ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจงคุยอย่างชัดเจนเขาไม่คิดว่าสถานการณ์มันจะพัฒนาขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ ไม่คิดว่าหลูปิงเซ่อจะกล้าคิดฆ่าเขาด้วยตัวเอง?
อย่างไรก็ตามในตอนนี้มันมีเหล่านายพลทั้งหลายต่างวิ่งเข้ามาพยายามจะช่วยจงคุย มันจึงยิ่งทำให้จงคุยหยิ่งผยองในตัวเองมากขึ้นไปอีก “อยากวอนหาความตายนักรึไง งั้นฉันจะจัดให้แกเอง!”
หลายคนที่ต้องการจะหยุดหลูปิงเซ่อได้แต่ส่ายหัวในใจและมองจงคุยด้วยสายตาเอือมระอาที่พวกเขาพยายามช่วยไม่ใช่เพราะเรื่องอำนาจหรือความเคารพที่มีต่อจงคุย แต่เพราะพวกเขาไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้ และแม้ว่าหลูปิงเซ่อจะไม่มียศตำแหน่งติดตัว แต่ชื่อเสียงของทีมกองทัพเขี้ยวหมาป่านั้นโด่งดังไปทั่ว ใครจะรู้ว่าสถานะของหลูปิงเซ่อในกองทัพเขี้ยวหมาป่านั้นอยู่ที่ระดับไหน?
และด้วยความสามารถที่หลูปิงเซ่อมีในตอนนี้ใครจะหยุดเขาได้?
แต่ก็ดูเหมือนมันจะช้าเกินไปเพราะหลูปิงเซ่อได้เข้าถึงตัวจงคุยโดยมิ้งระยะห่างเหลืออีกเพียงแค่หนึ่งก้าวเท่านั้น หลูปิงเซ่อเคลื่อนไหวว่องไวราวกับผี และตอนนี้ที่หลูปิงเซ่อพึ่งมาถึงจงคุยนั้น ร่างวิวัฒนาการระยะ 2 ที่ถูกหลูปิงเซ่ออัดเข้าที่หน้าอกก่อนหน้านี้พึ่งจะกระแทกถึงพื้นและส่งเสียงร้องแสดงความเจ็บออกมาเอง
ฉางกวนหลงแสยะยิ้มกับตัวเองยืนดูการกระทำของภาพหลูปิงเซ่อค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในใจรอคอยอย่างตื่นเต้น แน่นอนว่าเหล่าผู้มีอำนาจทั้งหลายจะต้องรับไม่ได้กับการกระทำของลูกน้องชูฮันอย่างแน่…การฆ่าพลเอก
และถึงแม้พลเอกจงคุยอาจจะไม่ถึงตายแต่ก็ได้รับบาดเจ็บความเกลียดชังระหว่างค่ายจินหยางและค่ายเขี้ยวหมาป่าก็จะก่อตัวขึ้นมาทันที และเมื่อถึงเวลานั้นค่ายเขี้ยวหมาป่าก็จะไม่สามารถพัฒนาต่อได้เพราะต้องคอยเตรียมรับมือการโจมตีจากค่ายจินหยางอยู่ตลอด
ครั้งนี้แหละชูฮันจะต้องเป็นทุกข์เพราะหลูปิงเซ่อ!
ขณะที่หัวใจของทุกคนแทบจะหลุดออกจากอกมันก็มีภาพที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน—–
หลูปิงเซ่อที่กำลังวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงและดาบในมือที่กำลังจะแทงเข้าใส่จงคุยจู่ๆร่างของหลูปิงเซ่อก็หมุนไปอีกทาง!
”พรึบ!”
ทุกคนไม่ได้เตรียมใจกับเหตุการณ์นี้เลยมันเป็นเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น ร่างของหลูปิงเซ่อก็ไปปรากฏอยู่ที่อีกตำแหน่งหนึ่งแล้ว เขาไม่ได้ฆ่าจงคุยตามลำดับเหตุการณ์ที่ไล่ขึ้นมาอย่างที่ทุกคนคิด แต่กลับวิ่งเลยไปที่ด้านหลังของจงคุยแทน และปรากฏตัวต่อหน้าคนมากมายที่ดูสถานการณ์อยู่
”ฮือฮา~”
ทุกคนต่างตกใจและหยุดการกระทำของตัวเองกันหมดตาจ้องค้างมาที่หลูปิงเซ่อที่จู่ๆก็เปลี่ยนใจ หากทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ ตราบใดที่หลูปิงเซ่อไม่ได้ฆ่าจงคุย มันก็ยังมีที่ว่างสำหรับการแก้ไขเสมอ
คิ้วของฉางกวนหลงย่นเข้าหากันประกายในตาเริ่มหม่นแสงลง ดูเหมือนว่าหลูปิงเซ่อจะยังไม่มีความมั่นใจพอ หลูปิงเซ่อคงรู้ดีถึงผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะตามมาหากทำอันตรายต่อจงคุย เพราะงั้นจึงหลีกเลี่ยงไปขั้นต่อไปแทน
ฉางกวนหลงหัวเราะเยาะในลำคอการที่หลูปิงเซ่อหยุดชะงักท่ามกลางช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ มันไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของหลูปิงเซ่อหรือไง?
แม้ว่าการกระทำนี้อาจจะเพื่อหลีกเลี่ยงความบาดหมางระหว่างค่ายจินหยางและค่ายเขี้ยวหมาป่าที่จะตามมารวมถึงยังเป็นการทำลายชื่อเสียงของชูฮันก็ตาม
”หึ!”
จงคุยที่หลังจากผ่านการเผชิญหน้ากับจิตสังหารรุนแรงของหลูปิงเซ่อมาได้ก็ยืนนิ่งเหงื่อโชกและเมื่อได้เห็นว่าหลูปิงเซ่อไม่กล้าจะทำอะไรตัวเอง สัมผัสของความเย่อหยิ่งและอวดดีก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
”พรึบ!”
จงคุยรีบหมุนตัวกลับหลังหันตามไปทันทีและใช้โอกาสนี้เพิ่มความกดดันไปที่หลูปิงเซ่ออีกครั้ง “ไม่มีความกล้า ไม่มีตำแหน่ง ไม่ต่างอะไรจากขยะ ตอนนี้จงคุกเข่าขอร้องฉันซะถ้าไม่อยากตาย ไม่งั้นจะฉันตัดแกเป็นชิ้นๆทั้งเป็น!” ไอลีนโนเวล
ทันทีที่จงคุยประกาศกร้าวออกมาสีหน้าของเหล่าผู้มีอำนาจทั้งหลายก็แดงก่ำ ตาแก่จงคุยยังเอาแต่เห่าไม่หยุด การที่หลูปิงเซ่อไม่ลงมือทำอะไรมันก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะทำอะไร เพราะกองทัพเขี้ยวหมาป่ามักได้เชื่อว่าเป็นพวกป่าเถื่อนอยู่แล้ว?
ทุกคนต่างเป็นกังวลเพราะจงคุยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองจะตายอยู่ร่อมร่อ!
อย่างไรก็ตามหลังจากหลูปิงเซ่อยอมละมือจากการฆ่าจงคุย คนอื่นๆก็รู้สึกเหมือนกันว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่าคงไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่พวกเขาคิด เพราะเมื่อเผชิญหน้ากับผู้นำของค่ายขนาดใหญ่ กองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ยังมีกลัวต่อบทลงโทษเช่นกัน
มันก็แค่เพียงข่าวลือที่กล่าวเกินจริงทุกอย่างดูไร้ความหมาย ในเวลาเดียวกันทุกคนคิดว่าชูฮันก็ไม่ต่างอะไรจากหลูปิงเซ่อ ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ
แต่ขณะที่ทุกคนเริ่มค่อยๆเมินเฉยต่อหลูปิงเซ่อและลดความชื่นชมที่มีต่อชูฮันลงมันก็มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตามมาอีก——
หลูปิงเซ่อยืนต่อนหน้ากลุ่มชาวบ้านจำนวนมากของค่ายหนานตู้ทันใดนั้นจู่ๆหลูปิงเซ่อก็ยิ้มออกมา “ไม่เอาน่า! พลเอกที่มีอำนาจเทียบฟ้าทำตัวน่าสมเพช รังแกคนที่ไม่มีอำนาจแบบนี้เนี่ยนะ!”
ทุกคนต่างตกใจกันหมด!
ฉางกวนหลงเองก็ตกใจค้างไม่รู้ตัวว่าเผลอแสดงสีหน้าแบบไหนออกมา มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับความตกใจอันเกินความคิดต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ กลายเป็นว่าหลูปิงเซ่อ…
คิดจะเล่นเกมส์จิตวิทยา?
จงคุยยิ่งกว่าซื่อบื้อ…นี้มันอะไรกัน?
หลูปิงเซ่อที่ยืนต่อหน้าฝูงชนก็ตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง”ทุกคนมาดู! คนที่ชื่อจงคุยจากค่ายจินหยาง เขาพูดจาดูถูกพลเอกของฉัน ทุกคนได้ยินมั้ย ผู้ชายคนนี้พูดจาทุกอย่างเพื่อยั่วยุอารมณ์ฉัน แล้วฉันทำอะไรผิด? ไม่เลย! ใครๆต่างก็บอกว่าพลเอกจงคุยชอบรังแกคนที่ไร้ทางสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง หรือมันไม่จริง?!”
หลูปิงเซ่อพูดตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดังลั่นดึงความสนใจของทุกคนในบริเวณทั้งหมด
อย่างที่คาดไว้ชาวบ้านส่วนใหญ่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย พวกเขาอยู่ที่นี้มาตั้งแต่แรก ตั้งแต่กาารลอบฆ่าของชูฮันจนถึงตอนที่หลูปิงเซ่อจัดการฆ่าวิวัฒนาการระยะ 5 จากนั้นก็สนามพลังงานรุนแรงที่ชูฮันสร้างขึ้นที่ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าไปหรือออกมาได้ จนปัจจุบันที่ตอนนี้มีเหล่าผู้มีอำนาจทั้งหลายแห่ขบวนกันมาอย่างกระทันหัน
ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เหล่าชาวบ้านที่คอยเฝ้าดูเหตุการณ์นั้นเข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี
เมื่อได่เห็นฝูงชนที่พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของหลูปิงเซ่อจงคุยก็โกรธจัดและระเบิดอารมณ์พร้อมพูดจาข่มขู่ใส่ “แกมันก็แค่ชนชั้นต่ำสุด ไม่มียศตำแหน่ง แกมันขยะของสังคม ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ ไม่ว่าผิดหรือถูก ถ้าฉันบอกให้แกตาย แกก็ต้องตายอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีใครหยุดฉันได้!”
เหล่าชาวบ้านที่ได้ยินคำพูดของจงคุยต่างเกิดความรู้สึกอึดอัดอะไรคือชนชั้นต่ำสุด หาว่าพวกเขาคือขยะสังคม?
นี่เหรอคือความหมายของคำพูดของพลเอกจงคุย!
กลุ่มคนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจีนคือคนธรรมดาหมายความว่าพวกเขาล้วนเป็นคนด้อย ต่ำต้อยงั้นเหรอ?
หลูปิงเซ่อที่เห็นจงคุยระเบิดธาตุแท้ของตัวเองออกมาก็ยิ้มหยันอยู่ในอกหากต่อหน้าก็ทำเป็นแสดงความเสียใจออกมา “พลเอกจงคุย ท่านหมายความว่าอย่างไร? แค่เพราะผมไม่มียศทางหทาร เพราะผมเป็นคนธรรมดา เพราะงั้นผมไม่มีสิทธิสงสัยต่อการกระทำของท่าน? แล้วท่านจะฆ่าแกงผมยังไงก็ได้เหรอครับ? นี้มันอะไรกัน? ทำไมท่านถึงปฏิบัติกับคนธรรมดาราวกับไม่ใช่มนุษย์แบบนี้?”
”พวกเราคือเสาหลักของค่ายอนาคตของจีน เป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญที่สุดต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจและการพัฒนา!” หลูปิงเซ่อประกาศกร้าวด้วยความขุ่นเคืองเต็มที่ เขายกมือขึ้นสูงพร้อมตะโกนก้อง “ทุกคนที่ไม่เห็นด้วยยกมือขึ้น ตาแก่นี้ดูถูกเหยียดหยามเรา เขาสมควรแล้วหรือที่จะเป็นผู้นำค่าย? เราควรใช้ชีวิตก้มหัวให้คนแบบนี้เหรอ? ทำไม?!”
”ใช่ทำไม?!” กลุ่มชาวบ้านจำนวนมากเริ่มโกรธและตั้งคำถามอย่างไม่พอใจตามการชักจูงของหลูปิงเซ่อ