บทที่ 1477 ปลามังกรทองแดง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ปัจจุบันวิญญาณกาลเวลาถูกผนึกไว้ในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวน

 

ตอนนี้มันฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วและพร้อมใช้งานได้ทันที

 

วิญญาณกาลเวลามีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ มันถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจบัวแดงและเป็นวิญญาณหลักของเขา

 

พลังอำนาจของมันคือการส่งผู้ใช้งานกลับไปในอดีตผ่านสายธารแห่งกาลเวลาด้วยการเสียสละร่างกายภาพเพื่อเป็นเชื้อเพลิง

 

ความสามารถของวิญญาณกาลเวลาน่าอัศจรรย์แต่มันยังมีข้อบกพร่อง

 

วิญญาณกาลเวลาจะดึงดูดโชคร้ายเข้ามาหาผู้ใช้งาน

 

ฟางหยวนมองวิญญาณกาลเวลาด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

 

มันอยู่กับเขาตั้งแต่ชีวิตแรก โดยปราศจากวิญญาณกาลเวลา เขาจะมาไม่ถึงจุดนี้

 

หากถามว่าวิญญาณดวงใดสำคัญมากที่สุดสำหรับผู้อมตะ คำตอบของคำถามนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทุกคนมีคำตอบของตัวเอง แต่สำหรับฟางหยวน คำตอบของเขาคือวิญญาณกาลเวลา

 

ลืมอดีตของเขาไปก่อน มองเพียงชีวิตปัจจุบัน

 

ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์บนภูเขาชิงเหมา แดนศักดิ์สิทธิ์สามกษัตริย์ หรือภูเขาอี้เทียน วิญญาณกาลเวลาก็สามารถแสดงคุณค่าของมันออกมาได้เสมอ มันทำให้ฟางหยวนสามารถพลิกสถานการณ์และหลบหนีจากอันตราย

 

แต่หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนสูญเสียวิญญาณกาลเวลา แม้เขาจะได้รับวิญญาณกาลเวลากลับคืนมาในภายหลัง แต่มันเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์และไม่สามารถใช้งานได้

 

ฟางหยวนแยกทางกับเจตจำนงสวรรค์และกลายเป็นศัตรูของมัน เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สามารถใช้งานวิญญาณกาลเวลาได้อีกต่อไป

 

หากเขาต้องการใช้วิญญาณกาลเวลาอีกครั้ง เขาต้องกำจัดเจตจำนงสวรรค์ที่อยู่ภายในออกไป มิฉะนั้นแม้เขาจะพยายามกำเนิดใหม่ เจตจำนงสวรรค์ก็จะฆ่าเขาระหว่างกระบวนการนั้น

 

“ให้ข้าดูว่าท่าไม้ตายนี้จะทำสิ่งใดได้บ้าง?” ฟางหยวนพึมพำ

 

ท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจำนงสวรรค์!

 

แสงสีเทาขาวส่องประกายขึ้นบนร่างของฟางหยวน

 

จากนั้นเขาใช้มือที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีเทาขาวสัมผัสร่างผีดิบอมตะ

 

แสงสีเทาขาวราวกับสายน้ำที่ไหลเข้าปกคลุมร่างผีดิบอมตะเอาไว้ทั้งหมด

 

หลังจากชั่วครู่มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางขึ้น

 

ดวงตาหลายดวงปรากฏขึ้นในแสงสีเทาขาว

 

มันเป็นดวงตาหลากหลายสีสันที่แตกต่างกัน

 

พวกมันปรากฏขึ้นทั่วร่างผีดิบอมตะ เมื่อพวกมันกระพริบตา สีของพวกมันจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง

 

ต่อมาดวงตาเหล่านี้ก็กระจายเข้าไปถึงทะเลวิญญาณ

 

ในที่สุดบนพื้นผิวของวิญญาณกาลเวลาก็ถูกปกคลุมไปด้วยดวงตาขนาดเล็กหลายดวง

 

ดวงตาเหล่านั้นกระพริบตาอย่างต่อเนื่อง ทุกการกระพริบตาคือการโจมตีเจตจำนงสวรรค์

 

วิญญาณกาลเวลาเริ่มสั่นไหว

 

ดวงตาหลากสีปรากฏขึ้นและถูกทำลายลง แต่ฟางหยวนยังสร้างดวงตาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

วิญญาณกาลเวลาสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

 

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนก็พบว่าผิวของวิญญาณกาลเวลาเกิดรอยแตกร้าวเล็กน้อย

 

หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง เขารีบหยุดใช้ท่าไม้ตายทันที

 

ร่างของเขาสั่นราวกับถูกฟ้าผ่า การหยุดใช้ท่าไม้ตายอย่างกะทันหันทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ

 

แต่มันเป็นอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆเท่านั้น มันไม่สามารถเปรียบเทียบกับความปลอดภัยของวิญญาณกาลเวลา

 

ฟางหยวนเพิกเฉยต่ออาการบาดเจ็บของตน เขาเร่งตรวจสอบวิญญาณกาลเวลา

 

รอยแตกร้าวบนร่างวิญญาณกาลเวลาเล็กมาก แต่ฟางหยวนเป็นคนระมัดระวัง ทันทีที่มันเริ่มเกิดขึ้น เขาก็สังเกตเห็นและหยุดกระบวนการทั้งหมดทันที

 

รอยแตกร้าวหมายความว่าวิญญาณกาลเวลาได้รับบาดเจ็บ

 

วิญญาณเปราะบางมาก ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณอมตะระดับหก ระดับเจ็ด ระดับแปด หรือระดับเก้า กระทั่งวิญญาณกาลเวลาที่เป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัวแดงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

หลังจากตรวจสอบ ใบหน้าของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งขรึม

 

“เจตจำนงสวรรค์…” ฟางหยวนกัดฟันแน่น

 

อาการบาดเจ็บของวิญญาณกาลเวลาไม่รุนแรงเพราะฟางหยวนค้นพบมันอย่างรวดเร็ว อาการบาดเจ็บระดับนี้สามารถรักษาได้อย่างง่ายดาย

 

แต่เขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายสลายเจตจำนงสวรรค์ได้อีก

 

หากทำต่อ วิญญาณกาลเวลาจะถูกทำลาย

 

เจตจำนงสวรรค์ส่งอิทธิพลต่อวิญญาณกาลเวลามากกว่าการคาดเดาของฟางหยวน

 

ฟางหยวนคิดและพบวิธีแก้ปัญหาสองทาง

 

หนึ่งคือพัฒนาท่าไม้ตายอมตะต่อไปจนกว่ามันจะสามารถสลายเจตจำนงสวรรค์ได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อวิญญาณกาลเวลา

 

สองคือใช้วิธีหลอมรวมย้อนกลับของนิกายเงา ระหว่างกระบวนการนี้เจตจำนงสวรรค์จะถูกกำจัดออกไป

 

แต่ทั้งสองวิธีมีข้อบกพร่อง

 

เขาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจำนงสวรรค์จนเข้าใกล้ขีดจำกัดของตนเองแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนามันต่อไป แต่เขาต้องใช้เวลา ความพยายาม และทรัพยากรอีกมาก

 

สำหรับวิธีการหลอมรวมย้อนกลับของนิกายเงา มันเป็นเพียงแนวคิดและยากที่จะดำเนินการในโลกของความเป็นจริง

 

เจตจำนงสวรรค์ส่งอิทธิพลต่อวิญญาณกาลเวลาเป็นอย่างมาก อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

 

‘ดูเหมือนข้าต้องรวมทั้งสองวิธีเข้าด้วยกัน นั่นจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด’ ฟางหยวนตัดสินใจ

 

ฟางหยวนไปหาวิญญาณสติปัญญาทันที

 

“ข้าต้องพึ่งพาเจ้าอีกครั้ง”

 

วิญญาณสติปัญญาบินไปรอบๆฟางหยวนก่อนจะปลดปล่อยแสงแห่งปัญญาออกมา

 

ฟางหยวนใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาและสร้างคลื่นความคิดจำนวนมหาศาลขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

หน้าผากของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อ คิ้วของเขาขมวดแน่น เห็นได้ชัดว่ามีความยากลำบากในการอนุมาน

 

สิบห้านาที สามสิบนาที…หลังจากสองชั่วโมงฟางหยวนก็หยุดอนุมาน

 

เขาถอนหายใจออกมาขณะที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว

 

เขาทุ่มเททุกสิ่งในการอนุมาน นั่นทำให้เขารู้สึกปวดหัวมาก

 

หลังจากพักผ่อนและฟื้นตัวขึ้น ฟางหยวนใช้แสงแห่งปัญญาในการอนุมานอีกครั้ง

 

การอนุมานครั้งนี้ยากมาก มันเกินกว่าความสามารถในปัจจุบันของเขา

 

แต่ฟางหยวนเป็นคนแน่วแน่ เขาปฏิเสธที่จะยอมแพ้

 

เขาหยุดบ่มเพาะจิตวิญญาณและฝึกฝนท่าไม้ตายชั่วคราวเพื่อทุ่มเวลาและพลังงานทั้งหมดให้กับการอนุมานครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตามความก้าวหน้าของเขายังช้ามาก

 

แต่ฟางหยวนมีความอดทน

 

‘ตราบใดที่ยังมีความก้าวหน้า แม้จะใช้เวลาหลายวัน หลายสิบวัน หรือนับเดือน ข้าก็จะทำ’

 

ด้วยความมุ่งมั่นและความอุตสาหะดังกล่าว ฟางหยวนค่อยๆแก้ปัญหาของเขาต่อไป

 

ในช่วงเวลานี้ธุรกิจปลามังกรของเขาเริ่มมีความก้าวหน้าเช่นกัน

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ทะเลเกล็ดมังกร

 

ปลามังกรจำนวนนับไม่ถ้วนว่ายอยู่ในทะเล

 

ปลามังกรเดียวดายมีร่างกายใหญ่โต พวกมันเหมือนยักษ์ในท้องทะเล

 

แต่พลังการต่อสู้ของปลามังกรอยู่ในระดับล่างสุด

 

หลังจากช่วงเวลาของการขยายพันธุ์ ในที่สุดปลามังกรชนิดพิเศษก็ปรากฏขึ้นในทะเลเกล็ดมังกร

 

ปลามังกรตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าปลามังกรทั่วไป ขณะเดียวกันเกล็ดของมันก็ส่องแสงคล้ายโลหะทองแดง

 

‘ในที่สุดปลามังกรทองแดงก็ถือกำเนิดขึ้น’ ฟางหยวนตรวจสอบและรู้สึกพึงพอใจ

 

ปลามังกรไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ พวกมันถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะบนเส้นทางอาหาร

 

ฟางหยวนได้รับมรดกบนเส้นทางอาหารของผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรมาจากนิกายเงา เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปลามังกร

 

หากเขาใช้วิธีที่อยู่ในมรดกนี้เพื่อผสมพันธุ์ มันจะให้กำเนิดปลามังกรสายพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพสูงขึ้น

 

เช่นเดียวกับปลามังกรทองแดง มันเหนือกว่าปลามังกรทั่วไป

 

เมื่อพบว่าปลามังกรทองแดงถือกำเนิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ฟางหยวนจึงนำส่วนหนึ่งของพวกมันเข้าไปวางขายในสวรรค์สีเหลือง

 

‘หากข้าพึ่งเริ่มต้นธุรกิจปลามังกร ปลามังกรทองแดงจำนวนเล็กน้อยนี้จะไม่ได้รับความสนใจเลย’

 

‘แต่ก่อนหน้านี้ข้าเริ่มขายปลามังกรไปแล้วและถูกโจมตีกลับโดยโหยว่ชาน ขณะเดียวกันผู้อมตะทั่วไปก็เริ่มรู้จักธุรกิจของข้าแล้ว’

 

“ฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

 

เขาไม่จำเป็นต้องคาดเดาว่าปลามังกรทองแดงเหล่านี้จะสร้างความโกลาหลเพียงใดเมื่อพวกมันถูกนำเข้าสู่สวรรค์สีเหลือง

 

‘โอ้ โหยว่ชาน นี่คือไพ่ตายของข้า เจ้าจะจัดการมันอย่างไร?’ ฟางหยวนคิดด้วยความคาดหวัง