บทที่ 1475 หลอมรวมวิญญาณความลับสวรรค์

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ซื่อจงหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนี้เป็นเวลานาน เขาสามารถบอกได้ว่าอาการของเขาดีขึ้นจากการสังเกตก้อนเลือดเหล่านั้น

 

“แม้ข้าจะมีความก้าวหน้า แต่มันยังห่างไกลจากความสำเร็จ ขั้นตอนยังขาดไปสองสามขั้น ข้าต้องทำงานให้หนักขึ้น!” ซื่อจงมีประสบการณ์ในเรื่องนี้

 

เขาคำนวณและตระหนักว่าถึงเวลาให้อาหารวิญญาณของเขาอีกครั้ง

 

ซื่อจงรับสืบทอดมรดกมาจากครอบครัวของตนเอง เขามีวิญญาณอมตะหลายดวง นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้อมตะคนอื่นๆของตระกูลซื่อรู้สึกอิจฉา น่าเสียดายที่การรับสืบทอดมรดกจากครอบครัวเป็นกฎที่ไม่สามารถทำลายได้

 

ซื่อจงครอบครองวิญญาณอมตะจำนวนมาก นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายและถูกกีดกันโดยผู้อมตะคนอื่นๆของตระกูลซื่อ

 

เขาตรวจสอบคลังสมบัติของตนและรู้สึกปวดหัวมาก

 

“มันค่อนข้างลำบาก ข้าขาดอาหาร ข้าลืมไปว่าการหลอมรวมวิญญาณความมั่งคั่งทำให้ข้าขาดแคลนทรัพยากร ข้าขายอาหารบางส่วนออกไปก่อนหน้านี้”

 

“ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะรวบรวมอาหารเพิ่ม ข้าควรซื้อปลามังกรมาเป็นอาหารให้กับวิญญาณอมตะของข้าเป็นการชั่วคราว”

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ซื่อจงก็ไม่ลังเลที่จะส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในสวรรค์สีเหลือง

 

‘ปลามังกร…’ เขามีเป้าหมายที่ชัดเจน เขาพบว่ามีผู้ขายหลายรายกำลังขายปลามังกรอยู่ในขณะนี้

 

ในฐานะผู้ซื้อ เขาต้องเปรียบเทียบสินค้าของผู้ขายเหล่านั้น

 

ธุรกิจปลามังกรไม่เหมือนธุรกิจวิญญาณปี มันขายได้ตลอดเวลาเนื่องจากปลามังกรสามารถผสมพันธุ์ได้ทุกฤดูกาล นี่ทำให้ตลาดปลามังกรคึกคักเสมอ

 

ซื่อจงไปที่ร้านของโหยว่ชานเป็นอันดับแรก

 

ทุกคนรู้ว่าโหยว่ชานเป็นผู้ขายปลามังกรอันดับหนึ่งของสวรรค์สีเหลือง

 

แต่นางยังมีสินค้าชนิดอื่นด้วย

 

ในอดีตหากซื่อจงต้องการซื้อปลามังกร เขาจะซื้อจากโหยว่ชานเพราะชื่อเสียงของนาง

 

หากทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย ครั้งนี้เขาก็จะซื้อปลามังกรจากนางเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นปลามังกรของโหยว่ชาน ซื่อจงยังไม่ได้ซื้อทันทีแต่มองไปรอบๆ

 

ในไม่ช้าเขาก็เห็นร้านของฟางหยวน

 

“หือ? มีคนขายปลามังกรอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ? เขามีสินค้าค่อนข้างมาก” ซื่อจงรู้สึกประหลาดใจ

 

เขาตรวจสอบและพบว่าปลามังกรของฟางหยวนมีคุณภาพสูงเทียบเท่ากับปลามังกรของโหยว่ชาน

 

“ร้านนี้ดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากกว่า” ซื่อจงเห็นเจตจำนงและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะจำนวนมากอยู่ที่ร้านของฟางหยวน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากปิดประตูบ่มเพาะมานาน ธุรกิจปลามังกรในสวรรค์สีเหลืองจะมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งรายใหม่เกิดขึ้น” ผู้อมตะบางคนกล่าว

 

“สหาย ท่านมาที่นี่เพื่อซื้อปลามังกรงั้นหรือ? เหตุใดเราไม่ซื้อด้วยกัน? มันจะถูกกว่า” ผู้อมตะคนเดิมแนะนำ

 

“โอ้ เกิดสิ่งใดขึ้น?” ซื่อจงถาม

 

ผู้อมตะผู้นั้นอธิบาย “ท่านไม่รู้งั้นหรือ? คนขายปลามังกรร้านนี้มีกฎเกณฑ์ที่แตกต่าง ตราบเท่าที่เราซื้อในปริมาณที่กำหนด ราคาจะลดลง มีหลายระดับราคา แต่ประเด็นคือยิ่งซื้อมากก็ยิ่งถูก”

 

ซื่อจงได้ยินเรื่องนี้และลอบยกย่องอยู่ในใจ ‘เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยม!’

 

ต่อมา เขานึกถึงตัวเอง ‘บางทีข้าอาจใช้วิธีนี้ในการทำธุรกิจในอนาคต’

 

ซื่อจงพิจารณาและรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ฉลาด

 

แม้ราคาจะลดลงแต่ด้วยปริมาณที่มากขึ้น กำไรจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน หากเปรียบเทียบกับสงครามราคาของธุรกิจวิญญาณปี นี่เป็นวิธีที่ฉลาดและลึกซึ้งมากกว่า

 

‘วิธีนี้ไม่เพียงทำให้ยอดขายปลามังกรเพิ่มขึ้น แต่มันยังสามารถเพิ่มชื่อเสียง หากบางคนต้องการซื้อปลามังกรจำนวนมากเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง พวกเขาจะชวนสหายหรือกระทั่งคนแปลกหน้ามาซื้อพร้อมกัน มันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการเผยแพร่ข่าวสารสำหรับผู้ขาย’

 

ซื่อจงคิดเกี่ยวกับมันและรู้สึกว่าคนขายปลามังกรมีความคิดที่น่าทึ่งมาก

 

‘ไม่แปลกใจเลยที่ร้านของเขามีลูกค้ามากมายเมื่อเปรียบเทียบกับร้ายของผู้ขายอันดับหนึ่ง’

 

‘ฮ่าฮ่า ผู้ขายอาจปลอมตัวมาที่นี่เพื่อสร้างสถานการณ์นี้ด้วยตัวเขาเอง’

 

ซื่อจงรู้สึกสนใจผู้ขายรายนี้ทันที

 

‘ลืมมันไปซะ ข้าจะซื้อสินค้าของที่นี่ หลังจากทั้งหมดราคาของมันถูกกว่า’ เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซื่อจงก็ตัดสินใจร่วมงานกับผู้อมตะที่ไม่รู้จักทันที

 

ทั้งสองมีความสุขมาก หลังจากเจรจา พวกเขาก็ซื้อปลามังกรรวมกันถึงแสนตัว

 

หลังจากซื้อสินค้า พวกเขาก็แบ่งสินค้ากันในสวรรค์สีเหลือง

 

ซื่อจงต้องการให้อาหารวิญญาณอมตะ ขณะที่ผู้อมตะอีกคนออกจากสวรรค์สีเหลืองทันที

 

ความจริงก็คือซื่อจงเดาถูก ผู้อมตะที่ซื้อสินค้าร่วมกับเขาคือตัวแทนของฟางหยวน เขาไม่ใช่ฟางหยวนแต่เป็นหนึ่งในสมาชิกนิกายเงา

 

แม้ผู้คนจะสามารถคาดเดา แต่พวกเขาจะพิสูจน์อย่างไร?

 

ไม่มีทางเป็นไปได้

 

ในความเป็นจริงนี่ไม่ใช่วิธีที่ฟางหยวนคิดค้นขึ้นด้วยตนเอง

 

ซื่อจงหมกมุ่นอยู่กับการหลอมรวมวิญญาณและไม่ได้สนใจสวรรค์สีเหลืองมากนัก วิธีการนี้ถูกใช้มานานแล้ว

 

ความแปลกใหม่ของแนวคิดไม่ใช่สิ่งสำคัญ มีเพียงผลลัพธ์เท่านั้นที่สำคัญ

 

ฟางหยวนประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำเช่นนี้

 

หลายวันที่ผ่านมาเขาเพิ่มปริมาณสินค้าที่วางขายในสวรรค์สีเหลือง ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจมันมากขึ้น

 

ปริมาณสินค้าแสดงถึงความสามารถของเขา ผู้ซื้อจะซื้อสินค้าจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ

 

ในทางกลับกันฟางหยวนใช้วิธีการที่เหมาะสมในการขาย ด้วยวิธีนี้ชื่อเสียงของเขาจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

แรกเริ่มมีไม่กี่คนที่ซื้อสินค้าของเขา แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็มีลูกค้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ในฐานะที่เป็นผู้ขายอันดับหนึ่งในธุรกิจปลามังกร โหยว่ชานแห่งทะเลตะวันออกยังขายปลามังกรของนางอย่างสงบโดยไม่สร้างความโกลาหลใดๆ

 

‘การนิ่งเฉยเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ในระยะสั้นวิธีการของข้ายังไม่สามารถคุกคามนาง หากนางพยายามต่อสู้ กำไรของนางจะลดลง’ ฟางหยวนคิด

 

โหยว่ชานสงบนิ่งในสถานการณ์นี้

 

‘แต่อีกไม่นานนางจะเริ่มกังวล ฮ่าฮ่า’ ฟางหยวนมั่นใจมาก

 

หลังจากดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมา ฟางหยวนไปที่ห้องหลอมรวมวิญญาณเพื่อพบผมที่หก

 

ใบหน้าของผมที่หกซีดขาวขณะหลอมรวมวิญญาณให้ฟางหยวน

 

ตอนนี้เขามาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความลับสวรรค์อีกครั้ง

 

มันเป็นเวลาที่ฟางหยวนต้องลงมือทำด้วยตนเอง

 

แสงสีขาวส่องประกายขึ้นรอบตัวฟางหยวน

 

“เราจะเริ่มต้นเดี๋ยวนี้” ฟางหยวนสงบจิตใจและกล่าวกับผมที่หก

 

หลังจากนับถอยหลัง ผมที่หกก็หยุดการทำงานของค่ายกลวิญญาณ

 

ฟางหยวนเข้าแทนที่ทันที

 

ความคิดจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในใจของเขา เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาก่อนจะควบแน่นแสงสีขาวให้กลายเป็นวงแหวนขนาดใหญ่

 

ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม วงแหวนแสงสวรรค์

 

การหมุนครั้งแรก

 

ฟางหยวนเริ่มหมุนวงแหวนแสงสีทองอย่างช้าๆ

 

การหมุนครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

 

ในการหมุนครั้งที่สอง ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นและมองไปที่วงแหวนแสง มันหมุนเร็วกว่ารอบแรก

 

หลังจากหลายนาที การหมุนครั้งที่สองก็สำเร็จ

 

ในการหมุนครั้งที่สาม ฟางหยวนใช้ลมหายใจขยับวงแหวนแสง หลังจากชั่วครู่เขาก็ทำสำเร็จ

 

การหมุนครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า และครั้งที่หกประสบความสำเร็จเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปมันก็ถึงการหมุนครั้งที่เจ็ด

 

‘ดูเหมือนท่านผู้นำจะพยายามอย่างมากหลังจากการล้มเหลวครั้งนั้น’ ผมที่หกมองจากด้านข้างด้วยความกังวล

 

การหมุนครั้งที่เจ็ด

 

ฟางหยวนกัดฟันแน่นและพยายามหมุนวงแหวนแสงสีทองอย่างดีที่สุด

 

ตอนนี้วงแหวนแสงหดตัวลงมามีขนาดเท่าอ่างน้ำลอยอยู่เหนือศีรษะของเขาแล้ว

 

“บึม!”

 

ด้วยเสียงอันแผ่วเบา วงแหวนแสงหดตัวลงเป็นจุดเล็กๆ

 

วิญญาณความลับสวรรค์ระดับเจ็ด!

 

“ข้าทำสำเร็จจริงๆ!” กระทั่งฟางหยวนยังแปลกใจ

 

เขาล้มเหลวในการหลอมรวมครั้งแรก แต่เขากลับประสบความสำเร็จในการทดลองครั้งที่สอง

 

หลังจากประหลาดใจ ฟางหยวนรู้สึกมีความสุขมาก

 

“อาจเป็นเพราะวิธีการแห่งโชคทำให้ข้าโชคดีมาก”

 

ฟางหยวนหยิบวิญญาณอมตะความลับสวรรค์มาดู

 

มันดูเหมือนกิ่งไม้ที่มีความยาวเท่ากับครึ่งหนึ่งของต้นแขนมนุษย์และมีปีกเหมือนแมลงปอ

 

ฟางหยวนสังเกตมันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ “ในที่สุดข้าก็ได้รับวิญญาณอมตะความลับสวรรค์”