ตอนที่ 510 ต้นกำเนิดเดิม / ตอนที่ 511 ทุกคนทำผิดพลาดได้

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 510 ต้นกำเนิดเดิม

 

 

คุณพ่อลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินดูสนอกสนใจก็คิดถึงเมิ่งชิงซีที่ตอนนี้อยู่ในคุกขึ้นมา และตอนนี้เสิ่นหลานอีก็กลับมาแล้ว ถึงแม้ไม่ได้เป็นสะใภ้ตระกูลเมิ่งอีก แต่ตอนนี้เธอแต่งงานใหม่แล้วและผู้ชายคนนั้นก็เป็นคนที่มีฐานะตำแหน่ง เป็นคนที่ไม่อาจล่วงเกินได้ง่ายๆ

 

 

“ตอนลูกยังเด็ก พ่อพาลูกไปบ้านตระกูลเมิ่ง ตอนนั้นผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านมีความเห็นกันว่าจะให้ลูกกับชิงหลานได้หมั้นกัน ใครจะรู้ว่าต่อมาจะเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น เลยเปลี่ยนจากชิงหลานเป็นชิงซี”

 

 

“พ่อหมายความว่า ตอนแรกคนที่ผมต้องหมั้นด้วยคือโจวโจวงั้นเหรอ แล้วโจวโจวก็คือคู่หมั้นของผมตั้งแต่แรกเหรอ” ลั่วเซ่าเชินไม่คิดว่าเขากับถังโจวโจวจะยังมีพรหมลิขิตต่อกันอย่างนี้ ดูเหมือนว่าใครก็ไม่สามารถแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกันได้แล้ว

 

 

พลัดพรากจากกันตั้งหลายปี พวกเขาสองคนยังมาเจอกันได้ ถ้าไม่เรียกว่าพรหมลิขิตและจะเรียกว่าอะไร

 

 

“ใช่ พ่อหมายความอย่างนั้นแหละ”

 

 

คุณแม่ลั่วยังอ้าปากค้างอยู่ข้างๆ ทำไมเธอถึงได้มีพรหมลิขิตกับลูกสาวตระกูลเมิ่งแบบนี้นะ สำหรับเมิ่งชิงซีแล้ว ตอนนี้คุณแม่ลั่วเต็มไปด้วยความเกลียดชังเพราะไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนั้น

 

 

เพราะความเห็นแก่ตัวถึงกับต้องทำร้ายถังโจวโจว คุณแม่ลั่วโชคดีที่ตอนแรกอยากได้เธอเป็นสะใภ้แต่ดีที่มีคนมาขวางไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง

 

 

แน่นอนว่าเพราะเมิ่งชิงซีคิดว่าจะได้เป็นสะใภ้ของครอบครัวตระกูลลั่วจึงทำร้ายคนอื่น คนประเภทนี้คุณแม่ลั่วกลัวมาก เกิดวันหนึ่งเธอไปขวางทางอีกฝ่ายเข้า เธอจะต้องตายในเงื้อมมือของอีกฝ่ายหรือเปล่า

 

 

“แล้วทำไมตอนหลังถึงกลายเป็นเมิ่งชิงซีได้ล่ะครับ” พอลั่วเซ่าเชินเอ่ยออกมาก็นึกเหตุผลขึ้นได้ทันที เพราะพ่อแม่ของตนไม่อยากปล่อยครอบครัวที่เพียบพร้อมอย่างตระกูลเมิ่งไป สุดท้ายจึงเปลี่ยนเงื่อนไขกับตระกูลเมิ่ง ทำตัวเองแท้ๆ เชียว

 

 

คุณพ่อลั่วอธิบายสถานการณ์ต่างๆ ให้ลั่วเซ่าเชินฟังอย่างง่ายๆ ตอนนี้เรื่องราวก็คลี่คลายแล้ว คุณพ่อลั่วจึงไม่อยากพูดอะไรอีก ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้สะใภ้ของตระกูลเขาก็คือถังโจวโจวอยู่ดี

 

 

คุณแม่ลั่วก้มหน้าลงด้วยความอับอาย ไม่คิดเลยว่าความคิดของเธอจะผิดมาโดยตลอด ผิดที่เห็นกรวดเป็นพลอย และกลับมองว่าทองคำเป็นหิน

 

 

ลั่วเซ่าเชินเปลี่ยนความคิดของคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วให้พวกเขาค่อยๆ คิดว่าต่อไปจะปฏิบัติอย่างไรกับลั่วอิงและโจวโจว

 

 

ลูกสะใภ้ที่พวกเขาอยากได้ โจวโจวเองก็มีคุณสมบัติเพียงพอแล้ว ที่จริงแล้วซูเสี่ยวเองก็เหมาะสมกับเงื่อนไข เพียงแต่เมื่อเจ้าหญิงไม่ได้กลับสู่ปราสาทก็ถูกบางคนเข้าใจผิดว่าเป็นขอทาน คละเคล้าไปด้วยความสุขและความเศร้า

 

 

ลั่วเซ่าเชินกลับมาที่ห้องชั้นบน เมื่อเปิดประตูก็พบว่าบนใบหน้าของลั่วอิงยังมีคราบน้ำตาอยู่ “ลูกรัก ร้องไห้ทำไม เพราะคุณปู่คุณย่าทำให้เสียใจใช่ไหม”

 

 

ลั่วอิงพยักหน้า แต่หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า “พ่อคะ หนูคิดว่าต่อไปหนูคงเลี้ยงน้องไม่ได้แล้ว” ถ้าเธอเห็นน้องอยู่ตลอดก็จะคิดถึงคุณปู่คุณย่าที่ปฏิบัติต่อเธออย่างลำเอียง แล้วเธอจะทำได้ยังไง

 

 

“ทำไมถึงเลี้ยงน้องไม่ได้แล้วล่ะ เมื่อกี้คุณปู่คุณย่าคุยกับพ่อแล้ว พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาผิด ลูกเองก็เป็นที่รักของเขาเหมือนกัน และก็เป็นเจ้าหญิงน้อยของบ้านด้วย อย่าเอาเรื่องเล็กแบบนี้มาทำให้ตัวเองไม่สบายใจเลย เชื่อพ่อนะ”

 

 

“ใช่ ลั่วอิง แม่ก็บอกลูกแล้ว ไม่ว่าลูกจะต้องเจอกับเรื่องยากลำบากอะไร พวกเราก็จะยืนอยู่ข้างลูกเสมอ ดังนั้นลูกวางใจได้ ไม่ต้องกังวลอะไรนะ”

 

 

ถังโจวโจวรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่ควรละทิ้งความเชื่อใจเพียงเพราะเจอเรื่องยากลำบาก ต้องรู้ว่าชีวิตของมีไว้ให้เราได้ใช้มันด้วยตัวเอง อย่าให้คนอื่นมามีผลกระทบต่อชีวิตและทำร้ายความรู้สึกของเราได้ เพราะนั่นมันไร้ค่ามาก

 

 

น่าเสียดายที่ตอนนี้ลั่วอิงยังเล็กและสิ่งที่เธอพูด เธอก็คงไม่เข้าใจ แต่ถังโจวโจวก็ยังพูดให้เธอฟัง เพราะถึงตอนแรกจะยังไม่เข้าใจแต่หากค่อยๆ อธิบายเหตุผลไป เธอก็หวังว่าต่อไปลั่วอิงจะเข้าใจได้

 

 

“ทำไมพวกท่านถึงยอมรับว่าผิดล่ะคะ” ลั่วอิงรู้สึกว่าพ่อของเธออาจจะพูดเล่น คุณปู่น่ะอาจจะได้ แต่คนอย่างคุณย่าคงไม่ยอมรับผิดเพราะเรื่องเล็กๆ แบบนี้หรอก

 

 

 

 

 

ตอนที่ 511 ทุกคนทำผิดพลาดได้

 

 

“ต้องได้แน่นอน ลั่วอิงจำไว้นะ ทุกคนทำผิดพลาดกันได้ คุณปู่คุณย่าเองก็ไม่ยกเว้น แต่พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ เราต้องเลือกที่จะให้อภัยพวกเขานะ”

 

 

ถังโจวไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากพวกเขาจะทำเกินไปเท่านั้น แต่ถึงตอนนั้นลั่วอิงก็คงโตพอที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว อย่างไรทุกคนก็ไม่ใช่จะใจกว้างได้ขนาดนั้น ก็ใช่ว่าจะไร้ความรู้สึกเสียหน่อย

 

 

“แม่คะ ต่อไปถ้าพ่อกับแม่ทำผิดหนูก็จะให้อภัยนะคะ” ลั่วอิงเรียนรู้ที่จะใช้มันทันที ถังโจวโจวหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก “ได้ พอถึงเวลานั้นก็คงต้องขอพึ่งคุณหนูลั่วอิงผู้ยิ่งใหญ่ด้วยนะ”

 

 

“ไม่มีปัญหาค่ะ เชื่อใจหนูได้เลย” ลั่วอิงตบอกตนเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เหมือนไม่ค่อยกังวลเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

 

 

แบบนี้ถังโจวโจวก็ค่อยวางใจขึ้นมาหน่อย เด็กไม่จำเป็นต้องมานั่งกังวลอะไรมากขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นสูญเสียความสุขในวัยเด็กไป มันไม่คุ้มค่ากันเลย

 

 

“แบบนี้ก็ดี มีพ่ออยู่ ลูกไม่ต้องกังวลอะไร”

 

 

ลั่วอิงมองลั่วเซ่าเชินอย่างมีความสุข เขาลูบหัวเธอ “ลั่วอิง ลูกต้องจำไว้นะ พวกเราจะเป็นพ่อแม่ของลูกตลอดไป นอกจากลูกจะไม่ต้องการพวกเราแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะอยู่ข้างลูกตลอดไป”

 

 

“ค่ะ พ่อคะ หนูเข้าใจแล้ว ต่อไปหนูจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้วค่ะ” ลั่วอิงก็รู้ว่าแต่ไหนแต่ไรมาลั่วเซ่าเชินไม่เคยไม่สนใจเธอ เขาเห็นเธออยู่ในสายตาตลอด ดังนั้นถึงเธอจะรู้ว่าลั่วเซ่าเชินจะไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเธอ เธอก็ไม่เคยคิดอย่างอื่น

 

 

จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของลั่วเซ่าเชินก็ดังขึ้น เขารับสาย คุยสองสามคำและออกจากห้องไป ถังโจวโจวเองก็ไม่ได้สนใจนัก

 

 

“ฮัลโหล มีเรื่องอะไรเหรอ”

 

 

“คุณลั่ว เมิ่งชิงซีถูกตัดสินลงโทษแล้ว หนึ่งปีครับ”

 

 

“ทำไมถึงน้อยแบบนี้ ทำไมไม่พยายามให้มากกว่านี้อีก ตอนแรกผมก็บอกไปแล้วนี่ว่าให้เธออยู่ในนั้นนานๆ ไปเลย”

 

 

“คุณลั่ว เรื่องราวผ่านมานานมากแล้ว ถึงแม้ศาลจะยืดเวลาให้นานขึ้น แต่ก็ยังยากอยู่ดี แต่ไม่เป็นไรครับคุณลั่ว ปล่อยให้เธอออกมาก่อน ถึงเวลาแล้วค่อยมาคิดวิธีอีกครั้ง เธอไม่สามารถเป็นอิสระได้ง่ายๆ หรอก”

 

 

เมื่อได้ฟังแบบนั้น ลั่วเซ่าเชินก็วางใจขึ้นมานิดหน่อย ค่อยรู้สึกคุ้มค่าที่ได้ลงแรงไปหน่อย “ได้ ถ้าอย่างก็ให้เป็นอย่างนี้ไปก่อน รอให้เธอออกมาแล้วค่อยวางแผนอีกที”

 

 

“เซ่าเซิน ใครโทรหาคุณเหรอ” เมื่อถังโจวโจวหันกลับมาก็พบว่าลั่วเซ่าเชินไม่อยู่แล้ว เมื่อเธอออกมาตามหาเขาก็เห็นว่าเขาวางสายไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเขาคุยกับใคร ทำไมเสียงถึงเบานัก

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก ถามงานกับหวังหวานิดหน่อยว่าเป็นยังไงแล้ว ลั่วอิงไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม”

 

 

“ไม่เป็นไรแล้ว เด็กเล็กๆ น่ะ ถึงแม้บางครั้งจะดื้อจนน่ากลัว แต่ถ้าคุณคุยกับเธอแล้ว เธอก็จะเข้าใจจิตใจของคุณ นอกจากนี้ลั่วอิงเองก็ไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ประสา”

 

 

สิ่งที่ถังโจวโจวรู้สึกวางใจได้มากคือการที่ลั่วอิงเข้าอกเข้าใจในตัวพ่อแม่อย่างพวกเขา ความงี่เง่านั้นนิสัยเสียเล็กๆ ของผู้หญิง เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ บางครั้งตนก็คิดว่าเธอน่ารัก

 

 

“ดีแล้ว ไม่มีปัญหาก็ดีแล้ว ทางฝั่งพ่อกับแม่ผมเองก็คุยแล้ว เชื่อว่าท่าทีของพวกเขาจะต้องเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้แน่ หรือถ้าไม่ได้จริงๆ ผมจะพาลั่วอิงมาที่นี่ให้น้อยที่สุด เดิมทีพวกเราก็กลับมาน้อยมากอยู่แล้ว ถึงเวลาคนที่ร้อนรนก็คือพวกเขา”

 

 

ลั่วเซ่าเชินเข้าใจเรื่องราวเป็นอย่างดี เสี่ยวอวี่คือแก้วตาดวงใจของพวกเขา ไม่เจอสองสามวันนั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่เจอสักเดือนสองเดือนก็ค่อนข้างนานแล้ว

 

 

วันนี้ได้เห็นคุณแม่ลั่วในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ลั่วเซ่าเชินคิดว่าถ้าถังโจวโจวรออีกหน่อย ไม่รู้ว่าคุณแม่ลั่วจะพูดถึงเรื่องที่จะเลี้ยงเสี่ยวอวี่ด้วยตัวเองไหม

 

 

เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร คุณพ่อลั่วและคุณแม่ลั่วก็กลับไปทำดีต่อลั่วอิง เพียงแต่เมื่อลั่วเซ่าเชินใกล้กลับแล้ว คุณแม่ลั่วก็ทำท่าทางอึกอักเหมือนมีอะไรจะพูด เพียงแต่ถูกคุณพ่อลั่วขัดไว้ จึงเงียบไป

 

 

“พ่อคะ แม่คะ วันนี้พวกเรากลับก่อนนะคะ” ถังโจวโจวอุ้มเสี่ยวอวี่ ให้เสี่ยวอวี่และคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วได้โบกมือลากัน เสี่ยวอวี่ทำตามอย่างเชื่อฟังทันที การทำอย่างนี้สำหรับเขาแล้วคงจะสนุกอยู่ไม่น้อย