ตอนที่ 475 กระบวนท่าโจมตี

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 475

กระบวนท่าโจมตี

“พี่สาว ทำอะไรกันอยู่หรือขอรับ”ในเช้าวันต่อมา จูล่งที่พึ่งขอร้องให้ต้าเฉียนและต้าหวานประลองกับเฒ่าประทับสวรรค์ก็เดินหน้าระรื่นมาหาทั้งสองด้วยท่าทียิ้มแย้มราวกับเมื่อวานไม่เคยประมือกันมาก่อนไม่มีผิด

“เจ้าหนู ไม่ใช่เราบอกเจ้าไปแล้วหรือว่าที่นี่ห้ามคนนอกเข้า”ต้าหวานถามพลางมองไปทางจูล่งด้วยใบหน้าเอือมระอา พอพวกนางรับปากว่าจะประลองกับเฒ่าประทับสวรรค์ จูล่งก็ไปแจ้งข่าวให้เฒ่าประทับสวรรค์แล้วก็กลับมาบอกเรื่องที่เฒ่าประทับสวรรค์พูดให้พวกนางฟัง กลายเป็นว่าเฒ่าประทับสวรรค์ไม่ยอมรับเงื่อนไขว่าจะประลองกันเพียงครั้งเดียว ดูเหมือนเฒ่าประทับสวรรค์เองก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่จะเอาชนะได้ง่ายๆด้วยการประลองครั้งเดียว ทำให้จูล่งต้องเดินไปๆกลับๆอยู่หลายรอบทีเดียวกว่าจะตกลงกันได้ โดยเฒ่าประทับสวรรค์ขอประลองกับต้าเฉียน 2 ครั้งหากเอาชนะไม่ได้ก็จะเลิกราแต่เพียงเท่านี้ นั่นคือเปิดโอกาสให้เฒ่าประทับสวรรค์ได้เรียนรู้วิชาของต้าเฉียนก่อนนั่นเอง

“ข้าต้องรอท่านตาพักฟื้นก็เลยไม่มีอะไรทำ เห็นพวกพี่สาวกำลังฝึกซ้อมกันก็เลยอยากมาดูขอรับ”จูล่งตอบหน้าซื่อ ในสำนักเทพจุติแห่งนี้มีศิษย์ตั้งมากมายกำลังฝึกฝนวิชาอยู่ แต่ในสำนักแห่งนี้คนที่ฝึกฝนอย่างหนักและเป็นเรื่องเป็นราวที่สุดคงหนีไม่พ้นคุณหนูทั้งสองของสำนักเป็นแน่ ทำให้จูล่งตัดสินใจจะมาดูว่าทั้งสองฝึกอะไรกัน

“นี้น้องชาย วิชาที่พวกเราฝึกเป็นความลับนะ…”ต้าเฉียนกำลังจะท้วง แต่กลับโดนต้าหวานห้ามเอาไว้ก่อน

“ยังไงพวกเราก็สู้เจ้าไม่ได้อยู่แล้ว ทำไมต้องมาดูพวกเราด้วย”ต้าหวานถามด้วยท่าทีข้องใจ จากเมื่อวานก็เห็นกันชัดๆอยู่แล้วว่าพวกนางสู้จูล่งไม่ได้ ไม่ว่าจูล่งจะดูการฝึกซ้อมหรือไม่ก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว

“พวกพี่สาวใช้ทวนเหมือนข้านี่นา ข้าเลยเกิดสนใจขึ้นมา”จูล่งตอบออกมาตามตรง ทั้งสองใช้ทวนด้วยกระบวนท่าที่ต่างกัน เมื่อวานทำให้จูล่งได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย มันเลยเกิดสนใจขึ้นมา โดยเฉพาะวิชาปาทวนของต้าเฉียน หากจูล่งนำไปใช้อาจจะทำให้กระบวนท่าของมันแข็งแกร่งขึ้นก็ได้

“เจ้าเองก็ใช้ทวนงั้นหรือ”ต้าหวานเลิกคิ้วด้วยท่าทีสนใจ เมื่อวานจูล่งไม่ได้ใช้อาวุธอะไรเลย เพียงหลบกระบวนท่าของพวกนางเท่านั้น แถมยังไล่เก็บอาวุธมาคืนน้องสาวนางอีกต่างหาก แสดงว่าเมื่อวานมันยังไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อยสินะ แต่นางก็ยังสัมผัสพลังของจูล่งไม่ได้เลยไม่ทราบว่าจริงๆแล้วจูล่งมีพลังระดับไหนกันแน่

“ขอรับ แต่ข้าพึ่งฝึกได้ท่าเดียวเอง ก็เลยอยากจะศึกษาเพิ่มขอรับ”จูล่งตอบพลางทำหน้าเขินอายออกมา มันมีแค่วิชาเดียวจริงๆ เทียบกับคนอื่นๆแล้วช่างน่าอายจริงๆ

“กระบวนท่าเดียว?….”ต้าเฉียนแสดงสีหน้างุนงงออกมาเช่นกัน นางหันไปมองต้าหวานครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองจูล่งอีกครั้ง เมื่อวานมันไม่ได้โจมตีเสียด้วยเลยไม่ทราบว่ามันมีวิชาอะไรบ้าง

“งั้นเจ้าก็ลองดูพวกเราฝึกก็แล้วกัน ถ้าช่วยอะไรเจ้าได้ก็คงดี”ต้าหวานตอบพลางนำทวนของตนออกมา

“แต่ท่านพี่….”ต้าเฉียนเลิกคิ้วพลางมองไปทางต้าหวาน วิชาของพวกนางเป็นพวกนางคิดค้นขึ้นมาเอง จะให้คนนอกดูตอนฝึกจริงๆงั้นหรือ

“ไม่ต้องห่วง วิชาของพวกเราเป็นวิชาประสาน ให้น้องชายดูเสียหน่อยก็ไม่เสียหายนี่นา”ต้าหวานตอบด้วยท่าทีใจดี ต่อให้จูล่งขโมยวิชาของพวกนาง แต่มันมีคนเดียวก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะวิชาของพวกนางนั้นแบ่งกันรุกรับตลอดเวลาจนกลายเป็นวิชาสุดยอด หากแยกใช้คนเดียวก็จะลดระดับลงมาหลายขั้นทีเดียว

“งั้นก็ได้ น้องชายเจ้าตั้งใจศึกษาก็แล้วกัน โอกาสเช่นนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆนะ”ต้าเฉียนยิ้มพลางหันกลับไปฝึกฝนวิชาของตนเองบ้าง โดยต้าหวานเน้นฝึกกระบวนท่าการเคลื่อนไหว ส่วนต้าเฉียนฝึกวิชาปาทวน โดยต้าเฉียนนั้นดูเหมือนจะมีทวนสีแดงเก็บเอาไว้ในมิติของตนจำนวนมากเลยทีเดียว นางปามันออกมาอย่างกับมีทวนไม่จำกัด ลองนับๆดูที่นางใช้ซ้อมจำนวนทวนสีแดงมีมากกว่าร้อยเล่มอีกกระมัง น่าเสียดายที่ทวนของจูล่งมีแค่เล่มเดียว คงจะปาไปเรื่อยๆแบบต้าเฉียนไม่ได้

ฉึก!! หลังจากฝึกไปหลายชั่วโมง อยู่ๆทวนสีแดงเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาปักตรงเบื้องหน้าจูล่งเข้าพอดี เพียงแต่ทวนเล่มนี้ไม่ได้หลุดการควบคุมแต่อย่างไร เพราะต้าเฉียนสามารถบังคับทวนที่ปาออกไปได้ดั่งใจไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว

“เป็นอย่างไรบ้าง”ต้าเฉียนถามพลางกระโดดลงมาตรงที่จูล่งยืนอยู่

“ยอดเลยขอรับ พวกพี่สาวเก่งกันมากเลย”จูล่งตอบด้วยท่าทีชื่นชม กระบวนท่าของต้าหวานก็หลากหลาย วิธีควบคุมทวนของต้าเฉียนก็น่าประหลาดใจ มีกระบวนท่าหนึ่งต้าเฉียนปาทวนออกไป 7 ทางพร้อมกัน แต่ทุกทางที่ปาออกไปกลับเลี้ยวกลับมาแทงที่จุดเดียวกันเป๊ะอย่างน่ากลัว ทำเอาจูล่งมองตาไม่กะพริบเลยทีเดียว

“แล้ววิชาเดียวของเจ้าที่ว่าเป็นอย่างไรล่ะ”ต้าเฉียนถามพลางยิ้มออกมา ท่าทางนางจะยังสงสัยเรื่องนี้อยู่

“เรื่องนั้น….”จูล่งเหมือนจะพยายามอธิบาย แต่ตัวมันก็ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ว่าวิชาของมันคืออะไรและมีหลักอย่างไรกันแน่ จูล่งจึงดึงทวนสีแดงที่ต้าเฉียนปามาก่อนหน้านี้ขึ้นมาก่อนจะเดินไปที่หุ่นฝึกที่ต้าเฉียนใช้เป็นเป้าสำหรับปา

วูบ…. จูล่งเปิดใช้ดวงตาทั้ง 8 ชนิดของเนตรแมงมุมพลางตั้งสมาธิอย่างแรงกล้าไปทางหุ่นฝึกซ้อม ยามนี้พลังของจูล่งถูกปลดออกมานั้นทำให้ทั้งต้าเฉียนและต้าหวานต่างสัมผัสได้ทันทีว่าพลังของจูล่งสูงกว่าพวกนางอย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่อาจทราบได้ว่าพลังเหนือกว่าหรือต่ำกว่าพวกท่านพ่อกันแน่

“…….”ต้าเฉียนและต้าหวานจดจ้องไปที่กระบวนท่าของจูล่งอย่างตั้งใจ ผู้ครอบครองพลังระดับนี้จะมีวิชาแปลกประหลาดอะไรให้เห็นกันแน่ พวกนางอดสงสัยไม่ได้จริงๆ เพียงแต่…..

กระบวนท่าที่จูล่งแสดงออกมานั้นกลับเป็นกระบวนท่าที่เรียบง่ายอย่างมาก จูล่งเพียงพุ่งตัวช้าๆเข้าไปแทงหุ่นฝึกซ้อมเท่านั้น น่าเสียดายที่หุ่นฝึกซ้อมเป็นเพียงเป้านิ่งไร้ชีวิต ไม่สามารถเคลื่อนไหวหลบการโจมตีของจูล่งได้ วิชาควบคุมเวลาที่ปกคลุมอยู่รอบๆเลยไม่ได้ทำงาน สิ่งที่ต้าเฉียนและต้าหวานเห็นกลับเป็นจูล่งเข้าไปแทงหุ่นฝึกซ้อมเฉยๆเท่านั้นเอง

“น้องชาย นี้คือกระบวนท่าของเจ้างั้นหรือ”ต้าเฉียนถามพลางกะพริบตาปริบๆ อย่างนี้นับเป็นกระบวนท่าได้งั้นหรือ มันแค่แทงทวนใส่คู่ต่อสู้เฉยๆไม่ใช่หรืออย่างไร

“ข้าบอกแล้วว่ามันน่าอาย”จูล่งตอบพลางทำแก้มป่องออกมาเมื่อเห็นว่าทั้งสองมีท่าทีดูถูกกระบวนท่าของมัน เห็นอย่างนี้มันพยายามฝึกมาตั้งหลายปีเชียวนะ

“อย่าน้อยใจเลยนะ คนเราก็มีเรื่องไม่ถนัดได้เหมือนกัน”ต้าหวานเห็นจูล่งมีท่าทีงอนๆก็เลยเข้าไปปลอบทันที ก่อนหน้านี้จูล่งหลบการโจมตีของพวกนางราวกับไม่ใช่มนุษย์แถมยังตอบโต้ได้หน้าตาเฉย ไม่นึกเลยว่าจุดอ่อนของจูล่งจะเป็นท่าโจมตีนี่เอง

“เจ้าอย่างอนเลย เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ข้าจะช่วยสอนเจ้าปาทวนเอง”ต้าเฉียนว่าพลางเข้าไปง้อจูล่งอีกคน เห็นเจ้าหนูนี่ทำหน้าตางอนๆแล้วรู้สึกหมั่นเขี้ยวอยู่เหมือนกัน ความรู้สึกนี้เหมือนตอนเลี้ยงต้าเซียนสมัยยังเด็กเลย

“งั้นก็ได้ขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มออกมา ทำให้ทั้งต้าเฉียนต้าหวานต่างหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ตอนแรกพวกนางแอบเกรงจูล่งอยู่หลายส่วนเพราะเห็นๆอยู่ว่ามันฝีมือร้ายกาจกว่า แต่พอเห็นกระบวนท่าโจมตีของน้องชายคนนี้แล้ว พวกนางกลับผ่อนคลายลงไปได้มากทีเดียว

.

.

“ก่อนหน้านี้พวกท่านบอกว่าไม่อยากประลองกับท่านตาเพราะมีเรื่องต้องทำนี่ขอรับ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องอะไร”จูล่งถามพลางมองไปทางต้าเฉียนและต้าหวานที่กำลังนั่งพักอยู่ข้างๆลานฝึก

“พวกเราไม่สนใจอันดับจอมยุทธหรอก ก็เลยไม่อยากประลองอะไร”ต้าหวานส่ายหน้าพลางยิ้มออกมา ตอนนี้พวกนางพาจูล่งมานั่งพักดื่มชาด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกนางยังมองจูล่งเป็นผู้บุกรุกอยู่เลยแท้ๆ

“พวกเรามีความฝันอยู่นะ แต่มันออกจะน่าอายไปหน่อย”ต้าเฉียนยิ้มด้วยใบหน้าแดงๆเล็กน้อย พอพูดออกมาแบบนี้มีหรือที่จูล่งจะไม่สนใจเลย

“ความฝัน?”จูล่งเอียงคอด้วยท่าทีสงสัย ความฝันอะไรกันถึงได้บอกว่าน่าอาย

“พวกเราอยากจะเป็นผู้ติดตามของคนๆหนึ่ง”ต้าหวานตอบด้วยรอยยิ้ม แม้จะเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว แต่สมัยเด็กๆท่านพ่อของนางและพ่อของต้าเซียนเคยเล่าให้พวกนางฟังว่าก่อนจะมาเป็นเจ้าสำนัก พวกท่านเคยติดตามคนผู้หนึ่งมาก่อน ท่านบอกว่าหากไม่ใช่เพราะติดตามคนผู้นั้นพวกท่านก็คงไม่มีวันนี้ แม้จะเป็นเจ้าสำนักไปแล้วพวกท่านพ่อก็ยังอยากจะไปติดตามชายผู้นั้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่น่าเสียดายที่ท่านพ่อไม่เคยบอกว่าชายผู้นั้นคือใคร แต่จากเรื่องที่พวกท่านพ่อเล่ามา ทำให้พวกนางรู้สึกขอบคุณชายคนนั้นอย่างมากทีเดียว

“แต่…พวกท่านเป็นลูกของเจ้าสำนักไม่ใช่หรือขอรับ”จูล่งถามด้วยท่าทีงงๆ สำนักเทพจุติตอนนี้เป็นสำนักใหญ่อันดับ 1 ของอาณาจักรอู๋อย่างไม่ต้องสงสัย แล้วคุณหนูของสำนักเทพจุติจะอยากไปเป็นคนติดตามของผู้อื่นได้อย่างไร

“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวสักหน่อย พวกเราก็แค่อยากทำในสิ่งที่ท่านพ่อเล่าให้พวกเราฟังเท่านั้นเอง”ต้าหวานตอบด้วยใบหน้ายิ้มๆ ที่พวกนางไม่รู้ว่าคนที่พวกท่านพ่อติดตามคือใครก็เพราะต้าชิงและต้าเฉินไม่อาจพูดได้ว่าตนเป็นผู้ติดตามของไป๋จูเหวิน หลังจากสำนักเทพจุติเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทั้งไป๋จูเหวิน ทั้งอู๋หมิงต่างลงความเห็นว่าไม่ให้ต้าชิงกับต้าเฉินเปิดเผยว่าจริงๆแล้วพวกตนเป็นผู้ติดตามของไป๋จูเหวินคงจะดีกว่า เพราะหากคนรุ่นใหม่ทราบว่าสำนักเทพจุติมีเจ้าสำนักเป็นผู้ติดตามของจักรพรรดิอาณาจักรอื่นอาจจะสร้างความไม่พอใจให้คนในอาณาจักรได้ แม้จะเป็นอาณาจักรพันธมิตรกันก็ตาม ทำให้ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้เรื่องที่ต้าชิงกับต้าเฉินเป็นผู้ติดตามของไป๋จูเหวินมาก่อนถูกลืมเลือนไป เหลือแต่คนในไม่กี่คนเท่านั้นที่ทราบเรื่องนี้ แต่เพราะต้าชิงกับต้าเฉินเอาเรื่องในอดีตมาเล่าให้ลูกสาวฟัง พวกนางเลยตั้งเป้าจะเป็นผู้ติดตามให้ชายผู้นั้นแทนพวกท่านพ่อที่ไม่อาจทำหน้าที่ได้แล้วเองเสียอย่างนั้น แถมพวกนางยังไม่ต้องเป็นเจ้าสำนักคนต่อไปด้วย เรียกได้ว่าทางสะดวกเลยก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายคนที่ท่านพ่อเล่าให้ฟังหายตัวไปนับสิบปีแล้ว

“เห็นไหมล่ะ ข้าบอกแล้วว่ามันน่าอาย”ต้าเฉียนยิ้มเขินๆออกมา พวกนางหวังแบบนั้นกันจริงจังมากทีเดียว ยิ่งพอได้ทราบว่าชายผู้นั้นมีบุตรสาวอยู่ด้วย พวกนางก็เลยตั้งเป้าว่าจะฝึกฝนให้แข็งแกร่งพอจะเป็นผู้ติดตามของบุตรสาวของชายคนนั้น เผื่อสักวันชายคนนั้นกลับมาแล้วจะได้ขอร้องให้ท่านพ่อแนะนำให้

“ไม่หรอกขอรับ การทำตามความฝันเป็นเรื่องดีนะขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มออกมา คนเราย่อมมีความฝันกันทั้งนั้น จะแปลกไปบ้างก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่นา