ตอนที่ 412 ทำตัวดีๆ นะ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เฉียวเหลียงเหลือบมองเฮ่อหว่านโจว และรังสีจากร่างกายเขาเริ่มฉายแววอำมหิต เมื่อสังเกตเห็นเช่นนั้นถังซีก็รีบดึงแขนเฉียวเหลียง และกล่าวกับเฮ่อหว่านโจวด้วยรอยยิ้มว่า “ยังไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ฉันพยายามติดต่อคุณถังตั้งแต่เมื่อวาน แต่ยังติดต่อเธอไม่ได้ ฉันเลยยังไม่รู้ว่าเธอจะตอบรับคำเชิญหรือเปล่า”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซีเฮ่อหว่านโจวก็ไม่สนใจจะทะเลาะกับเฉียวเหลียงอีกต่อไป แต่กล่าวอย่างสบายใจว่า “เธอติดต่อถังซีไม่ได้แน่นอน เพราะถังซีกลับประเทศจีนไปแล้ว ฉันพบถังซีเมื่อวานนี้ ถังซีบอกฉันว่ากำลังจะกลับประเทศจีน ตอนนี้ถังซีอาจจะอยู่บนเครื่องบิน เธอถึงติดต่อไม่ได้”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาถังซีก็พยายามกลั้นหัวเราะ และแสร้งทำเป็นประหลาดใจ มองหน้าเฮ่อหว่านโจวและถามว่า “จริงเหรอคะ”

 

 

เฮ่อหว่านโจวพยักหน้าอย่างจริงจัง “จริงสิ ถังซีบอกฉันอย่างนั้น ไม่ผิดหรอก”

 

 

ถังซีขมวดคิ้วและกล่าวด้วยท่าทางผิดหวัง “ดูเหมือนว่าฉันคงต้องล้มเลิกแผนนี้แล้วล่ะ”

 

 

หนิงเหยี่ยนมองถังซี เลิกคิ้ว ก่อนจะถามว่า “เธอยังไม่ได้อ่านข่าวเหรอ ประเด็นที่มีคนค้นหามากที่สุดในไมโครบล็อกน่ะ”

 

 

ถังซีหันมาสบตากับหนิงเหยี่ยน “ประเด็นอะไรเหรอคะ ข่าวอะไร เกี่ยวกับคุณถังเหรอ”

 

 

หนิงเหยี่่ยนกวาดตามองคนอื่นๆ ซึ่งมองเขากลับมาอย่างงุนงง ยกเว้นเซียวจิ่ง หางตาหนิงเหยี่ยนหรี่ลง เขามองหน้าทุกคนอย่างอ่อนใจ “พวกนายนี่ล้าหลังจริงๆ! ยังจะมีหน้าอยู่ในวงการบันเทิงและวงการแฟชั่นได้ยังไง!”

 

 

ถังซียกมือขึ้นลูบจมูกอย่างทำตัวไม่ถูก เมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยถากถางของหนิงเหยี่ยน เฮ่อหว่านอีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูข่าวอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “โอพระเจ้า ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคนคนหนึ่งจะชั่วร้ายได้ถึงขนาดนี้ แล้วนี่คุณถังเป็นไรหรือเปล่า”

 

 

“ฉันได้ยินมาว่าเธอได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่เธอน่าจะหายดีถ้าได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ” หนิงเหยี่่ยนวางโทรศัพท์ลงข้างๆ แล้วเริ่มสั่งอาหาร

 

 

เฮ่อหว่านโจวขมวดคิ้วมองดูหน้าจอโทรศัพท์ของตนและกล่าวอย่างเจ็บแค้น “บัดซบ! ผู้หญิงคนนั้นขโมยภาพสเก็ตช์งานออกแบบของซีซี แล้วยังข่มขู่และทำร้ายเธออีก! ช่างเป็นผู้หญิงที่หน้าด้านจริงๆ”

 

 

เมื่อถังซีได้ยินเขาเรียกเธอว่า ‘ซีซี’ หางตาเธอก็หรี่ลง แต่เธอก็ตอบกลับไปว่า “ใช่ค่ะ ฉันไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อนเลย”

 

 

แล้วจู่ๆ หนิงเหยี่ยนก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขามองหน้าเฉียวเหลียงแล้วถามว่า “ผู้หญิงคนนั้นเป็นดีไซเนอร์พิเศษของบริษัทคุณไม่ใช่หรือ”

 

 

ทันใดนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เซียวจิ่งยกมือขึ้นแตะจมูก หันไปมองหน้าเฉียวเหลียง แม้เขาจะรู้ว่าทำไมเฉียวเหลียงจึงจ้างฉินซินหยิ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังอย่างไรในเวลานี้…

 

 

เฉียวเหลียงมองหน้าหนิงเหยี่่ยนและกล่าวเรียบๆ ว่า “ผมไม่ได้ดูแลแผนกออกแบบ แผนกนั้นบริหารงานโดยผู้อำนวยการแผนกออกแบบโดยตรง และเธอยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้ผมทราบ”

 

 

ถังซีพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉียวเหลียง แต่ว่าคุณเป็นคนสั่งให้ผู้อำนวยการแผนกจ้างฉินซินหยิ่ง!

 

 

ในเวลานั้นนั่นเองโทรศัพท์มือถือของเฉียวเหลียงก็ดังขึ้น เป็นสายมาจากผู้อำนวยการแผนกออกแบบ เขาเลิกคิ้ว คิดว่าควรขึ้นเงินเดือนให้ผู้อำนวยการคนนี้จริงๆ

 

 

ถังซีเองก็ยังอุทานในใจว่าผู้อำนวยการช่างโทรมาถูกเวลา

 

 

เฉียวเหลียงรับสาย “ฮัลโหล มีอะไร”

 

 

ผู้อำนวยการแผนกออกแบบกล่าวขอโทษเฉียวเหลียง และรายงานให้เขาทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากนั้นเธอก็บอกว่าเธอจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด และสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ก่อนที่เขาจะวางสาย

 

 

เฉียวเหลียงวางโทรศัพท์ลง และเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขา เขาเลิกคิ้ว อธิบายว่า “ผู้อำนวยการแผนกออกแบบบอกว่า มีคนส่งไฟล์เสียงมาที่กล่องอีเมลของเธอ และเธอพบว่าคลิปเสียงนั้นเป็นเรื่องที่ฉินซินหยิ่งวางแผนขโมยงานออกแบบของคนอื่น เธอจึงไล่ฉินซินหยิ่งออกเมื่อวานนี้”

 

 

เฮ่อหว่านโจวมองหน้าเฉียวเหลียงซึ่งดูสงบนิ่ง เขาอดถามไม่ได้ว่า “คุณยังใจเย็นขนาดนี้ได้ยังไง ผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นเป็นพนักงานบริษัทคุณนะ”

 

 

เฉียวเหลียงมองเฮ่อหว่านโจว ถามเขาอย่างไร้อารมณ์ “คุณคิดว่าผมควรมีปฏิกิริยายังไงเหรอ” เขายิ้มมุมปาก “แผนกออกแบบของเราจะจัดการเรื่องเล็กน้อยนี้เอง ผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้”

 

 

เซียวจิ่งซึ่งนิ่งเงียบอยู่นานกล่าวขึ้นว่า “ใช่ เสียอารมณ์เปล่าๆ ที่เราจะมามัวถกเถียงกันเรื่องนี้” เขากล่าวกับถังซีว่า “โหรวโหรว เธอไปคุยกับถังซีที่โรงพยาบาลก็ได้นี่ หลังทานอาหารเสร็จ บางทีถังซีอาจพอมีเวลามาถ่ายวิดีโอเปิดตัวให้เราบ่ายวันนี้ หรือจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ถ้าถังซีตอบตกลงจะเยี่ยมมากเลย แต่ถ้าท้ายที่สุดเธอปฏิเสธก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องเข้าใจได้ ที่สำคัญคือตอนนี้เธอยังอยู่ในโรงพยาบาล เข้าใจไหม”

 

 

ถังซีมองหน้าเซียวจิ่งซึ่งแอบหลิ่วตาให้เธอ เธอเข้าใจทันทีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เธอจึงพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ พี่จิ่ง”

 

 

เฮ่อหว่านโจวรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าถังซีจะไปโรงพยาบาล “โหรวโหรว ปารีสนี่กว้างใหญ่มากนะ เธอต้องมีคนขับรถ แต่เธอคงขอให้เฉียวเหลียงขับไปให้ไม่ได้หรอก เพราะถังซีเป็นแฟนเก่าเขา ทั้งสองอาจรำลึกถึงความรู้สึกในอดีต ถ่านไฟเก่าอาจปะทุขึ้นมาได้ เธอควรจะระวัง จริงไหม”

 

 

ถังซีแทบหัวเราะก๊าก เมื่อได้ยินคำพูดของเฮ่อหว่านโจว เฮ่อหว่านโจวนี่ช่างเป็นคนตลกจริงๆ ดูเขาจะอยากเจอถังซีเสียเหลือเกิน

 

 

“พี่เฮ่อ ฉันไปทำธุระนะคะ แล้วอีกอย่างข่าวยังบอกไว้ด้วยว่าห้องพักคนไข้ของเธอมีการคุ้มกันอย่างใกล้ชิด บางทีเราอาจเข้าไปในบริเวณห้องคนไข้ไม่ได้ด้วยซ้ำ”

 

 

เฮ่อหว่านโจวถอนหายใจ “อ้าว ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันไปกองถ่ายกับน้องสาวฉันดีกว่า บางทีฉันอาจจะเจอถังซีที่นั่น”

 

 

ถังซีพูดไม่ออก “…” คุณผู้ชาย คุณนี่ดื้อรั้นจริงๆ!

 

 

เฮ่อหว่านอีมองหน้าพี่ชายที่ทำตัวเหมือนเด็กๆ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนใจ “เดี๋ยวก่อนนะ กองถ่ายเป็นสถานที่ทำงานนะคะ อย่ามารบกวนพวกเรา”

 

 

เฮ่อหว่านโจวมองหน้าน้องสาวที่ไม่ยอมเข้าข้างเขา และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “พี่ไม่รบกวนเธอหรอกน่า พี่เป็นผู้ช่วยเธอก็ยังได้!”

 

 

หนิงเหยี่่ยนถามถังซี “เธอเขียนสคริปต์เสร็จหรือยัง”

 

 

ถังซีพยักหน้า “เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งไปที่อีเมลของคุณหลังอาหารกลางวัน คุณลองอ่านดูนะคะ”

 

 

เฮ่อหว่านอีหัวเราะ “พี่ล้อฉันเล่นหรือเปล่า ถ้าพี่มาเป็นผู้ช่วยฉันละก็ ฉันคง…”

 

 

จากนั้นพี่น้องก็เริ่มทะเลาะกัน…

 

 

อีกครู่หนึ่งบริกรก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร

 

 

หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ถังซีกับเฉียวเหลียงก็ออกจากร้านอาหารไปที่โรงพยาบาล ขณะอยู่ในลิฟต์เฉียวเหลียงซึ่งยืนข้างๆ ถังซี มองเงาสะท้อนของเธอในกระจกและขมวดคิ้ว ก่อนจะกล่าวว่า “ทำตัวดีๆ นะ”

 

 

ถังซีกะพริบตาปริบๆ มองหน้าเฉียวเหลียงซึ่งยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ ก่อนจะถามว่า “คุณพูดกับฉันเหรอ”