ตอนที่ 425

The Novel’s Extra

บทที่ 425 การเริ่มต้นใหม่ (3)

 

[แอฟริกากลางอาณาจักรใต้ดินของ ออร์เดน]

 

อาณาจักรที่มืดมิดในแอฟริกาตอนกลางเหล่ามอนสเตอร์อาศัยอยู่ที่นี่ ราชามอนสเตอร์ ออร์เดน ได้รับรายงานของข้ารับใช้ของเขา

 

– …เป็นอย่างนั้นเหรอ?

 

– ผมไม่มีข้อแก้ตัวอะไร

 

ไม่เหมือนกับข้ารับใช้ของเขา ราชาดูสงบ เขาดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับสถานการณ์นี้

 

– พวกเราส่งมอนสเตอร์ไปเพื่อปกป้องยุนฮวา แต่พวกมันก็ยังไม่พอ

 

– นายไม่จำเป็นต้องกังวล ใครบ้างที่จะรู้ว่าดอกบัวดำนี้จะรบกวนการทำงานของเรา พวกเราต้องเตรียมบอดี้การ์ดให้แกร่งกว่านี้ในครั้งต่อไป

 

ราชาพูดและทำท่าทางด้วยมือของเขา ทันใดนั้นกระต่าย 2 เท้าก็โผล่ออกมาจากความมืดด้านหลังบัลลังก์ มอนสเตอร์มีร่างกายเป็นมนุษย์และหัวของกระต่าย

 

– อีกไม่นานก็จะถึงเวลาที่นายต้องแสดงฝีมือแล้วนะ

 

กระต่ายชื่อกาโต้พยักหน้าอย่างไร้คำพูด เขาเป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นที่ 2 ของ ออร์เดน ช้ากว่า คุริคุริ แต่ก็แข็งแกร่ง

 

– ปกป้องพันธมิตรของพวกเราและบดขยี้ดอกบัวดำ

 

ดวงตาของกาโต้เปล่งประกายสีแดงตามคำสั่งของราชา ดวงตาของเขากระหายเลือดและเต็มไปด้วยความตาย กาโต้ก้มลงหนึ่งครั้งและหายไป เขาเร็วเหมือนสายลม

 

– …ข้าต้องขอโทษอีกครั้ง

 

ข้ารับใช้มอนสเตอร์ผู้เฝ้าดูฉากทั้งหมดจากด้านหลังโค้งคำนับที่ด้านหน้าของออร์เดน ออร์เดน มองข้ารับใช้และสั่งการของเขาต่อไป

 

– พวกเราต้องวางแครอทไว้ข้างๆแล้วเดินไปที่กิ่งไม้ นำมอนสเตอร์ของแอฟริกาไปทางเหนือ ฉันจะประกาศให้มนุษยชาติที่ไม่เชื่อฟังได้เห็นว่าภัยพิบัติครั้งแรกของพวกมันเป็นยังไง

 

– รับบัญชา พะยะค่ะฝ่าบาท!

 

– เจ้าไปได้แล้ว

 

ข้ารับใช้หายตัวไปโดยไม่ต้องให้เขาบอกอีกครั้ง ราชามอนสเตอร์

ออร์เดน หลับตาลงอย่างช้าๆ ความหายนะที่ผู้รับใช้ของเขาจะทำอยู่ในหัวของเขานี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของ

ออร์เดน

 

*************************************************************************

 

– …….พวกเราต้องแน่วแน่ต่อไป

 

นี่เป็นความทรงจำจากอดีตอันไกลโพ้น ในโลกที่ 4 ฤดูไม่มีอยู่จริงเหลือ เพียงฤดูหนาวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ข้ารับใช้เก่าขอให้ฉันตัดสินใจท่ามกลางความหนาวเย็นที่คุ้นเคย ฉันมองดูเขาจากบัลลังก์

 

– …ท่านต้องลงโทษผู้ทำผิดและผู้ทรยศที่ชั่วร้าย

 

ข้ารับใช้เก่าใช้ประโยชน์จากความเงียบของฉันเพื่อพูดต่อ แน่นอนว่า

ข้ารับใช้คนอื่นๆเองก็เห็นด้วย น้ำเสียงของพวกเขาดังก้องในสภา

 

– …ไคด์สพริง เป็นคนไร้สาระไม่รู้สึกถึงความสำคัญอะไรก่อนอะไรหลังซึ่งตอนนี้พวกเราไม่สามารถสนใจเรื่องอื่นเนื่องจากความรู้สึกส่วนตัวได้

 

เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนนี้ ไคด์สพริง เป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ เขาซื่อสัตย์และมีคุณธรรมแม้อนาคตของทวีปจะแขวนอยู่บนเส้นด้ายเขาก็ต้องการลงโทษอัศวินผู้สูงศักดิ์เพื่อปกป้องประชาชนของเขา

 

แต่อัศวินคนนี้คือ ‘ปรมจารย์ดาบ’ ซึ่งกำหนดให้เป็นสมบัติสำคัญในการทำสงครามในขณะที่ ไคด์สพริง ไม่ใช่

 

– …เรแลน ไม่เพียงแต่ต้องการลงโทษ ไคด์สพริง เท่านั้น เขายังเป็นอัศวินจงรักภักดีต่อราชวงศ์

 

ตอนนั้นฉันอายุ 13 แม้อายุของฉันจะอ่อนเยาว์แต่ฉันเป็น ‘ราชินี’ ไม่ใช่

เจ้าหญิงน้อยและฉันก็มีความรับผิดชอบในการปกครองอาณาจักรและการควบคุมทัพนำสงคราม

 

ฉันจำใบหน้าของคนรับใช้คนแรกของฉันได้ คำมั่นสัญญาของเขาในเรื่องความภักดีชั่วนิรันดร์และการยอมรับต่อคำมั่นสัญญาของเขากระแทกจิตใจของฉัน

 

– …ฝ่าพระบาท ได้โปรดลงโทษเขา ผู้ทรยศที่ชั่วร้าย

 

ในเวลานั้นฉันคิดว่าฉันไม่มีทางเลือกอื่น แต่นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ?

ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆเหรอ นอกจากเสียสละผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดแล้วฉันทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ

 

ไม่นั่นไม่ใช่ความจริง

 

ในฐานะราชินี ฉันไม่อยากทิ้งเขาไป? ฉันไม่ได้สนใจเขาเพียงเพราะเขาไม่สามารถแข็งแกร่งได้งั้นเหรอ?

 

-…ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะลงโทษ ไคด์สพริง ณ วันนี้ จับกุมเขาทันที

 

“… !”

 

จินซาฮยอค ที่ไม่ได้เป็นราชินีแห่ง พัลซาร์ อีกต่อไปตื่นขึ้นมาบนเตียง

จินซาฮยอค อ้าปากค้างและพยายามหายใจขณะที่เธอจับหน้าอกของเธอ หัวใจของเธอเต้นแรง เธอพักอยู่บนเตียงพยายามที่จะกลั้นหายใจก่อนที่จะยกตัวส่วนบนขึ้นมา

 

“…แฮ่กๆๆ.”

 

ฝันเห็นอดีตอีกแล้ว ผนึกความทรงจำของเธออ่อนแอลงงั้นเหรอ?

หรือบางทีเธออาจจะถูกสั่นคลอนโดยคิมฮาจินที่สมควรตายมากเกินไป ความทรงจำที่เธอฝังไว้ใต้จิตสำนึกของเธอกำลังรั่วไหลราวกับทราย

 

“ บ้าไปแล้ว”

 

เธอถอนหายใจอีกครั้ง เธอรู้ว่าร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอโยนชุดนอนที่น่ารำคาญของเธอออกมาแล้วฉีดพลังเวทมนต์บางส่วนของเธอเข้าไปในหัว แต่หลังจากที่เธอปิดผนึกหน่วยความจำไม่ได้เธอก็คลานออกมาจากเตียงของเธอ

 

“… .”

 

มันเป็นตอนเช้า จินซาฮยอค กำลังเปลี่ยนเป็นชุดของเธอและเมื่อเธอมองตัวเองในกระจก

ในกระจกมีผู้หญิงบางคนที่คล้ายกับเจ้าหญิง แต่ในเวลาเดียวกันเธอดูไม่เหมือนเธอ ความรู้สึกแปลกแยกของจินซาฮยอค เริ่มครอบงำจิตใจ

 

“ …ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ ไอ้เจ้า คิมฮาจิน”

 

ความสับสนของเธอเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างง่ายดาย จินซาฮยอค สาปแช่งคิมฮาจินอย่างต่อเนื่อง แค่คิดเกี่ยวกับเขาก็ทำให้เธออยากอ้วก เธอสัญญากับตัวเองว่าจะจบชีวิตของเขาด้วยมือของเธอเอง….

 

จินซาฮยอค คว้าชุดของเธอแล้วเธอวางมันลงอย่างไม่ระวังพร้อมก้าวออกนอกคฤหาสน์ของเธอ สิ่งแรกที่เธอเห็นคือสวนที่สะดวกสบายและสวยงาม ไม่ช้าเธอก็เห็นอัศวินฝูงหนึ่งกำลังเข้ามาใกล้ๆ

 

“…พวกเรา มาทักทายด้วยความเคารพผู้บัญชาการ จินซาฮยอค!”

 

อัศวินทุกคนสวมใส่ [Lv.7 ชุดเกราะอราธอส] ซึ่งมอบให้แต่เหล่าอัศวินพวกเขามาที่นี่เพื่อทักทายผู้บัญชาการของพวกเขา เรเชลผู้พิทักษ์ของเจ้าหญิงอารฮาก็อยู่ท่ามกลางพวกเขาด้วยเช่นกัน เรเชลเมื่อเห็น

จินซาฮยอค ก็ยิ้มให้ทันที

 

“สวัสดีตอนเช้า”

 

“ …อัศวินของเจ้าหญิงมาทำอะไรที่นี่?”

 

จินซาฮยอค ตอบอย่างค่อนข้างหงุดหงิด ถึงกระนั้นเรเชลก็ไม่ปรากฏท่าทางขุ่นเคืองและพูดเสียงเบาๆ

 

“อืม…..เฟนรีลจะมาที่ปราสาท”

 

“…?”

 

ใบหน้าของ จินซาฮยอค เหยเก ‘เฟนรีลเธอคงหมายถึงคิมฮาจิน แต่เธอจะมาบอกฉันทำไม…เธอยังคิดอยู่หรือเปล่าว่าฉันเป็นแฟนคลับเขา?

 

“เธออยากจะไปด้วยกันไหม? เธอไปได้นะถ้าเธอต้องการ”

 

“…มะ-ไม่ ไม่เป็นไร”

 

จินซาฮยอค ส่ายหัวของเธอ เธอไม่มีเหตุผลที่จะไปเจอเขาและเธอก็ไม่อยากเจอเขา มันก็ไม่ใช่เพราะว่าเขาขู่ให้เธอกลัวเรื่อง ‘อย่ามาปรากฏตัวต่อต่อหน้าฉันอีก’ มันก็แค่…เธอไม่อยากเห็นเขาก็เท่านั้น

 

“ไม่ละ ฉันจะต้องออกไปพิชิตชั้น 9 น่ะ”

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้เรเชลก็แสดงท่าทางเสียใจ

 

“แล้วเธออยากให้ฉันส่งข้อความถึงเขาในนามของเธอไหม”

 

“ข้อความ?”

 

แม้แต่ จินซาฮยอค ก็ไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอนี้ได้

 

‘ข้อความ … .’

 

จินซาฮยอค ดูไปที่ เรเชล

 

“ถามเขาว่าเขาเคยได้ยินชื่อ ไคด์สพริง หรือไม่ก็… ‘พริออส’”

 

“พริออส?”

 

“ใช่.”

 

การพูดถึงพี่น้องในครอบครัวมันดูเหมือนจะชัดเจนเกินไป เธอเลือกที่จะใส่ชื่อใครก็ตามที่เคยได้รับพรจากสีเขียวของ พัลซาร์ พริออส เป็นชื่อพ่อของเธอเอง

 

“อ๊ะ รอก่อน ไม่นะ ไม่ใช่….”

 

แต่ในความคิดที่ 2 ดูเหมือนจะไม่เป็นทางเลือกที่ดีนัก ถ้าเธอใช้ชื่อของคนที่ทุกคนรู้เธอก็ไม่สามารถจำกัดผู้ต้องสงสัยให้แคบลงได้

 

‘มีคนรู้จักชื่อคนเพียงไม่กี่และต้องเป็นคนที่ได้รับการยอมรับงั้นเหรอ?’ จินซาฮยอค ครุ่นคิด ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็สะดุ้งอย่างรุนแรง

‘ฉันได้พบกับ ไคด์สพริง เมื่อฉันยังเด็กและเขารู้ความลับทั้งหมดของฉัน นั่นหมายความว่า….’

 

“พูฮาเรน.”

 

“ … พูฮาเรน คุณพูดหรอ?”

 

“ใช่.”

 

จินซาฮยอค พยักหน้าอย่างใจเย็น

 

“โอ้ เธออยู่ที่นี่เอง~”

 

ทันใดนั้นเสียงร่าเริงก็เรียกพวกเธอ จินซาฮยอค และ เรเชล หันไปทางเสียงที่มาจาก เจ้าหญิงแห่งตะวันตก ‘โทเมอร์’ อยู่ที่นั่น

 

“ไม่ได้เจอตั้งนานผู้บัญชาการอัศวินกับเรเชล”

 

“… .”

 

“ใช่เป็นเรื่องดีมากที่ได้เจอเธอ”

 

ตรงกันข้ามกับจินซาฮยอค โทเมอร์มองด้วยสายจาไม่พอใจจินซาฮยอค แต่กลับ ยิ้มในเรเชลแต่ไกล ในตอนแรกเรเชลก็รู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็น โทเมอร์ ที่นี่เช่นกัน ศิษย์เก่าของ Cube ปรากฏตัวโดยไม่คาดคิดและแนะนำตัวเองในฐานะเจ้าหญิงแห่งตะวันตก แต่คำอธิบายของ

โทเมอร์ กำจัดความสับสนของเรเชลได้อย่างง่ายดายและเมื่อเร็วๆนี้ทั้ง 2 สนิทกันมากขึ้นสุดท้ายโทเมอร์เป็นคนแรกที่บอกเรเชลว่าคิมฮาจินชอบเธอในช่วงเวลาที่เธออยู่ใน Cube

 

โทเมอร์ ตรวจสอบอัศวินอย่างรวดเร็ว

 

“ทุกคนรู้ว่าพวกเราจะไปที่ชั้น 9 วันพรุ่งนี้แล้วเหรอ?”

 

“แน่นอน!”

 

อัศวินตอบอย่างมีชีวิตชีวา จินซาฮยอค ไม่ชอบที่พวกเขาดูเหมือนจะชอบ โทเมอร์ มากกว่าเธอ โทเมอร์ มองไปที่ จินซาฮยอค และยิ้มให้เธอ

 

“ถ้าอย่างนั้นฉันไปละ ฉันมีนัดพบกับใครบางคน”

 

เรเชลใช้ตั๋วเดินทางกลับไปพร้อมรอยยิ้ม

 

…เมื่อเรเชลหายไปบรรยากาศการแข่งขันระหว่าง โทเมอร์ กับ

จินซาฮยอค ก็ปรากฏขึ้นมาทันที

***********************************2*************************************