GMC ตอนที่ 825 ชีวิตก็เหมือนบทละคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทํา
ในที่สุดมันก็จบ …
สงครามมาเร็วและจบเร็วจนไม่น่าเชื่อ
ต้องทราบว่านี่ไม่ใช่การลอบโจมตีอย่างครั้งที่แล้ว แต่เป็นการเผชิญหน้ากันตรงๆ! แต่ปีที่ผ่านๆ มาความเน่าเฟะของตระกูลไปเกินความคาดหมายของทุกคน เมื่อเปิดคลังพลังงานของตระกูลไป่ แหล่งจัดเก็บพลังงานต้นกําเนิดที่ถูกปล่อยให้แห้งทําให้คนของตระกูลเทียนพูดไม่ออก พลังงานจํานวนเช่นนี้ แน่ใจนะว่าพวกเขาไม่ใช่กองกําลังขนาดเล็ก?
หรือพวกเขานํามันไปเก็บไว้ที่ไหนสักแห่ง?
คงล้อฉันเล่นแล้ว
โกดังพลังงานของตระกูลไปอยู่ติดกับภูเขาและแม่น้ำ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขนย้ายทุกอย่าง สําหรับการถูกใช้งานนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้มากยิ่งกว่า คลังพลังงานขนาดใหญ่เช่นนี้จะถูกใช้ได้อย่างไรในเวลาเพียงไม่กี่วัน ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือตระกูลไปไม่ได้มีพลังงานต้นกําเนิดมากนักเมื่อเวลานานผ่านไปมันจึงค่อยๆ ลดลง และแม้แต่เอสเปอร์ที่แข็งแกร่งก็มีไม่มาก
ถ้าเป็นเช่นนั้น
เอสเปอร์ที่แข็งแกร่งของตระกูลไปที่ถูกฆ่าตายโดยการระเบิดอาคารของเมืองหลิงพร้อมกับหลินฮู คือกําลังหลักของตระกูลไป?
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ผู้คนในตระกูลเทียนก็ไม่ทราบว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคงสามารถพูดได้ว่าวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสงครามครั้งนี้คือหลินฮู?
“หลินฮู…”
การนึกถึงชื่อนี้ทําให้ทีม A ดูเศร้าๆ
การระเบิดของอาคารของเมืองหลิงนั้นรุนแรงอย่างมาก ทั้งอาคากลายเป็นซากปรักหักพัง มีเพียงซากศพที่กระจัดกระจายอยู่หลายแห่ง ไม่สิ่งใดหลงเหลือ แม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรแต่พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ว่าหลินฮูตายไปแล้วจริงๆ ในครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีอะไรเหลือหลังการระเบิดและตอนนี้
การกระทําของหลินฮูแพร่กระจายไปทั่วตระกูลเทียน
บางคนก็บอกว่าเขาโง่ บางคนก็บอกว่าเขาปัญญาอ่อน และ บางคนก็บอกว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์โดยแต่ทุกคนต่างก็ชื่นชมเขาจากใจจริง ไม่ว่าจะเป็นการกระทําหรือความสําเร็จของเขาหลินฮูก็สมควรได้รับการชื่นชม ตระกูลเทียนที่โกรธเคืองระบายความหงุดหงิดของพวกเขากับตระกูลไป่
ในวันที่ห้า สงครามสิ้นสุดลง
ทั้งตระกูลไปถูกกําจัดสิ้นซาก!
ในความจริงเมื่อตระกูลเทียนเดินทางมาถึงพวกเขาได้เห็นฉากการหลบหนีของคนในตระกูไป่ไม่มีการป้องกันที่เป็นระบบตระกูลเทียนจึงกวาดล้างได้ง่ายๆ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นในวันที่ห้าตระกูลไป่ก็สูญหายไปจากการเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่
จากนั้นข่าวแพร่ก็กระจายทําให้ทั้งโลกตกตะลึงอีกครั้ง
ทุกคนตกใจกับความแข็งแกร่งของตระกูลเทียน ถึงพวกเขาไม่ทราบความจริงแต่พวกเขาทราบว่าตระกูลไปหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ แล้วตระกูลระดับนี้ก็ถูกทําลายภายใน 5 วัน? ด้วยอาณาเขตที่กว้างใหญ่ของตระกูลไป 5 วันนับเวลาการเดินทางจากพื้นที่รอบนอกจนไปถึงสานักงานใหญ่
นั่นไม่ได้หมายความว่า …
ตระกูลเทียนกวาดล้างทั่วทั้งพื้นที่ของตระกูลไป่!
ในคืนนั้นไม่มีกองกําลังใดสามารถข่มตาหลับลงได้ ทุกคนต่างตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของตระกูลเทียนและเริ่มถกกันเรื่องความรับมือกันอย่างเร่งด่วน ในคืนเดียวกันทั้งสหพันธ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความมั่นใจและความแข็งแกร่งของตระกูลเทียนทําให้พวกเขาประหลาดใจและทําให้กองกําลังอื่นๆ เสียขวัญ
โลกภายนอกกําลังเกิดการเปลี่ยนแปลง
สําหรับคนของตระกูลเทียนที่เพิ่งชนะสงคราม ภารกิจเดียวในตอนนี้คือเพลิดเพลินไปกับความสุขแห่งชัยชนะและกวาดล้างทรัพยากรทั้งหมดของตระกูลไป
” จนเชี่ยๆ”
“ใช่ทําไมไม่มีอะไรเหลือเลย”
“หรือพวกเขาสามารถหลบหนีไปกับทรัพยากรได้”
“อืม… นั่นก็เป็นไปได้ เจ้าได้ยินมาหรือไม่ว่าแม้แต่คลังพลังงานของพวกเขาเกือบจะแห้งแล้ง ตระกูลไป่คงสูญเสียทรัพยากรจํานวนมากเป็นเวลานานเพื่อเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ ข้าคิดว่าตระกูลขนาดกลางทั่วๆ ไปยังมีทรัพยากรใกล้เคียงกับตระกูลไปเลย ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวของตระกูลไปคือเอสเปอร์โลกทั้งสองนั้น ”
“ห๊าาา ข้อได้เปรียบ? เอสเปอร์โลกทั้งสองนั้นตลกมาก เมื่อพวกเขาเห็นเรามาถึงพวกเขาก็หนีเสียแล้ว”
“ฮ่าๆ ช่างเป็นตระกุลที่น่าเศร้า”
คนของตระกูลเทียนกําลังมองหาทรัพยากรของตระกูลไปในขณะที่สาปแช่งตระกูลไป เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตใดๆ พวกเขาจะฆ่าโดยไม่ลังเล ตั้งแต่ทีม A ถึงทีม M เกือบทุกทีมถูกส่งมาเพื่อมองหาทรัพยากรที่เหลืออยู่ และแม้กระทั่งให้คําสั่งว่าหากพบทรัพยากรใดๆ ครึ่งหนึ่งจะเป็นของพวกเขา
แม้ว่ามันจะฟังดูดี
แต่เมื่อทีม A ถูกส่งออกมาทีมอื่นๆ ก็ไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากหลบเลี่ยง ทีม A เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด ประการที่สองพวกเขายังเป็นผู้มีส่วนร่วมมากที่สุดในสงครามครั้งนี้แม้ว่าชายที่นี่ อหลินฮูคนนั้นจะตาย
“พวกเขาคือทีม A?”
“พวกเขาล้วนเป็นเอสเปอร์โดเมนสูงสุด แข็งแกร่งจริงๆ”
“เฮ้!! กัปตันของพวกเขาคือผู้นําตระกูลของเรา ภารกิจจะล้มเหลวได้อย่างไร?”
“ผายลม ผู้นําตระกูลนั้นมีตัวตนที่ทรงพลังแต่เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักในภารกิจ เขาไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น ในท้ายที่สุดแล้วหลินฮูก็เป็นผู้ที่เสียสละตัวเองเพื่อให้พวกเขาหลบหนี? หากพูดอย่างตรงไปตรงมาถ้าข้ามีเพื่อนร่วมทีมอย่างหลินฮู ข้าสามารถทําภารกิจนั้นให้สําเร็จไปได้แล้ว”
ทุกคนพูดคุยกันเอง ทีม A ยังคงนิ่งเงียบมีเพียงทีม F เท่านั้นที่มาทักทายพวกเขาเพราะพวกเขารู้ดีว่าหลินฮูเป็นบุคคลประเภทใด
“เขาจะไม่ตําหนิพวกคุณ” เซี่ยเคอตบไหล่ของพวกเขา คนในทีม A สามารถยิ้มได้อย่างขมขื่นเท่านั้น
“อย่าคิดมาก เพราะถึงยังไงพวกเจ้าก็เป็นวีรบุรุษในสงครามครั้งนี้ หากพวกเจ้าได้รับทรัพยากรจํานวนน้อยที่สุดในครั้งนี้นั่นจะเป็นเรื่องน่าตลก รีบไปหาอะไรเร็วเข้า”
“อืม”
ทุกคนในทีม A ทําได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น
ถิ่นที่อยู่ของตระกูลไปในปัจจุบันเป็นเหมือนซากปรักหักพังโบราณที่ให้พวกเขาสํารวจ ทีมต่างๆ ของตระกูลเทียนต่างยุ่งอยู่กับการรื้อค้นซากปรักหักพังเพื่อค้นหาแหล่งข้อมูล ในขณะนี้มีทีมหนึ่งรื้อเจอห้องขังที่ถูกทิ้งร้างและตกตะลึง “หืม… ดูเหมือนจะมีคนถูกขังอยู่ที่นี่”
“โอ้?”
“ตระกูลไปจับกุมใครบางคนไว้?”
“ศัตรูของตระกูลไปย่อมไม่ใช่เพื่อนของเรางั้นเหรอ? ฮ่าๆ ถ้าเป็นในนิยายมันคงพูดแบบนี้”
“หยุดเล่นแบบโง่ๆ ได้แล้ว ไปช่วยเขาก่อนดูว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หลังจากยืนยันตัวตนของเขาแล้วเราจะช่วยเขาแต่ดูจากเลือดบนร่างกายของชายคนนี้ ข้านึกไม่ออกเลยว่าเขาถูกทรมานมามากแค่ไหน” ทุกคนเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าของชายคนนั้นทุกคนก็ตกตะลึง
“หลินฮู!”
“กลายเป็นว่ามันคือหลินฮู!”
” อะไรนะ?”
ทุกคนตกใจ
ทีม A และ F ที่กําลังจะจากไปได้วิ่งกลับมาที่นี่เหมือนกับคนบ้า แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาเห็นชายผู้ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กและปกคลุมไปด้วยรอยแผล นั่นคือหลินฮู!
“นั่นขา!”
“มันเป็นเขาจริงๆ!”
ทุกคนตื่นเต้นมาก
“ดูสิว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่”
เซี่ยเคอตื่นเต้นมากจนเขาแทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขายื่นมือออกไปเพื่อตรวจสอบ “เขายังมีชีวิตอยู่! เขายังหายใจอยู่! เร็วเข้าใครก็ตามที่มีความสามารถพิเศษประเภทการรักษา! มาช่วยทางนี้เร็ว!”
“ครับ”
มีคนก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว เชี่ยเคอนํายาฟื้นฟูขั้นสูงสองสามขวดออกมาและเทลง แต่ร่างกายของซูฮ่าวยังคงฟื้นตัวในอัตราที่ช้าเช่นเดิม
“เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยเคอขมวดคิ้ว
“ควรเป็นเพราะโซ่เหล็กนี้ ด้วยสมรรถภาพทางกายของหลินฮูเขาไม่จําเป็นต้องใช้ยาใดๆ เนื่องจากมีการฟื้นตัวที่ดีที่สุด อีกฝ่ายคงกลัวว่าเขาจะหนีไปหลังจากที่ดีขึ้นจึงตัดสินใจที่จะผนึกการฟื้นตัวของเขาด้วยโซนี้ มิฉะนั้นโซ่เหล่านี้เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างอันตรายต่อร่างกายของเขา” คนจากทีม A อธิบายอย่างไม่พอใจ
“ไอ้**ตระกูลไป่!”
“ไปกันเถอะ เราต้องไปหาท่านลอร์ดเทียนกัง” เชี่ยเคอกัดฟันและทําลายกําแพงที่ติดอยู่กับโซ่ เขาอุ้มซูฮ่าวขึ้นพร้อมกับโซ่ ทีม A ติดตามไปอย่างใกล้ชิดจากด้านหลัง ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป ทั้งพื้นที่กลายเป็นโกลาหล
“ไม่น่าเชื่อเลยหลินฮยังมีชีวิตอยู่!”
“ข้าคิดว่าเขามีความสามารถพิเศษที่หาได้ยาก? มันดูราวกับว่าเขาโชคดีจนสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ แต่น่าเสียดายที่เขาถูกตระกูลไปสอบปากคํา น่าสงสาร ร่างกายของเขาถูกทรมาณอย่างหนัก นี่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้รับข้อมูลที่ต้องการ มิฉะนั้นการโจมตีตระกูลไปของเราจะราบรื่นเช่นนี้ได้อย่างไร”
“ไอ้เชี่ย หลินฮูจะเป็นคนที่ดีเด่นไปถึงไหน”
“ใช่จากนี้ เขาจะเป็นหนึ่งในคนข้าชื่นชม!”
ทุกคนในตระกูลเทียนต่างมีส่วนร่วมในการอภิปรายที่ร้อนแรง
ข่าวเกี่ยวกับที่หลินฮยังมีชีวิตแพร่กระจายทั่วทั้งตระกูลเทียนอย่างรวดเร็ว อย่างไม่สามารถไม่หยุดยั้งได้ ข่าวการที่หลินฮูถูกทรมานแต่ก็ไม่ยอมบอกข้อมูลใดๆ แก่ศัตรูแม้กระทั่งจะแลกด้วยชีวิตของตนเอง มันได้เพิ่มความสมบูรณ์ให้แก่เขามากยิ่งขึ้น ในตอนนี้นี่คือศิษย์ที่ซื่อสัตย์ที่สุด
หลินฮูถูกนําตัวไป
หลังจากการพูดคุยเป็นเวลานานในที่สุดทุกคนก็จากไป ตระกูลไปยากจนมากเกินไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สมควรที่จะเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ซึ่งทําให้ตระกูลเทียนทําได้เพียงอย่างขมขื่น อย่างไรก็ตามการเอาชนะตระกูลไปได้นําเกียรติยศมาสู่ตระกูลเทียน!
อย่างรวดเร็ว
ในคืนที่มืดมิด ไม่มีใครเหลืออยู่ในที่อาคารของตระกูลไป มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับหน้าที่ในปกป้องบริเวณพื้นที่นี่
และไม่มีใครรู้ว่าเมื่อพวกเขาจากไป ได้มีร่างเงาหลายร่างปรากฏขึ้นจากสถานที่ที่หลินฮูถูกขัง
วูป~
แสงกระพริบ
จากระยะไกล สถานที่แห่งนี้กลับมีถนนที่กว้างขวางปรากฏขึ้น มีคนมากกว่าหนึ่งโหลยืนอยู่ที่นั่น ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาเฝ้าดูหลินฮูถูกพาตัวไป หลังจากยืนยันว่าคนของตระกูลเทียนจากไปแล้ว อัจฉริยะเหล่านี้ก็ปรากฏตัวออกมาอย่างเงียบๆ
“ในที่สุดมันก็จบ”
ชายหนุ่มที่เดินนําทุกคนถอนหายใจ “ตระกูลไปจบสิ้นแล้ว”
น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด หากมีคนจากตระกูลเทียนอยู่ที่นี่ในตอนนี้พวกเขาคงจะตกใจเพราะคนที่พูดตอนนี้กลับเป็นผู้ที่ตายไปแล้ว ไปหลู่เฟิง! และข้างๆ เขาคือทุกคนที่อยู่กับเขาในอาคารเมืองหลิง พวกเขาทั้งหมดมีชีวิตอยู่!
ด้านหลังไปหลู่เฟิงมีเอสเปอร์โลกทั้งสองที่ถูกทําให้ “กลัว” โดยตระกูลเทียนและอีกหกคนที่มีออร่าคล้ายกันกับพวกเขา!
โลกของตระกูลไปตามจริงแล้วมีทั้งหมดแปดคน!
“ตอบจบเช่นนี้ดีที่สุดแล้ว” ไปหลู่เฟิงยิ้ม
นี่คือการแสดง
ตั้งแต่ต้นจนจบมันเป็นเพียงการแสดง! “ชีวิตก็เหมือนบทละคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับทักษะการแสดง” ทุกคนในตระกูลไปประสบความสําเร็จโดยดีภายใต้การนําของไปหลู่เฟิง พวกเขาแสดงได้ดีอย่างมากและบทละครนี้ไม่เพียงแต่สร้างสําหรับตระกูลเทียนเท่านั้น แต่เป็นสําหรับผู้ที่ไม่จงรักพักดีที่อยู่ในตระกูลไปด้วย!
ในวันนั้นเมื่ออาคารเมืองหลิงถูกโจมตีผู้อาวุโสของตระกูลไปได้จัดทีมคนที่เชื่อถือได้พื่อจับกุมซูฮ่าว ความจริงเพื่อช่วยให้พวกเขาหลบหนี แล้วพวกเขาก็สามารถอพยพได้สําเร็จ ต่อมาคนที่หนีจากตระกูลไป่ ทั้งหมดอยู่ภายใต้คําสั่งของไปหลู่เฟิง สําหรับคนที่ “ภักดี” อยู่ต่อ..
สิ่งนั้นค่อนข้างง่าย
ไปหลู่เฟิงทิ้งทรัพยากรที่น่าดึงดูดไว้ให้พวกเขาฝึกฝนและให้พวกตะกละกลุ่มนี้ต่อสู้กันเพื่อทรัพยากร เหล่าคนที่เสียชีวิตอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทําไมตระกูลเทียนถึงบุกเข้ามา
นี่เป็นเดิมพันครั้งใหญ่
เมื่อไปหลู่เฟิงและซูฮ่าวติดต่อกันเขาก็ทําได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นซึ่งเป็นการบอกใบ้ให้เขาถอย อย่างไรก็ตามเป็นซูฮ่าวที่ปรับแต่งให้การแสดงนี้ยอดเยี่ยมขึ้น
สําหรับเคล็ดลับนี้พวกเขาได้เดิมพันด้วยตระกูลไปทั้งหมด!
ไป่หลู่เฟิงไว้วางใจซูฮ่าวโดยไม่มีเงื่อนไข ในทํานองเดียวกันความจริงตระกูลไปก็สามารถขนย้ายทุกอย่างได้สําเร็จอีกครั้งกับทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขา นี่เป็นสาเหตุว่าทําไมตระกูลไปจึงดูน่าสงสาร ในฐานะตระกูลที่เกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจ ทรัพยากรของตระกูลไปจะเทียบกับตระกูลอื่นได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครสนใจ
เกมนี้สิ้นสุดลงแล้ว
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตระกูลไป่หนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ได้หายไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือกองกําลังใหม่ที่ทรงพลังและไม่ต้องการเข้าร่วมการต่อสู้ใดๆ