เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 592
หยางเฟิงถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่งแล้วหันหน้าไป

สำหรับหนิงชิงเฉิง เขายังคงทนดูไม่ได้

คนมากมายอยู่ที่นั่นอย่างนั้น ความรู้สึกของเขาที่มีต่อหนิงชิงเฉิงซับซ้อนที่สุด

หนิงชิงเฉิงมองเห็นหยางเฟิงหันหน้าไป กัดริมฝีปากแน่นแล้ว

กระทั่งในใจของหล่อนก็ไม่รู้คิดยังไง

หล่อนอยากให้หยางเฟิงสามารถพูดประโยคหนึ่งกับหล่อนได้

ถึงแม้เพียงแค่พูดโต้แย้งก็ดี

อย่างน้อยที่สุด

หล่อนสามารถรู้ได้ในใจของหยางเฟิงมีหล่อนอยู่

แต่หยางเฟิงก็ไม่พูดสักประโยคหนึ่ง

นี่ทำให้กรอบตาของหนิงชิงเฉิงแดงขึ้นมาแล้ว

หล่อนอยากที่จะร้องไห้

แต่ต่อหน้าคนมากอย่างนั้นหล่อนไม่สามารถหลั่งน้ำตาได้

ยังไงหล่อนคือคุณหนูของตระกูลหนิง

ตอนนี้ที่หล่อนเป็นตัวแทนคือศักดิ์ศรีของตระกูลหนิง

ถ้าหากหล่อนหลั่งน้ำตา

จะทำให้เสียศักดิ์ศรีของตระกูลหนิง!

มองเห็นที่นี่

ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานมองหน้ากันแวบหนึ่ง

สองคนต่างก็มองเห็นอะไรจากในดวงตาของฝ่ายตรงข้ามแล้ว

ดูแล้ว

หนิงชิงเฉิงกับหยางเฟิงมีเรื่องราวเล็กน้อย!

ทันใดนั้น

บนหน้าของสองคนก็เปิดเผยความสนใจออกมาแล้ว

ครื้น ๆ !

จู่ ๆ

แผ่นดินก็สั่นไหวขึ้นมาอย่างรุนแรง

ทุกคนต่างก็ยืนไม่มั่นคง

ความรู้สึกเหมือนเจอแผ่นดินไหวระดับสิบอย่างนั้น

เวลาเดียวกันนี้

เย่หลงร้องตระโกนเสียงหนึ่ง“ชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรใกล้ที่จะกำเนิดแล้ว!”

ฟืบ!

ทันใดนั้น!

สายตาของทุกคนต่างก็รวมไปจุดเดียวกัน!

ครืด!

ครืด!

เขาจินเฟิงทั้งหมดก็เริ่มจากตรงกลาง

แตกร้าวออกมาร่องหนึ่ง

ร่องยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

รอถึงสุดท้ายเขาจินเฟิงทั้งหมดก็เหมือนถูกฟันกลายเป็นครึ่งหนึ่ง

เพียงเห็นตรงกลางของเขาจินเฟิงปรากฏสุสานที่ยิ่งใหญ่มีพลังหนึ่งแล้ว!

สุสานที่กว้างใหญ่ไพศาลหลังนี้แทบจะยึดพื้นที่ส่วนในของเขาจินเฟิงทั้งหมด

นาทีนี้

ตาทั้งคู่ของทุกคนจ้องถลึง มีใบหน้าทื่อ ๆ

นี่เป็นสุสานของใคร คิดไม่ถึงเอาภูเขาทั้งหมดขุดจนหมดแล้ว!

สามารถจินตนาการได้

ปีนั้นตอนที่สร้างสุสานใหญ่หลังนี้ใช้พลังคนที่มหาศาลเท่าไหร่

ตึ้ง!

จู่ ๆ เย่หลงคุกเข่าลงมาแล้ว

เขามองสุสานอยู่ด้วยใบหน้าที่เคารพเลื่อมใส พูดด้วยน้ำตานองหน้า“บรรพบุรุษ ในที่สุดผมก็มองเห็นคุณอีกครั้งแล้ว!”

สุสานหลังนี้ที่ฝังก็คือเย่เวิ่นบรรพบุรุษของหมู่บ้านตระกูลเย่!

ปีนั้น

เย่เวิ่นป่วยตายที่แม่น้ำเซียง

จากนั้นขนมาที่บ้านเกิดของบรรพบุรุษที่หมู่บ้านตระกูลเย่

ใช้เวลาสิบปีถึงได้สร้างสุสานหลังนี้แล้ว!

ตอนนี้

ผ่านไปหนึ่งร้อยกว่าปีแล้ว

สุสานหลังนี้ในที่สุดก็ปรากฏที่โลกมนุษย์อีกครั้งแล้ว!

มองเห็นการปรากฏตัวของสุสาน

สีหน้าของหยางเฟิงและคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาแล้ว

แต่ใครต่างก็ไม่ได้บุ่มบ่าม

ยังไงสุสานที่ใหญ่อย่างนี้ ใครจะรู้ข้างในมีอันตรายหรือเปล่า?

“นายท่านอย่าคุกเข่าแล้ว ผมถามคุณสุสานนี่เข้าไปยังไง?”

เย่หลงยืนขึ้นมาสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง พูดว่า“อย่ารีบร้อน ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะเข้าไป! ปีนั้นตอนที่บรรพบุรุษสร้างสุสานนี้นั้นได้ติดตั้งกับดักกลไกนับไม่ถ้วนแล้ว เวลานี้เข้าไปตายแน่นอน!”

ได้ยิน

สีหน้าของหยางเฟิงสั่นเล็กน้อย

สติปัญญาของคนโบราณไม่สามารถจินตนาการได้จริง ๆ

กลไกหนึ่งร้อยกว่าปีตอนนี้คิดไม่ถึงว่ายังสามารถมีผลได้!

ดูแล้ว

ประเทศต้าเซี่ยห้าพันปี ถ่ายทอดสติปัญญาคนโบราณต่อกันมาถึงจะเป็นของล้ำค่าที่แท้จริง!

เวลาเดียวกันนี้

ความคิดของผู้คุมกฎสิบและคนอื่น ๆ ก็เหมือนกับหยางเฟิง

ก่อนที่ยังไม่ได้รู้ถึงอันตรายที่ชัดเจน

ใครต่างก็ไม่ยอมที่จะเสี่ยงอันตราย!

ก็อย่างนี้

ทุกคนก็ยืนหยัดลงมา

นานมาก

การสั่นไหวของแผ่นดินใหญ่ก็หยุดลงมาอย่างสิ้นเชิงแล้ว

เขาจินเฟิงทั้งหมดได้แตกแยกกลายเป็นครึ่งหนึ่งอย่างสมบูรณ์

ในสุสาน ศาลา อาคาร ตำหนักตั้งตรงเห็นได้อย่างชัดเจน

เทียบกับสุสานของจักรพรรดิก็ไม่ด้อยกว่ากัน!

เวลาผ่านไปทีละนิด ๆ

ในที่สุด

มีคนรอจนหงุดหงิดแล้ว

“กล้าบ้าอะไร กูไปสำรวจเส้นทางก่อน! ไม่แน่ว่าชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรนี้ก็เป็นของเราแล้ว!”