บทที่ 612 ศัตรูหัวใจ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 610 ศัตรูหัวใจ

อ๋องตวนคิดไม่ถึงเลยว่าอวิ๋นหลัวฉวนจะตามออกมา เขาตกใจจนใจสั่น

“ไร้สาระ กลับไป”อ๋องตวนเกรงว่าอวิ๋นหลัวฉวนจะครรภ์ไม่สงบ เลยอยากให้อวิ๋นหลัวฉวนกลับไป

อวิ๋นหลัวฉวนชำเลืองมองอ๋องตวน และกล่าวว่า“นี่เป็นสิ่งที่หม่อมฉันติดค้างท่าน หม่อมฉันไม่มีทางถอย วันนี้หม่อมฉันต้องการจัดการเขาด้วยตนเอง และต้องการให้เขาไปอยู่ในหลุมฝังศพเพคะ”

จงชินอ๋องมองอวิ๋นหลัวฉวน สายตาจับจ้องที่ท้องน้อยของนาง แม้จะไม่เห็นท้องของนางนูนขึ้นมา แต่ได้มีข้อมูลแล้วว่าตั้งครรภ์จริง

แววตาซับซ้อนของจงชินอ๋องจ้องมองอวิ๋นหลัวฉวน กล่าวว่า“ฉวนเอ๋อร์ เจ้าอยากให้ข้าตาย มันง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องหงุดหงิดโวยวายเยี่ยงนี้เลย เจ้ามาเถิด ชีวิตของข้าล้วนเป็นของเจ้าแล้ว เจ้าอยากให้ข้าตาย เช่นนั้นข้าก็ตายให้เจ้าเป็นอย่างไร?”

อ๋องตวนกล่าวด้วยสายตาแฝงความเยือกเย็นว่า“ฉวนเอ๋อร์ เจ้ากลับไป นี่เป็นเรื่องของข้ากับเขา ข้าสามารถจัดการกับเขาได้เพียงลำพัง”

อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้ากล่าวว่า“ในเมื่อเป็นสามีภรรยากัน ก็ต้องเข้าและออกกลับไปพร้อมกันเพคะ เขาต้องการสังหารท่านอ๋อง หม่อมฉันจะขวางอยู่ด้านหน้าเอง”

อ๋องตวนส่ายหน้า กล่าวว่า“ไม่ได้หรอก”

อวิ๋นหลัวฉวนยกกระบี่เดินเข้าหาจงชินอ๋อง อ๋องตวนรีบขวางทางไว้ กระบี่หนึ่งเล่มของนางทิ่มแทงเข้าหน้าอกของจงชินอ๋อง จงชินอ๋องกอบกุมกระบี่ไว้ แล้วเลือดก็ได้หลั่งรินออกมา

อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวถามว่า“เหตุใดท่านถึงได้แกล้งตาย เหตุใดท่านถึงต้องหลอกลวงข้า?”

จงชินอ๋องยิ้มเจื่อนๆ คนที่อยู่ด้านหลังอยากจะเข้าใกล้ จงชินอ๋องโบกมือกล่าวว่า“อย่าเข้ามา นี่เป็นเรื่องของข้ากับพระชายา”

คนอื่นๆต่างมองไร้ความเคลื่อนไหว จงชินอ๋องกล่าวว่า“ฉวนเอ๋อร์ ข้าต้องการอยากจะลืมเจ้า แต่ข้าทำไม่ได้ พอข้านึกถึงเจ้าตอนที่อยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น ข้าก็เจ็บปวดหัวใจอย่างมาก”

อวิ๋นหลัวฉวนดึงกระบี่ออกมา ออกแรงทิ้งลงบนพื้น กล่าวว่า“ข้าเกลียดท่าน!”

จงชินอ๋องกล่าวอย่างตลกขบขันว่า“ไม่มีรักแล้วจะมีความเกลียดได้ที่ไหนกัน ข้าเพียงแค่รู้สึกเสียใจภายหลัง ไม่ควรที่จะไปเที่ยวชมเมือง กลับมาอย่างล่าช้า ฉวนเอ๋อร์ถึงได้เป็นพระชายาของเขาไปเสียแล้ว นอกจากข้าแล้วผู้ใดจะคู่ควรกับฉวนเอ๋อร์หรือ?”

“เจ้าอยากตาย ข้าจะทำอย่างที่เจ้าต้องการ!”

อ๋องตวนสาวเท้าเข้ามาต้องการสังหารจงชินอ๋อง จงชินอ๋องลุกขึ้นเหยียดตัวตรง แม้ว่าเขาจะโยกเอนเอียง แต่เขายังสามารถยิ้มหัวเราะออกมาได้ เขาจ้องมองอ๋องตวนด้วยแววตาเหยียดหยามดังเดิม

“หนานกงเหยี่ยน แม้ว่าข้าจะได้รับบาดเจ็บ เมื่อข้าจะจัดการกับเจ้ามันก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากนั่นแหละ”

อ๋องตวนเกลียดที่สุดคือการถูกคนดูถูกเหยียดหยาม ถูกจวนกั๋วกงทำให้โกรธก็ช่างมันเถิด กับคนอื่นไม่มีทางซะหรอก

“ฉวนเอ๋อร์ เจ้าไปทางด้านนั้น”

อ๋องตวนยกกระบี่ขึ้นสู้กันกับจงชินอ๋อง มองไปแล้วทั้งสองต่างสูสีกัน อ๋องตวนก็ยิ่งสู้ ยิ่งห้าวหาญ แต่อวิ๋นหลัวฉวนนั้นยังคงเป็นกังวลใจ

“ท่านอ๋องระวังเพคะ!”

ตอนที่อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวพูดจงชินอ๋องได้ยื่นเท้าออกไปแล้ว อ๋องตวนไม่ได้หลบเลยล้มลงบนพื้น แล้วอาเจียนออกมาเป็นเลือด

ลุกขึ้นยืนได้อ๋องตวนหยิบกระบี่กล่าวว่า“ตอนนี้ข้าเหมือนกันกับเจ้า ชนะเจ้าแล้วก็ไม่อายขายหน้าคน”

“ท่านอ๋องอย่าไปเพคะ”

ยิ่งอวิ๋นหลัวฉวนตะโกน อ๋องตวนยิ่งไม่ยินยอม ยกกระบี่ขึ้นแล้วต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง

ครั้งนี้จงชินอ๋องถีบขาออกไป เข้าที่เดิมของอ๋องตวน อ๋องตวนล้มลงที่พื้นไม่ได้มีการลุกขึ้นแล้ว

อวิ๋นหลัวฉวนเห็นกระบี่ของจงชินอ๋องจะเอาชีวิต นางเลยโผเข้าไป

กระบี่ของจงชินอ๋องเกือบจะแทงอวิ๋นหลัวฉวนเสียแล้ว

กระบี่ชี้ที่ตัวของอวิ๋นหลัวฉวน จงชินอ๋องแขนสั่นระริก กล่าวว่า“ฉวนเอ๋อร์…..เพื่อเขาแล้วเจ้าทรยศหักหลังข้าหรือ?”

“ข้าไม่เคยเป็นของท่านตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทรยศหักหลังที่ไหนกัน เขาคือสามีของข้า เขาตายแล้วข้าก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ วันนี้ท่านสู้ชนะแล้วอย่างไร ตั้งแต่เล็กเขาอยู่ที่พระตำหนักอย่างโอ่อ่า คุ้นเคยกับชีวิตอยู่ดีกินดี ไม่เคยต่อสู้ เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงใจตั้งแต่ไหนแต่ไร จะมาเทียบกับคนอย่างท่านได้อย่างไร?

ตั้งแต่เล็กท่านก็เป็นคนแผนสูง รู้จักข้า เข้ามาที่จวนกั๋วกงไม่ใช่เพราะว่าอยากได้ความไว้เนื้อเชื่อใจของจวนกั๋วกงหรือ?

ตั้งแต่แรกเริ่มท่านก็พยายาม เขาที่เดินอย่างเอ้อระเหย จะมาเทียบกับคนที่วิ่งอย่างท่านได้อย่างไร?

หากท่านสังหารคนโดยไม่กระพริบตาแล้วนั่น ท่านมันเป็นปีศาจร้าย ส่วนเขาเป็นคนซื่อสัตย์จิตใจดี เป็นคนที่คิดเผื่ออาณาประชาราษฎร์

ท่านกับเขา ก็ไม่จำเป็นต้องมาเทียบกัน!”

อวิ๋นหลัวฉวนยืดหยัดปกป้องอ๋องตวน

อ๋องตวนมองอวิ๋นหลัวฉวน จากนั้นกล่าวขึ้นว่า“ข้าไม่ได้เรื่องเช่นนั้น เหตุใดเจ้าถึงยังช่วยพูดให้ข้า?”

“ท่านอ๋องไม่ใช่คนที่ไม่ได้เรื่องเพคะ ท่านอ๋องเป็นผู้ที่มีจิตใจดี ใส่ใจผู้คน ท่านอ๋องหาตั๋วเงิน เปิดฉางหาเสบียงอาหาร หาตั๋วเงินแบ่งอาณาประชาราษฎร์ ซื้อยาให้แก่พวกเขา หลีกเลี่ยงยกเว้นการเก็บภาษี หากไม่มีความลำบากทุ่มเทคิดอย่างละเอียดรอบคอบของท่านอ๋อง เหล่าอาณาประชาราษฎร์ก็เสียภาษีอากรแล้วเพคะ”

อ๋องตวนตลกขบขันมองไปที่หน้าของจงชินอ๋อง

จงชินอ๋องหลับตาและกล่าวว่า“ได้ ข้าจะปล่อยเขา ฉวนเอ๋อร์ ต้องมีสักวันที่ข้าจะทำให้เขาเอาเจ้ามาคืนให้ข้าด้วยสองมือนั้นเอง”

จงชินอ๋องก้าวถอยหลังออกไป กล่าวว่า“พวกเราไปกันเถิด”

คนจำนวนหนึ่งเดินมาด้านหน้าจะพาจงชินอ๋องออกไป ทันใดนั้นเฟิงอู๋ชิงกล่าวขึ้นว่า“ท่านมาที่นี่ สังหารคนตั้งมากมาย สร้างเรื่องมากมาย คิดไม่ถึงว่าจะอยากถอยกลับไปอย่างนี้นะหรือ? ท่านถามเจ้าหอหรือยัง?”

จงชิงอ๋องหลุบตาขึ้นมองเฟิงอู๋ชิง สายตาของเขา เต็มไปด้วยการดูถูกดหยียดหยาม กล่าวว่า“เช่นนั้นก็ลองดู”

เขาผลักคนที่พยุงเขาออก จงชินอ๋องถือกระบี่หันไปทางเฟิงอู๋ชิง เวลานี้เฟิงอู๋ชิงมองเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอด เจ้าห้าได้ลืมตาขึ้นมา

มองเฟิงอู๋ชิงแล้ว ดวงตาดำขลับคู่นั้นของเจ้าห้า คล้ายดั่งว่ามันเปล่งประกาย มองเฟิงอู๋ชิงที่ใจลอย

เจ้าห้ามองอยู่ตลอด เฟิงอู๋ชิงก็มองอยู่ตลอดเช่นกัน

จงชินอ๋องยกกระบี่เดินมาด้านหน้า อาอวี่นั้นได้ประคองอ๋องตวนลุกขึ้นจากพื้นแล้ว ก้าวถอยหลังไปอีกด้าน ตรงที่อวิ๋นหลัวฉวนยืนพอดีกับเผชิญหน้าสบสายตากับจงชินอ๋องเลย

จงชินอ๋องหลุบตาขึ้นมองอวิ๋นหลัวฉวน เขาไม่โกรธ กลับกันยังยิ้มให้กับอวิ๋นหลัวฉวนด้วยความอ่อนโยน

อวิ๋นหลัวฉวนมองจงชินอ๋องที่เหม่อลอย มือถูกอ๋องตวนดึงไว้ อวิ๋นหลัวฉวนหันกลับมามองอ๋องตวน เขากล่าวว่า“ข้าไม่อนุญาตให้เจ้ามองเขา”

อวิ๋นหลัวฉวนพยายามฝืนยิ้มกับอ๋องตวน นางกล่าวขึ้นว่า “หม่อมฉันไม่ได้มองเขา เขาอยู่ที่นั่น ข้าเพียงมองดูสถานการณ์”

อ๋องตวนกัดฟันกรอด กำมือแน่น มองไปที่จงชินอ๋องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เขาสู้จงชินอ๋องไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่เขาอับอายขายหน้าที่สุด

อวิ๋นหลัวฉวนมองออก ว่าอ๋องตวนไม่ยินดีปรีดา

นางก็ไร้หนทาง ความสามารถไม่สู้เขา ยังมีอะไรให้พูดอีกล่ะ

นางก็หวังว่าเขาจะชนะ

“ครั้งหน้าท่านจะต้องชนะอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นน่าอายมาก!”

อวิ๋นหลัวฉวนก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงกล่าวพูดอย่างนี้ คงจะอารมณ์ไม่ดีมั้ง ได้เจอคนที่สู้คนไม่ได้ เลยไม่มีอะไรที่น่าภาคภูมิใจ

แม้ว่านางจะเป็นหญิง แต่นางก็เป็นที่น่าภูมิใจตั้งแต่เด็ก อยู่ในเรือนโดดเด่นเหลือล้น แต่ทว่ากลับได้แต่งกับคนน่ารำคาญเป็นภาระ

อยู่ข้างกายอ๋องตวน อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกว่าตนเองอยู่กับคนโง่ทึ่ม

“ได้!ครั้งหน้าข้าจะชนะ!”

อ๋องตวนรู้สึกไม่ดีมาก แต่อยู่ต่อหน้าศัตรู ต้องอดกลั้นไม่ให้เห็นการที่เขารู้สึกไม่ดีไว้

แววตาของเขาลึกซึ้งอึมครึม ชำเลืองมองคนของจงชินอ๋อง แล้วสั่งกำชับว่า “ผู้พิทักษ์ในเงามืดฟังทางนี้ วันนี้ทุกอย่างที่ถลันเข้าจวนอ๋องเย่ ไม่เก็บไว้แม้แต่คนเดียว ไม่ใช่พวกเขาที่ต้องตาย ก็เป็นพวกเจ้าตาย”

อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกประหลาดใจ ยังมีผู้พิทักษ์ในเงามืดหรือ?

บริเวณโดยรอบมีคนชุดดำปิดหน้าลงมาจากหลังคาเรือน

ผู้พิทักษ์ในเงามืดสวมใส่หน้ากากเหล็ก มือทั้งสองข้างกอบกุมกระบี่ มือกำโซ่ บนโซ่นั้นมีกริช โซ่เหล็กห้อยคล้องอยู่ที่เอว พวกเขาคล้ายดั่งปีศาจที่เหี้ยมโหดยามค่ำคืน ทั้งตัวมีความเยือกเย็นปะทุออกมา น่าสยดสยอง

“เจ้าหอเฟิง หนานกงเซวียนกับข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้กัน ข้าใช้ตั๋วเงินห้าร้อยล้านตำลึงจีนซื้อหัวของเขา หากวันนี้เอามาได้ ข้าจะมอบตั๋วเงินให้”

“อ้อ?”เฟิงอู๋ชิงมองความคึกครื้นมาพอประมาณแล้ว เขาเงยหน้ามองไปทางอ๋องตวนและกล่าวว่า “คนของท่านรับมือคนของเขา ข้ารับผิดชอบเพียงจัดการเขา ส่วนคนอื่นทุกคนยี่สิบล้านตำลึงจีน หากข้าไม่ระวังพลั้งสังหารก็เอายี่สิบล้านตำลึงจีน!”

“ได้!”

อ๋องตวนมีสายตาเย็นชา กำมืออวิ๋นหลัวฉวนแล้วก้าวถอยหลังไปไม่กี่ก้าว

อวิ๋นหลัวฉวนไม่ได้ขัดขืน กลับกันได้ยืนยืดตัวตรงอกผายไหล่ผึ่งอยู่ข้างกายของอ๋องตวน

อ๋องตวนมองเด็กสาวที่อยู่ข้างกาย ยืนอย่างแน่วแน่และสงบนิ่งมาก

เฟิงอู๋ชิงเดินไปทางด้านหน้า อ๋องตวนกล่าวอีกว่า“ผู้พิทักษ์ในเงามืดสังการคนหนึ่งยี่สิบล้านตำลึงจีน สังหารจงชินอ๋องได้ห้าร้อยล้านตำลึงจีน ”

จงชินอ๋องกล่าวด้วยความตลกว่า“ข้าจะรอ”

เฟิงอู๋ชิงเดินถือกระบี่เดินไปทางจงชินอ๋อง ในมือของเขายังโอบอุ้มเด็กน้อย แต่ทว่าจิตใจสงบแน่วแน่ดังเดิม

แม้จงชินอ๋องจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ไม่ได้เกิดความหวาดกลัวเลย กลับกันได้ชำเลืองมองอวิ๋นหลัวฉวน ในแววตาคล้ายดั่งกำลังบรรยาย ว่าวันนี้เขาตายก็ถือว่าคุ้มค่า ที่ได้มาพบเจอกับนาง