ตอนที่ 655 ความคิดที่ไม่บริสุทธิ์
อันหรานถูกซย่าเสี่ยวมั่วยั่วโมโหจนพูดอะไรไม่ออก จึงฝืนเบี่ยงประเด็นโดยการเรียกพนักงานมาคิดเงิน
พอพนักงานมาถึง เหยียนเค่อยื่นบัตรเครดิตส่งให้ตัดหน้าอันหราน อันหรานมองไปทางเจ้านายของตนด้วยสายตาแวววาว
ผู้ชายที่ให้เต็มร้อยแบบนี้ แค่การกระทำเล็กๆน้อยๆก็ฆ่าผู้หญิงได้จริงๆด้วย
จี้เซวียนโอบอันหราน เป็นการเตือนหล่อนว่าใครกันแน่คือตัวจริง “ขอบคุณประธานเหยียนที่เลี้ยงนะครับ ไว้คราวหน้าผมนัดเลี้ยงเป็นเจ้ามือบ้าง”
“ได้” เหยียนเค่อไม่ได้ปฏิเสธ
ซย่าเสี่ยวมั่วยกมือมาบังใบหน้าของเหยียนเค่อ แล้วขู่อันหราน “ห้ามมองแฟนฉัน”
เหยียนเค่อได้ยินหล่อนปกป้องตนเองขนาดนี้ก็ยิ้มออกมา ดีใจจนแทบจะบินได้อยู่แล้ว จับมือหล่อนขึ้นมากุมเอาไว้แล้วจูบลงไปเบาๆ “พอแล้ว กลับกันเถอะ”
ผู้ชายทั้งสองแยกไปขับรถมา อันหรานกับซย่าเสี่ยวมั่วยืนรออยู่ที่หน้าร้าน
อันหรากระชับเสื้อตัวเองแน่นเอ่ยแขวะซย่าเสี่ยวมั่ว “เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้ชายของเธอมีความสุขขนาดนี้นะเนี่ย ปีศาจน้อยอย่างเธอนี่เข้าใจพูดนะยะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วแบมือ “เหยียนเค่อชอบ ฉันจะทำอะไรได้”
“แหม ทำเอาเธอเหลิงไปเลยนะ” อันหรานทนดูไม่ได้แล้ว แต่พอนึกถึงตอนที่เหยียนเค่อยื่นบัตรเครดิตออกมาก็ทำเอาเธอแทบจะอ่อนระทวยไปทั้งตัว เอ่ยซุบซิบกับซย่าเสี่ยวมั่ว “ตอนที่เหยียนเค่อประคองเธอขึ้นรถ ฉันขับมาเห็นพอดี โอ้มายก้อด หล่อมากๆ”
“เพราวะว่าคนในอ้อมกอดเขาคือฉันไง” ซย่าเสี่ยวมั่วพูดประโยคนี้ออกมาอย่างไม่อาย ทำเอาอันหรานเลือดแทบขึ้นสมอง
อันหรานเอ่ยพูดอย่างจนใจ “หน้าไม่อายเลยนะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นคนทั้งคู่ขับมาแล้ว จึงตีไปที่ก้นของเพื่อน “ไม่คุยด้วยแล้ว ขอให้เธอกับบ.ก.รักกันยืนยาว ต่างพึ่งพาอาศัยกัน”
“ขอให้เธอกับประธานเหยียนรักใคร่ เป็นของกันและกันในเร็ววัน”
“อยากตายหรือไงอันหราน” ซย่าเสี่ยวมั่วอยากบีบอันหรานให้ตายจริงๆ ไม่ว่าคำพูดอะไรก็ล้วนหลุดออกมาจากปากผู้หญิงคนนี้ได้จริงๆ
จี้เซวียยนลงมาจากลง เปิดประตูรถให้อันหรานอย่างเป็นสุภาพบุรุษ จี้เซวียนก้มหน้าให้ซย่าเสี่ยวมั่วเล็กน้อย ซย่าเสี่ยวมั่วยิ้มตอบกลับไป ยังไม่ทันจะโบกมือลาก็ถูกเหยียนจูงไปเสียก่อน
อันหรานรู้สึกตื่นเต้นไปตลอดทาง “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนที่เจ้านายฉันกับซย่าเสี่ยวมั่วรู้จักกันจนกระทั่งได้คบกันแล้ว เอาไปเขียนนิยายได้เรื่องหนึ่งเลยนะ”
“คุณฝันอยู่หรือไง” จี้เซวียนเอ่ยขัดยิ้มๆ “คุณตั้งใจทำงานดีกว่า แล้วก็จะแต่งงานตอนไหนดี”
จี้เซวียนพูดประโยคนี้ออกมาโดยมีความหมายแฝงอยู่ด้วย ตนยังรู้สึกอายนิดๆ แต่ดูเหมือนอันหรานจะเข้าใจว่าเขาแค่เอ่ยขึ้นเล่นๆเฉยๆ ยังคงเอาแต่พูดเรื่องซย่าเสี่ยวมั่วอยู่ “ฉันเคยบอกกับซย่าเสี่ยวมั่วไว้ว่าถ้าหล่อนแต่งงานกับเหยียนเค่อฉันจะไม่รับเงินสักบาทเดียวเลย แต่ว่าตอนนี้เหยียนเค่อกลายมาเป็นเจ้านายของฉัน จะให้ฉันไม่เอาเงินจากเขาได้อย่างไร”
จี้เซวียนเอามือนวดขมับอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ได้บอกว่าเป็นคนโรแมนติกมากหรือไง ทำไมพอเป็นเรื่องสำคัญกลับเบี่ยงประเด็นออกไปได้นะ แต่เขายังคงเอ่ยปลอบหล่อนก่อนอย่างใจเย็น “เหยียนเค่อไม่มาคิดเล็กคิดน้อยกับเงินของคุณหรอก”
เขายังพูดไม่จบก็ถูกหล่อนเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน “ก็จริง ประธานเหยียนไม่สนใจหรอกถ้าเขาได้แต่งงานกับซย่าเสี่ยวมั่ว คงเอาเงินมาเทให้ฉันแน่ๆ”
“…” จินตนาการของผู้หญิงนี่ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ จี้เซวียนรู้สึกหมดคำพูด หันไปตั้งใจขับรถ
ซย่าเสี่ยวมั่วยังคงอยู่ในอาการโมโหอันหราน โดยเฉพาะคำพูดน่าอายที่หล่อนเพิ่งพูดเมื่อสักครู่
พอขึ้นรถก็ใจลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เหยียนเค่อใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หัวหล่อน “ถอดเสื้อออก”
“หา?” ซย่าเสี่ยวมั่วที่กำลังคิดเรื่องไม่ดีอยู่ได้ยินเหยียนเค่อพูดแบบนี้ก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี “นายคิดจะทำอะไร”
“…” เขาไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย เหยียนเค่อจนปัญญา มองไปที่กระจกหลังแล้วขับรถออกไป “เธออยากให้ฉันเป็นอันธพาลใช่ไหม”
“นายจะทำอะไรน่ะ”
“ทำเธอไง”
ในสมองของซย่าเสี่ยวมั่วปรากฏคำอยู่สองประโยค รู้สึกไม่ดีไปทั้งตัว คนร้ายกาจอย่างอันหรานทำให้ตอนนี้เธอมองอะไรก็ดูเหมือนจะมีเรื่องอย่างว่ามาเกี่ยวข้องตลอด
“พูดหน่อยสิ” เหยียนเค่อมองหลอนผ่านกระจกหลัง ขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นกระตุกเสื้อคลุมของหล่อน
“ถอดเสื้อคลุมออก”
ตอนที่ 656 อุ่นใจ
ซย่าเสี่ยวมั่วพบว่าตนเองคิดลึกมากไปเอง จึงค่อยๆถอดเสื้อคลุมออกแล้ววางไว้บนตัก
“เมื่อกี้เธอคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ทำท่าทางตื่นเต้นขนาดนั้น” เหยียนเค่อเอ่ยแซวเล่น
ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกอายจึงปิดปากเงียบไม่ยอมพูดจา
“ต่อให้ฉันจะคิดทำอะไรเธอขึ้นมาจริงๆก็คงไม่ทำตั้งแต่ขึ้นรถหรอกมั้ง”
พูดถึงตรงนี้เหยียนเค่อก็ดูเหมือนจะกลั้นไว้ไม่อยู่ ยิ้มขำออกมา
ตอนนี้เธอไม่อยากพูดอะไรทั้งสิ้น กำลังสำนึกผิดอยู่กับการใส่ร้ายเหยียนเค่อ ค่อยๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาตัวช่วยจากแฟนคลับ เนื่องจากตอนนี้เธอกลายเป็นคนจิตใจลามกไปแล้ว
ในโทรศัพท์มีข้อความมากมาย เธอมองใบหน้าด้านข้างของเหยียนเค่อ สลับกับก้มมองคอมเม้นต์ในโทรศัพท์ จากนั้นก็ได้แต่ทำเป็นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
ตอนนี้หัวข้อการคุยเรื่องแต่งงานหรือไม่แต่งช่างน่ากลัวจริงๆ
เธอเลื่อนลงไปด้านล่าง พบว่าเป็นฉันซื่อหลานที่ทำเอาพวกแฟนคลับของเธอเริ่มโน้มเอียงไปด้วย เนื้อหาช่างไม่เหมาะสมจริงๆ ซย่าเสี่ยวมั่วอ่านไปไม่กี่ข้อความก็ทนอ่านต่อไม่ไหว มันแย่กว่าที่เธอคิดเอาไว้อีก กระทั่งท่วงท่าต่างๆก็มีโพสต์บอก คนพวกนี้ไม่กลัวโดนแจ้งเตือนเลยใช่ไหมเนี่ย
หยาบคาย ไม่ไหวแล้ว ซย่าเสี่ยวมั่วโยนโทรศัพท์ไปไว้ที่หน้ารถ ยังกังวลอยู่กับเรื่องน่าอายเมื่อครู่
“เป็นอะไรไปอีก” เหยียนเค่อลูบไปที่ผมด้านหลังของหล่อนที่มีผมร่วงอยู่สองสามเส้น “ถ้าอยากนอนไปหยิบผ้าห่มจากเบาะหลังมาก่อนค่อยนอน”
“ไม่อยากนอน” ซย่าเสี่ยวมั่วมั่วเบิ่งตามองไปที่ชายหนุ่ม
เหยียนเค่อขับจนใกล้จะถึงที่ที่พักของหล่อน ซย่าเสี่ยวมั่วก็ยังคงมองเขาอยู่ เหยียนเค่อทนไม่ไหวแล้ว เอื้อมมือไปประคองลำคอหล่อนไว้ “ถ้ายังมองอยู่อีก วันนี้ไม่ต้องกลับไปแล้วนะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วชะงักไปนิด จากนั้นหลบหนีแขนของชายหนุ่ม มองดูถนนเปล่าเปลี่ยวทางด้านนอกหน้าต่าง เริ่มรู้สึกกลัว “คุณผู้ชายคะ คืนนี้ค้างกับฉันไหม”
“เต็มใจเชื้อเชิญเหรอ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย” ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยค้าน “นายเอาเจ้าโกลเด้นไปแล้ว ฉันอยู่คนเดียวก็กลัวสิ”
สมองของเหยียนเค่อเริ่มประมวลผลความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว สักพักก็เคาะไปที่หัวของหล่อน “ความสำคัญของฉันเทียบเท่ากับหมาแค่ตัวหนึ่งเนี่ยนะ”
“อือ” ซย่าสี่ยวมั่วเบนหัวมาจ้องตาชายหนุ่ม เอ่ยอธิบายอย่างชัดเจน “เจ้าโกลเด้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉันรักมากที่สุด นายเป็นสัตว์ประเสริฐที่ฉันรักมากที่สุด ฉะนั้นพวกนายเป็นประเภทเดียวกัน”
“ประเภทเดียวกันเหรอ” เหยียนเค่อหัวเราะแล้วทวนคำ “ฉันนึกว่าแทนที่กันได้ด้วยซะอีก หรือเธอว่าไง”
“ไม่มีทางอยู่แล้ว” ซย่าเสี่ยวมั่วหัวเราะแห้งๆมองไปที่ชายหนุ่ม ถ้าเกิดเธอกล้าพูดว่าแทนกันได้ไม่เท่ากับเธอวอนหาที่ตายหรืออย่างไร
เหยียนเค่อจอดรถไปที่หน้าโรงจอดรถ ยื่นมือไปตรงหน้าหล่อน “เอากุญแจมา”
ซย่าเสี่ยวมั่วยืดตัวขึ้นอย่างขี้เกียจ “เดี๋ยวฉันลงไปเปิดให้ นายขับเข้าไปก็พอ”
เหยียนเค่อไม่อยากให้หล่อนไปยืนทนหนาวอยู่ข้างนอก “เด็กดี เอามาให้ฉัน”
ซย่าเสี่ยวมั่วล้วงความหากุญแจส่งไปให้ชายหนุ่ม “อันนี้แหล่ะ”
“อือ” เหยียนเค่อทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว จอดรถเสร็จแล้วก็เดินไปกับซย่าเสี่ยวมั่ว
ซย่าเสี่ยวมั่วกระชับเสื้อกันหนาวของเหยียนเค่อไว้แล้วก็ถูกเขาดึงไปอยู่ในอ้อมกอดอีกที ไอร้อนที่รินรดอยู่ข้างใบหูทำเอาเธอรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ
เหยียนเค่อใส่เสื้อคลุมเป็นสูท มองไม่ออกว่าหนาว ซย่าเสี่ยวมั่วอดไม่ได้เอ่ยตามเสียงเบา “นายไม่หนาวเหรอ แบบนี้จะเป็นหวัดได้นะ”
“ถ้าฉันบอกว่าหนาวแล้วจะได้อะไร”
“เดี๋ยวฉันกลับไปต้มน้ำขิงให้ โค้กน้ำขิงดีไหม” ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยตอบอย่างซื่อๆ
เหยียนเค่อสบตากับสายตาเป็นประกายของหล่อน ยิ้มออกมา “ไม่ต้องหรอก”