บทที่ 476 ความลับของตระกูลหิรัญชา

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 476 ความลับของตระกูลหิรัญชา
“ท่านประธานใหญ่ งั้นคุณตั้งใจจัดการการประชุมผู้ถือหุ้นใหม่ของบริษัทเถอะ เหลืออีกสิบวัน ก็ถึงเวลาที่หิรัญชากรุ๊ปต้องเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว ถึงเวลานั้นหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ประธานสมาคมกับคุณหญิงผิดหวัง”

คนญี่ปุ่นหลังจากพูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป

คณาธิป: “……”

เนิ่นนาน แผนกผู้บริหารที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงดัง “เพล้ง” ดังมาจากข้างใน เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างถูกขว้างลงพื้นอย่างหนัก!

น่ากลัวจริงๆ !!

——

หลังจากนั้นสองวัน

ด้านเส้นหมี่ก็ได้รับเงินที่โอนมาจากอีริคในจำนวนมาก เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก จึงรีบไปหาแสงดาวทันที

“ฉันได้รับเงินแล้ว คุณพูดยกยอปอปั้นพ่อของคุณได้หรือยัง”

“พูดแล้ว แต่เขาไม่ยินยอม!”

แสงดาวพูดออกไปอย่างหงุดหงิด

ไม่ยอมรับ?

ทำไมเขาไม่ยอมรับล่ะ? หรือว่าหิรัญชากรุ๊ปเป็นของคนอื่นไปแล้วจริงๆ?

หรือจะพูดว่า เขาแก่แล้วตาบอด ตอนนี้เขายังเชื่อมั่นในลูกชายแท้ๆ ของเขา?

เส้นหมี่โมโหเป็นอย่างมาก : “ทำไมเขาเป็นแบบนี้ คุณไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้เขาเข้าใจหรอกเหรอ”

“พูดไปแล้ว!”

“งั้นทำไมเขาไม่ยอมรับล่ะ เขาทำเกินไปหรือเปล่า ทั้งสองต่างก็เป็นลูกชาย หรือว่าต้องให้แตกแยกกันอย่างนั้นน่ะเหรอ”

“เฮ้อ……”

แสงดาวก็โมโหไม่แพ้กัน แต่ว่า เธอก็ทำอะไรไม่ได้

หุ้นส่วนของตระกูลถูกแบ่งออกไปให้บริษัทใหญ่ของต่างชาติ อำนาจของผู้ถือหุ้นถูกโอนไปเป็นของคนอื่น ถ้าผู้ที่ถือหุ้นมากที่สุดท่านนั้นไม่ยินยอม งั้นก็โอนอำนาจไม่ได้

งั้นเส้นหมี่จะรอเงินก้อนนี้ไปเพื่ออะไร?

เส้นหมี่โมโหจนแม้แต่หัวใจยังเย็นวาบ

“หรือว่าฉันจะไปขโมยตราประทับกับบัตรประชาชนของเขา” ทันใดนั้น แสงดาวพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ค่อยได้ออกมา

ขโมย?

เหมือนจะ……สามารถทำได้นะ

แววตาเส้นหมี่เปล่งประกาย ทันใดเหมือนถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง : “ขโมยมาได้เหรอ?”

แสงดาวขมวดคิ้ว: “ไม่แน่ใจ แต่ฉันจะลองดู คุณจะกลับไปกับฉันไหม ช่วยฉันดูต้นทาง”

เส้นหมี่: “……”

เวลานี้ เธอไม่รู้ว่าควรรับปากเรื่องนี้ดีไหม?

“ขโมย” เรื่องแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ ถ้าโดนจับได้แล้วจะทำยังไงล่ะ? หมดกันพอดี!

“ฉัน……”

“ดูสิ ปากบอกว่าทำเพื่อน้องชายของฉัน แต่ตอนนี้แม้แต่ไปดูต้นทางให้ฉันยังไม่ยินยอม! ไม่ใช่เธอขโมยสักหน่อย ฉันขโมยเอง ถูกจับได้คุณก็ไม่ได้มีความผิดร้ายแรงไม่ใช่เหรอ”

ยังพูดไม่ทันจบ ปากของผู้หญิงคนนี้ก็ด่าออกมาเป็นชุด

เส้นหมี่ได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าเรียวซีดเผือด

เธอกลัวที่ไหนล่ะ?

เธอคิดว่าแผนการยังไม่ค่อยรอบคอบ ก็ใส่ลงไปเต็มเหนี่ยวเลยเหรอ

สุดท้ายทั้งสองก็กลับคฤหาสน์หิรัญชาด้วยกัน

“หืม? ตาแก่ไม่ได้อยู่ที่บ้าน บังเอิญจัง!”

เซอร์ไพรส์นิดหน่อย เมื่อทั้งสองมาถึงคฤหาสน์หิรัญชา แล้วเห็นว่าด้านนอกโรลส์-รอยซ์คันที่คุ้นเคยของคุณท่านนั้นไม่อยู่

เส้นหมี่โล่งอกไป

ความจริงแล้วเธอเกรงกลัวนิดหน่อยที่จะเข้าไป ที่สำคัญกลัวว่าคนข้างในจะเห็นเธอ เพราะว่าสถานะของเธอตอนนี้ก็ค่อนข้างลำบากใจ จะพูดว่าเป็นสะใภ้ตระกูลหิรัญชา แม้แต่สามีตัวเองยังถูกขับไล่ออกไปแล้ว

เส้นหมี่รีบเดินตามหญิงสาวเข้าไป

ได้พบว่า หลังจากที่ทั้งของเข้ามา ในคฤหาสน์หลังเก่านี้ ก็ไม่รู้ว่าเพราะว่าช่วงนี้ตระกูลหิรัญชาเกิดเรื่องขึ้นมากมาย หรือเป็นเพราะอะไรกันแน่?

ทั้งที่เป็นตอนกลางวันกลับรู้สึกโล่งๆ โหวงๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อบอวลไปด้วยความครึกครื้น

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ตอนนี้ทำไมบ้านของพวกคุณถึงได้ดูโล่งแบบนี้”

“จะแปลกอะไรล่ะ เกมเมอร์กับแม่ของเขาได้ย้ายออกไปแล้ว ส่วนพี่ชาย (ฝ่ายพ่อ) คนอื่นๆ ก็ถูกคุณพ่อไล่ออกไปหมดน้องชายฉันคนสุดท้าย ต่างก็ไม่ยอมมาที่นี่กันอีก โล่งแบบนี้ก็ไม่เห็นจะแปลกไม่ใช่เหรอ”

“……”

คำพูดนี้ เส้นหมี่ไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร

เหล่าพี่ชายที่พูดถึงหมายถึงลูกชายลูกสาวบ้านอารองของเธอ

ยังดูไม่ออกเลยว่า ปกติแล้วคนเหล่านั้นอยู่ในคฤหาสน์ก็ไม่ทำอะไร รู้แค่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้าน ต่างก็พึ่งหิรัญชากรุ๊ปหล่อเลี้ยง

แต่ในเวลาสำคัญแบบนี้ พวกเขาสามารถยืนเคียงข้างแสนรักฝั่งนั้นได้ ก็น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย

เส้นหมี่เดินเข้ามาข้างในกับหญิงสาว

ตอนแรกนึกว่าเธอจะตรงไปบ้านหลังที่คุณท่านอาศัยอยู่ แต่นึกไม่ถึงว่า เธอกลับเดินผ่านที่นั่นไป เดินไปด้านหลังของคฤหาสน์

“ทำไมคุณเดินตรงไปทางนี้ สิ่งของของคุณพ่อคุณไม่ได้อยู่ที่ห้องของเขาเหรอ”

“จะเป็นไปได้อย่างไร ของสำคัญขนาดนี้ สามารถวางไว้ในห้องอย่างง่ายดายอย่างนั้นเหรอ แน่นอนว่าต้องเอาไว้ที่ศาลเจ้าสิ”

“ห๋า?”

เส้นหมี่อึ้งไป

ศาลเจ้า?

นั่นไม่ใช่ที่วางป้ายชื่อบรรพบุรุษของตระกูลหิรัญชาเหรอ? แล้วของแบบนี้จะมาวางอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?

เส้นหมี่ไม่ค่อยเข้าใจ

แต่สิ่งที่เธอรู้คือ ในคฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลหิรัญชา ศาลเจ้านี้มีเพียงคนในตระกูลหิรัญชาเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ บางที เธอก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว

นอกจากนี้ ศาลเจ้านี้ ก็ไม่ใช่ห้องธรรมดา เป็นตึกขนาดเล็กแบบปิดสนิททั้งหมด นอกจากด้านล่างที่เป็นศาลสำหรับไหว้บรรพบุรุษ ตึกด้านบนนั้นซับซ้อนกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก

แสงดาวเดินตามทางและประตูที่คุ้นเคยพาเธอมาที่ด้านหน้าตึกหลังน้อย

“ถึงแล้ว ที่นี่แหละ เธออยู่หน้าประตูดูต้นทาง ฉันจะเข้าไปหา”

“ห๋า?”

เส้นหมี่มองดูตึกหลังน้อยหลังนี้ รู้สึกกลัวจนแม้แต่นัยน์ตายังสั่นเทา

โอ้พระเจ้า ผู้หญิงคนนี้ยังยืนยันที่จะเข้าไป

สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ต้องห้ามของตระกูลหิรัญชาไม่ใช่เหรอ?

ตอนนั้นที่เธอพึ่งจะแต่งเข้ามา คุณท่านเคยพูดอย่างชัดเจน ถ้าไม่มีธุระอะไรไม่ต้องมาเพ่นพ่านแถวนี้ แม้แต่คนในคฤหาสน์เองก็ห้ามเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้

จนถึงตอนนี้ เธออยู่ที่นี่มาหนึ่งปี

แต่ว่า สถานที่แห่งนี้ แม้แต่ครึ่งก้าวก็ไม่กล้าเข้าใกล้

แต่ตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้พูดว่ากำลังจะเข้าไปขโมยของ?!!

เส้นหมี่จึงเข้าไปดึงหญิงสาวเอาไว้อย่างอัตโนมัติ