บทที่ 2033 ความฝันฤดูใบไม้ผลิที่ไร้สาเหตุ 3
“ออกไป ไปซะ ลู่อู๋ เจ้าก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่โตเต็มวัยแล้ว ต่อไปไม่อนุญาตให้นอนร่วมห้องกับข้าอีก ใช่! ไม่อนุญาตแล้ว! เจ้ากับเจ้าหอยยักษ์ต้องย้ายออกไปทั้งคู่…ใช่แล้ว เจ้าหอยยักษ์ล่ะ?” ดูเหมือนเธอจะไม่เห็นเจ้าตะกละนั่นทั้งคืนเลย…
ลู่อู๋หน้าม่อยคอตก “มันออกไปล่าสัตว์แล้ว บอกว่าจะล่ามาลับฟันให้เจ้านาย เลี่ยงไม่ให้ต้องแทะผักไม้ใบหญ้าในจวนแม่ทัพแห่งนี้ไปตลอด” เมื่อกล่าวเรื่องนี้ออกมา มันก็โมโหอีกครั้ง “แม่ทัพหลงผู้นี้ขี้เหนียวเกินไปแล้ว ท่านเคยช่วยเหลือเขามากมายปานนั้น แต่ยามที่ท่านตกยาก แม้แต่อาหารดีๆ เขาก็ไม่มอบให้ท่านกิน ขี้เหนียวจะตายชัก!”
กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะนวดหว่างคิ้ว “ไม่ใช่เขาไม่ยอมให้ข้ากิน แต่อาการบาดเจ็บของข้าในช่วงก่อนไม่สามารถรับเนื้อสัตว์ได้ กินได้เพียงอาหารเจเท่านั้น…ช่างเถอะ เจ้าออกไปเถอะ”
ลู่อู๋ลากพวงหางจากไป เงาหลังเล็กๆ นั้นดูเหงาหงอยอยู่บ้าง
กู้ซีจิ่วกลับไม่กังวลใจกับเจ้าหอยยักษ์เลย เจ้านั่นก็เป็นตัวตนที่จัดจ้านยิ่งนักในแผ่นดินนี้เช่นกัน มีศัตรูทางธรรมชาติน้อยมาก แถมยังวิ่งแล่นออกไปล่าสัตว์อยู่บ่อยๆ น้อยหน่อยก็หนึ่งวัน มากหน่อยก็สามสี่วัน เดี๋ยวมันกินจนอิ่มก็วิ่งกลับมาเอง…
ฟ้ายังไม่สว่างเลย เธอจึงนั่งเข้าฌานบนเตียงเสีย แต่อารมณ์กลับปั่นป่วนอยู่ตลอด ไม่อาจสงบใจลงได้ชั่วขณะ
อยู่ดีๆ เธอก็ฝันเช่นนี้ เล่นพลิกผ้าห่มกับคนในความฝัน ถึงขั้นที่เธอไม่อาจแยกแยะได้เลยว่าเป็นการพลิกผ้าห่มกับหวงถู หรือว่าเป็นการพลิกผ้าห่มกับตี้ฝูอีกันแน่…
นี่ถือว่าเธอปันใจเป็นอื่นหรือเปล่า?
หรือว่าสวรรค์กำลังตักเตือนเธออยู่ บอกว่าเธอเคยรักใคร่กับหวงถูปานนี้ กันไม่ให้เธอปันใจ?
หรืออาจเป็นไปได้ว่าเสินเนี่ยนโม่ก็คือหวงถูกลับชาติมาเกิด…
ความคิดนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามา ผสมปนเปจนว้าวุ่นอยู่ในสมองเธอ หาต้นสายปลายเหตุไม่ได้เลย
สุดท้ายเธอจึงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ช่างเถอะ!
ไม่ว่าเขาจะใช่หวงถูกลับชาติมาเกิดหรือไม่ ยามนี้ล้วนตรวจสอบออกมาไม่ได้ง่ายๆ จะต้องช่วยให้เขาบรรลุถึงขั้นซ่างเซียนโดยเร็ว เมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าเขาจะใช่หรือไม่ใช่ เธอล้วนมีผลชี้ขาดเพียงประการเดียวเท่านั้น…
ถึงอย่างไรเสียงลึกลับนั้นก็บอกไว้แล้ว ขอเพียงเธอทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ หวงถูจะหวนกลับมา…
….
ในเวลาเดียวกัน
ตี้ฝูอีเอนกายนอนอย่างเฉื่อยชาอยู่บนตั่ง ค่อนข้างใจลอย
เขาผลัดเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้ว เนื้อผ้าสีขาวพิสุทธิ์เรียบลื่นดุจผ้าไหม สวมใส่สบาย
เขามีนิสัยรักสะอาด ของทุกอย่างล้วนใช้สิ่งที่ดีที่สุด อาภรณ์ที่ผลัดเปลี่ยนชุดนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเช่นกัน
อาภรณ์ชุดนั้นผลัดเปลี่ยนก่อนเข้านอน ผลคือหลับไปได้ตื่นหนึ่งก็จำเป็นต้องผลัดเปลี่ยน ไม่มีเหตุผลอื่นได้เลย…เขาฝันเปียก
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่เคยฝันเปียกมาก่อน และอาจกล่าวได้ว่า ก่อนที่จะได้พบกับกู้ซีจิ่ว เขาไม่เคยมีความสนใจในเชิงนี้เลย
แต่ว่า นับตั้งแต่ได้พบนางก็แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!
เขาเริ่มมีความปรารถนา ครั้งนี้ถึงขั้นที่เกิดความฝันฤดูใบไม้ผลิขึ้นมา!
ความฝันฤดูใบไม้ผลินี้ค่อนข้างพิกล เริ่มแรกเขาเป็นเพียงผู้ชมคนหนึ่ง มองเห็นนางเดินเหินอยู่ท่านกลางม่านหมอก มองเห็นนางไล่ตามคนผู้หนึ่ง นางเอ่ยเรียกคนผู้นั้น…หวงถู
ในวินาทีนั้น ในใจเขาก็เกิดความรู้สึกที่ทราบเช่นกันว่าคือสิ่งใด
เขาไม่ค่อยเข้าใจว่านางกับหวงถูผู้นี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่มองจากท่าทางของนางแล้ว นางโหยหาคนผู้นี้ยิ่งนัก…
เขาอยากจะมองให้รูปลักษณ์ของหวงถูผู้นี้ให้ชัดๆ ทว่าจนปัญญาที่เขาเห็นเพียงเงาร่างคนที่เลือนรางแหว่งวิ่นร่างหนึ่ง ยามนั้นหัวใจเขาเต้นแรง สัมผัสได้รางๆ ว่ารูปร่างหน้าตาของหวงถูผู้นี้คล้ายคลึงกับตนอย่างยิ่ง…
เขาเห็นคนผู้นั้นโอบอุ้มนางขึ้นมา โอบรัดแน่นปานนั้น ทำให้เขาที่ชมอยู่ด้านข้างรู้สึกเพียงว่าในสมองเกิดเสียงดังตูม! โลหิตร้อนๆ พุ่งขึ้นสู่ยอดศีรษะ อดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปเพื่อแยกพวกเขาออกจากกัน ผลคือเขาซวนเซไปคราหนึ่ง รอจนปฏิกิริยาตอบสนองของเขากลับมา เขาพบว่าตนกลายเป็นหวงถูผู้นั้นไปแล้ว ทิวทัศน์รอบข้างก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นภายในห้องนอนห้องหนึ่ง…
———————————————————————————–
บทที่ 2034 ความฝันฤดูใบไม้ผลิที่ไร้สาเหตุ 4
การประดับตกแต่งภายในห้องนอนทำให้เขารู้สึกคุ้นตาอยู่รางๆ แต่นางที่อยู่ในอ้อมแขนกลับทำให้เขาใจสั่นยิ่งกว่าเดิม…
ความรู้สึกในยามนั้นของตี้ฝูอีประหลาดนัก เขารู้สึกว่าตนคล้ายจะกลายเป็นใครอีกคนหนึ่ง ไม่อาจควบคุมร่างกายได้สักเท่าไหร่…
มีความปรารถนาที่ไม่สามารถบรรยายได้ต่อนาง ราวกับสามีที่พลัดพรากจากกันไปเนิ่นนานได้กลับมาพบภรรยาอีกครั้ง ทันทีที่ได้พบอีกฝ่ายก็คิดเพียงว่าจะใช้ความรักอันร้อนแรงสัมผัสถึงกันและกันอย่างแท้จริง…
จะอย่างไรตี้ฝูอีก็คาดไม่ถึงเลยเช่นกันว่าครั้งแรกของตนจะปรากฏขึ้นในความฝัน!
ช่างเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ยิ่งนัก!
แต่พอตื่นจากความฝันก็รันทดนัก ในใจก็อึดอัดอย่างยิ่ง
เขาทำความสะอาดตนเองก่อน ต่อจากนั้นจะทำอย่างไรก็หลับไม่ลงแล้ว!
เขาเป็นโอรสแห่งเทพมารผู้สูงส่ง ไม่น่าเชื่อว่าในความฝันจะเป็นเพียงตัวแทนของคนผู้หนึ่ง…
ซ้ำยังกระทำอย่างหฤหรรษ์ยิ่ง!
ถึงแม้การเป็นตัวแทนนี้จะได้กำไรมหาศาล แต่พอตื่นขึ้นมา ในใจกลับอึดอัดเป็นที่สุด!
ความฝันนี้ของเขาไม่ใช่ความฝันที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญในยามปกติ แต่เป็นความจงใจ
เขาเป็นวิชาเข้าฝัน สามารถเข้าสู่ความฝันของอีกฝ่ายได้
หลังจากเขากลับมาจากจวนแม่ทัพของหลงซือเย่ ในใจทั้งหงุดหงิดทั้งอ่อนล้ายิ่ง จึงขึ้นเตียงพักผ่อนทันที ทว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรก็หลับไม่ลง เงาร่างของกู้ซีจิ่ววนเวียนอยู่เบื้องหน้าของเขาเสมอ…
เขาอยากรู้ยิ่งนักว่าตอนนี้นางกำลังทำอะไรอยู่ สรุปแล้วนางคิดอย่างไรกัน จึงตัดสินใช้วิชาเข้าฝันในทันใด ผลคือ เขามีความฝันหวาบหวามยามฤดูใบไม้ผลิ…
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ายังคงง่วงงุนยิ่งนัก ทว่าเขากลับหลับไม่ลงอีกแล้ว!
เขารู้สึกว่าตนโดนของเข้าแล้ว!
สตรีนางนั้นเคยกลั่นแกล้งเขาในยามเยาว์วัยชัดๆ เคยทำให้เขาชิงชังจนต้องเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่านางเห็นเขาเป็นเป้าหมายภารกิจเสมอมา และนางก็อธิบายไว้แจ่มแจ้งยิ่งนักแล้ว
แต่ว่า เขากลับถลำลึกลงไปราวกับโดนของ!
สตรีมากมายปานนั้นรายล้อมพัวพันเขา ในบรรดานั้นมีหลายนางที่เลิศล้ำยิ่งนัก อ่อนวัย รูปโฉมงดงาม ความสามารถยอดเยี่ยม นิสัยใจคอดีเลิศ มีข้อดีมากมายก่ายกอง เขากลับไม่มีความรู้สึกอันใดเลย ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา ไม่รู้ว่าทำร้ายจิตใจหญิงสาวไปมากน้อยเพียงใดแล้ว กลับนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาเตะถูกแผ่นเหล็กอย่างกู้ซีจิ่วเข้า…
นี่คือกรรมตามสนองโดยแท้…
เขานึกถึงความฝันนั้นอีกครั้ง ใจสั่นเล็กน้อย หรือว่าบุรุษในความฝันนั้นจะเป็นตัวเขาในชาติก่อน?! และเป็นสามีของนางด้วย?
ความคิดนี้ทำให้เขาตกตะลึง สิ่งที่ตามมาคือความไม่สบายใจสุดขีด!
นางมีสามีแล้วหรือ?!
เขาชมชอบหญิงที่ออกเรือนแล้วหรือ?!
ไม่ถูกสิ! เป็นไปไม่ได้! ดูจากลักษณะของนางแล้วยังบริสุทธิ์อยู่ชัดๆ…
เป็นไปไม่ได้ที่จะมีสามีแล้ว…
บางทีความฝันนั้นของนางอาจเป็นความฝันฤดูใบไม้ผลิธรรมดา…
แต่ว่าความฝันนี้ของนางก็สมจริงเกินไปหน่อยแล้ว ราวกับความจริง!
และบางทีอาจมีสาเหตุมาจากการที่มีเขาเพิ่มเข้าไปถึงได้กลายเป็นความจริงขึ้นมากระมัง?
ตี้ฝูอีนั่งอยู่ตรงนั้น มีข้อสันนิษฐานสารพัดพลิกตลบไปมาอยู่ในสมอง
“นายน้อย ตื่นแล้วหรือขอรับ? ตื่นแล้วอยากกินอะไรหน่อยหรือไม่?”
เสียงของไป๋เจ๋อแว่วมาจากด้านนอก
ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง ในที่สุดก็ลุกขึ้น สาวเท้าก้าวออกไป
“ดี!”
เขาหิวโหยอยู่บ้างจริงๆ อีกทั้งน้ำแกงปลาสองชามนั้นก็เสร็จเจ้าลู่อู๋ตัวนั้นไปแล้ว…
เมื่อนึกเรื่องนี้เขาก็กัดฟันกรอด
สตรีผู้นั้น ทราบแล้วชัดๆ ว่าเขาโกรธ ทราบแล้วชัดๆ ว่าหลายวันมานี้เขาไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย กลับปล่อยให้ลู่อู๋ตัวนั้นมาดื่มน้ำแกงของเขาได้…
ยามที่เขาจากมา นางก็ไม่มีทีท่าว่าจะรั้งเขาไว้เลย
นางไม่เก็บเขาไปใส่ใจเลยใช่ไหม?!
อาหารเช้าที่ไป๋เจ๋อเตรียมไว้ให้เขาพรั่งพร้อมยิ่งนัก รสชาติก็เลิศรส มีโจ๊กมีผัก มีสุรามีเนื้อ ถึงขั้นที่มีน้ำแกงปลาสีขาวน้ำนมชามหนึ่งด้วย
ตี้ฝูอีจ้องน้ำแกงปลาชามนั้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองไป๋เจ๋อแวบหนึ่ง
ไป๋เจ๋อยิ้มน้อยๆ
“ฝ่าบาท ลองดูเถิดว่าอาหารเหล่านี้ถูกปากท่านหรือไม่”
ตี้ฝูอีชิมดูคำหนึ่ง ยื่นข้อเรียกร้องประการหนึ่งต่อไป๋เจ๋อ
“ไป๋เจ๋อ สอนข้าทำอาหารที”