บทที่ 1472 งานหมั้นของฟางหยวน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

โหยว่ชานเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งวารี นางใช้คลื่นใต้น้ำในการเดินทาง วิธีนี้รวดเร็วกว่าการบินของผู้อมตะทั่วไป

 

หลายวันผ่านไป นางไปถึงอาณาเขตของตระกูลหนานกง

 

ตระกูลหนานกงเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออก หลังจากมาถึง โหยว่ชานหยุดอยู่ที่เกาะนิรนามแห่งหนึ่ง

 

นางมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ นางใช้วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อแจ้งพวกเขาล่วงหน้าแล้ว

 

ผู้อมตะตระกูลหนานกงกำลังรอนางอยู่

 

“เทพธิดาโหยว่ชาน ท่านอาจารย์ฮัวส่งข้ามาที่นี่เพื่อต้อนรับท่าน ตอนนี้ท่านรออยู่ที่วังฮัวเฉียวแล้ว” ผู้อมตะตระกูลหนานกงกล่าวอย่างสุภาพ เขาไม่ได้แสดงความยโสของกองกำลังใหญ่ออกมาแม้แต่น้อย

 

ด้านหนึ่ง เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหกขณะที่โหยว่ชานเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด อีกด้านหนึ่ง แม้โหยว่ชานจะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่นางมีเครือขายมากมาย นางยังเป็นหนึ่งในหกเทพธิดาที่งดงามที่สุดของทะเลตะวันออก ผู้อมตะตระกูลหนานหงต้องให้เกียรตินาง

 

“ขอบคุณมาก” โหยว่ชานเผยรอยยิ้มบางและทำให้หัวใจของผู้อมตะตระกูลหนานหงเต้นเร็วขึ้น

 

“เทพธิดาโปรดตามข้ามา” ผู้อมตะตระกูลหนานกงสงบจิตใจลงและเริ่มนำทาง

 

โหยว่ชานตามคนผู้นี้ไปใต้ทะเล หลังจากผ่านกระแสน้ำหลายกระแส โหยว่ชานก็พบกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่อยู่ใต้ทะเล

 

มันเป็นศาลาที่มีโต๊ะหินและเก้าอี้อยู่ภายใน

 

ผู้อมตะผู้หนึ่งกำลังชงชาอยู่ที่นั่น

 

โหยว่ชานติดตามผู้อมตะตระกูลหนานกงเข้าไปในศาลา

 

ชายที่อยู่ภายในกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เทพธิดาโหยว่ชาน เจ้ามาจากแดนไกล ขอโทษที่ข้าไม่สามารถออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง”

 

โหยว่ชานยิ้ม “ฮัวอัน เจ้าเป็นหนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทะเลตะวันออก  ข้าจะทำสิ่งใดได้กับความเย่อหยิ่งของเจ้า”

 

โหยว่ชานและฮัวอันเป็นสหายที่ดีต่อกัน พวกเขาเพียงหยอกล้อกันเท่านั้น

 

ฮัวอันเคยเป็นสมาชิกตระกูลฮวา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เขาต้องออกจากตระกูล ขณะหลบหนี เขาได้รับความช่วยเหลือจากโหยว่ชาน ดังนั้นทั้งสองจึงกลายเป็นสหายที่ดีต่อกัน

 

หลังจากนั้นฮัวอันก็เข้าร่วมกับตระกูลหนานกงและกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงบนเส้นทางแห่งปัญญาของทะเลตะวันออก

 

มีคำกล่าวที่ว่า เจียตันนั่งอยู่บนหน้าผา ฮัวอันซ่อนตัวอยู่ในหนานกง เต่ามังกรอาศัยอยู่ในทะเลแห่งภัยพิบัติ

 

ทั้งสามเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทะเลตะวันออก

 

ฮัวอันเป็นหนึ่งในนั้น

 

แม้ฮัวอันจะอยู่ในตระกูลหนานกง แต่เขาถูกตระกูลฮัวคุกคามมาตลอด เขาพบกับความพยายามในการลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเขาจึงอยู่ในฐานทัพใหญ่ของตระกูลหนานกงตลอดเวลาและไม่ค่อยออกไปที่ใด ตอนนี้เขาเสี่ยงออกมาพบโหยว่ชาน นี่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขา

 

โหยว่ชานเข้าใจสถานการณ์ของฮัวอัน นางพอใจมากที่ได้พบเขาและกระทั่งรู้สึกสนุกสนานเล็กน้อย

 

ฮัวอันหัวเราะ “เทพธิดาเชิญนั่ง”

 

โหยว่ชานนั่งลงและดื่มชาก่อนจะถอนหายใจ “ชาดี แต่ใจของข้าเต็มไปด้วยความกังวล ข้าไม่สามารถดื่มด่ำกับรสชาติของมันได้อย่างเต็มที่”

 

ฮัวอันพยักหน้า “บอกรายละเอียดกับข้า ข้าจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยเจ้าแก้ไขปัญหา”

 

โหยว่ชานกำลังดื่มชาขณะที่ฟางหยวนดื่มสุรา

 

เขาไม่ได้ดื่มสุราทั่วไปแต่เป็นสุราหมั้น

 

สุราหมั้นไม่ใช่ของผู้ใดแต่เป็นของเขาเอง!

 

“ขอแสดงความยินดีกับท่านฟางหยวนและเทพธิดาเซี่ยเอ๋อ มันวิเศษมากที่ทั้งคู่สามารถรวมเป็นหนึ่ง ฮ่าฮ่าฮ่า” ปิงเจาหัวเราะเสียงดังและยกถ้วยสุราขึ้น

 

ฟางหยวนยกถ้วยสุราตอบและมองไปรอบๆ

 

ห้องโถงเต็มไปด้วยผู้อมตะ

 

ส่วนใหญ่เป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ มีมนุษย์หิมะ มนุษย์ขน และมนุษย์หิน นอกจากนั้นยังมีสมาชิกนิกายเงารวมถึงไป่หนิงปิง

 

ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด นี่เป็นงานหมั้นของเขา เขามีสถานะพิเศษในพันธมิตรมนุษย์กลายพันธุ์ของภาคเหนือ ดังนั้นผู้อมตะเกือบทั้งหมดจึงเข้าร่วม

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะตะโกนเสียงดังอย่างมีความสุขขณะที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินมีทางทีแข็งกร้าว

 

งานหมั้นในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดีต่อเผ่ามนุษย์หิมะ แต่สำหรับเผ่ามนุษย์หิน การได้เห็นเพื่อนบ้านได้รับพลังการต่อสู้ระดับแปดเป็นฝันร้ายของพวกเขา

 

“ผู้อาวุโสปิงหยวน ท่านทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์จริงๆ น่าประทับใจ น่าประทับใจ” ในงานเลี้ยง ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่ามนุษย์หินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมกับปิงหยวน

 

ปิงหยวนเป็นย่าของเซี่ยเอ๋อ นางเป็นผู้ริเริ่มและวางแผนเรื่องการแต่งงานกับฟางหยวน ตอนนี้พวกเขากำลังเห็นผลลัพธ์บางอย่าง

 

“นี่เป็นพรของหลานสาวของข้า เห้อ…กล่าวตามตรง เผ่าของเรายังไม่คู่ควร” ปิงหยวนคิดถึงการสนทนาระหว่างนางกับฟางหยวนและเริ่มสงสัยในเรื่องทั้งหมด

 

แต่ภายนอก ปิงหยวนไม่สามารถแสดงอารมณ์ใดๆออกมา นางต้องยิ้มและสร้างบรรยากาศที่ดี

 

ทะเลตะวันออก

 

ฮัวอันกล่าวด้วยความละอายใจ “เทพธิดา ข้าทำให้ผิดหวังแล้ว ข้าไม่สามารถอนุมานภูมิหลังของคนผู้นี้ได้เลย”

 

“แม้แต่เจ้าก็ทำไม่ได้งั้นหรือ?” โหยว่ชานรู้สึกประหลาดใจมาก

 

ฮัวอันแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “ประการแรก เพียงเงื่อนงำของปลามังกร มันยากที่จะสรุป ประการที่สอง คนผู้นี้มีท่าไม้ตายที่สามารถป้องกันการอนุมานบนแห่งทางเส้นปัญญา”

 

ได้ยินเรื่องนี้ โหยว่ชานยิ่งตื่นตัวมากขึ้น อีกฝ่ายสามารถป้องกันการอนุมาน แต่นางไม่สามารถ

 

ศัตรูมีแต่นางไม่มี เขาหรือกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดมันก็แสดงให้เห็นว่าศัตรูแข็งแกร่ง

 

“อย่าบอกว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฝ่ายนั้นยิ่งใหญ่กว่าเจ้า? เจ้าเป็นหนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทะเลตะวันออก แล้วเจ้าจะไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเลยงั้นหรือ?” โหยว่ชานไม่เต็มใจยอมแพ้

 

“เทพธิดาเข้าใจผิดแล้ว วิถีบนเส้นทางแห่งปัญญาแตกต่างจากเส้นทางแห่งวารี เหตุการณ์นี้เหมือนฝ่ายตรงข้ามได้สร้างเขื่อนไว้ในส่วนที่แคบที่สุดของแม่น้ำ แม้แม่น้ำจะกว้างเพียงใด ด้านหลังเขื่อนนี้ แม่น้ำก็จะตื้นและเคลื่อนที่ช้าลง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามารถสร้างคลื่นใหญ่ในน้ำลึก แต่ด้านหลังเขื่อนแห่งนี้ เราไม่สามารถทำสิ่งใด ความพยายามทั้งหมดไม่คุ้มกับผลลัพธ์” ฮัวอันอธิบายอย่างอดทน

 

“ไม่เพียงข้าแต่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาคนอื่นๆก็จะไม่ประสบความสำเร็จในการอนุมาน เว้นเพียงพวกเขาจะทำลายการป้องกันนี้ หากมันเป็นเพียงการป้องกันระดับหก นั่นอาจไม่ใช่ปัญหา”

 

โหยว่ชานรู้สึกลำบากใจ นางไม่มีความรู้บนเส้นทางแห่งปัญญา ในความเป็นจริงไม่เพียงนางแต่ผู้อมตะส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางแห่งปัญญา

 

ด้านหนึ่ง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาหาได้ยาก อีกด้านหนึ่ง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเส้นทางแห่งปัญญาก็ไม่ต้องการบอกให้โลกรับรู้ถึงรายละเอียดหรือมรดกของพวกเขา

 

เดิมทีโหยว่ชานคิดว่าด้วยความช่วยเหลือของฮัวอัน นางจะได้รับข้อมูลของฟางหยวน แต่มันกลายเป็นความล้มเหลว

 

ยิ่งเหตุการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้ โหยว่ชานยิ่งไม่อยากยอมแพ้

 

ฮัวอันเข้าใจบุคลิกของนาง

 

โหยว่ชานไม่ได้เป็นเพียงหญิงงาม แต่นางยังเป็นคนดื้อรั้น ความสำเร็จทั้งหมดในปัจจุบันของนางก็เกิดจากการทำงานหนักทั้งสิ้น

 

ฮัวอันแนะนำ “เราควรตรวจสอบเพิ่ม ตราบเท่าที่เรามีข้อมูลและเบาะแสมากขึ้น ข้าจะมีโอกาสทำลายการป้องกันของเขาได้มากขึ้น แม้มันจะเป็นเบาะแสเล็กๆ แต่หากเราสามารถรวบรวมได้มากขึ้น เราจะประสบความสำเร็จในที่สุด”

 

โหยว่ชานพยักหน้า “โปรดรอสักครู่”

 

นางส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในสวรรค์สีเหลืองและมองหาเจตจำนงของฟางหยวน

 

การตรวจสอบก่อนหน้านี้ของนางไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้นางยังต้องการทดลองอีกครั้ง

 

‘โหยว่ชาน หยุดทดสอบข้า ข้าสนใจธุรกิจปลามังกร หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้น ข้าต้องการมีส่วนร่วมในธุรกิจนี้” เจตจำนงของฟางหยวนกล่าวกับโหยว่ชานทันที

 

โหยว่ชานตะลึง!

 

การแสดงออกของนางเปลี่ยนไป สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของนางกลับร่างและแจ้งฮัวอัน

 

การแสดงออกของฮัวอันเปลี่ยนไปเช่นกัน “นี่…ข้าเกรงว่าเขาจะมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่!”

 

“ธุรกิจปลามังกรของข้าเป็นอันดับหนึ่ง แล้วคนที่ต้องการแข่งขันกับข้าจะไม่แข็งแกร่งได้อย่างไร?” โหยว่ชานกลอกตา

 

ฮัวอันส่ายศีระและแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “ข้ากำลังกล่าวถึงความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขา เขาสังเกตเห็นการอนุมานนี้ของข้าและได้อนุมานกลับ นั่นคือวิธีที่เขาค้นพบตัวตนของเจ้า ข้าระวังตัวมากแล้ว แต่เขายังสามารถอนุมานตัวตนของเจ้าได้ด้วยข้อมูลที่จำกัด ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาย่อมไม่ด้อยกว่าข้า ในความเป็นจริง…มันอาจสูงกว่าข้า!”

 

“เป็นเช่นนั้น!” โหยว่ชานตกใจอีกครั้ง

 

นางไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากขอความช่วยเหลือจากฮัวอัน ไม่เพียงนางจะล้มเหลวแต่มันยังเป็นการเปิดเผยตัวตนของนางอีกด้วย