความปราณี
“สวนหลินฮู..” เทียนกังถอนหายใจ “ระหว่างการประเมิณเทียนเคิงข้ายังสงสัยเขาอยู่ ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนน่ารักและชอบธรรมเช่นนี้ การยืนขวางเมื่อเจ้าเผชิญกับอันตราย เขาไม่กลัวเลยแม้แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับเอสเปอร์โลก ความสามารถดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตระกูลเทียนของเราต้องการอย่างยิ่ง น่าเสียดาย จริงๆ แล้วข้ามีภารกิจสําคัญที่กําลังมอบให้เขา”
เทียนกังส่ายหัวแล้วทันใดนั้นก็สังเกตเห็นรอยยิ้มที่ไม่อาจปกปิดได้ของเทียนซี เขาขมวดคิ้วดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่าง “ใครสั่งให้หลินฮูทําภารกิจนี้”
เทียนซีตกใจและลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “ข้าเอง”
“โอ้…. นั่งลง” เทียนกังโบกมือและไม่ได้กล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม
บรรยากาศในพื้นที่เกิดความหดหู ทุกคนดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างและจ้องที่เทียนชื่อย่างแปลกๆ ใบหน้าของเทียนซีเปลี่ยนเป็นสีฟ้าชั่วครู่หนึ่ง ไม่เชื่อดวงตาเหล่านั้นกําลังโกรธเขา เขาเพียงแค่ให้หลินฮูออกไปปฏิบัติภารกิจที่อันตราย เขาไม่ได้ส่งคนไปฆ่าหลินฮู!
อย่างไรก็ตามคนอื่นๆ จะเชื่อเขาหรือไม่?
เทียนซี ผู้ซึ่งปีติยินดีกับการเสียชีวิตของหลินฮูราวกับถูกน้ำเย็นสาดในทันที
“ข้าจะไม่โทษพวกเจ้า เนื่องจากเป็นเอสเปอร์โลกลงมือ เจ้าทุกคนย่อมไม่สามารถหยุดเขาได้”เทียนกังมองที่เซี่ยเคอและคนอื่นๆ “กลับไปพักผ่อน เตรียมตัวให้พร้อมสําหรับภารกิจต่อไป”
” ครับ”
เซี่ยเคอและคนอื่นๆ จากไปด้วยความเคารพ
การประชุมวันนี้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว แต่เดิมหากไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเหตุการณ์นี้คงจะไม่สิ้นสุดลงเช่นนี้ อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดว่าในเวลากลางคืนจะมีข่าวที่น่าตกตะลึงส่งมาถึงพวกเขา ชายที่ชื่อหลินฮูคนนั้นกลับมา! เขากลับมา! เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง!
เซียเคอตกตะลึง ทุกคนจาก Team F ต่างก็ตกใจเช่นกัน
ช่วงเวลาที่เทียนกิ่งและผู้อาวุโสคนอื่นได้รับข่าวนี้พวกเขาก็รวบรวมทุกคนมาที่ห้องโถงหลังอีกครั้ง ในขณะเดียวกันซูฮ่าวเองก็อยู่ที่นั่น
“เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ” เชี่ยเคอลูบคําซูฮ่าวเพื่อตรวจสอบว่าเขาเป็นคนจริงหรือไม่
เทียนกังมองดูซูฮ่าว ใช้กฎแห่งพลังเพื่อตรวจสอบ เขาไม่พบร่องรอยการปลอมตัวหรือพลังงานใดๆ ชายคนนี้คือหลินฮูแน่นอน
“เจ้ายังไม่ตาย?”
“ไม่” ซูฮ่าวเกาหัวของเขา
“ข้ามีทักษะต้นกําเนิดที่ทรงพลังซึ่งเมื่อเผชิญกับอันตรายมันจะทําให้ข้าตายไม่ว่าการโจมตีจะรุนแรงแค่ไหน นี่คือเหตุผลที่ข้ารับการโจมตีแทนกัปตันเซี่ยเคอเมื่อเขาตกอยู่ในอันตราย ไม่งั้นข้าคงไม่กล้าสุดโต่งเช่นนั้น”
ซูฮ่าวดูค่อนข้างอึดอัดใจราวกับว่าเขากลัวเล็กน้อยหลังจากเปิดเผยมันออกมา
“เจ้าเด็กเหลือขอ” เซียเคอฟาดไหล่ของเขาอย่างไร้ความปราณี
ทันใดนั้นฝูงชนก็เข้าใจ สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทําไมหลินฮจึงช่วยชีวิตเสี่ยเคออย่างแปลกประหลาด เพราะเขาจะไม่ตายจริงๆ สําหรับทักษะต้นกําเนิดแปลกๆ นั่นของหลินหูพวกเขาเคยได้ยินมาก่อน เป็นเพราะเหตุนี้เองหลินฮูที่สามารถหนีรอดจากความพินาศของเมืองของเขามาได้
“เยี่ยมมาก เจ้ายังมีชีวิตอยู่” สายตาของเทียนกังเผยให้เห็นรอยยิ้ม “ภารกิจนี้ล้มเหลวเนื่องจากสถานการณ์ไม่คาดฝัน ดังนั้นย่อมไม่ส่งผลถึงรางวัลภารกิจ เจ้าทําได้ดีมาก อย่างน้อยก็สามารถกําจัดคนทรยศได้หนึ่งคน”
” ครับ”
ทุกคนตอบ
“พวกเจ้าออกไปได้แล้ว” เทียนกังโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนออกไป
ผู้อาวุโสในห้องต่างกระซิบพูดคุยกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาค่อนข้างพอใจต่อซูฮ่าว คนเช่นนี้เป็นสิ่งที่ตระกูลเทียนต้องการ ความเป็นมิตร ความชอบธรรม ความสามารถพิเศษและเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนร่วมทีม เมื่อเปรียบเทียบกับผู้นําตระกูลอย่างเทียนซีผู้ซึ่งมีจิตใจที่แคบเขายังดีกว่ามาก
มัด!
เทียนซี่กําหมัดแน่น
ไม่จําเป็นต้องพูดอะไร เขาสามารถเดาได้ว่าพวกเขากําลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตามในภารกิจนี้ยังมีบางเรื่องที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้และถามอย่างสงสัย “เนื่องด้วยตราประทับของตระกูลเทียนเรา ทําไมจึงยังมีสายลับ? ชีวิตของพวกเขาอยู่ในมือของเรา แต่พวกเขายังกล้าที่จะก่อกบฏ? เป็นไปได้ที่เซี่ยเคอและคนอื่นๆ จะโกหก?”
เหล่าผู้อาวุโสมองดูเขาแล้วถอนหายใจ
เทียนกิ่งตอบด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง “มีบางสิ่งในสายตาของคนอื่นที่สําคัญกว่า ตัวอย่างเช่นหลินฮยินดีที่จะรับการโจมตีแทนเงี่ยเคอสิ่งที่เราควบคุมคือชีวิตไม่ใช่หัวใจ มิฉะนั้นตระกูลเทียนคงสามารถรวมทั้งโลกเข้าด้วยกันได้แล้ว เรื่องเหล่านี้เจ้าจะเข้าใจมันในอนาคต”
“ถ้าเช่นนั้นจบการประชุม
การประชุมชั่วคราวสิ้นสุดลงและผู้คนต่างแยกย้ายกันจากไป ปล่อยให้เทียนซีมีนงง เขาสามารถมองเห็นความผิดหวังของผู้อาวุโสที่มีต่อเขาและความไม่สนใจของเทียนกัง
ในความเป็นจริงเขารู้แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเทียนลงทุนทรัพยากรจํานวนมากแก่เขา ตําแหน่งผู้นําตระกูลเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นของเขา ไม่ได้เป็นแม้แต่หุ่นเชิด!
เทียนที่มีความอดทนมาโดยตลอด แต่เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป!
ลืมเรื่องในอดีต มาดูตอนนี้? เพียงหลินฮูเพิ่งเข้ามาในตระกูลเทียน ทุกคนในตระกูลเทียนต่างมีความประทับใจในตัวเขามากกว่าชีวเทียนซี
“ข้าจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ข้าเหนือกว่า” เลือดหยดหนึ่งหล่นจากกําปั้นของเทียนซี
*****
ภารกิจเชิงกลยุทธ์แรกสิ้นสุดลง
แม้ว่ามันจะล้มเหลวแต่ผลลัพธ์ก็ยอดเยี่ยม ความกล้าหาญและความเป็นที่รักของซูฮ่าวได้รับความเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกทุกคนในทีม ไม่ว่าใครจะมีความคิดอะไรย่อมไม่มีใครไม่อยากรับสมาชิกในทีมที่เต็มใจรับการโจมตีแทนพวกเขาในช่วงเวลาสําคัญ
ดังนั้นความนิยมของซูฮ่าวจึงเพิ่มขึ้น
เขาไม่เกรงกลัวต่อหน้าเอสเปอร์โลก และข่าวการที่เขาปิดกั้นการโจมตีด้วยตัวคนเดียวแพร่ก ระจายภายในตระกูลเทียน ไม่ว่าใครย่อมรู้จักซูฮ่าว เมื่อเห็นทุกคนจะทักทายซูฮ่าวอย่างสุภาพ ด้วยภารกิจเดียวซูฮ่าวจึงได้รับความนิยมอย่างมากในตระกูลเทียน
“ดูดูดู นั่นคือหลินฮู”
“เขายังเด็กมากทั้งคู่เป็นเอสเปอร์โดเมน แต่ดูเขา”
“ใช่.. เขาดีกว่าเทียนซีมาก”
ผู้คนที่ผ่านไปมาของตระกูลเทียนต่างกระซิบกระซาก
สําหรับซูฮ่าวทุกอย่างดําเนินไปตามแผนที่วางไว้
การก้าวกระโดดอย่างบ้าคลั่งในสมาคมความสามารถต้นกําเนิด ทําให้เขามีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นอีก 20% ในเวลานี้ความคืบหน้าของเขาสูงถึง 80%!
หากมีโอกาสอีกครั้งซูฮ่าวจะสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตโดเมนได้!
ผลตอบแทนที่ได้รับจากตระกูลเทียนนั้นเป็นเพียละอองฝนสําหรับเขา หลายวันมานี้เขาได้บ่มเพาะจนเข้าใจร่างกายของเขา และคุ้นเคยกับทักษะการต่อสู้
เขาต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา
เขาสามารถต่อสู้อย่างสูสีกัเอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์
แม้จะด้วยทะลวงภูเขาเพียงอย่างเดียวและทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานบางอย่างซูฮ่าวก็ยังสามารถต้มยําทําแก่งเอสเปอร์โดเมนสมบูรณ์ได้ด้วยกําลังกายอันล้นหลาม อย่างไรก็ตามมันจะตึงมือมากไปหน่อยหากเขาเผชิญกับเอสเปอร์โดเมนชีวิต หรือ เอสเปอร์โดเมนสูงสุด แต่สองขอบเขตนี้ก็ไม่ต่างกับเขามากนัก
ถึงเขาไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ เขาก็สามารถหนี้ได้
นอกเสียจากว่าเขาจะใช้เข็มไร้เงาศักดิ์สิทธิ์
“มันยังคงเป็นเส้นทางที่ยาวไกล” ซูฮ่าวยังคงฝึกฝน
เขาไม่สามารถฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เข็มไร้เงาศักดิ์สิทธ์ได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะไร้ประโยชน์เมื่อพลังงานกฏแห่งพลังของเขาหมดลง มีเพียงการปรับปรุงความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้นจึงจะเป็นความแข็งแกร่งของเขาอย่างแท้จริง! โดยการทะลวงสู่ขอบเขตโดเมนเท่านั้นเขาจึงจะสามารถต่อสู้กับเอสเปอร์โดเมนชีวิตและเอสเปอร์โดเมนสูงสุดได้อย่างแท้จริง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
หลังจากพักจากภารกิจก่อนหน้าซูฮ่าวก็ได้รับภารกิจเชิงกลยุทธ์ที่สองของเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับแจ้งเตือนซูฮ่าวก็ตะลึงเมื่อเห็นภารกิจ คําอธิบาย: การลอบสังหารผู้นําตระกูลคนปัจจุบันของตระกูล ไป ไปหลู่เฟิง
“ไปหลู่เฟิงงั้นเหรอ?” ซูฮ่าวประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อที่คุ้นเคย มันนานมากแล้วที่พวกเขาได้พบกัน