บทที่ 703 ยากที่จะชนะ (2)

 

“หา?” เมื่อเห็นว่าฝ่ามือหินยักษ์ถูกทําลายใบหน้าของหลินเฟิงก็เปลี่ยนไปทันที

 

ในไม่ช้า พลังวิญญาณที่มาจากการตอบโต้ของมันก็ทะลุผ่านมือหินยักษ์ที่แตกหักจนส่งผลกระทบต่อร่างกายของหลินเฟิงที่รับทั้งหมด

 

ใบหน้าของหลินเฟิงไร้สีเลือดจนขาวซีด เกิดกลิ่นคาวหวานขึ้นในลําคออย่างรวดเร็ว จากนั้นเลือดก็ถูกพ่นออกมา

 

พลังวิญญาณในร่างกายของเขาตกอยู่ในสภาพปั่นป่วน แขนขาของเขาไร้ความรู้สึกไปชั่วขณะ

 

ในเวลานี้ หมูป่าบินมาอีกครั้งและกระแทกใส่หลินเฟิงลงกับพื้นอย่างจัง

 

หมูป่ากดไหล่ของหลินเฟิงอย่างแรง ปากของมันพ่นกลิ่นเหม็นเน่าออกมาจนดูน่าขยะแขยงเป็นพิเศษ

 

ปากของมันเต็มไปด้วยฟันอันแหลมคม หากปล่อยให้มันกัด คอของหลินเฟิงคงจะถูกกัดจนขาดวิ่น!

 

หลินเฟิงรวบรวมพลังวิญญาณแล้วต่อสู้กับหมูป่า

 

แต่ความแข็งแกร่งของหมูป่านั้นยิ่งใหญ่เกินไป ด้วยแรงปลุกปล้ําของมัน หลินเฟิงแทบจะไม่มีช่องว่างให้หลบหนี

 

หมูป่าส่งเสียงคํารามดังกึกก้อง จากนั้นแสงสีแดงในดวงตาของมันก็สว่างไสว มันอ้าปากใหญ่ และกัดเข้าไปที่คอของหลินเฟิง!

 

ด้วยความช่วยเหลือของจิตสํานึกในการเอาชีวิตรอด หลินเฟิงจึงระเบิดพลังวิญญาณขึ้นมาในร่างของเขา

 

ชั่วพริบตา กล้ามเนื้อของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้งและพลังที่ระเบิดอย่างรุนแรงก็ได้ผลักหมูป่ากระเด็นออกไป!

 

หลินเฟิงกระโดดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หายใจหอบและจ้องมองไปที่หมูป่า

 

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ และยังคงมีร่องรอยแห่งความหวาดกลัวจากการรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดหลงเหลืออยู่

 

หมูป่าลงสู่พื้นอย่างมั่นคง มันโมโหหลินเฟิงมากที่ผลักตัวมันออกไป

 

มันส่งเสียงต่ําราวกับเสียงสายฟ้าที่แล่นแปลบปลาบ ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและดุร้าย และเท้าหลังของมันก็กดรอยลึกลงไปบนพื้นอีกด้วย

 

ขณะที่หลินเฟิงคิดว่ามันจะพุ่งออกมาปากของหมูป่ากลับบีบอัดเปลวไฟออกมาราวกับแสง

 

คลื่นที่รุนแรงแผ่กระจายออกไป ทันใดนั้นหมูป่าก็เงยหน้าขึ้นและพ่นคลื่นแสงเปลวไฟหนาไปยังหลินเฟิง!

 

คลื่นนั้นทวีความรุนแรงและน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินเฟิงไม่กล้าทําอะไรผลีผลาม จากนั้น เขาก็รีบวิ่งไปด้านข้างและเกือบจะหลีกเลี่ยงคลื่นแสงได้ด้วยความห่างแคในระดับเดซิเมตร

 

ถึงกระนั้น เสื้อผ้าของเขาก็ไหม้เป็นรูใหญ่จากลมปราณที่แผดเผา

 

คลื่นแสงโจมตีถูกป่าที่อยู่ด้านหลังของหลินเฟิงเป็นอย่างแรก ทําให้เปลวไฟส่องสว่างมาจากทางด้านหลัง จากนั้นเสียงคํารามอันแข็งแกร่งก็ดังออกมาพร้อมกับการสั่นสะเทือนของพื้นดิน

 

เนื่องจากการระเบิดส่งผลให้เกิดความร้อนอย่างรุนแรงในอากาศ ทําให้หลินเฟิงรู้สึกว่าเขากําลังจะถูกเผาจนเป็นถ่าน

 

เขาหันมองกลับไป จากนั้นรูม่านตาของเขาก็หดแคบลง

 

พื้นที่ป่าจํานวนมากหายไป และในตําแหน่งที่เขาเคยยืนมีเพียงหลุมว่างเปล่าขนาดใหญ่หลุ่มหนึ่ง

 

ไฟยังคงลุกลามไปรอบ ๆ ในอากาศเต็มไปด้วยอุณหภูมิสูง และขี้เถ้าสีดํากําลังลอยฟัง ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้านัก

 

ทันใดนั้น เครื่องจักรสังหารที่ดุร้ายก็โจมตีอย่างดุเดือดอีกครั้ง ความเร็วของหมูป่าเร็วกว่าเดิมด้วยซ้ํา!

 

เกือบจะในชั่วพริบตา ความคิดของหลินเฟิงก็ราวกับคอมพิวเตอร์ ความคิดมากมายสว่างว่าบออกมาและในที่สุดก็ได้ข้อสรุป

 

ในสถานะปัจจุบันของเขา เกรงว่าจะไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

 

หมูป่าโจมตีใส่เขา แล้วมันทะลุผ่านร่างของเขาไป

 

ไม่นานร่างนั้นก็หายไป

 

หมูป่ารีบหยุดอย่างรวดเร็ว มันไม่ได้โง่เลยแต่กลับกระตือรือร้นอยากรู้เป็นอย่างมาก

 

ในช่วงเวลาที่หยุด มันเกือบจะจับตําแหน่งของหลินเฟิงได้แล้วตามไปเพื่อฆ่าทิ้ง

 

แต่ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหน มันก็ยังคงตามไม่ทัน

 

เพราะเมื่อใดก็ตามที่กรงเล็บของมันสัมผัสหลินเฟิง มันจะรู้สึกได้แค่ว่าหลินเฟิงหายไปราวกับสายลมและไม่มีทางที่จะสัมผัสตัวตนของเขาได้

 

หลินเฟิงใช้ธาตุลมและก้าวเงาลม

 

ในช่วงขณะที่หมูป่าพุ่งชน เขาสลับร่างแปลงสัตว์เป็นคุณหลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นพลัง วิญญาณของเขาก็กลายเป็นธาตุลม เขาจึงสามารถใช้ก้าวเงาลมได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 

จากการกระทําของหลินเฟิง หมูป่าจึงดูเหมือนจะบ้าคลั่งไปชั่วขณะ และด้วยความช่วยเหลือของก้าวเงาลม หลินเฟิงจึงซ่อ

 

แต่นี่เป็นเพียงกลวิธีถ่วงเวลา ขณะที่หมูป่าบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ความเร็วและพลังของมันก็ ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

 

หลินเฟิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสําหรับหมูป่าที่จะไล่ตามจับตัวเขา

 

แต่ก้าวเงาลมของเขากลับไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้ ดังนั้นถึงแม้เขาจะใช้วิธีเคลื่อนไหวร่างกายเช่นนี้ เขาก็ยังรู้สึกค่อย ๆ เหนื่อยขึ้นมาทีละนิด

 

ในที่สุด ภายใต้ผลจากการเร่งความเร็วสองขั้นของหมูป่า หลินเฟิงจึงโดนโจมตีโดยบังเอิญ

 

หน้าท้องช่วงบนของเขาถูกกระแทกอย่างรุนแรง ตามด้วยคนทั้งคนกระเด็นลอยออกไปทางด้านหลังจนตกลงไปในป่า

 

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นทั่วร่างกาย และดูเหมือนซี่โครงของเขาจะหัก

 

ทันใดนั้น เสียงแหลมของหมูป่าก็ดังขึ้น และจากนั้นหลินเฟิงก็รู้สึกได้ว่าพื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย

 

หมูป่ามาหาเขาอีกครั้ง ทันใดนั้นร่างกายของหลินเฟิงก็มีแสงเรืองรองออกมาร่างของเขากลายเป็นดวงอาทิตย์ดวงเล็ก!

 

หมูป่าทนแสงสะท้อนไม่ได้ มันจึงรีบถอยออกมา

 

หลินเฟิงยืนขึ้นด้วยความยากลําบาก แม้ว่าพลังของเขาจะน่าทึ่งมาก แต่มันก็เป็นเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น

 

ตอนนี้เขาเปลี่ยนร่างสัตว์อีกครั้ง โดยเปลี่ยนตัวเองให้เป็นสัตว์ธาตุแสง

 

จู่ ๆ มันก็เกิดขึ้นกับเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเคยจัดการกับราชาสัตว์อสูรคราวก่อน คุณสมบัติของแสงอาจมีผลต่อการยับยั้ง แล้วตอนนี้เขายังสามารถนํามาใช้ได้อีกหรือ?

 

แน่นอนว่าแสงอันอบอุ่นบนตัวของหลินเฟิงนั้น ทําให้หมูป่าไม่ชอบมาก

 

ปากของมันปรากฏแสงเปลวไฟที่ถูกบีบอัดออกมาอีกครั้ง คราวนี้พลังงานมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะอยู่ห่างออกไปมากกว่าสิบเมตร หลินเฟิงก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนในอากาศ

 

ไม่เพียงแค่นั้น เป็นเพราะอุณหภูมิที่สูงใบไม้โดยรอบจึงม้วนขึ้นเล็กน้อย

 

ดวงตาของหลินเฟิงหยิ่งทะนงมากขึ้นเรื่อย ๆ การโจมตีที่ไม่ปกตินี้ สําหรับเขาแล้ว มันไม่ใช่ความกดดันเพียงเล็กน้อย

 

เขาตัดสินใจเงียบ ๆ จากนั้นพลังวิญญาณก็ถูกรวบรวมอย่างช้า ๆ

 

นี่คือการระเบิดอย่างเต็มรูปแบบ หากกระบวนท่านี้ไม่สามารถต้านทานได้ เขาก็ไม่เหลือหนทางใดอีกแล้ว

 

แสงศักดิ์สิทธิ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และแสงก็ยังทําให้หมูป่าเกลียดชังมากยิ่งขึ้นเรื่อย

 

ทันใดนั้น คลื่นแสงเปลวไฟที่รุนแรงกว่าเดิมก็พุ่งออกมาจากปากของมันราวกับน้ําที่ถูกฉีดออกมาจากปืนฉีดน้ําแรงดันสูง

 

“น้ําตกแสงไหลอันยิ่งใหญ่!” ในเวลานี้ มือของหลินเฟิงเหมือนกับกําลังกดปุ่มนาฬิกา สงบนิ่งและผลักดันออกไปอย่างรุนแรง

 

ทันใดนั้น กระแสแสงที่สว่างไสวก็พุ่งออกจากเขาไปยังหมูป่า

 

เขาเรียนรู้กระบวนท่านี้ในตอนที่เขากําลังพักผ่อนตอนกลางคืน แต่เขายังไม่ชํานาญและ ยังควบคุมทิศทางไม่ได้

 

อย่างไรก็ตามภายใต้การกัดฟันของเขา กระแสแห่งแสงจึงปะทะเข้ากับคลื่นแสงเปลวไฟ

 

หลินเฟิงก้าวถอยหลังในตอนแรกแต่ก็ไม่หยุดมือ พลังของคลื่นแสงเปลวไฟนั้นน่าทึ่งมาก เขาคิดว่าแม้ว่าเขาจะไม่เชี่ยวชาญมากนัก แต่เขาก็ยังสามารถต้านทานมันได้ด้วยทักษะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่มีความแข็งแกร่งเพียงขั้นกลาง ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะทําได้ยอดเยี่ยมจริงๆ!

 

คลื่นแสงเปลวไฟได้ถูกดันเข้าไปหาหลินเฟิงและมันกําลังจะกลืนกินเขา

 

ในเวลานี้ เสียงกระจ่างใสก็ดังขึ้น “เพิ่มขึ้น!”

 

ความรู้สึกเช่นคราวก่อนกลับมาอีกครั้ง หลินเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

 

เมื่อสบโอกาสนี้ เขาก็คํารามออกมาแล้วผลักแสงที่ท่วมท้นไปอย่างเต็มแรง

 

กระแสได้ถูกเพิ่มแรงโจมตีและมีแนวโน้มที่จะพังทลายลงได้ทุกเมื่อ

 

แต่หลินเฟิงก็สามารถควบคุมมันได้ในที่สุดกระแสแสงก็ดันคลื่นเปลวไฟกลับไปและโจมตีใส่หมูป่า!

 

เกิดเสียงระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนของหมูตัวหนึ่ง

 

ในตอนนี้ หลินเฟิงจึงเข้าใจได้เช่นกันว่าในที่สุดเขาก็ชนะแล้ว