บทที่ 2039+2040

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2039 พบคนคุ้นเคย

แล้วสิ่งที่ร้ายกาจนั้นคืออะไรกันแน่? ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้ที่นี่เลยสักนิด แม้แต่กลิ่นอายก็ไม่มีเลย

กู้ซีจิ่วและลู่อู่ยังคงค้นหาต่อไป ค่อยๆ เข้าสู่ส่วนลึกของป่า

ในส่วนลึกของป่าเดินทางไม่ง่ายเลย รอบข้างล้วนเป็นพุ่มหนามที่คล้ายกับเข็มแหลม โดนทิ่มเล็กน้อยก็เจ็บปวดเสมือนถูกเข็มตำ

ขณะที่เดินกันอยู่ มีเสียงคนแว่วมาจากด้านหน้า ฝีเท้าของกู้ซีจิ่วชะงักไปเล็กน้อย

หนทางช่างคับแคบโดยแท้ พบพานเด็กน้อยกลุ่มนั้นอีกแล้ว!

คนที่อยู่ด้านหน้าก็คือพวกก่วนจิ่วหวา พวกเขาคล้ายว่ากำลังวิพากษ์วิจารณ์อะไรกันอยู่ เสียงไม่เบาเลย ทำให้กู้ซีจิ่วที่ไม่อยากจะเป็นคนแอบฟังตามมุมกำแพงเลยได้ยินทุกอย่างเข้า

จากบทสนทนาของพวกเขา กู้ซีจิ่วได้ทราบข้อมูลสองข้อ

เรื่องที่เสินเนี่ยนโม่ตัดขาดกับเหล่าอาจารย์ยังคงเป็นความลับภายในของสิบสำนัก คนส่วนใหญ่ยังไม่รับรู้

เจ้าสำนักของทั้งสิบสำนักนี้ยังไม่ได้ถอดใจในตัวเสินเนี่ยนโม่ ยังคงมีความคิดที่ว่าจะดึงเขากลับมาจาก ‘หนทางชั่วร้าย’ ถึงอย่างไรพวกเขาก็ล้วนเป็นสหายของมหาเทพ ไม่อาจเบิกตามองบุตรชายของสหายถลำไปบนหนทางชั่วร้ายไกลออกไปเรื่อยๆ จนไม่อาจกลับตัวได้ ดังนั้นยามนี้พวกเขากำลังสรรหาสารพัดวิธี พยายามจะทำให้เสินเนี่ยนโม่กลับมาเป็น ‘ลูกผู้ชายไม่สายเกินกว่าจะกลับใจ’

สองคือ พวกเขาเหล่านี้ได้ข่าวว่าระยะนี้ที่ยอดเขาแสงอุษาแห่งนี้มีนิมิตหมายอันเป็นมงคล ตามคำทำนายของโหราจารย์คือ ไม่กี่วันนี้ที่ยอดเขาแสงอุษาจะมีสัตว์เซียนจุติขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงมาเสี่ยงโชคดู

แน่นอน ระหว่างที่พวกเขากำลังถกเถียงโต้แย้งกันอยู่ ก็ได้ฝากคำทักทายไปถึง ‘นางมารกู้ซีจิ่วคนนี้’ อยู่สองสามประโยคด้วย คาดเดากันว่าเธอลาโลกไปหรือยัง บอกว่าต่อให้เธอไม่ตายตอนนี้ก็น่าจะอาการร่อแร่นอนอยู่บนเตียงแล้ว…

ถ้อยคำที่พวกเขาเรียกขานกู้ซีจิ่วได้ข้ามขั้นจาก ‘นางมาร’ ไปสู่ขั้น ‘นางมารเฒ่า’ แล้ว

พูดจาซ้ำซากอยู่หลายครั้งว่าเป็นวัวแก่ที่หมายจะกินหญ้าอ่อน ไม่มีคำแปลกใหม่เลยสักนิด

กู้ซีจิ่วหยักมุมปากนิดๆ ในเมื่อเป็นผู้อาวุโสแล้ว เธอก็ไม่คิดจะถือสาหาความกับชนรุ่นเยาว์หรอก

ดังนั้นเธอจึงทำใจกว้างไม่คิดเล็กคิดน้อยที่พวกเขานินทาเธอลับหลัง แต่พวกเขาก็ไม่ควรทำให้เธอได้ยิน ในเมื่อเธอได้ยินเข้า ผู้อาวุโสอย่างเธอย่อมไม่สบอารมณ์แล้ว!

เมื่อเธอไม่สบอารมณ์ก็อยากจะเคี่ยวกรำผู้อื่น!

อยากทำให้พวกเขารู้ว่าอะไรที่เรียกว่าเคารพผู้อาวุโสเมตตาผู้เยาว์!

ด้วยเหตุนี้เธอจึงเม้มปากยิ้มแวบหนึ่ง ใช้วิชาเคลื่อนย้ายเข้าไปทันที…

ห้าคนนั้นกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสวบสาบดังขึ้นเหนือศีรษะ เบื้องหน้าปรากฏเพลิงทองลุกจ้าพร่าตา!

พวกเขาถูกโจมตีอย่างกะทันหัน ตกตะลึงนัก รีบยกมือขึ้นออกท่าตั้งรับ ต่างชักกระบี่ล้ำค่าออกมาปัดป้อง…

‘ชึบ! แควก! ชึบแควก…เคร้ง แกรก…’

เกิดเสียงประหลาดดังขึ้นต่อเนื่องกัน ทั้งห้าคนยังไม่ได้เห็นชัดเจนเลยว่าคนที่โจมตีพวกเขาคือผู้ใด กระบี่ล้ำค่าในมือก็ถูกตัดเป็นท่อนๆ แล้ว ฝ่ามือที่สั่นสะท้านก็มีโลหิตไหลซึม

นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่สำคัญคือ อาภรณ์บนร่างพวกเขาถูก ‘อาวุธลับ’ ในเพลิงทองนั้นกรีดเฉือนจนขาดรุ่งริ่ง…

พวกเขาล่าถอยไปกว่าสิบจั้งอย่างจนตรอก ถึงหลบหลีก ‘เพลิงทอง’ ที่กระหน่ำโจมตีปานพายุฝนโหมกรรโชกเหล่านั้นได้

“ผู้ใดกัน?”

“ใคร?!”

“ใครอยู่ตรงนั้น!”

ทั้งห้าคนตื่นตระหนก ร้องตะโกนถาม หลังจากทุกอย่างสงบลงพวกเขาถึงได้เห็นชัดๆ ว่า ‘อาวุธลับเพลิงทอง’ ที่โจมตีพวกเขามิใช่อื่นใดเลย แต่เป็นใบไม้ที่พบเห็นได้ทั่วไปที่นี่…

ใบไม้เหล่านี้นุ่มลื่นดุจเส้นไหม กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีอานุภาพมหาศาลถึงเพียงนี้!

ทั้งห้าคนตื่นตกใจไปหมดแล้ว หันหลังชนกันไว้ตามสัญชาตญาณ กวาดตามองไปรอบข้าง ตามหาตัวผู้ร้าย

บนต้นไม้ใหญ่เหนือศีรษะมีเสียงใครบางคนหัวเราะเบาๆ

“อาจารย์ของพวกเจ้าไม่ได้บอกพวกเจ้าไว้หรือ ว่าการนินทาผู้อื่นลับหลังจะต้องตกนรกขุมตัดลิ้นร้อยกราม?”

เสียงนี้ใสกระจ่างปานกระดิ่งหยก ล่องลอยไปตามสายลม

ทั้งห้าคนพลันแข็งค้างไปทันที เสียงนี้ช่างคุ้นหูเหลือเกิน!

————————————————————————————-

บทที่ 2040 ยายเฒ่าไม่รู้จักแก่ โรคจิต

ทั้งห้าคนเงยหน้ามองไปทางต้นเสียงพร้อมกัน มองเห็นคนผู้หนึ่งยืนอย่างผ่าเผยบนต้นไม้ใหญ่นั้น อาภรณ์สีเขียวอ่อน เส้นผมดำขลับปานน้ำหมึก ผิวพรรณขาวผ่องดุจหิมะ เครื่องหน้าดังภาพวาด ในมือถือบรรทัดทองอันหนึ่ง เมื่อยืนอยู่ตรงนั้น ท้องนภาอันเจิดจ้าเบื้องหลังก็กลายเป็นฉากหลังขับให้นางดูโดดเด่น

ข้างกายนางยังมีสัตว์เซียนเก้าหางตัวหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางหมอกเมฆา ทั้งงดงามและทรงพลัง

ถึงแม้กู้ซีจิ่วไม่คุ้นเคยกับพวกเขา ทว่าทั้งห้าคนมีความประทับใจต่อกู้ซีจิ่วอย่างลึกซึ้ง ย่อมมองนางออกตั้งแต่แวบแรก!

ใบหน้าก่วนจิ่นหวาพลันแปรเปลี่ยน

“เจ้า…เจ้า…”

กู้ซีจิ่วหมุนวนกิ่งไม้ในมือ ดูแล้วสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก

“ข้าทำไมรึ? แปลกใจที่เห็นข้ายังมีชีวิตอยู่อย่างสบายเช่นนี้หรือ?”

ก่วนจิ่นหวาอ้าปากค้างเล็กน้อย

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“แม่นางน้อย จะดีจะร้ายผู้เฒ่าอย่างข้าก็อาวุโสกว่าเจ้า เมื่อพบเจอไม่ทำความเคารพก็ช่างเถิด ซ้ำยังพูดเจ้าไปเจ้ามา แม้แต่คำยกย่องก็ไม่มี เฟิงชิงซ่างเหรินสั่งสอนลูกศิษย์อย่างไรกัน? ไม่มีมารยาทกันได้ถึงขนาดนี้!”

ก่วนจิ่นหว่าอยากพูด ‘นางมารอย่างเจ้าไม่สมควรให้ข้าใช้คำยกย่อง’ ทว่านางเพียงอ้าปากและไม่กล้าพูดออกไป

อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็ร้ายกาจเกินไป พลังยุทธ์ก็ยังสูงส่งล้ำเลิศ

นางคนเดียวกล้าบุกไปหุบเขาล่องเมฆา ต่อสู้จนอาจารย์ทั้งสิบท่านหวาดกลัวจนปัสสาวะรด พลังยุทธ์ของนางใช้คำว่าน่าหวาดหวั่นมาอธิบายได้เลย

ยามนี้พวกเขาไม่กี่คนยังห่างชั้นกับเหล่าอาจารย์อีกตั้งไกล หากกู้ซีจิ่วต้องการจัดการพวกเขาจริงๆ จะไม่เหมือนเหยี่ยวจับลูกเจี๊ยบหรอกหรือ? แทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เลย

สีหน้าของคนอื่นอีกสี่คนเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาวสลับกัน ถึงแม้ในใจจะไม่รู้สึกนับถือ ทว่าปากกลับไม่กล้าที่จะเอื้อนเอ่ยอีกแม้แต่คำเดียว

กู้ซีจิ่วหมุนกิ่งไม้ในมือ

“ผู้น้อยอย่างพวกเจ้าทั้งห้านินทาข้าลับหลัง ข้ารู้สึกไม่พอใจนัก จึงจำเป็นต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกเจ้า ข้ามีข้อเสนอให้สองข้อ เห็นแก่ที่พวกเจ้าเป็นผู้น้อย จึงให้โอกาสพวกเจ้าเลือกครั้งหนึ่ง พวกเจ้าต้องการรับฟังหรือไม่?”

ไอบนร่างกายของกู้ซีจิ่วทรงพลังเหลือเกิน ทำให้พวกก่วนจิ่นหวาไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะวิ่งหนี

พวกเขามองหน้ากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ต่างคนก็ต่างส่งเสียงกรีดร้อง!

เสื้อผ้าบนร่างกายของพวกเขาทั้งห้าล้วนขาดวิ่น เผยให้เห็นแขนขา ดูน่าเวทนา น่าอุจาดตายิ่งนัก

ศิษย์ของหุบเขาล่องเมฆาใส่ใจรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างมาก เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็หัวโบราณยิ่งนัก กระดุมที่สาบเสื้อก็ติดไว้อย่างมิดชิดเสมอ แม้แต่ลำคอก็ไม่เผยออกมาให้เห็น

ยามนี้พวกเขากลับเหมือนใส่กางเกงในตัวยักษ์ กระโปรงสั้นเป็นอย่างมาก ย่อมดูไม่น่ามอง!

ก่วนจิ่นหวาดึงกระโปรงตัวเองอย่างสุดชีวิต เพื่อบดบังเรียวขาทั้งสองข้างที่ขาวนวล ทว่ากระโปรงสั้นเกินไป นางทำสิ่งใดก็ไร้ประโยชน์ นางที่ขี้อายไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี ใบหน้าพริ้มเพราอดกลั้นจนแดงก่ำ อดไม่ได้ที่จะก่นด่ากู้ซีจิ่วประโยคหนึ่ง

 “ยายเฒ่าไม่รู้จักแก่ โรคจิต!”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว ถึงแม้เสื้อผ้าของทั้งห้าคนเบื้องหน้าจะถูกเธอตัดจนขาดวิ่น ทว่าเธอก็ยังคงมีคุณธรรมยิ่งนัก ไม่ได้ทำให้พวกเขาโป๊เปลือยเผยจุดสำคัญทั้งสามออกมา

นี่ยังเป็นยายเฒ่าไม่รู้จักแก่ โรคจิตอีกหรือ?

กู้ซีจิ่วหมุนวนกิ่งไม้ในมือแล้วแย้มยิ้ม

“ผู้สูงศักดิ์อย่างข้ายังมีวิธีการที่วิปริตยิ่งกว่านี้อีก แม่นางน้อย เจ้าต้องการรับชมสักหน่อยหรือไม่?”

ก่วนจิ่นหวานิ่งงัน

“เจ้า…เจ้าต้องการอะไรกันแน่”

ศิษย์พี่หกของก่วนจิ่นหวาตะโกนออกมา

กู้ซีจิ่วก็ไม่พูดจามากความ

“ง่ายมาก พวกเจ้าแต่ละคนตบปากตัวเองคนละหนึ่งร้อยครั้ง สาบานว่าจะไม่นินทาข้าผู้เฒ่าอีกต่อไป ไม่เช่นนั้นข้าจะตัดลิ้นพวกเจ้า ทำให้พวกเจ้าพูดออกมาไม่ได้อีก”