ตอนที่ 622: ผู้พิทักษ์

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 622: ผู้พิทักษ์

 

“นี่คือแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์ ดูแล้วช่างโอ่อ่าเสียจริงๆ…”

 

หากมองดูแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์จากที่ไกลๆ ล่ะก็จะรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่มาก แต่ว่าคนที่รู้จักมันนั้นมีไม่มากนัก เหตุผลสําคัญเป็นเพราะว่าแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์นั้นตั้งอยู่ไกลมาก เรียกได้ว่าอยู่สุดเส้นขอบฟ้ากันเลยทีเดียว อยู่ไกลจากทวีปเทียนจึงมาก ขนาดอี้เทียนหยุนที่ใช้ความเร็วสูงสุดบินมายังต้อใช้เวลาเป็นอาทิตย์ กว่าจะมาถึง

 

เวลาหนึ่งสัปดาห์นั้นแม้ว่าจะไม่นาน แต่หากวัดจากความเร็วในการบินของเขาแล้ว ถือว่านานมากทีเดียว หากให้เทียบกับความเร็วในการบินของผู้ฝึกตนทั่วไป อย่างน้อยต้องใช้เวลาเป็นเดือนถึงจะสามารถบินมาถึงที่นี่ได้

 

ดังนั้น การที่ทางฝั่งทวีปเทียนจิ่งจะไม่รู้จักที่นี่จึงเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก คนที่อยู่ใกล้ๆ ที่นี่รู้ว่านี่คือแม่น้ําที่สามารถนําพาไปสู่โลกสวรรค์ได้ แต่ว่าคนที่สามารถขึ้นไปถึงได้จริงๆ นั้นมีอยู่น้อยมาก เพราะต่อให้อยากจะไป แต่ก็ไม่แข็งแกร่งพอ

 

และตอนนี้แม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์อยู่ในช่วงปิดชั่วคราว ต่อให้ฝันว่ายขึ้นไปก็ไม่มีความหมาย เพราะความยากของมันได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น คนอื่นๆ จึงไม่มีใครลอง และจะรอช่วงที่หมอกสลายตัวก่อน ตอนนั้นถึงจะเป็นช่วงเวลาแห่งการแหวกว่ายที่แท้จริง

 

ครั้งนี้อี้เทียนหยุนไม่ได้วางแผนว่าจะมาว่ายขึ้นไปเลย แต่เป้าหมายที่เขามาที่นี่ก็คือหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ติดกับแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์

 

หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ที่นี่ใช้อาชีพจับปลาเพื่อเลี้ยงชีพ เมื่อมองออกไปจะสามารถมองเห็นเรือหาปลาหลายล่าอยู่ไกลๆ พร้อมกับกาลังหว่านแหลากอวนหาปลาอยู่ใกล้ๆ

 

แม้ว่าที่นี่จะมีหมอก แต่ก็มีอาณาเขตจํากัด ไม่ได้กระจายออกไปด้านนอก ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถออกไปจับปลาได้ทุกเวลาที่ต้องการ แต่หากคิดจะเข้าไปจับปลาด้านใน คงต้องหยุดไว้ชั่วคราวก่อน

 

มีเพียงให้หมอกสลายตัวออกไป พวกเขาจึงจะสามารถเข้าไปจับปลาด้านในได้

 

ตาของหรี่ลง จากนั้นก็บินลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเอามือไขว้หลัง ขณะที่เดินเข้าไปในหมู่บ้าน และเพิ่งจะเดินเข้าไป เขาก็พลันกลายเป็นที่สนใจของชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อชาวบ้านเห็นเขา ก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับพูดด้วยความนอบน้อมว่า “คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าที่หมู่บ้านเล็กๆ ของพวกเรา มีเรื่องอะไรอย่างงั้นเหรอ?”

 

อี้เทียนหยุนเบนสายตาไปที่คนตรงหน้า หมู่บ้านนี้ไม่ได้มีคนมากมายนัก อย่างมากก็มีคนอยู่สิบยี่สิบคน มีกันไม่กี่ครอบครัว

 

“ข้าผ่านมาน่ะ ก็เลยอยากจะเดินมาดูสักหน่อย” อี้เทียนหยุนยิ้ม

 

“งั้นก็เชิญท่านตามสบาย” ชาวบ้านก็ไม่พูดอะไรอีก ปล่อยให้เขาเดินดูตามสบาย

 

ที่นี่มีบ้านที่ชำรุดอยู่หลายหลัง และก็ไม่ได้มีของมีค่าอะไร ดังนั้นจึงไม่กลัวว่าจะมีคนมาขโมย พวกเขาก็แค่เข้ามาถามดูเท่านั้น เพราะถึงยังไง เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามา ก็ต้องให้ความสนใจเป็นธรรมดา

 

เขาเดินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงบริเวณใกล้ๆ ชายฝั่งทะเล ตรงนั้นมีชายชรากําลังนั่งตกปลาอยู่ ทําให้เขาเดินเข้าไปดู และในขณะที่เขายังไม่ได้เข้าไปใกล์ ชายชราที่กําลังตกปลาอยู่ก็ได้หยุดมือ พร้อมกับหันมาพูดกับอี้เทียนหยุนด้วยรอยยิ้มใจดีว่า “ไม่ทราบว่าสหายท่านนี้มีเรื่องอะไรอย่างงั้นเหรอ?”

 

“เป็นผู้พิทักษ์คอยปกป้องแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์มาหลายปี ดูเหมือนว่าความเชื่อใจที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนมอบให้จะไม่สูญเปล่า” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มใจเย็น

 

สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปนิดหน่อย ขณะที่ในสายตามีประกายแห่งความตกใจวาบผ่านเล็กน้อย แต่ก็เพียงแค่แปบเดียวก็หายไป ก่อนที่จะกลับมาพูดด้วยรอยยิ้มสบายๆ ว่า “เป็นผู้พิทักษ์ปกป้องแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์อะไร ข้าไม่รู้ว่าคุณชายกําลังพูดถึงอะไร”

 

“ไม่เชิญข้าเข้าไปดื่มชาในบ้านสักถ้วยเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดจบก็เดินเข้าไปในบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ชายชรามองตามเงียบๆ จากนั้นก็ตัดสินใจเดินตามเข้าไป

 

หลังจากเข้ามาในห้อง ทันใดนั้นก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งเข้ามาทัก พร้อมกับมองมาที่เขาด้วยท่าทางสงสัย “หือ นี่มีแขกมาด้วยอย่างงั้นเหรอ?”

 

อี้เทียนหยุนมองไปที่วัยรุ่นคนนี้ด้วยรอยยิ้ม อีกฝ่ายมีอายุประมาณ 17-18 ปี ดูแล้วยังดูเด็กอยู่บ้าง แต่ว่าระดับของอีกฝ่ายก็ไม่ธรรมดา ยังเด็กแต่ก็มีพลังถึงระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 8 หากเป็นที่โลกภายนอก นี่ต้องถือว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งอย่างแน่นอน

 

ไม่คิดเลยว่าในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้จะมีคนที่มีพรสวรรค์แบบนี้อยู่

 

“เซียวเหยา เจ้าช่วยปู่ไปดูแหดักปลาหน่อย” ชายชราบอกให้หลานชายช่วยออกไปดูแหลักปลาที่วางไว้

 

“ครับ ปู่” เด็กหนุ่มมองไปที่อี้เทียนหยุนอย่างสงสัย แต่ก็ไม่พูดอะไร พร้อมหมุนตัวออกไปช่วยดูแหลักปลาที่วางเอาไว้

 

อี้เทียนหยุนนั่งลงที่เก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ ตามใจ พร้อมกับโบกมือเบา ก่อนที่จะมีเหล่ากาหนึ่งพร้อมกับจอกเล็กๆ สองจอกวางอยู่ตรงหน้า

 

“เหล้าดี!” ชายชราคนนั้นไม่ทันได้ดื่ม เพียงได้กลิ่นหอมที่โชยมาก็ทําให้จิตวิญญาณในร่างลุกโชนแล้ว เขานั่งลง พร้อมกับเทเหล้าในกาลงในจอกของตนและเทียนหยุนจนเต็ม จากนั้นก็กระดกเข้าปากเบาๆ พร้อมกับพูดด้วยความพอใจว่า “เหล้ากานี้รสชาติดีมาก นานแล้วที่ไม่ได้ดื่มเหล้ารสชาติดีขนาดนี้”

 

“ด้วยฐานะของท่าน หากต้องการอาหารดีๆ แบบไหน ก็สามารถไปเอามาได้อย่างง่ายดาย” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่ท่านกลับเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่ ไม่ยอมออกห่างจากที่นี่แม้แต่ครึ่งก้าว คอยพิทักษ์ปกป้องแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์อย่างเงียบๆ และเมื่อคิดดูแล้ว ตระกูลของท่านล้วนแต่คอยพิทักษ์ปกป้องแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์ โลกสวรรค์มารุ่นต่อรุ่น การกระทํานี้ช่างทําให้คนเลื่อมใสจริงๆ”

 

ชายชราไม่พูดอะไร ยังไงเทเหล้าในกาขึ้นดื่ม หลังจากดื่มไปอีกจอก เขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่รู้ว่าคุณชายกําลังพูดอะไรอยู่ พิทักษ์ปกป้องอะไรกัน พวกเราก็แค่ครอบครัวเล็กๆ อาศัยจับปลามาเลี้ยงชีพ พิทักษ์ปกป้องอะไรนั่น พวกเราไม่รู้จัก”

 

“ระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด อีกครึ่งก้าวก็จะเข้าสู่ระดับราชาเซียนแล้ว บอกข้าที่ ว่านี่ยังเป็นตระกูลเล็กอยู่อีกไหม? ด้วยความสามารถระดับนี้ กลัวว่าคงมีอํานาจพอที่จะสร้างอาณาจักรได้ด้วยซ้ํา” อี้เทียนหยุนพูดออกไปตรงๆ

 

แค่เด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีก็มีพลังถึงระดับก่อแกนวิญญาณแล้ว แต่ชายชราตรงหน้านี้กลับน่าฟังยิ่งกว่า มีพลังระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด พูดได้ว่าอีกครึ่งก้าวก็จะเข้าสู่ระดับราชาเซียนแล้ว หากเป็นอย่างนี้ต่อไป มีความเป็นไปได้มากที่เขาจะเข้าสู่ระดับราชาเซียนได้!

 

จากความทรงจําที่ได้มาจากป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์ ที่ทางผ่านใต้พิภพและแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์โลกสวรรค์ ล้วนแต่มีผู้พิทักษ์ เหตุผลหลักก็เพื่อทําให้เส้นทางนั้นมั่นคง ทั้งสองเส้นทางมีช่วงเวลาที่ไม่เสถียร เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์ที่จะต้องเข้าไปซ่อมแซมมัน

 

หากมีคนคิดจะทําลายเส้นทางพวกนี้ พวกเขาก็ก้าวออกไปอย่างกล้าหาญ พร้อมกับต้านทานคนพวกนี้เอาไว้

 

ทั้งสองเส้นทางเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามคนสร้างขึ้น หากว่าไม่ให้คนเฝ้ารักษาไว้ มันจะต้องล่มสลายอย่างแน่นอน แต่ถึงจะสามารถต้านทานได้เป็นเวลานาน แต่สักวันก็ต้องมีวันล่มสลาย

 

แม้แต่ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถหนีรอดการกัดกร่อนของเวลา

 

ชีวิตของราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หมายความว่าไม่มีขีดจํากัด แต่ว่าอายุขัยของพวกเขามีอยู่แค่ไหนไม่มีใครรู้ ส่วนผู้พิทักษ์ในปัจจุบันนี้ ไม่รู้ว่าต้องคอยปกป้องกันมากี่รุ่นแล้ว การที่สามารถปกป้องที่นี่ได้ จิตใจของพวกเขาช่างน่าชื่นชมจริงๆ

 

“ดูเหมือนว่าท่านจะเตรียมตัวมาแล้ว ไม่ทราบว่าฐานะของคุณชายคืออะไร แล้วมายังที่นี่เพื่ออะไร?” กลิ่นอายของชายชราพลันปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้านเอาไว้ ไม่ว่าอี้เทียนหยุนจะหนีไปไหน ก็ไม่สามารถหนีไปจากฝ่ามือของเขาได้

 

ทุกทางออกล้วนแต่ถูกปิดกั้นเอาไว้ ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนมีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เขาก็จะเข้าไปขวางในทันที

 

ฐานะของผู้พิทักษ์ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเปิดเผยได้อย่างง่ายๆ จําเป็นต้องอยู่ในสภาพปกปิดเป็นดีที่สุด

 

“ไม่ต้องกังวลไปฐานะของท่าน เป็นเพราะป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์เป็นคนบอกข้า อย่างนี้ท่านเข้าใจไหม?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเฉยชา

 

“ป้ายศิลาเป็นคนบอกเจ้า?” ชายชราตกใจ “เจ้า เจ้าค้นพบป้ายศิลานั้นอย่างงั้นเหรอ!”

 

ชายชราลุกขึ้น พร้อมกับมองมาที่เขาอย่างเย็นชา ก่อนที่จิตสังหารจะปกคลุมทั่วทั้งห้องเอาไว้ ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนลงมือ เขาก็จะลงมือฆ่าในทันที!