ตอนที่ 657 ฮ่องเต้เรียกท่านมารักษานาง / ตอนที่ 658 เจ้าเฝิงกลับมาแล้ว

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 657 ฮ่องเต้เรียกท่านมารักษานาง 

 

 

อิ๋งโจวถามพวกเขาว่าเข้าวังมาทำอะไร เฉินยางบอกว่าเสี่ยวจินอวี๋ถูกฮ่องเต้ส่งคนมาลักพาตัวไปแล้ว ที่นางเข้าวังก็เพราะอยากจะให้น่าอวี้ช่วย ดูว่าจะช่วยลูกออกมาได้หรือไม่ 

 

 

อิ๋งโจวได้ยินจบก็ส่ายหน้าไม่หยุด “พวกเจ้าไม่อาจเข้าไปได้ ตอนนี้น่าอวี้ถูกคนเฝ้าจับตาตั้งแต่เช้าจรดเย็น คนเหล่านั้นล้วนเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ นางกำนัลเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างกายนางก็มาจากฮ่องเต้ นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีคนอื่นอีก ทุกๆ มื้อก็เป็นคนของฮ่องเต้ที่ส่งไปด้วยตัวเอง ล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้น พวกเจ้าแต่งกายเช่นนี้ ขอเพียงถูกพบก็ต้องตาย” 

 

 

เฉินยางตกใจ “คนนอกเข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นแล้วนางออกมาได้หรือไม่” 

 

 

“ออกไปไม่ได้ ฮ่องเต้ขังนางไว้ เข้มงวดยิ่งกว่าคุกเสียอีก พวกเจ้าอยากไปหานางให้นางช่วยก็เท่ากับไปตาย” 

 

 

อวี่เหวินลู่มองอิ๋งโจว “ฮ่องเต้เรียกเจ้าเข้าวังก็เพื่อรักษาโรคให้น่าอวี้หรือ” 

 

 

อิ๋งโจวตอบใช่ “เรื่องนี้ฮ่องเต้กลับใจกว้างนัก ยาก็เลือกใช้ยาที่ดีที่สุดให้นาง ตรัสว่าจะรักษานางให้หายจนได้” 

 

 

“เช่นนั้นแล้วหมอหลวงในวังล่ะ ในเมื่อข้างพระกายมีหมอหลวงอยู่แล้ว ไฉนถึงยังต้องให้เจ้ามารักษานาง” อวี่เหวินลู่ทุบกำปั้นที่ฝ่ามือ “ตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีไม่ใช่หรือ ฮ่องเต้ไม่อาจเชื่อพระทัยเหล่าหมอหลวงในวัง ดังนั้นถึงได้ให้เจ้ามารักษาน่าอวี้ บอกว่าไม่มีโอกาส นี่ก็เป็นโอกาสของพวกเราเลย ขอเพียงเจ้าทูลกับฮ่องเต้ว่าให้น่าอวี้ออกไปเดินเล่นเสียบ้าง จะเป็นผลดีกับนาง ในเมื่อฮ่องเต้อยากให้น่าอวี้หายป่วย คิดว่าคงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยอมรับ” 

 

 

เฉินยางได้ยินก็รู้สึกเป็นวิธีที่ไม่เลวนัก เพียงแต่พอเป็นเช่นนั้นแล้วก็ต้องดึงอิ๋งโจวเข้ามาเกี่ยวไม่ใช่หรือ นางไม่อยากให้มีคนมากมายต้องเกี่ยวข้อง บุญคุณของอวี่เหวินลู่คนเดียวก็ยากจะคืนแล้ว บวกอีกคนหนึ่ง นางจะคืนหมดได้อย่างไร เพียงแต่ตอนนี้ก็ติดต่อเฝิงเยี่ยไป๋ไม่ได้อีก ในบ้านนอกจากนาง ก็ไม่มีใครตัดสินใจได้ วันใดที่หาเสี่ยวจินอวี๋ไม่พบ นางก็ไม่อาจนอนหลับได้ ตอนนี้ความหวังอยู่ตรงหน้า ให้นางยอมปล่อยไปเช่นนี้ก็รู้สึกเสียดายนัก… 

 

 

นางยังลังเลอยู่นั้น อิ๋งโจวกลับรับปากอย่างว่าง่าย “พวกเจ้าไปก็เสี่ยงเกินไป ข้าพบเจอน่าอวี้ได้ทุกวัน เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ข้าจะพูดกับนางแทนพวกเจ้าเอง เพียงแต่นางจะรับปากหรือไม่นั้น…ข้าก็ไม่อาจบอกได้” 

 

 

เขายอมช่วยเฉินยางก็พอใจมากแล้ว ส่วนน่าอวี้จะรับปากหรือไม่ เรื่องนี้ก็พูดยากเสียจริง เพียงแต่อย่างไรก็เป็นความหวัง “นางจะรับปากหรือไม่ยังไม่พูดถึงก่อน วันนี้ท่านรับปากจะช่วยข้า ข้าก็ขอบคุณมากแล้ว ท่านวางใจได้ บุญคุณของท่านข้าจะจำไว้ วันหลังจะต้องตอบแทนท่านอย่างแน่นอน” 

 

 

อิ๋งโจวบอกไม่ต้อง เพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ถือเสียว่าเป็นการตอบแทนที่เฝิงเยี่ยไป๋ให้เขาพักอยู่ในเมืองหลวงนานเช่นนี้ ไม่ถึงกับติดค้างอะไรกัน 

 

 

อวี่เหวินลู่พูดอีกว่า “หากว่าน่าอวี้มีข่าวใดๆ เจ้าก็ไปที่สำนักฉลองพระองค์หาขันทีที่ชื่อหลี่ซุ่น เขาจะส่งข่าวให้ข้าเอง” 

 

 

อิ๋งโจวพยักหน้า ตบกล่องยาที่แบกอยู่ “ข้าต้องกลับสำนักหมอหลวงแล้ว หากไปสายแล้วฝั่งนั้นถามขึ้นมา ฝั่งฮ่องเต้นั้นข้าไม่อาจตอบได้ พวกเจ้าก็รีบออกจากวังเสีย” 

 

 

มาอย่างไรก็ต้องกลับเช่นนั้น พวกเขายังต้องรีบกลับไปที่รถม้าก่อนที่เซวียฮูหยินจะกลับมาที่รถม้า ไม่เช่นนั้นหากพลาดเวลาไป ก็ต้องอยู่ในวังต่อเสียแล้ว 

 

 

ฝั่งเซวียฮูหยินนั้นยามจะไปก็ร้องไห้อีกครั้ง ยามนี้ในมือพวกเขากุมความลับของฮ่องเต้อยู่ แม้จะรู้ว่าชีวิตดีๆ จะอยู่อีกไม่ไกล เพียงแต่การเสแสร้งเอาหน้าก็ยังต้องทำ ไม่อาจให้พวกเขาเห็นพิรุธได้ 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 658 เจ้าเฝิงกลับมาแล้ว 

 

 

เมื่อเฉินยางและอวี่เหวินลู่กลับไปถึงจวนท่านอ๋องนั้นก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว เมื่อคืนนางบอกกับซั่งเหมยว่าอย่าปลุกนางแต่เช้า นางไม่เรียกให้เข้าไปก็เข้าไม่ได้ ในใจซั่งเหมยรู้สึกลึกๆ ว่าผิดสังเกต ยามเช้าก็ไม่ได้ไปเรียกนาง เพียงแต่พริบตาเดียวก็เที่ยงแล้ว ข้างในก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ คราวนี้ในใจนางก็เริ่มร้อนรนขึ้นมาแล้ว รู้ว่าหลายวันนี้เฉินยางอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะเรื่องของท่านซื่อจื่อน้อยทำให้กินไม่ลงนอนไม่หลับ วันๆ น้ำตาอาบแก้ม นานวันเข้าเช่นนี้ ก็ไม่มีข่าวของท่านซื่อจื่อเลย คงไม่ใช่ว่าคิดสั้นอยู่ในห้องเสียแล้วกระมัง 

 

 

นางตกใจกับความคิดของตัวเอง และไม่สนว่าเฉินยางสั่งไว้อย่างไร ประตูผลักไม่ออกก็ให้ขันทีมาทุบ พอประตูเปิดออกต่างตะลึงไป ในห้องไม่มีใครเลย 

 

 

เฉาเต๋อหลุนโกรธยิ่งนัก รีบเรียกคนออกไปตามหา ส่วนซั่งเหมย ครั้งก่อนทำซื่อจื่อน้อยหายเพราะถูกคนวางยา เรื่องนี้ยังไม่พูดถึง เพียงแต่ครั้งนี้ยังทำเว่ยเฉินยางหายอีก ใช้ได้อย่างไร ทำผิดก็ต้องลงโทษ เฉาเต๋อหลุนให้คนมาขังซั่งเหมยไว้ หากหาเว่ยเฉินยางเจอก็แล้วไป แต่ถ้าหากหาไม่เจอ เช่นนั้นก็ได้แต่รอเฝิงเยี่ยไป๋มาลงโทษนางแล้ว 

 

 

ส่งคนออกไปตามหาตั้งแต่ตอนเที่ยงเช่นนี้ หาจนถึงตอนเย็น ก็ยังหาเฉินยางไม่พบ ในจวนกลับมีบางคนกลับมาแล้ว 

 

 

ยามที่เฉินยางกลับไปนั้นกลัวเข้าทางประตูหน้าจะถูกคนพบเห็น จึงได้แต่ให้อวี่เหวินลู่พานางปีนกำแพงเข้าไป เป็นเวลาพลบค่ำพอดี ไม่มีใครออกมาเดิน กลับไปยามนี้ก็ไม่มีใครสังเกต เพียงแต่พอเข้าสวนไปก็ถูกเฉาเต๋อหลุนที่เฝ้าอยู่ตรงประตูพบเข้าพอดี เขาเห็นตัวเองแล้วใบหน้าก็ไม่ได้มีอารมณ์มากมายนัก ไม่ตกใจและไม่กังวล กลับมีความเห็นใจเล็กน้อย เฉินยางแอบย่องออกไปนานเช่นนี้ คิดดูก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่สังเกต ต้องส่งคนไปตามหานางแล้ว นางรู้สึกผิด เดินไปเหมือนยอมรับผิด นางไม่รู้จะพูดอะไร จึงได้แต่จับที่ชายเสื้อของเขาถามว่า “ซั่งเหมยเล่า เจ้าไม่ได้โทษนางกระมัง เป็นข้าเองที่สั่งนางไม่ให้เข้ามา” 

 

 

เฉาเต๋อหลุนโค้งตัวพูดว่า “ท่านเข้าไปก็รู้แล้ว” หางตาของเขาเหลือบมองอวี่เหวินลู่ คราวนี้ถึงกับไม่ส่งเสียงห้ามเขา 

 

 

อวี่เหวินลู่ก็รู้สึกตัว เมื่อส่งนางถึงที่แล้วก็เตรียมจะกลับไป “เช่นนั้นเจ้าเข้าไปเถิด ข้ากลับไปแล้ว” 

 

 

เฉินยางพยักหน้า วันนี้เฉาเต๋อหลุนดูประหลาดนัก เขาไม่ถามนางเลยว่าออกไปทำอะไร สงบนิ่งจนน่าประหลาดใจ นางมาถึงที่ประตูแล้ว ในใจกลับไม่สงบขึ้นมา ไม่รู้เป็นอะไรถึงรู้สึกกังวล นางเดินไปข้างหน้าสองก้าว เพิ่งจะก้าวขึ้นบันไดหิน ข้างในก็มีเสียงคนพูด “วันนี้ผู้พิทักษ์หญิงงามก็คงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เข้ามาดื่มชาเสียหน่อยค่อยไปเถิด” 

 

 

เสียงนี้คนอื่นไม่คุ้นเคย เพียงแต่ในสมองเว่ยเฉินยางกลับจำฝังใจ นอกจากเฝิงเยี่ยไป๋ก็ไม่มีใครแล้ว หรือว่าเฝิงเยี่ยไป๋จะกลับมาจริงๆ นางเหมือนดั่งวิญญาณกลับเข้าร่าง ในใจไม่ได้ไร้ที่พึ่งพิงแล้ว ยามที่เขาไปนั้นบอกว่าไปทำสงคราม นางอยู่บ้านก็รอเขากลับมาด้วยความเป็นห่วงอยู่ทุกวัน ส่งจดหมายตั้งมากมายให้เขาก็ไม่เห็นเขาจะตอบกลับเลย ใครจะรู้ว่าวันนี้เขาจะกลับมาเงียบๆ เช่นนี้ นางรอแทบไม่ไหวที่จะเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันนี้ นางเป็นคนโง่ คิดหาวิธีดีๆ ช่วยเสี่ยวจินอวี๋ไม่ออก เพียงแต่เฝิงเยี่ยไป๋กลับมาแล้ว เช่นนั้นก็มีความหวังแล้ว ฮ่องเต้ทำแต่เรื่องทำร้ายคนอื่น ต้องรีบจัดการเสียโดยเร็ว