บทที่304

ผู้แปล : N.

“จากข้อมูลที่เราจากการสำรวจของเครือข่ายทั้งหมดและร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่แห่งใหญ่ทั่วประเทศ สรุปได้ว่าตอนนี้ทิศทางลมได้เปลี่ยนไปแล้วครับ!” ผู้ช่วยของหนิงเชาเจิ้นพูดต่อว่า “ดังนั้นถ้าเราไม่อยากจะเสียส่วนแบ่งของตลาดไป เราก็ควรจะต้องยึดทิศทางลมนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นบริษัทคู่แข่งของเราอย่างบริษัทเรทเกมจะขึ้นมาแทนที่ของเราครับ! “

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะจับทิศทางลมได้! รองประธานหนิงเชาเจิ้นก็รู้ว่าตอนนี้เกมแนวสามมิตินั้นมีเพียงบริษัทเรทเกมเท่านั้นที่ทำได้ ” มีเสียงพูดอย่างไม่พอใจดังขึ้นมาหลังจากที่เสียงของผู้ช่วยจบลง

“ แต่จากที่ฉันได้อ่านรายงานมา พวกนั้นก็ใช้ซอฟต์แวร์การออกแบบแบบเดียวกับเรา แล้วทำไมเราถึงไม่สามารถทำตามได้กัน?” เสียงที่หนิงเชาเจิ้นใช้พูดนั้นอีกนิดก็เรียกว่าตะโกนได้แล้ว

ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคที่ได้ฟังแบบนั้นก็อธิบายอย่างรวดเร็วว่า: “รองประธานหนิง! คุณต้องเข้าใจว่าถึงแม่พวกนั้นจะใช้ซอฟต์แวร์ปกติ แต่กระบวนการออกแบบด้านอื่นๆนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่มีทางรู้ได้เลย และถึงแม้ว่าทางเราเองก็มีเทคโนโลยีสามมิติเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับพวกนั้นแล้วเทคโนโลยีของเรานั้นไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง “

ที่เขาพูดออกมาก็ไม่ใช้ว่าหนิงเชาเจิ้นจะไม่เข้าใจ แต่เขายอมรับไม่ได้ที่พวกเขาต้องยอมรับว่าพวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายแพ้ไปแบบนี้!

“ฉันไม่สนใจ!” หนิงเชาเจิ้นพูดออกมาด้วยความโกรธเล็กน้อยต่อว่า “พวกนั้นทำได้เราเองก็ต้องทำได้เช่นกัน! ฉันไม่สนว่าเราจะต้องใช้ทัพยากรอะไรไปบ้าง! แต่ภายในสองเดือนนี้บริษัทของเราจะต้องปล่อยเกมสามมิติที่ใกล้เคียงกับพวกนั้นให้ได้!”

“นี่ … ” ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคดูหน้าเกลียดไปทันที เขาไม่รู้ว่าเขาจะหาคำอะไรมาอธิบายให้รองประธานหนิงเชาเจิ้นเข้าใจว่าเทคโนโลยีของพวกเขานั้นไม่สามารถทำได้

“ฉันรู้ว่าคุณต้องการพูดอะไร แต่ฉันจะเสนอเรื่องนี้ขึ้นไปยังสำนักงานใหญ่เอง ฉันจะขอให้ทางนั้นส่งทรัพยากรและทีมวิจัยมาช่วยเรา ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลเกินไป”

……

ปัญหาของบริษัทเรทเกมกำลังจะสิ้นสุดลง อย่างน้อยในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้าในเกมสามมิติจะไม่มีใครเป็นคู่แข่งกับเขาได้

ลูชินที่นับเวลาดูแล้วเขาก็พบว่าเขาได้มาอยู่ที่จังหวัดเจียงเฉิงเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว ในช่วงสิบวันมานี้ซูเสี่ยวเองก็ได้รับความนิยมขึ้นมาก และอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่เธอจะต้องกลับไปโรงเรียนเช่นกัน

เดิมทีเขาได้เตรียมพร้อมที่จะกลับไปที่สำนักงานใหญ่ แต่ก็มีบางสิ่งที่เขาไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ มันเป็นสิ่งที่เขาคิดมาตลอดช่วงสามวันมานี้

เขาได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ก่อนที่เขาจะเลื่อนไปยังเบอร์โทรเบอร์หนึ่งที่อยู่บนสุด นั้นคือเบอร์โทรของพี่สามซูหรือซูเฉิง

ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเขาและซูเฉิง เริ่มมีการติดต่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะเขาและเธอนั้นรู้สึกอึดอัดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ลูชินก็ยังคงโทรไปที่หมายเลขของซูเสียว

“นั้นลูชินเหรอ?” เสียงของซูเฉิงที่ดังออกมานั้นเหมือนจะไม่แน่ใจเท่าไหร่

“ใช้! ผมเอง!”

“ไอ้ฉันก็คิดว่านายจะลืมฉันไปแล้วเสียอีก!” ซูเฉิงได้ตอบกลับมาอย่างปกติ

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย: “ช่วงนี้งานมันรัดตัวนะ! ผมก็เลยไม่ได้ติดต่อพี่ไปเท่าไหร่”

“ฮ่าฮ่า! เรื่องนั้นฉันก็พอรู้อยู่บ้าง” ซูเฉิงได้ตอบกลับมาอย่างร่าเริง “ฉันเห็นในข่าวว่านายได้ทำดาวเทียมสัญญาณ6G และผ่านไปไม่นานนายกับทำเกมสามมิติออกมาอีก นายรู้ตัวไหมว่ามันยังไม่เลยระยะเวลาครึ่งปีเลย แต่นายกับทำเรื่องสุดยอดไปแล้วถึงสองอย่าง! “

“ส่วนใหญ่เป็นคนที่บริษัททำทั้งนั้น ” ลูชินตอบกับมาอย่างสุภาพ “แต่ผมก็ลงมือทำมากกว่า 80% อะนะ”

“ฮะ! นายนี้รู้วิธีถ่อมตนจริงๆ!” ซูเฉิงตอบกับมาอย่างฉุนเฉียวเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมรับว่าประโยคนี้ของลูชินทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งสองนั้นง่ายขึ้นมาก

“ ใช่! ฉันยังไม่รู้เลยว่าที่นายโทรมาหาฉันนั้นมีเรื่องอะไร?” เธอถามออกมาอยากรู้อยากเห็น

“เออ!…”.

“อะไร! นายควรพูดออกมาตรงๆ”

“พี่ยังอยู่ที่จังหวัดเจียงเฉิงมั้ย? พอดีว่าผมอยากจะชวนพี่ไปหาอะไรกินซักหน่อย” ลูชินถามออกมาด้วยเสียงเบาๆ

“เจียงเฉิง? ฉันเองก็อยู่นี่เหมือนกัน!” ซูเฉิงพูดอย่างรวดเร็วต่อว่า “งั้นเราเจอกันที่ช่วงเย็นวันนี้ไหม?”

“ได้” หลังจากนั้นลูชินและซูเฉิงก็ได้นัดเวลาและสถานที่กันก่อนที่ลูชินจะวางสายไป

ในขณะนี้ในสำนักงานขนาดเล็กที่ซูเสียวทำงานอยู่ หลังจากที่เธอได้วางสายจากลูชินเธอก็ได้เรียกหาผู้ช่วยของเธอทันที: “เสี่ยวฟาง!”

คนที่ถูดเรียกชื่อได้รีบเข้ามายังห้องทำงานทันที: “ประธารซู, มีอะไรเหรอค่ะ? “

“เธอช่วยไปซื้อตั๋วรถไฟไปที่จังหวัดเจียงเฉิงให้ฉันหน่อย ฉันจะไปที่สถานีเจียงเฉิงก่อน 16.00 น. ของวันนี้!” ซูเสียวได้พูดออกมาอย่างรวดเร็ว “และช่วงสองสามวันนี้ฉันจะไม่เข้าสำนักงานนะ ถ้ามีเรื่องอะไรเธอสามารถติดต่อฉันผ่านโทรศัพท์ได้ตลอด “

“ ค่ะ” เสี่ยวฟางได้มองเห็นว่าตอนนี้ข้างตัวของประธานซูนั้นมีกระเป๋าเดินทางเตรียมเอาไว้แล้ว

หลังจากเที่ยงวันนั้น ซูเฉิงได้ลาครึ่งวันก่อนที่เธอจะรีบกลับไปที่บ้านของเธอเพื่อทำการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้า แล้วรีบไปที่สถานีรถไฟ

ในร้านกาแฟที่สถานีรถไฟใต้ดิน ลูชินเห็นซูเฉิงได้เดินมาจากทางเข้าหน้าสถานี เวลานี้เขารู้สึกว่าพี่สาวซูนั้นสวยอย่างมาก

วันนี้เธอได้ใส่ชุดเดรสแมกซี่มีลูกไม้สีขาว เปิดให้เห็นแผ่นหลังเล็กน้อย มันเขากันได้ดีกับรูปร่างของเธอ

เมื่อซูเฉิงเดินมาถึงหน้าร้านกาแฟจำนวนผู้ชายที่มองเธอนั้นก็เพิ่มขึ้นรวดเร็ว

“ ไอ้แก่! แกกล้ามองผู้หญิงต่อหน้าฉันเลนหรือไง?” ผู้หญิงคนหนึ่งตีแขนแฟนของตัวเองหลังจากที่เธอเห็นว่าตอนนี้สายตาของแฟนหนุ่มของเธออยู่ที่ไหน

“ไอ! พระเจ้าทรงโปรด”

“ฉันไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาชมผู้หญิงคนนี้ได้เลย!”

“สวัสดี!” ลูชินที่เห็นว่าพี่สาวซูได้มาถึงแล้วก็ได้ยืนขึ้นเพื่อที่จะทักทายเธอ ก่อนที่เขาจะช่วยเธอเลื่อนเก้าอี้ออก

“ฉันไม่คิดเลยว่าคนอย่างประธานลูจะทำแบบนี้ด้วย!” ซูเฉิงได้ยิ้มเผยฟันสะอาดออกมา

“ ฮาฮาฮา! มันยังมีอะไรอีกมากที่พี่ยังไม่รู้” ลูชินเองก็ตอบกับมาแบบยิ้ม “ แล้วนี่พี่จะดื่มอะไร?”

หลังจากพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้วลูชินก็ได้พูดขึ้นว่า : “ผมยังไม่ได้ขอบคุณพี่เลยที่ตกแต่งบ้านของผมได้สวยแบบนั้น! พ่อแม่ของผมที่พึ่งกลับมาจากท่องเที่ยวต่างก็ตกใจนึกว่าเข้าบ้านผิดหลัง! ฮาฮาฮา!”

“ ฮิฮิฮิ! ฉันดีใจที่นายชอบมันนะ” ซูเฉิงยังคงพูดติดตลกว่า “ ฉันยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเกิดนายไม่ชอบขึ้นมา ฉันจะถูดทำโทษอะไรไหม?!”

“ฮาฮาฮา!” ลูชินพูดต่อว่า “ผมเกือบลืมเลย พ่อแม่ของผมได้บอกว่าให้เชิญพี่ไปทานอาหารเย็นขอบคุณเรื่องนี้ด้วยนะ!”

“ จริงเหรอ! แล้วที่ไหนละ?” ซูเฉิงถามกลับมาอย่างรวดเร็ว “หรือว่าจะเป็นที่บ้านใหม่ของนายกัน!”

“เออ..!”

“ฮิฮิ! ตอนนี้เราก็กินกาแฟกันพอแล้ว ฉันคิดว่าเราควรจะออกไปข้างนอก” ซูเฉิงยังคงรักษาภาพลักษณ์ขี้เล่น “ฉันอยากชวนนายไปกินอาหารเย็นด้วยกันหน่อย! ไม่รู้ว่านายจะไปกับฉันไหม?”