บทที่ 1085 ยังเป็นเบบี๋อยู่
อ๊ากก!
นี่มันอะไรกันเนี่ย!
ทำไมจู่ๆ หัวใจถึงได้เต้นเร็วอย่างงนี้?
ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเอง…ละสายตาจากเยี่ยไป๋ไม่ได้เลย…
ทำไมโดนด่าจนหมดสภาพอย่างนี้แล้วยังอยากโดนด่าอีกล่ะ…
นี่ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เหรอ…
ไม่ ไม่มีทาง! เขาเป็นคนหนักแน่น หนักแน่นยิ่งกว่าเหล็กกล้าอีก!
ต้องเป็นเพราะเยี่ยไป๋หน้าเหมือนเสี่ยวมี่เจี้ยนมากแน่ๆ
เยี่ยหวันหวั่นเห็นกงซวี่นั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น ก็เตะเขาด้วยความโมโห “นายได้ยินที่ฉันพูดไหมเนี่ย?”
ชิบ! ขนาดโดนเตะยังมีความสุขเลย…
นี่เขาโรคจิตหรือเปล่าเนี่ย?
กงซวี่บ่นอุบ “ผมไม่ไป!”
เยี่ยหวันหวั่นเดือดจนเส้นเอ้นตรงขมับเต้นตุบๆ “โอเค! นายไม่ไปใช่ไหม? ถ้างั้นฉันไปหาคนอื่นมาแสดงแทนแล้วกัน!”
“อ๊ากก ไม่เอา!” กงซวี่รีบคว้าขาของเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังก้าวออกไปมากอดไว้แน่น แล้วเริ่มต่อว่า “พี่เยี่ย พี่ทำอย่างงี้ได้ไง! พี่ช่วยโอ๋คนอื่นเขาอีกหน่อยไม่ได้หรือไง?”
เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุก “นายอายุเท่าไหร่แล้วยังจะให้คนอื่นโอ๋อีก?”
กงซวี่บอกว่า “ผมยังเป็นเบบี๋อยู่เลย…”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด
กงซวี่ทำคอตก สีหน้าเหมือนหมาหลงทาง นั่งยองๆ อยู่ตรงนั้นแล้วมองหน้าเขา “พี่เยี่ย ถ้างั้นพี่ว่าผมควรทำไงดีล่ะ?”
เยี่ยหวันหวั่นรีบบอกว่า “ก็ต้องเข้าไปรับการฝึก แล้วก็แสดงหนังเรื่องนี้ให้ดีน่ะสิ!”
กงซวี่ทำหน้าเหมือนโดนหลอก “พี่ก็แค่อยากหลอกผมให้เข้าไปเกลือกกลิ้งในโคลนล่ะสิ!”
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาขาวใส่เขา “นายคิดว่ารางวัลราชาจอเงินได้มาง่ายๆ เหรอ? ช่วยดึงสติหน่อยได้ไหม?”
“พี่ก็เอาแต่ดุผม…ทีกับลั่วเฉินล่ะอ่อนโยนด้วยตลอด…” กงซวี่รู้นิสัยของเยี่ยหวันหวั่น จึงไม่กล้าต่อต้านมาก เขาพูดอย่างยอมอ่อนข้อว่า “ผมไปฝึกก็ได้ แต่ว่า ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นรู้ทันทีว่าเขาจะพูดอะไร “ไม่ต้องพูดเลน ยังเจอเสี่ยวมี่เจี้ยนไม่ได้”
อารมณ์ของหมอนี่ขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับรถไฟเหาะ ใครจะไปรู้ว่าถ้าเขารู้ความจริงตอนนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
กงซวี่นั่งยองๆ อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าสิ้นหวัง “ถ้างั้นชาตินี้ผมจะได้เจอเสี่ยวมี่เจี้ยนไหมเนี่ย?”
กงซวี่เอาหน้ามุดเข่า แล้วพึมพำเสียงเบาว่า “ความจริงผมรู้ว่าพี่เยี่ยพยายามเพื่อผมขนาดไหน ที่ผมแสดงครึ่งแรกของเรื่องนี้ได้ดี เป็นเพราะสคริปต์ใกล้เคียงกับความเป็นตัวผมมาก แต่ครึ่งหลัง…ผมรู้ว่าผมไม่มีทางคว้ารางวัลจอเงินได้…
เฮ้อ ทำไมตอนนั้นผมต้องบอกว่าถ้าคว้ารางวัลราชาจอเงินไม่ได้จะไปกินอึด้วยนะ น่าจะบอกว่าถ้าคว้ารางวัลราชาจอเงินไม่ได้จะใส่เสื้อผ้าผู้หญิงมากกว่า…”
“แล้วทำไมตอนที่นายพูดไม่คิดถึงผลที่จะตามมาบ้างล่ะ?” เยี่ยหวันหวั่นเอือมระอา
กงซวี่ “เฮ้อ ปากไวใจเร็ว…”
เยี่ยหวันหวั่นมองกงซวี่ รู้ว่าตัวเองต้องเพิ่มเชื้อไฟให้เขาอีกครั้ง
เจ้าหมอนี่ชอบเล่นสนุกที่สุด ในเมื่อเป็นอย่างนี้…
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาเล็กน้อย จากนั้นก็บอกว่า “ถ้างั้นเอางี้ เราสองคนมาพนันกัน”
กงซวี่หันไปมองหน้าเขา “พนันอะไร?”
“ถ้าหากนายแพ้ คว้ารางวัลราชาจอเงินไม่ได้ นายแต่งหญิง” เยี่ยหวันหวั่นบอก
“แล้วถ้าผมชนะล่ะ?” กงซวี่ถามทันที
เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างลังเล “ถ้านายชนะ ฉันจะแต่งหญิง”
สิ้นเสียงเยี่ยหวันหวั่น กงซวี่ก็เบิกตากว้าง “ให้ตาย! เล่นใหญ่อย่างงี้เลยเหรอ?”
“พนันไหมล่ะ?” พอเห็นสีหน้ากงซวี่ เยี่ยหวันหวั่นก็กระดกคิ้ว
กงซวี่จ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่น นึกภาพตอนเขาแต่งหญิง แล้วก็เหม่อลอย จากนั้นไม่รู้ทำไม เขาเริ่มรู้สึกร้อนที่ใบหูมากขึ้นเรื่อยๆ
กงซวี่ถูหน้าตัวเอง รีบดึงสติกลับมา แล้วบอกว่า “เอาๆๆ! ถ้าผมชนะพี่ต้องแต่งหญิง พี่พูดเองนะ!”
……………………………………………………….
บทที่ 1086 จะกัดให้ตาย
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ “ใช่ ฉันพูดเอง”
“พี่ต้องรักษาคำพูดนะ?” กงซวี่มองหน้าเขาอย่างไม่มั่นใจ
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฉันเคยไม่รักษาคำพูดด้วยเหรอ?”
ในที่สุดกงซวี่ก็ยอมเชื่อ สีหน้าหมดอาลัยตายอยากหายวับไปกับตา เขาเท้าสะเอว กลับมาเป็นคนเดิมที่ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครอีกครั้ง “ฮ่าๆๆๆ ได้เจอเสี่ยวมี่เจี้ยนไม่พอ ยังได้เห็นพี่เยี่ยแต่งหญิงอีก ถึงต้องสู้สุดชีวิตก็ต้องคว้ารางวัลราชาจอเงินมาให้ได้!”
พอเห็นกงซวี่กลับมามีแรงฮึด เยี่ยหวันหวั่นก็นึกเอือมเล็กน้อย
ตามคาด ถ้าจะรับมือกงซวี่ คำพูดซาบซึ้งกินใจพวกนั้นไม่มีประโยชน์หรอก ต้องใช้วิธีพิเศษเท่านั้น
แต่งหญิงก็แต่งหญิงสิ เพราะยังไงเธอก็ตั้งใจจะบอกความจริงให้กงซวี่รู้หลังจากถ่ายทำหนังเรื่องนี้จบอยู่แล้ว
กงซวี่พูดพลางหยิบมือถือออกมาด้วยความตื่นเต้น ฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่ถูกยึดมือถือ รีบคุยโวในแชทกลุ่มของบริษัท
[ กงซวี่: ฮ่าๆๆๆๆๆ! ฉันจะบอกให้นะ รางวัลราชาจอเงินต้องเป็นของฉันเท่านั้น! ถ้าใครกล้ามาแย่ง ฉันจะกัดให้ตายเลย!]
[ตงไจ๋: พี่ซวี่สู้ๆ!]
[เสี่ยวชิง: พี่ซวี่เก่งที่สุด!]
[หานเซี่ยนอวี่: พวกนายถึงแล้วเหรอ?]
ดูจากเวลา พวกกงซวี่น่าจะไปถึงที่หมายแล้ว จากที่รู้จักกงซวี่มา พอไปถึงที่นั่นแล้วเขาน่าจะขวัญหนีดีฝ่อถึงจะถูก ทำไมกลับกลายเป็นตื่นเต้นดีใจอย่างงี้ล่ะ?
[กงซวี่: ฮ่าๆๆๆ ถึงแล้วๆ!]
[เยี่ยมู่ฝาน: อะไรเข้าสิงนายอีก?]
เยี่ยมู่ฝานเห็นกงซวี่กระดี๊กระด๊า เลยอดแขวะอย่างเอือมๆ ไม่ได้
[กงซวี่: ฮ่าๆๆๆๆๆ เหล่าพี่น้องเอ๋ย จงไปจุดธูปขอพรให้ฉันคว้ารางวัลราชาจอเงินให้ได้เถอะ! เมื่อกี้พี่เยี่ยพนันกับฉัน ว่าถ้าฉันได้รางวัลราชาจอเงิน เขาจะแต่งหญิง!!!!!!]
พอเห็นประโยคนี้ของกงซวี่ แชทกลุ่มก็เงียบกริบไปหลายวินาที จากนั้นไม่นานแชทกลุ่มก็ระเบิดทันที
[เสี่ยงชิง: สวรรค์! จริงเหรอๆ? พี่เยี่ยจะแต่งหญิงจริงเหรอ?]
[ตงไจ๋: พี่เยี่ยลงทุนสุดๆ…]
[หยางเฟย: อืม ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ก็เกิดลุ้นขึ้นมาด้วยเหมือนกัน เรื่องนี้น่าไปจุดธูปขอให้จริงๆ นั่นแหละ!]
[นักเขียนบทสวีหลิน: ผอ.เยี่ยเสียสละครั้งใหญ่แล้ว!]
[เยี่ยมู่ฝาน: เยี่ยไป๋ นายบ้าไปแล้วเหรอ!]
[แผนกต้อนรับ: กรี๊ดดดดด! สวรรค์! มีแพ็กเกจทัวร์ที่พาไปจุดธูปขอพรไหมเนี่ย?]
[ช่างแต่งหน้า: ฉันไปด้วยๆ!]
[ฝ่ายลอจิสติกส์: ฉันก็จะไปขอพรไปด้วย! เบบี๋ซวี่ต้องคว้ารางวัลมาให้ได้นะ! โอ๊ย ตื่นเต้นจัง!]
[ผู้กำกับหลิวชิง: ให้ผมไปด้วยสิ ฮ่าๆๆ!]
[นางเอกหลินจื่อซาน: กงซวี่นายวางใจ ฉันจะสนับสนุนเต็มที่เลย!]
เยี่ยหวันหวั่นพากงซวี่กลับไปหาครูฝึกเหลย ขณะเดียวกันก็อ่านแชทกลุ่มอย่างขำๆ
ลั่วเฉินเองก็เห็นเรื่องที่คุยกันในแชทกลุ่มแล้ว สีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าเพื่อกงซวี่ พี่เยี่ยถึงขั้นยอมรับปากทำเรื่องอย่างนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังลึกๆ ในใจ…
ตอนนั้นเอง กงซวี่เห็นลั่วเฉินก็รีบล็อกคอเขาแล้วลากไปด้านหนึ่ง “นี่ ลั่วเฉิน ฉันปรึกษาอะไรนายอย่างสิ!”
“อะไร?” ลั่วเฉินดึงมือกงซวี่ออกอย่างรังเกียจ
กงซวี่ล็อกคอเขาอีกครั้งเหมือนหมากฝรั่งที่ตึดหนึบแกะไม่ออก “คราวหน้าตอนถ่ายทำ นายอย่าเต็มที่ให้มันมากนัก อ่อนข้อให้ฉันหน่อยสิ!”
ลั่วเฉินเหลือบมองเขา “ทำไม?”
กงซวี่ทำหน้าเหมือนมันเป็นเรื่องสมเหตุสมผล “หรือนายไม่อยากเห็นพี่เยี่ยแต่งหญิง?”
รางวัลราชาจอเงินมีแค่รางวัลเดียว ดังนั้น ลั่วเฉินก็เป็นคู่แข่งของเขาเหมือนกัน!
ลั่วเฉินเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังคุยกับครูฝึกเหลย จากนั้นก็พูดว่า “ไร้สาระ”
กงซวี่แค่นเสียง “นายสิไร้สาระ! ไม่มีอารมณ์ร่วมเอาซะเลย! ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายไม่อยากเห็น!”
ลั่วเฉินไม่สนใจเขา เพียงเดินไปยืนเงียบๆ คนเดียวอีกด้านหนึ่ง
………………..