EG บทที่ 630 กลยุทธ์หล่อเลี้ยงตลาด

“เฝิงหยู่! ทำไมเครื่องเล่น Super VCD ถึงยังไม่เปิดตัวสักที? ฉันได้ยินมาจากเจียงวันเหมิงว่าเทคโนโลยีของเครื่องเล่นSuper VCD มีตัวประมวลภาพถึง9ระดับ,ช่องสเตอริโอถึง4ช่อง,มีระบบนับเวลาถอยหลังอีก ส่วนฟังก์ชั่นต่างๆก็ได้พัฒนาขึ้นหมดแล้ว นี่นายยังจะรออะไรอีก!?”

ฟู่เกิงเฉิงเริ่มร้อนใจ ยี่ห้อของเครื่องเล่นวีซีดีในต่างประเทศเริ่มบุกตลาดจีนแล้ว ส่งผลให้ผลกำไรของวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ลดลง

ฟู่เกิงเฉิงต้องการให้เครื่องเล่น Super VCD ออกสู่ท้องตลาดในตอนนี้ แม้ว่าเทคโนโลยีจะยังไม่สมบูรณ์แบบนักแต่พวกเขาค่อยมาปรับปรุงและพัฒนาในภายหลังได้หลังจากวางสินค้าลงตลาดไปแล้ว ใช้เวลาแค่เดือนเดียวพวกเขาก็สามารถนำเสนอเครื่องเล่น Super VCD ฉบับที่ดียิ่งกว่าได้!

มันเจ็บที่ต้องเห็นเงินไหลเข้ากระเป๋าคนอื่น!

“เฮียฟู่..ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น? ตอนนี้ตลาดวีซีดีกำลังรุ่งเรืองอยู่หรือไง?! อีกอย่างเครื่องเล่น แบบVHSฉบับดั้งเดิมก็ยังไม่ได้หายไปจากตลาดโดยสมบูรณ์ Laserdisc ก็ยังทำกำไรได้อีกเยอะ..รออีกสักหน่อยเถอะ”

เฝิงหยู่ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบและเอ่ยตอบอย่างสงบ

“รอให้ตลาดรุ่งเรืองงั้นหรือ? ตลาดนอกประเทศจีนต่างหากที่มันพากันรุ่งเรืองจนหมดแล้ว!ยี่ห้อเครื่องเล่นวีซีดีจากต่างประเทศก็เริ่มขยายเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดเราไป ถึงแม้เราจะได้รับค่าธรรมเนียมจากใบอนุญาตสิทธิบัตรแต่กำไรมันก็ยังถือว่าน้อยหากเทียบกับที่เราจะผลิตขายเอง”

ค่าธรรมเนียมจากใบอนุญาตสิทธิบัตรต่อล็อตอยู่ที่ประมาณ 50ดอลล่าร์แต่ถ้าพวกเขาผลิตเครื่องเล่นวีซีดีออกขายเองกำไรจะได้มากกว่า 300 ดอลล่าร์!แม้ว่าตอนนี้จะมียี่ห้อต่างๆเพิ่มมากขึ้นและกำไรอาจลดลงมาบ้างแต่มันก็ยังทำกำไรได้ประมาณ 200 ดอลล่าร์อยู่ดี!

เฝิงหยู่กำลังคิดอะไรอยู่? คิดจะทิ้งกำไรพวกนั้นไปงั้นเหรอ?

ฟู่เกิงเฉิงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งเมื่อเฝิงหยู่ตัดสินใจร่วมมือกับฟิลลิปส์เพื่อกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมขึ้นมา มันสามารถเพิ่มงบลงทุนให้กับวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ได้มากขึ้นและยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นที่2ขึ้นมาได้

เขารู้ดีว่าถ้าบริษัทใดสามารถกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมขึ้นมาได้ ย่อมหมายความว่าบริษัทนั้นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมนั้นๆ แต่ถ้าคุณไม่สามารถกำหนดมาตรฐานขึ้นมาได้ล่ะก็? ตอนนี้จะเห็นได้ว่าหลายบริษัทกำลังแข่งขันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเอนโค้ดดิ้ง[1] หากคุณประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบนี้ขึ้นมาก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแต่ถ้าคุณล้มเหลวมาเมื่อไรคุณจะต้องเดินตามหลังบริษัทอื่นต้อยๆเพื่อใช้เทคโนโลยีของพวกเขา แน่นอนว่ามันเสี่ยงที่คุณจะตกหลุมพรางของบริษัทอื่นได้!

ฟู่เกิงเฉิงต้องการรักษาความได้เปรียบของแบรนด์ไว้และปล่อยให้วินส์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้นำในด้านการผลิตเครื่องเล่นวีซีดีรายใหญ่ที่สุดของโลกต่อไป พวกเขาจะต้องเป็นทั้งผู้นำอุตสาหกรรมและทำกำไรได้มหาศาลในเวลาเดียวกันแต่เฝิงหยู่กลับปฏิเสธที่จะรับฟังเขา

ฟู่เกิงเฉิงเข้าใจในความสำคัญของการกำจัด VHS และ Laserdiscในระบบดั้งเดิมออกไป แต่ความแตกต่างของการกำจัดพวกเขาเมื่อหนึ่งปีก่อนและหนึ่งปีให้หลังมันคืออะไรกันแน่? สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เฝิงหยู่ในอดีตเคยบอกไว้ไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?

“เฮียฟู่ไม่ต้องกังวลเกินไป อีกไม่ช้าบริษัทพวกนั้นก็จะกลับมาล้าหลังเราอีกครั้ง เฮียเองก็เห็นประสิทธิภาพของเครื่องเล่น Super VCD ของเราแล้วนี่? แต่มันยังไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบมากนัก เครื่องมันยังหนักเกินไปและไม่สามารถลดต้นทุนการผลิตได้เท่าที่ควร การระบายความร้อนของตัวเครื่องก็ยังถือว่าเป็นปัญหาที่เราต้องแก้ไขและมันก็ใช้เวลาอีกไม่นานก็สามารถแก้ได้แล้ว เพราะเราจะแนะนำเครื่องเล่นของเราลงสู่ท้องตลาดดังนั้นเราก็ทำให้มันมีจุดแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆเราจะปล่อยให้แบรนด์อื่นรอกินของเหลือจากเรา!”

“นายต้องการให้ Super VCD ต่างจากแบรนด์อื่นยังไง? แค่นี้มันยังไม่ดีอีกหรือ? นายไม่ได้บอกว่าจะนำเสนอเทคโนโลยีที่ใหม่กว่านี้สำหรับเครื่องเล่นดีวีดีหรือไง?แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าจู่ๆตลาดกลับอิ่มตัวลงเมื่อเรานำเสนอผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเราลงท้องตลาด?”

ฟู่เกิงเฉิงยังไม่คลายความกังวล

หนึ่งครอบครัวสามารถซื้อเครื่องเล่นวีซีดีได้1เครื่อง จะมีสักกี่ครอบครัวกันที่จะสามารถซื้อได้2เครื่อง? แม้ว่ารายได้ของครอบครัวส่วนใหญ่โดยเฉพาะประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นแต่เครื่องเล่นวีซีดีก็เปรียบเหมือนโทรทัศน์ หลังจากที่พวกเขาซื้อโทรทัศน์ไปแล้วหลายครอบครัวมักจะใช้มันเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ตราบใดที่มันยังคงทำงานได้ตามปกติ พวกเขาก็จะไม่เปลี่ยนเครื่องใหม่

เมื่อถึงเวลาที่วินด์แอนด์เรนอิล็กทรอนิกส์เปิดตัว Super VCD ลงสู่ท้องตลาด ผู้คนส่วนใหญ่ก็คงพากันซื้อเครื่องเล่นวีซีดีแบบธรรมดากันครบแล้ว เครื่องเล่นใหม่อาจมีฟังก์ชั่นที่ดีกว่าแต่คนเหล่านี้ก็จะไม่เปลี่ยนมาซื้อเครื่องใหม่อย่างแน่นอน แม้ว่าตลาดวีซีดีในตอนนี้กำลังรุ่งเรืองแต่ตลาดดังกล่าวก็ไม่ได้มีแค่วินด์แอนด์เรนอิล็กทรอนิกส์และไอว่าเพียงเท่านั้น

บริษัทผลิตเครื่องเล่นวีซีดีเหล่านี้หลายแห่งก็เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกและครอบครอง ในหลายภูมิภาค พวกเขายังคงมีลูกค้าประจำที่ภัคดีต่อแบรนด์เหล่านี้อีกด้วย แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะไม่ดีเท่าแบรนด์อื่นๆแต่ผู้บริโภคก็ยังคงยึดติดกับพวกเขาอยู่ดี

บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำเหล่านั้นมักมีอาณาจักรเป็นของตนเอง มันยากที่แบรนด์อื่นจะเจาะเข้าไปในอาณาจักรนั้นได้ ยกตัวอย่างเป็นโซนี่วอร์คแมน แม้ว่าไอว่าจะไล่ตามพวกเขาทันแต่โซนี่วอร์คแมนก็ยังครองตลาดในอันดับ2ของโลกอยู่ นั่นก็เพราะยังมีลูกค้าที่ภัคดีต่อพวกเขาเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ก็เป็นเพราะโซนี่เองที่อนุญาตให้ไอว่าสามารถเติบโตขึ้นได้ ตอนนี้เฝิงหยู่ได้เพิ่มจำนวนแบรนด์เข้าแข่งขันในอุตสาหกรรมชนิดนี้ เครื่องเล่นวีซีดีจากวินด์แอนด์เรนอิล็กทรอนิกส์อาจไม่ได้ถูกขับออกจากตลาด แต่ส่วนแบ่งการตลาดและยอดขายจะหดลดลง หากปล่อยให้สิ่งนี้ดำเนินต่อไปแบรนด์วีซีดีก็จะค่อยๆล้าสมัยลง

“เฮียฟู่..ก่อนที่แบรนด์อื่นๆจะเริ่มวางขายในท้องตลาด..ยอดขาดเครื่องเล่นวีซีดีของเราทั้งหมดรวมเป็นเท่าใด? ทั้งวินด์แอนด์เรนและไอว่าสามารถขายรวมกันได้ประมาณ2-3แสนเครื่อง! ยอดขายเท่านี้ยังไม่พอใจอีกหรือ? ตอนนี้หลายๆแบรนด์ก็เริ่มวางขายกันในท้องตลาดแล้ว ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ายอดที่พวกเขาขายเครื่องเล่นวีซีดีได้ทั้งหมดเท่าไหร่? แต่ผมรู้ดีว่าพวกเขาผลิตเครื่องเล่นวีซีดีได้กี่เครื่อง? ใช้เวลาน้อยกว่า1เดือนด้วยซ้ำ บริษัทเหล่านี้สามารถผลิตเครื่องเล่นวีซีดีได้มากกว่า 500,000เครื่อง มันมากกว่ายอดขาย2ปีที่ผ่านมาของเรารวมกันเสียอีก”

ฟู่เกิงเฉิงขมวดคิ้วมุ่น ทำไมเฝิงหยู่ยังมีความสุขได้อีก? เขาไม่ควรเป็นกังวลหรืออย่างไร?

“เฮียฟู่..ยังจำเรื่องในสมัยเด็กๆได้มั้ย? มีกี่ครอบครัวกันที่สามารถซื้อโทรทัศน์ไว้ใช้ได้?”

เฝิงหยู่เอ่ยถามออกมา

“แม้ว่าตอนที่ฉันยังเป็นเด็กฮ่องกงจะเจริญกว่าจีนมาก แต่ทุกครอบครัวก็ไม่ได้เป็นเจ้าของโทรทัศน์กันทั้งหมด แม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีครอบครัวที่ไม่สามารถซื้อโทรทัศน์ไว้ดูได้ คนยากจนมีอยู่ทุกหนทุกแห่งจริงๆ”

“เฮียฟู่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจะบอก..สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือความนิยมในการใช้โทรทัศน์ ผมไม่รู้ข้อมลในฮ่องกงแต่ถ้าเป็นประเทศจีนผมย่อมรู้ดี เมื่อ10ปีที่แล้วมันยังเป็นยุคของทีวีขาวดำ ในเวลานั้นหลายๆครอบครัวในประเทศจีนไม่สามารถซื้อโทรทัศน์ใช้กันได้หมด มีเพียงการซื้อทีวีให้เป็นของขวัญในวันแต่งงานหรืองานรื่นเริงต่างๆเท่านั้น 5ปีที่แล้วโทรทัศน์ขาวดำก็ได้หมดยุคของมันไปและถูกแทนที่ด้วยโทรทัศน์สี แม้ในตอนนี้จะมีโทรทัศน์สีแต่ผู้คนก็ยังอยากได้โทรทัศน์ที่หน้าจอคมชัดและมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น สิ่งนี้คือแนวโน้มที่มันเกิดขึ้นจริง”

“แล้วเฮียรู้มั้ย?ว่าเทคโนโลยีของโทรทัศน์ได้มีการพัฒนาขึ้นมาโดยตลอดและจำนวนเครื่องของโทรทัศน์ก็เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมา แน่นอนว่าจำนวนผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นตาม นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อโทรทัศน์ถูกพัฒนาจากจอขาวดำมาเป็นจอสี มันก็เหมือนกับที่หน้าจอเพิ่มจาก10+นิ้วมาเป็น20+นิ้ว จุดเริ่มต้นของตลาดโทรทัศน์ก็เริ่มมาจากจอขาวดำและเข้าสู่ยุครุ่งเรืองที่สุดก็เมื่อถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นจอสี และท้ายที่สุดบริษัทที่สามารถผลิตหน้าจอสีได้ใหญ่ที่สุดก็ได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดไปมากที่สุด!”

ฟู่เกิงเฉิงรู้สึกสับสน

“นายกำลังจะบอกว่าเราเปรียบเหมือนโทรทัศน์จอขาวดำและบริษัทพวกนั้นคือโทรทัศน์จอสีอย่างนั้นหรือ? และท้ายที่สุดเราก็จะกลายเป็นโทรทัศน์จอสีที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดใช่หรือไม่?”

เฝิงหยู่พยักหน้าตอบรับ

“อนาคตของตลาดเครื่องเล่นวีซีดีก็จะเป็นเหมือนกับโทรทัศน์ ทุกหนึ่งครอบครัวก็จะพากันซื้อเครื่องเล่นวีซีดีหนึ่งเครื่องและตลาดก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เราไม่จำเป็นต้องกังวลในตอนนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมาและพยายามหล่อเลี้ยงตลาดเอาไว้ บริษัทพวกนั้นจะเป็นคนเปิดตลาดให้กับเรา!”

 

[1]เอนโค้ดดิ้ง (Encoding) หมายถึง การเปลี่ยนข้อมูลไปเป็นสัญญาณ เช่น การแปลงข้อมูลเป็นรหัส ตัวเลข 2 จะเข้ารหัสบีซีดี (BCD) เป็นเลขฐานสอง 0010 เป็นต้น มักจะได้ใช้ในการอ้างอิงถึงกระบวนการของการแปลง Analog (อะนาล๊อก) เป็น Digital (ดิจิตอล) และการแปลง Digital เป็น Analog  คำเหล่านี้สามารถประยุกต์กับรูปแบบของข้อมูล รวมถึง ข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ มัลติมีเดีย โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือสัญญาณในเซ็นเซอร์ telemetry