1801-4 vs 1802-1 vs 1802-2 โดย Ink Stone_Romance

 

ตอนที่ 1801-4

ผู้เข้าแข่งขันประเภทคู่ของทีมธีโอเห็นแล้ว เลิกคิ้วเล็กน้อย “ไม่คิดเลยว่าเขาจะคุมสติได้ดีขนาดนี้ ท่าทางเราจะเชื่อข้อมูลทั้งหมดไม่ได้”

“บอสราชาถูกพวกเราฆ่าแล้ว สภาพจิตใจเขายังหนักแน่นอยู่เลย ทีมไดมอนด์ไม่เบาจริงๆ”

ทั้งสองที่สวมหูฟังอยู่ต่างสบตากัน มือขวาวาดออกอย่างพร้อมกัน ร่างบนหน้าจอหายไปจากแผนที่เล็กในเกมอีกครั้ง

ถึงผู้ชมทั่วไปมองไม่เห็นถึงแผนเด็ดในเกม แต่ทีมหนึ่งที่ปรากฏตัวในที่นั่งผู้ชมต่างรู้ดี “ทีมไดมอนด์น่าจะแพ้ในประเภทคู่แล้ว”

มีคนได้ยินในประโยคดังกล่าว หันมาจะเถียง แต่เมื่อหันกลับไปจริงๆ แล้วพบว่าใครเป็นคนพูดกันแน่ ก็เหมือนถูกอะไรอุดอยู่ในลำคอ

โฮชิโนะ! โฮชิโนะจริงๆ ด้วย! ทุกคนรู้กันทั้งนั้นว่า โฮชิโนะประเมินเรื่องแบบนี้เฉียบแค่ไหน เขาเหมือนไม่อยากพูดออกมาหรอก นัยน์ตาจับจ้องที่หน้าจอ แววตาปรากฏแววทะมึน และเหล่าแฟนคลับที่นั่งอยู่ต่างร้องกรี๊ดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ทีมอาทิตย์อุทัย! ทีมอาทิตย์อุทัยจริงๆ ด้วย หล่อมากเลยอ่ะ!”

“แปลกจัง ทีมนี้ก็กำลังแข่งอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมมาดูได้ล่ะ?”

“เดี๋ยว ดูเหมือนผู้ชมกับพวกนักข่าวที่สนามนั้นย้ายมาที่นี่กันแล้ว”

“หมายความว่าไง? เฮ้ย อย่าบอกนะว่าทีมอาทิตย์อุทัยแข่งเสร็จแล้ว?”

คนที่หยิบมือถือมาดูการไลฟ์สด ถึงกับสายตาหวั่นไหว “หนึ่งชั่วโมง การแข่งเดี่ยว พวกเขาใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีก็เอาชนะได้ พอแข่งประเภทคู่ โมโม่ออกตัวตามสบายไปหน่อย เลยใช้เวลาสี่สิบนาที เอาชนะได้สองในสาม พอมาประเภทสุดท้าย ฝ่ายคู่แข่งเลยไม่แข่งแล้ว”

คนที่ได้ยินต่างอ้าปากกว้าง ลังเลอยู่นานกว่าจะพูดออกมา “สมกับที่เป็นทีมอาทิตย์อุทัย”

หากเทียบกับทีมอาทิตย์อุทัยที่แข่งสบายๆ ฝ่ายทีมไดมอนด์ก็ยากลำบากเสียเหลือเกิน ไม่ว่าหลินเฟิงหรืออินอู๋เย่าจะทำอะไรก็ไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเทคนิคการเล่นของฝ่ายตรงข้ามหรือเปล่า ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าทีมไดมอนด์ถูกคู่แข่งไล่บี้

 “เหมือนหลินเฟิงจะรู้อะไรบางอย่าง” ประโยคนี้เป็นคนจากทีมอาทิตย์อุทัยพูด

โฮชิโนะได้แต่ตอบสั้นๆ “สายไปแล้ว”

ใช่ สายไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่อินอู๋เย่าค้นพบว่ามือตัวเองช้ากว่าสมอง แม้ว่าตัวสนับสนุนของฝ่ายตรงข้ามจะตายไปแล้วสองครั้ง แต่มันกลับเป็นการตายครั้งที่สามของอินอู๋เย่า เหลือเพียงหลินเฟิงที่สู้ 1:2 ซึ่งไม่น่าจะเอาชนะได้

นั่นไงล่ะ การแข่งประเภทคู่ ทีมไดมอนด์แพ้แล้ว

แม้จะได้รับคำชมจากคู่แข่ง แต่บรรยากาศของทีมไดมอนด์กลับไม่กระเตื้องขึ้น พวกเขารู้ดีว่าการแข่งประเภทคู่ พวกเขาเป็นฝ่ายรับมากแค่ไหน…

หลินเฟิงคอตก พูดออกมา “ขอโทษด้วย”

อวิ๋นหู่กดบ่าอีกฝ่าย “ไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษหรอก ได้เวลาที่ฉันจะลงสนามแล้ว นายจะไม่ยิ้มให้ฉันหน่อยเหรอ?”

อันที่จริงเมื่อมาถึงจุดนี้ ทุกคนดูจะเข้าใจ การแข่งในประเภทถัดไป ไม่ง่ายสำหรับทีมไดมอนด์เลย เราได้เห็นศักยภาพของทีมธีโอจากการแข่งประเภทคู่แล้วว่าแกร่งแค่ไหน

คำพูดของโฮชิโนะที่บอกว่า ‘สายไปแล้ว’ นั่น ไม่เพียงแต่จะบอกว่าการแข่งประเภทคู่สายไป แต่นับจากตอนเริ่มต้น ทีมไดมอนด์ยังไม่ได้บีบให้ทีมธีโอแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา ดังนั้นเมื่อแข่งต่อมาถึงได้สายไป ยิ่งไปกว่านั้น การแข่งในประเภททีมยังไม่ใช่ฟอร์มที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมไดมอนด์อีกต่างหาก

หลินเฉินทาวเป็นประเภทตีมอนสเตอร์ระยะประชิด จะนำจังหวะการเล่นได้หรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนกังวล

หัวหน้าทีมธีโอยิ้ม “เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีฉินมั่วก็ทำตามแผนเดิม เล่นตัวตีมอนสเตอร์ของฝ่ายตรงข้ามก่อน แล้วพวกเขาจะโจมตีกลับไม่ได้ พอถึงเวลานั้น บางครั้งพวกเราต้องขอบคุณพวกผู้ชมเหมือนกัน”

ใช่ ต้องขอบคุณ

คนเหล่านั้นไม่มีวันเข้าใจว่าทีมต้องการอะไร พวกเขาอ้างแต่ปากว่าชอบ แต่กลับบีบให้เสาหลักของทีมกับตัวล่ามอนสเตอร์ผู้เป็นจิตวิญญาณออกไป…

………………………………………………………….

 ตอนที่ 1802-1

ผู้บรรยายต่างรู้ถึงสถานการณ์ในเวลานี้เป็นอย่างนี้ แต่ต่อให้พวกเขารู้ว่าสภาวะของทีมไดมอนด์กำลังย่ำแย่แค่ไหนก็ไม่พูดออกมา

เจ้าหน้าที่ในการแข่งระดับนานาชาติ ย่อมไม่ใช่หน้าใหม่  พวกเขารู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของทีมไดมอนด์ในหลายปีที่ผ่านมาดีว่าใคร คงเพราะบางทีมถูกสวรรค์กำหนดให้ไม่มีวันเป็นแชมป์ ผู้เชี่ยวชาญจึงได้แต่พลิกดูข้อมูลอย่างรู้ดีแก่ใจ รอให้รายชื่อผู้เล่นปรากฎออกมา พวกเขาใช้เวลาวิเคราะห์ 3 นาที ทั้งนี้การเล่นประเภททีมจะเป็นการตัดสินว่าทีมไหมคือผู้ชนะ

ดูเหมือนเวลาจะผ่านไปช้ามาก หลินเฟิงพอจะเห็นเฟิงอี้ที่ยืนที่มุม ดูเหมือนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี คงได้แต่ยิ้มให้พวกเขา มุมปากยกยิ้ม

ไม่รู้หิมะเริ่มตกอยู่ด้านนอกตั้งแต่เมื่อไร ดูเหมือนมันจะเป็นหิมะแรกของเมืองเจียงเฉิง ทว่ากลับตกนิดเดียว จนแทบจะละลายหมดเมื่อต้องบ่า เด็กน้อยสวมเสื้อขนเป็ดสีดำคนหนึ่งอยู่ที่ด้านนอก มองดูตั๋วในมือ ไม่เดินหน้าและไม่พูดอะไร ทำให้พนักงานตรวจตั๋วจนปัญญา “น้องยืนอยู่อย่างนี้ไม่หนาวเหรอ? รีบกลับบ้านเถอะแล้วค่อยมาดูการแข่งในปีหน้า มันไม่ต่างกันหรอก”

“ต่างกันสิ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสวยเหมือนดวงตาแมวน้อย

พนักงานตั๋วตะลึง ก่อนจะยิ้มออกมา “น้องอายุเท่าไรเอง ทำไมถึงอยากจะเล่นเกมล่ะ แต่ไม่ว่าน้องจะอายุเท่าไร ถ้ายังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องมีผู้ปกครองมาดูด้วย รู้ไหม?”

“มีผู้ปกครองมาด้วยก็ดูได้เหรอ?” หนูน้อยถาม หันไปมองชายกระโปรงที่สะบัดผ่านมา จากนั้นจึงเดินไปอยู่ข้างตัวหญิงสาวคนหนึ่ง “เขาไง พวกเราเดินเข้าไปด้วยกันนะ”

พนักงานหัวเราะ “น้อง พี่ยังมีสมองอยู่ อยากไปลากคนอื่นมาอ้างเป็นผู้ปกครองสิ”

“คนอื่น?” หนูน้อยขมวดคิ้วย่างน่าเอ็นดู “เขาไม่ใช่คนอื่น”

เธอคนนั้นยังไม่ทันได้เอ่ยออกมา พนักงานก็พูดต่อ “ต่อให้ไม่ได้เป็นคนอื่น แต่ตั๋วมีแค่ใบเดียวก็เข้าไปดูได้แค่คนเดียว ผู้ปกครองไปนั่งรอที่จุดนั่งพักได้”

ผู้มาเยือนได้ยินแล้ว ย่นหัวคิ้ว ไม่กล้าบุกเข้าไป เพราะหากทำอย่างนั้นจะถูกตัดสิทธิ์การแข่ง ได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเวลาที่นับย้อนหลังบนหน้าจอที่แสดงพร้อมๆ กับที่ฉายในการถ่ายทอดสด” แต่จะให้เฟิงอี้ออกมารับก็ไม่ทันแล้ว แถมทางเข้าตรงนี้ยังใกล้สนามมากที่สุดด้วย

“พี่คนตรวจ ให้เขาเข้าไปเถอะ” หนูน้อยสะพายเป้หนังสือหันมา ท่าทางทางบ้านจะสอนมาดี “หนูจะไปรอที่ห้องพักผ่อน”

พนักงานอึ้งเข้าไปใหญ่ “ไม่เข้าไปเหรอ? เมื่อกี้ดูเหมือนอยากจะเข้าไปดูอยู่เลยนะ?”

ผู้มาเยือนขมวดคิ้วอีกครั้ง สองตามองดูหนูน้อยที่ยืนข้างตัว “ไม่เสียดายเหรอ?”

“อื้ม หนูเข้าไปได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่พี่ต้องเข้าไป” หนูน้อยพูดจบ คิดว่าตัวเองยังมีน้ำใจไม่มากพอ ว่าแล้วก็ชูกำปั้นขึ้นมา “สู้ๆ!”

แสดงว่าจำเธอได้?

“ขอบคุณ” คนมาก็ไม่ได้รีรอ ลูบหัวหนูน้อยแล้วมองไปที่พนักงานตรวจตั๋ว

พนักงานปล่อยตัวคนเข้ามา ยังคงอึ้งอยู่ เพราะเขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ทำให้หนูน้อยมองดูเธอคนนั้นสาวเท้าเดินเข้าไปแล้วยังยิ้มหวานได้อีก เมื่อกี้เขาเห็นอยู่ว่า หนูน้อยยืนอยู่นานเป็นครึ่งชั่วโมงด้วยสีหน้าบึ้งตึง แต่ตอนนี้เอาตั๋วให้คนอื่นเฉยเลย แถมยิ้มหวานด้วย? มันเป็นแผนอะไรกันนี่?

……………………………………

ตอนที่ 1802-2

และในเวลาเดียวกันนี่เอง เด็กน้อยอีกคนวิ่งมาจากด้านอื่น หน้าตาเหมือนกับหนูน้อยที่สวมเสื้อขนเป็ดตัวดำเลยทีเดียว แถมยังทำท่าลึกลับ “ทำไมถึงยังไม่เข้าไปอีก? พี่อุตส่าห์ใส่กระโปรงเพื่อเธอเลยเชียวนะ ไม่รู้เหรอว่าเมื่อกี้พ่อมองพี่นะ ใจพี่สั่นเลยล่ะ มั่วเป่ย เฮ้ย เจ้าเด็กหน้าแข็ง ยิ้มอะไรน่ะ”

 “พี่จ๋า”

“ทะ ทำไม?” วันนี้น้องเขาเป็นอะไร

“น้องเอาตั๋วให้คนอื่นแล้วล่ะ”

“เรื่องนี้มันน่าดีใจนักเหรอ!”

“เบาหน่อยสิ พ่อกับแม่อยู่ใกล้ๆ นี้”

“โอ้ย ทำไมเธอถึงเอาตั๋วให้คนอื่นล่ะ”

“เพราะ” พนักงานตรวจตั๋วกางหูฟังประโยคนั้น แต่ยังได้ยินไม่ชัด เสียงกระหึ่มก็ดังขึ้นจากด้านหลัง!…ได้เวลาลงสนามแล้ว!

พิธีกรหัวเราะดึงไมโครโฟนมา “เอาล่ะ เวลานี้ทั้งสองทีมได้เตรียมส่งผู้เข้าแข่งขันประเภททีมแล้วล่ะครับ ทีมไดมอนด์มีอวิ๋นหู่ โคโค่ เซวียเหยาเย่าและ…”

ในระหว่างที่ผู้บรรยายกำลังจะพูดชื่อหลินเฉินทาวออกมา ก็ได้ยินเสียง “สวบ!” ซึ่งไม่เพียงแต่พิธีกร กระทั่งผู้บรรยายยังหันไปดู “เกิดอะไรขึ้น?”

ผู้ควบคุมสนามแข่งกำลังจะแสดงสัญญาณมือ กลับถูกผู้กำกับรั้งข้อมือไว้ เขาสื่อให้พนักงานหันกล้องไปหา

มีคนเดินเข้ามาช้าๆ ที่ประตูใหญ่ ทุกคนเห็นชายกระโปรงสีดำก่อนเป็นสิ่งแรก จากนั้นจึงเห็นเสื้อทีมที่เธอคลุมไว้บนบ่าตามมา ลมที่พัดเข้ามาทำให้ตัวอักษรสองตัวพองตัวขึ้น

เธอถือบัตรด้วยมือข้างหนึ่ง ปล่อยให้เส้นผมบนศีรษะยุ่งขึ้น โดยที่ไม่กระทบความงามที่เปล่งประกายจากร่าง เธอเงยหน้าขึ้นมองดูพิธีกร แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ “และแบล็กพีช Z”

ห้วงเวลาดังกล่าว สนามกีฬารังนกเงียบกริบไปหมด! เสียงนั่นเหมือนจะหยุดทุกสิ่ง ทุกคนเหมือนถูกสะกดจุด นิ่งตะลึงอยู่กับที่!

ไม่เพียงแค่โผล่หน้าออกมา แต่ยังรวมถึงการที่เธอสวม…ชุดผู้หญิง! แต่กระนั้นคนที่อยู่ภายใต้แสงไฟที่ส่องมาจากทุกจุด กลับเหมือนไม่เห็นความผิดปกติของทุกคน ยิ้มเอ่ยขึ้น “วันนี้หัวหน้าของพวกเราไม่อยู่ ฉันจะเป็นคนนำทีมเอง”

 “เทพ Z พวกเราเชียร์คุณนะ!”

“ใส่ชุดผู้หญิงมา หมายความว่าไง รู้สึกผิดเรอะ?”

“อย่าไปสนที่พวกนั้นพูด สู้เต็มที่!”

เสียงอื้ออึงดังขึ้นจนควบคุมสถานการณ์ไม่ได้! ไม่เหลือความเงียบที่ผ่านมา เสียงดังจนแทบจะเกิดคลื่นพลิกตลบ! เสียงดังจากหลายคน จนแยกแยะไม่ออก ยอดคลิกสูงขึ้นแล้ว ยังสูงขึ้นได้อีก!

ทว่าไม่เห็นอะไรจากในสนามสดหรอก ด้วยคอมเมนต์บนแพลตฟอร์มไลฟ์สดกระจายเต็มหน้าจอคอมพิวเตอร์ทะลุหลักพัน

“อุว้าว ฉันเห็นอะไรเนี่ย? เทพชายของฉันใส่ชุดผู้หญิง!”

“เทพ Z สวยจนฉันอยากจะร้องไห้!”

“ปีศาจสาวจอมรุก! พี่แบล็กของฉัน!”

“รู้สึกว่าฉันจะเปลี่ยนไปรักคนอื่นแล้ว ทำยังไงดี?”

“วันนี้หลัวฉันเท่มากเลยเหรอ? ใส่ชุดผู้หญิง โอะ น้ำลายฉัน”

“ขอแอร์ไทมให้หลัวฉันมากหน่อย ใส่ชุดผู้หญิงด้วยอ่ะ แคปหน้าจอ ฉันจะแคบหน้าจอ!”

“ดราม่าเยอะไป๊” ใช่ว่าจะไม่มีเสียงที่เลวร้าย ทว่าเธอยังคงอยู่ตรงนั้นราวกับไม่ได้ยินเสียงใด กระโปรงยาวเข้ากันกับเสื้อทีม หน้าตากระจ่างใส เสี้ยวหน้าสวยหมดจด มุมปากหยักยิ้ม ทำให้เหล่าแฟนคลับเห็นแล้วคุ้นตา แต่ก็เหมือนต่างไปจากเดิม

………………………………………