ตอนที่ 630: ปีศาจ

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 630: ปีศาจ

 

“มหาจักรพรรดิเทียนหยุนถูกจับทั้งอย่างนี้เลยเหรอ?”

 

ขณะที่เหล่าขุนนางเห็นอี้เทียนหยุนถูกเถาวัลย์มัดร่างอย่างหนา ในใจก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ามีความสุขออกมา มีคนเคยเห็นไท่ซางหวงใช้วิชานี้มาก่อน เมื่อถูกเถาวัลย์เหล่านี้รัดร่างเอาไว้แล้ว ก็จะไม่สามารถทําลายมันออกมาได้ จนสุดท้ายก็ได้แต่ตายโดยที่มีรากฝอยแทงเข้าไปในร่างนับไม่ถ้วน

 

อย่าว่าแต่จะเคลื่อนไหวเลย หลังจากที่ถูกรากฝอยนี้ฝังเข้าไปในร่าง ร่างของคนๆนั้นก็จะถูกควบคุม ต่อให้อยากจะฆ่าตัวตายก็ไม่สามารถทําได้

 

ด้วยเหตุนี้ อีกฝ่ายก็จะตกอยู่ในการควบคุมของเขา รอให้เขาจัดการได้ตามใจ มหาจักรพรรดิเทียนหยุนอะไรนั่น สุดท้ายก็เป็นได้แค่เชลยของพวกเขา

 

แต่ในขณะที่พวกเขาพากันคิดว่าอี้เทียนหยุนถูกจับไว้แล้วนั้น ทันใดนั้นก็ “พรีบ” มีเปลวเพลิงที่ร้อนแรงผุดขึ้นมาจากด้านใน เป็นเปลวเพลิงสีดําที่ดูบ้าคลั่ง ทําการเผาเถาวัลย์ที่อยู่รอบๆอย่างไม่ปรานี!

 

“เปลวเพลิงนี้มัน!” ไท่ซางหวงกานหยวนหน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับทําการตัดขาดกับเถาวัลย์ที่รัดร่างอี้เทียนหยุนไว้อย่างรวดเร็ว ทําให้เปลวเพลิงนี้หยุดชะงักลง ไม่เผาไหม้สิ่งอื่นๆ ที่อยู่รอบๆต่อ

 

เถาวัลย์ที่สัมผัสกับตัวเขา ทันใดนั้นก็ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้า หากไม่ทําการสละเถาวัลย์พวกนั้น กลัวว่าเถา วัลย์ที่อยู่รอบๆ พวกนี้คงติดไฟกันถ้วนหน้า

 

จากนั้นก็ตามมาด้วยร่างดําเมียมที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของผู้คน ยื่นราวกับว่าเป็นเทพมารก็ไม่ปาน ดวงตาสีดําคู่นั้นจับจ้องมาที่ไท่ซางหวงกานหยวนด้วยความเย็นชา พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

ชุดเกราะเทพมารคือชุดที่น่ากลัวที่สุดของเขา! ภายใต้ชุดเกราะที่ไร้ผู้ต้านนี้ ทําให้พลังรบของเขาพุ่งขึ้นไปสูงถึง 7 พันล้าน!

 

ที่สามารถมีพลังรบระดับนี้ได้ แน่นอนว่าย่อมสัมพันธ์กับที่เขาเลื่อนระดับ เมื่อเลื่อนระดับขึ้น 1 ขั้น พลังรบของเขาก็จะเพิ่มขึ้น 1 พันล้าน

 

นี่คือพื้นฐานที่รวมเข้ากับความน่าสะพรึงของโหมดคลั่ง แล้วยิ่งมารวมกับเอฟเฟ็กที่แสนจะน่าทิ้งของชุดเกราะเทพมารด้วยแล้ว จึงทําให้เขามั่นใจต่อให้จะต้องเผชิญหน้ากับระดับราชาเซียนในสถานะที่ด้อยกว่าก็ตาม

 

ด้วยประสิทธิภาพระดับนี้ ทําให้เขาไม่กลัวหากว่าต้องสู้ข้ามระดับ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับระดับราชาเซียน! เพราะหลังจากสวมชุดเกราะเทพมารนี้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าตนก็เป็นราชาเซียนคนหนึ่งเช่นกัน!

 

“กายาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นกายาที่หายากกายาหนึ่ง ข้าคิดว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนก็คงจะชอบเจ้าเพราะเหตุนี้ ด้วยกายาที่แสนพิเศษนี้ ทําให้เจ้ามีความสามารถของผู้เป็นอมตะ เหมาะที่จะรับหน้าที่ผู้พิทักษ์ คอยปกปักษ์รักษาทางผ่านใต้พิภพ แต่ว่าน่าเสียดายยิ่งนัก ที่เจ้าตัดสินใจทําอย่างนี้” เทียนหยนรู้คร่าวๆว่าทําไมราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนถึงได้เลือกเขา เพราะว่ากายาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดจริงๆ

 

แต่ใครจะรู้ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนจะไม่ได้หยั่งลึกเข้าไปในจิตใจของอีกฝ่ายมากพอ จึงทําให้เกิดกา รกบฏเช่นนี้ขึ้น

 

“นี่มันสมบัติอะไรของเจ้ากัน หรือว่านี่จะเป็นสมบัติที่เจ้าได้สืบทอดมาจากราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน!?” ไม่ ช่างหวงกานหยวนตกใจ โดยที่ไม่คํานึงถึงเปลวเพลิงที่แสนน่ากลัวนั้น เพียงแค่พลังที่ปลดปล่อยออกมาไม่หยุดนี้ ก็เพียงพอที่จะทําให้ผู้คนพากันรู้สึกตัวสันแล้ว

 

พลังนี้ได้สร้างความตกใจให้กับเขาอย่างใหญ่หลวง ราวกับมียักษ์กําลังยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขา ทําให้พวกเขาทําได้เพียงแหงนหน้ามองเท่านั้น!

 

พวกมหาจักรพรรดิกานหยวนก็ตกใจเช่นกัน คิดว่าจะสามารถจัดการได้ในพริบตา แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่เป็นเช่นนั้น กลับกัน เถาวัลย์ที่รัดพันร่างอีกไว้กลับถูกเปลวเพลิงนี้แผดเผาแทน

 

แม้ว่าเปลวไฟจะเป็นของแสลงของไม้ แต่ไม่ใช่ว่าไม้อะไรก็เผาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเถาวัลย์ที่เกิดขึ้นจากวิชาของไท่ซางหวงกานหยวน เถาวัลย์พวกนี้นั้น ไม่ใช่อะไรที่จะมาถูกเผาง่ายๆ พูดได้ว่าด้วยความถูกเผาด้วยเปลวไฟทั่วไปได้ยังไง? ต่อให้เป็นอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่มีทาแข็งของมันสามารถเทียบได้กับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว แล้วอย่างนี้จะงที่จะตัดมันขาดได้

 

ด้วยอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ กลัวว่าต่อให้ฟันลงไปแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่สร้างร่องรอยอะไรให้กับเถาวัลย์พวกนี้ได้แม้แต่น้อย แต่ว่าตอนนี้กลับถูกเปลวเพลิงพวกนี้เผา เผาจนกลายเป็นขี้เถ้าอย่างง่ายดาย

 

พวกเขาไม่เคยเห็นเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงขนาดนี้มาก่อน หรือว่านี่จะเป็นเปลวเพลิงที่เรียกว่าเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์?”

 

หากให้เทียบเป็นระดับ เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้มีแต่เปลวเพลิงจากรังฟีนิกซ์เท่านั้น! เทียบได้กับเปลวเพลิงจากรั้งฟีนิกซ์ แค่คิดก็น่าสะพรึงแล้ว

 

“ใช่แล้วทําไม ไม่ใช่แล้วทําไม? จนถึงตอนนี้แล้ว คําถามนี้สําคัญมากอย่างงั้นเหรอ?” เทียนหยุนมองเขาอย่างเย็นชา “มาให้ข้าดูพลังของผู้พิทักษ์ของเจ้าหน่อย ข้าอยากจะรู้ ว่าเจ้าจะล้มข่าได้ยังไง!”

 

“ตูม!”

 

เพิ่งจะพูดจบ เขาก็ถีบเท้าลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกลายเป็นแสงสีดําพุ่งเข้ากลืนกินบริเวณรอบๆ อย่างรวดเร็ว มีขุนนางบางคนที่หนีไม่ทัน ถูกม้วนเข้ามาในม่านสีดํานี้ พร้อมกับส่งเสียงร้องออกมา แต่ว่าตัวคนกลับออกมาไม่ได้ ถูกม่านสีดํานี้กลืนกินไป

 

ทันทีที่ถูกม้วนเข้าไป ก็พลันถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน สิ่งที่เหมือนกับม่านสีดํานี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเปลวเพลิงสายหนึ่ง ภายใต้การพุ่งออกไปของเขา พลันก่อให้เกิดพายุขนาดยักษ์ขึ้นในทันใด พร้อมกับดูดกลืนเอาเหล่าขุนนางที่อยู่รอบๆ เข้ามาด้วย

 

พวกที่ดีหน่อยก็คือพวกที่อยู่ไกลออกไป ส่วนพวกที่อยู่ใกล้ ล้วนแต่ถูกพายุลูกนี้ม้วนกวาดเข้าไป ก่อนที่จะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว!

 

ทันใดนั้น ขุนนางประมาณครึ่งหนึ่งก็ถูกเผากลายเป็นเถ้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นค่าประสกการณ์ไหลเข้ามาในร่างของเขา แต่ค่าประสบการณ์พวกนี้สําหรับเขาแล้ว ถือว่าน้อยมากจริงๆ

 

เพียงเวลาครึ่งลมหายใจ เขาก็ยกมือขึ้นคว้าไปที่ศีรษะของไท่ซางหวงกานหยวน เป็นการลงมือที่เร็วมากจริงๆ เร็วจนไม่น่าเชื่อ แม้แต่ไท่ซางหวงกานหยวนเอง ก็ยังมองเห็นไม่ชัดว่าเขามาโผล่ขึ้นตรงหน้าตนได้ยังไง

 

ในตอนนี้ความเร็วของอี้เทียนหยุนถือว่าร้ายกาจอย่างถึงที่สุด เขาเปิดใช้งานปีกฟีนิกซ์ขึ้นมาเป็นพิเศษ รวมกับเครื่องประดับต่างๆ ทําให้เขาระเบิดความเร็วที่น่าทึ่งนี้ออกมาได้ในพริบตา

 

ต่อให้เป็นราชาเซียน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา ก็ทําได้เพียงยอมรับการจับกุมจากเขาแต่โดยดี!

 

“เป็นไปได้ยังไง…” ไท่ซางหวงรีบยื่นมือออกไปขวางอย่างรวดเร็ว แต่ว่าเทียนหยุนไม่สนใจมือที่ยืนมาขวางนี้ของเขา เขาทําการจับข้อมือของอีกฝ่ายไว้ ก่อนที่จะกดร่างอีกฝ่ายลงกับพื้นอย่างแรง

 

“ปัง!”

 

เปลวเพลิงสีดําพวยพุ่งขึ้นไปถึงสวรรค์ ก่อนที่จะแพร่กระจายออกรอบๆ มหาจักรพรรดิกานหยวนไม่มีเวลาให้หนี ถูกแรงระเบิดอัดจนกระเด็น ขณะที่ร่างถูกเปลวเพลิงนิรันดร์เผาอย่างบ้าคลั่ง สร้างความเจ็บปวดมหาศาลให้กับเขาจนต้องกรีดร้องออกมา พร้อมกับม้วนตัวอยู่บนพื้นไม่หยุด แต่ก็ไม่ได้มีความหมายแต่อย่างใด

 

จากนั้นเขาก็กลั้นใจตัดแขนและขาที่ติดไฟนั้นอย่างโหดเหี้ยม “ฉวะ” ขาและแขนของเขาถูกตัดจนขาดด้วยมือตัวเอง แต่ก็ไม่ได้มีเลือดฉีดพุ่งออกมาจากปากแผลนั้น

 

ด้วยพลังของเขา ทําให้เขาสามารถใช้พลังปิดปากแผลเอาไว้ได้ ไม่ให้มีเลือดไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว

 

แขนขาข้างที่ถูกตัดขาดพากันถูกเผากลายเป็นเถ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะไม่เหลือแม้แต่ฝัน ความน่าสะพรึงของมัน ทําให้ผู้คนได้แต่ตกตะลึง

 

จากมหาจักรพรรดิผู้สง่างาม ตอนนี้ได้กลายเป็นคนพิการในพริบตา ทั้งนี้ยังไม่ได้เกิดจากการต่อสู้กันซึ่งๆหน้าด้วย แต่เป็นแค่ผลกระทบที่ปล่อยออกมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่เพราะพลังของอี้เทียนหยุนร้ายกาจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะทุกคนได้ดูถูกพลังของอี้เทียนหยุนเกินไป

 

ก่อนหน้านี้ที่ต่อสู้กันกับบรรพชนไท่ซางของอาณาจักรชื่อหลง ผู้คนเห็นอี้เทียนหยุนต่อสู้อย่างยากลําบาก แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครได้เห็นอย่างกระจ่างชัด ดังนั้นจึงลือกันว่าชนะมาได้อย่างฉิวเฉียด

 

แต่ตอนนี้ดูแล้วข่าวลือพวกนั้นคงจะสร้างขึ้นมาเอง พลังที่แท้จริงที่ใช้บดขยี้บรรพชนไท่ซ่างของพวกเขาแท้จริงแล้วยังแข็งแกร่งกว่าที่ใครจะคาดคิด

 

“อาณาจักรกานหยวนของพวกเรา จบสิ้นแล้ว…”

 

มหาจักรพรรดิกานหยวนของพวกตนบาดเจ็บ จนป่านนี้ยังไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย ดูแล้วเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นอะไร แต่เพราะว่าตกใจต่อเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงนี้ หากว่าย้อนเวลาไปได้ พวกเขาจะไม่ยอมไปตอแยกับปีศาจตนนี้อย่างเด็ดขาด!