เนื่องจากเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวนั้นพึงพอใจอย่างมาก เขาจึงมั่นใจอย่างมากว่าไฮเฉินเฟิงจะหุบปากไว้เพราะว่าเขาได้สั่งเอาไว้ และตอนนี้เขาก็ไม่กังวลที่จะเสียหน้า ต่อหน้าโลกอีกต่อไป เขาเริ่มตั้งใจค้นหาจวินโม่เซี่ย ตราบใดที่เขาหาจวินโม่เซี่ยเจอ เขาก็จะสามารถพัฒนาพัฒนาสิบเจ็ดกระบวนท่าของเขาได้ !
งานนี้มันดีจริงๆ …
อะไรคือความพิเศษของตัวตนของจวินโม่เซี่ย ?
ความไร้ยางอายของนายน้อยจวินนั้นเป็นที่รู้กันทั่วไป แต่เนื่องจากเขาไม่ต้องการที่จะขับไล่ศิษย์ที่มีคุณภาพสองคนนี้ นายน้อยจวินจึงตัดสินใจให้พวกเขาไปยังที่พำนักสกุลจวิน และชี้ให้เห็นว่าศิษย์ผู้นั้นขี้หงุดหงิด !
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รู้โดยทั่วกันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะใส่ในการเรียนรู้ในอดีต
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข และความปราถนา อาจจะบอกได้ว่า หากปรมาจารย์ลึกลับผู้นี้พยายามที่จะหลอกลวงเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เขาก็จะไม่ใส่ใจมันเลย …
สิ่งที่เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวคิด ฝีมือของปรมาจารย์ลึกลับผู้นี้ไม่สามารถที่จะเทียบกับใครได้ แต่ในความจริง นายน้อยจวินก็ไม่ได้ออกไปใหนเลย เขาเพียงแค่หนีลงไปใต้ดิน แต่เนื่องจากไฟลนก้นของเขาอยู่ เขาก็ไม่ได้สนใจว่าเขาหนีลงไปลึกเท่าใหร่ด้วย ! อย่างไรก็ตาม มันก็บอกได้ว่าเขาได้ลงไปลึกกว่าข้อจำกัดนั้นแล้ว
เห็นได้ชัดว่า นายน้อยจวินต้องการที่จะหาสถานที่ ที่มั่นคงเพื่อเริ่มการบรรลุนี้ แต่ในตอนที่เขาพูดประโยคสุดท้ายกับเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เขาเริ่มรู้สึกว่าเขากำลังพยายามที่จะระงับความรุนแรงของทะเลลมปราณ ซึ่งไม่นานนักเจดีย์หงษ์จวินก็ก่อให้เกิดสียง ตูมดังขึ้นมา และหลังจากนั้นลมปราณจำนวนมากได้กลังไหลเข้ามาในร่างของเขา ความคิดของเขาสับสนอย่างมากภายใต้แรงปะทะของลมปราณที่อยู่ในเส้นลมปราณของเขา ในขณะที่เจดีย์หงษ์จวินสั่นอย่างรุนแรง …
ข้ารับมันไม่ไหวแล้ว …
ดังนั้น จวินโม่เซี่ยจึงไม่รอให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวตอบกลับมา และใช่เคล็ดอิสระหยินหยาง และมุดลงไปในดินราวกับหนูที่ตกอยู่ในอันราย เขาไม่รู้เลยว่าการหายตัวไปของเขานั้น จะทำให้โลกของแปดยอดปรมาจารย์เปลี่ยนไป !
แม้ว่าเคล็ดอิสระหยินหยางนั้นจะมีความพิเศษและไม่มีอะไรมาเทียบได้ แต่ผลของมันก็ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ในมุมของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว
ฝีมือของเขานั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ
เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวมั่นใจในความสามารถของตัวเขาเป็นพิเศษ และเชื่อว่าไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกว่าเขาในเรื่องนี้ แต่ในวันนี้เขาได้เห็นถึงฝีมือที่อยู่เหนือกว่าทุกอย่างที่เขาเคยจินตนาการ !
นี่ทำให้เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความกล้าหาญของยอดปรมาจารย์ลึกลับผู้นี้ ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจค้นหาจวินโม่เซี่ย ดูเหมือนว่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจะไม่ได้เป็นกังวลว่า เขาจะต้องเรียนรู้จากผู้ที่เด็กว่าเขา เขาขัดเจนในความจริงที่ว่า ผู้ที่มากไปด้วยความรู้และประสบการณ์นั้นควรค่าแก่การนับถือ อย่างมาก !
ในอีกมุมหนึ่ง จวินโม่เซี่ยก็ไม่ได้สนใจถึงการมีอยู่ของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวที่อยู่บนพื้นเลย และนั่งขัดสมาธิอยู่ในพื้นดินเบื้องล่าง และทันใดนั้นเขาก็ได้รู้ว่าสถานการณ์ของเขานั้นรุนแรงมากขึ้น และไม่นานนายน้อยจวินก็ไม่สามารถที่จะต้านทานพลังของเจดีย์หงษ์จวินได้อีกแล้ว และพบว่าสติของเขาถูกดึงเข้าไปในเจดีย์
ประตูของเจดีย์เปิดอออกอย่างเงียบๆ
ขณะที่ยืนอยู่ในชั้นที่หนึ่งของเจดีย์หงษ์จวินที่โอ่อ่า ทันใดนนั้นก็มีข้อความปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา
ปกป้องประสงค์ของหยินหยาง !
เข้าใจให้ชัดเจน !
เข้าใจมันอย่างชัดเจน !
หลังจากที่ผู้นั้นเข้าใจ ผู้นั้นจะสามารถปกป้องประสงค์แห่งสวรรค์และโลก !
ขณะที่อ่านข้อความเหล่านั้น มีแสงเปล่งประกายขึ้นมาด้านหน้า ในขณะที่กลิ่นอันหอมหวานพุ่งเข้ามาปะทะกับรูจมูกของเขา และภาพลวงตาของบันได้ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเขา และกลายเป็นจริงในทันที บันไดเหล่านี้ดูเหมือนจะนำไปยังประตู เป็นประตูที่เรียบง่าย ซึ่งดูเหมือนจะเปิดออกมาอย่างช้าๆในตอนนี้ !
ในที่สุด ชั้นที่สองของเจดีย์หงษ์จวินก็เปิดให้แก่จวินโม่เซี่ย !
ความตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในหัวใจของจวินโม่เซี่ย ! ชั้นแรกของเจดีย์หงษ์จวินได้มอบเคล็ดวิชาลับที่ทรงพลังดั่งเช่นเคล็ดอิสระหยินหยาง ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของสิ่งต่างๆเพื่อปกป้องตัวเขาและความสนใจของเขาต่อโลกนี้ ความแข็งแกร่งของนายน้อยจวินอยู่ในระดับเดียวกับเชวียนทอง อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของเคล็ดนี้ เขาสามารถที่จะเดินเล่นท่ามกลางยอดฝีมือเทพเชวียนได้โดยที่ไม่กลัวการบาดเจ็บทางร่างกายเลย !
ราวกับเด็กสามขวบที่มีพลังเหนือกว่าผู้ใหญ่ และทำให้เขาสามารถสนทนากันได้ในระดับเดียวกัน !
เพียงแค่จินตนาการถึงผลประโยชน์ที่ข้าจะได้จากชั้นที่สองของเจดีย์ ?
ทำให้ตัวเองสงบลงและค่อนเดินตรงไปยังประตู และค่อนข้างจะคุ้นชินกับบรรยากาศขณะที่เขามาถึงประตูของชั้นที่สอง
ทันใดนนั้น มีแสงเปล่งประกายออกมาจากชั้นที่สองของเจดีย์ และภาพมากมายปรากฏขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดภาพเหล่านั้นเคลื่อนไปรอบๆเป็นวงกลม เหมือนกับรูปทรงของรังนก และค่อยๆทะลุเข้าไปในพื้นที่ระหว่างคิ้วของเขา และจากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยที่มีวีแววของสถานที่แรกอยู่เลย
ในเวลาเดียวกัน จวินโม่เซี่ยก็ได้เห็นข้อความมากมายและภาพหุ่นยนต์ที่อยู่ภายในอย่างรวดเร็ว ภาพที่ทะลุเข้าไปในหัวของเขานั้นได้ลอยไปตามเส้นลมปราณของเขา
ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เขาเข้าสู่ชั้นแรกของเจดีย์ !
“ ผู้ใดที่เข้ามาในเส้นทางของสวรรค์และโลก จะต้องปกป้องประสงค์ของสวรรค์และโล ผู้ที่เข่นฆ่าผู้อื่นอย่างใจร้อน หล่อเลี้ยงหัวใจน้ำแข็ง ความซื่อสัตย์ทั้งเก้าจะเปลี่ยนจิตวิญญาณที่มั่นคงโดยประสงค์ของสวรรค์ และรักษามันไว้เช่นนั้น … ”
จวินโม่เซี่ยเริ่มตื่นเต้นเล็กน้อยหลังจากที่ไตร่ตรองอย่างรอบคอบถึงคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง
จากสิ่งที่ข้าบอกได้ มันดูเหมือนว่าเป็นเพียงการเริ่มต้นของเคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ !
รักษาไว้ด้วยประสงค์ของสวรรค์ !
จากนี้ไป เพียงแค่นี้จึงสามารถมองเห็นเส้นทางที่ถูกต้องได้ !
เขายืนนิ่งๆอยู่ที่ประตูทางเขาในชั้นที่สอง !
นายน้อยจวินไม่ได้รับรู้ว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายในตอนนี้ !
รวมถึงปราณจำนวนมากที่พุ่งไปตามเส้นลมปราณของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งมันพุ่งผ่านรูขุมขนบนหัวและฝ่าเท้าของเขา และกระแสลมปราณที่บ้าคลั่งนี้ได้ขยายเส้นลมปราณในร่างของเขาออกด้วยความรุนแรง จนทำให้เสื้อผ้าของเขาไม่สามารถที่จะต้านทานอยู่ได้ และค่อยๆกลายเป็นเถ้าถ่าน และปลิวหายไป !
ของเหลวออกมาตามร่างของนายน้อยจวินราวกับน้ำพุ และเปล่งแสงสีม่วงออกมาอย่างต่อเนื่อง …
ลมปราณที่อยู่ในเส้นลมปราณของเขาเคลื่อนที่อย่างล้าคลั่งจนเขาสามารถได้ยินเสียงที่ของมันได้อย่างชัดเจน
เนื่องจากสติของจวินโม่เซี่ยได้จมไปในทะเลแห่งความรู้ สมองของเขาเลยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ภายนอก ซึ่งทำให้เขาไม่รู้ว่าร่างกายของเขาต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงที่มากมายเช่นนี้
ในชั้นที่สองของเจดีย์หงษ์จวินนั้นบอกว่า ความซื่อสัตย์ทั้งเก้าจะเปลี่ยนจิตวิญญาณที่มั่นคง ซึ่งเหมือนอย่างมากกับคำสั่งของชั้นแรก จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ทั้งเก้าและผู้นั้นจะไม่ตกนรก !
คำสั่งทั้งสองของเจดีย์หงษ์จวินนั้นมีบางอย่างเหมือนกัน และคำนั้นคือ ความบริสุทธ์ทั้งเก้า และ การเปลี่ยนแปลงทั้งเก้า !
จำนวนชั้นของสิ่งก่อสร้างนี้มีเก้าชั้น แต่มันกำลังเผยอะไร ?
มันไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ ?
สมองของจวินโม่เซี่ย ประมวลผลทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เขามาอยู่ในโลกนี้อย่างรวดเร็ว และหลังจากที่คิดคำนวนข้อมูลเหล่านั้น นายน้อยจวินจึงตระหนักได้ว่า ร่างกายของเขาเปลี่ยนไปก่อนที่ชั้นที่สองจะเผยให้เขาเห็น จากการพิจารณาอย่างระมัดระวัง เขารู้ได้ในทันทีว่า การเปลี่ยนแปลกทั้งหมดนั้นมีเก้าครั้ง !
ครั้งแรกที่เกิดขึ้นนั้น คือ เขาไม่สามารถควบคุมอะไรได้ และวิญญาณของเขาก็มายังโลกนี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ และนี่คือครั้งที่เก้า ซึ่งสุดท้ายมันได้พาเขาเข้ามาสู้ชั้นที่สองของเจดีย์หงษ์จวิน
ไม่แปลกใจที่ร่างกายของข้าจะตกลงในนรกหลังจากที่ตาย !
“ จิตวิญญาณที่บริสุทธิทั้งเก้า และผู้นั้นจะไม่ตกนรก ! ”
นั่นคือเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ….
เขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ดูเหมือนว่าข้าจะต้องผ่านสิ่งที่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งเก้านี้ก่อนที่จะได้เข้าไปสู่ชั้นที่สาม ! เห็นได้ชัดว่างานของข้านี้จะต้องยากกว่าขึ้นแย่างแน่นอน !
ในขณะที่ความคิดนี้เกิดขึ้นในหัวของเขา ทันใดนั้นหัวใจของเขารู้สึกเยือกเย็นอย่างแปลกประหลาด และดูเหมือนว่ากรอบความคิดของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ในบรรยากาศที่เงียบและสงบนี้ สติของเขาเริ่มลอยเขาไปในชั้นที่สองของเจดีย์หงษ์จวินอย่างช้าๆ !
ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องด้านล่าง แต่มันว่างเปล่า
มีเตาหลอมสามขาวางอยู่กลางห้อง มีเปลวไฟหลากหลายสีเผาไหม้อยู่อย่างนุ่มนวลและมั่นคงอยู่ภายใต้เตา
มีวัตถุที่เหมือนหนังสือแขวนเอาไว้ข้างเตา ซึ่งมันเป็นสีทอง และมีพื้นผิวที่มันวาว
มีตัวอักษรจารึกอยู่บนเตาเผา เตาหลอมโชคดี !
ในตอนที่เขาอ่านคำเหล่านี้ พวกมันหายไปในทันทีโดยที่เขายังไม่ทันได้คาดคิด !
แม้แต่มือสังหารที่กล้าหาญก็ประหลาดใจกับสิ่งนี้ !
จวินโม่เซี่ยอดที่จะสำรวจเตาหลอมลึกลับนี้อยู่ห่างๆไม่ได้ และค่อยๆเดินเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ ดูเหมือนจะเริ่มมีเสียงร้องเรียกเขาดังมาจากเตาลึกลับนี้ ราวกับต้องการจะดึงให้เขาเข้าไปใกล้มัน !
พลังที่อธิบายไม่ได้นั้นดูเหมือนว่าจะไม่อาจต้านทานได้เลย แต่จวินโม่เซี่ยก็ไม่ต้องการที่จะต้านทานมัน เพราะเขารู้สึกราวกับว่าเสียงนี้เป็นเสียงของเพื่อนของเขา ….
ในตอนที่เขาเข้าใกล้เตา เปลวไฟที่อยู่ภายใต้เตานี้ซึ่งดูเหมือนจะเรียกหาเขา มันกระโดดออกมาและห่อหุ้มจิตของเขาไว้ในทันที จวินโม่เซี่ยมีเวลาเพียงน้อยนิดที่จะสัมผัสกับมัน แต่มันทำให้รู้สึกราวกับร่างกายของเขาได้ผ่านการลงโทษสิบแปดชั้นในนรก แต่เมื่อจิตของเขาสงบลง เขาก็สมามารถสัมผัสถึงความเจ็บปวดอ่างแสนสาหัสอย่างชัดเจน และความเจ็บปวดนี้ก็ได้หายไปภายใต้ความสามารถในการอดทนของเขา …
ด้านนอก ร่างของจวินโม่เซี่ยได้หยุดขับของเหลวที่แปลกประหลาดนั่นแล้ว ร่างของเขาเริ่มรู้สึกแสบร้อนเนื่องจากมันถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยสีสัน !
ที่พื้นเบื้องบน ป่าเมเปิ้ลขนาดใหญ่ที่เจริญเติบโตอยู่ด้านบน เหี่ยวแห้งลงไปภายในพริบตา พืชพรรณทั้งหมดในบริเวณนั้นเหี่ยวแห้งจนหมด เนื่องจากพวกมันไม่สามารถทนต่อความร้อนได้ แม้แต่ใบหญ้าที่อดทนก็ไม่สามารถทนได้ ป่าที่สวยงามก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้ง !
หมอกควันเริ่มลอยขึ้นมาจากพื้นดิน และหายไปในอากาศเบื้องบนอย่างรวดเร็ว น้ำในรัศมีหลายลี้แห้งเหือดไปในทันที !
มันดูเหมือนว่าส่วนนี้ของเมืองเทียนเชียงนั้นจะกลานเป็นพื้นที่แห้งความตายไปในทันที !
แม้จะมีน้ำท่วมในพื้นที่แห้งแล้งแห่งนี้ น้ำเหล่านั้นมันก็จะจะซึมลึกลงไปมากพอที่ไม่สามารถจะขุดเจอได้เลย …
ร่างที่มั่นคงและสวยงามของจวินโม่เซี่ยเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง และบิดเบี้ยวท่ามกลางเปลวไฟนี้ จนกระทั่งเปลวไฟนี้ค่อยๆเบาลงไปหายไปในที่สุด เผยให้เห็นร่างที่ไม่ได้รับความเสียหายของจวินโม่เซี่ย !
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเรียกที่เหมือนกันอีกครั้ง และร่างของจวินโม่เซี่ยหายไปจากพื้นที่นั้นในทันที
ในเวลาเดียวกัน และเป็นครั้งแรก เขาพบว่าร่างกายจริงๆของเขายืนอยู่ในชั้นที่สองของเจดีย์หงษ์จวิน !
Translate by iHaveNoName