ตอนที่ 1595 ราคาโอสถอันหาประเมินไม่!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1595 ราคาโอสถอันหาประเมินไม่! Ink Stone_Fantasy

หรงซูตระหนักดี แม้นเขาจะเสี่ยงชีวิตเดิมพัน แต่คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่จะหลอมกลั่นให้ได้โอสถขั้นเทวะโมฆะ

โอสถชนิดนี้เป็นเพียงตำนานเท่านั้น

ในความเป็นจริง ตั้งแต่เขามีชีวิตอยู่จวบจนวัยชรา เขาเห็นอัจฉริยะมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดสามารถหลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะได้ ถึงจะเป็นจอมเทพโอสถสี่ดาวก็ตาม

สำหรับจอมเทพโอสถสามดาว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเลย

ดังนั้นเขาจึงยอมรับความพ่ายแพ้โดยจำนน

แน่นอน หลังจากนี้เขาคงไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีกต่อไปเช่นกัน หลังจากที่ทำใจได้แล้ว เขาคงจากออกไปอย่างเงียบๆด้วยความหดหู่

แต่ในเวลานี้เอง ความสนใจของทุกคนต่างมิได้อยู่ที่ผู้อาวุโสใหญ่นานแล้ว

ผู้อาวุโสของตระกูลหวังเอ่ยกล่าวน้ำเสียงดังชัดเจนว่า

“ผู้อาวุโสเย่ ชายโอสถเม็ดนี้ให้แก่ตระกูลหวังของเราด้วยเถิด เรายินดีมอบผลึกปราณเทวะจำนวนสามร้อยล้านก้อน!”

“ผู้อาวุโสเย่อย่าไปฟังพวกขี้เหนียวพล่าม ขายให้กับพวกเราตระกูลหยาง! ท่านรับไปเลยห้าร้อยล้านผลึกปราณเทวะ!”

“ตระกูลหลิวของเราให้ไปเลยห้าร้อยห้าสิบล้าน!”

ทันทีทันใด เหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ต่างโต้เถียงใช้วาจาฟาดฟันกันไปมา จนเย่หยวนปวดหัวระงม

ตามกฎของหอโอสถ แม้ว่าโอสถสุริยันจักรวาลจะถูกหลอมกลั่นขึ้นโดยเย่หยวน แต่กรรมสิทธิ์ย่อมตกเป็นของหอโอสถ

แต่หากหอโอสถตัดสินใจขายออกไป สามในสิบส่วนของราคาจะมอบให้แก่เย่หยวนโดยตรง

โอสถศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป หรือแม้แต่โอสถชำระไขกระดูกสวรรค์ที่เย่หยวนหลอมกลั่นในเขตเมืองทางตอนใต้ ราคายังแค่ห้าสิบล้านก้อนเท่านั้น

ตระกูลใหญ่เหล่านี้ ทันทีที่พวกเขาประเดิมเปิดปากก็เสนอราคาสูงกว่าหลายร้อยล้านก้อน ราคานี้ถือว่าสูงกว่าราคาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามโดยทั่วไปมากโขแล้ว

“หยุด! หยุดก่อน!”

เย่หยวนตะโกนเสียงดังลั่น

แต่ก็ไม่มีใครฟังเขาอยู่ดี พวกคนเหล่านี้ยังคงโห่ร้องเสนอราคาไม่หยุดหย่อนท่ามกลางความบ้าคลั่ง

โอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะ มีใครบ้างที่ไม่ต้องการ?

สำหรับพวกเขา ราคาระดับนี้หาใช่ปัญหาไม่!

เย่หยวนสุดจะทนแล้วในยามนี้ เขาแหกปากตะโกนลั่นด้วยความโกรธว่า

“ทุกคนหุบปาก!”

เสียงแหกปากตะโกนกึกก้องนี้ เย่หยวนรวบรวมพลังปราณเทวะทั้งหมดไปที่ลำคอ พร้อมป่าวประกาศสุดเสียง ทำเอาทุกคนชะงักไปโดยพลัน

ทันทีที่เห็นว่าเย่หยวนเริ่มมีน้ำโหแล้ว พวกเขาจึงหยุดส่งเสียงทันที

ต้องล้อเล่นแล้ว ผู้อาวุโสเย่ท่านนี้ทรงพลังน่าเกรงขามเสียเหลือเกิน ยังมีใครกล้าทำให้เขาขุ่นเคืองอีก?

เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบเสียงลง เย่หยวนจึงหันมากล่าวกับซวนอี้ว่า

“ผู้อาวุโสรอง เรื่องนี้ให้ท่านตัดสินใจเป็นดีที่สุด”

ซวนอี้ยิ้มและกล่าวว่า

“เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย เนื่องจากทุกคนปรารถนาต้องการโอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนี้ของผู้อาวุโสเย่ ไฉนเรา…ไม่จัดการประมูลขึ้นเพื่อค้นหาเจ้าของโอสถเม็ดนี้ไป ทุกคนคิดเห็นอย่างไร?”

เมื่อทุกคนได้ฟังแบบนั้นก็อดประหลาดใจมิได้

ใครบอกว่าผู้อาวุโสรองเป็นคนใจดี วิธีนี้มันโหดร้ายที่สุดแล้ว!

การประมูลเช่นนี้นับว่า ไม่มีใครสามารถพึ่งพาเส้นสายใดๆได้เลย

หลังจากวันนี้เป็นต้นไป เหล่าตระกูลใหญ่ต่างใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีเพราะเข้าถึงหอโอสถให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ถึงตอนนี้ หากเป็นงานประมูลกล่าวได้ว่าต้องใช้เงินฟาดเงิน ไม่มีใครสามารถกล่าวค้านใดๆได้เลย

ด้วยวิธีนี้ ทางฝ่ายหอโอสถจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากโอสถเม็ดนี้ นี่นับเป็นผลกำไรสำหรับหอโอสถ

ท้ายที่สุดแล้ว หอโอสถมีทั้งผู้อาวุโสและสาวกจำนวนมากมาย ปริมาณสมุนไพรวิญญาณและผลึกปราณเทวะที่นำจ่ายออกไปในแต่ละครั้งเป็นจำนวนที่เยอะจนน่ากลัวยิ่ง

หอโอสถเองก็ต้องหาเงินเช่นกัน!

“ข้าไม่มีข้อขัดข้อง ทำตามที่ผู้อาวุโสรองกล่าวแล้วกัน”

“อืม เป็นเช่นนี้ย่อมมิใช่ปัญหา ข้าเองก็ไม่ขัดข้อง”

“ดีแล้ว สมกับเป็นโอสถขั้นเทวะโมฆะจริงๆ วิธีนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว!”

ต่อหน้าฝูงชนมากมาย แม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสหลายต่อหลายคนจะมีความคิดแตกแยกออกไป แต่พวกเขาก็ไม่กล้าหักล้างคำกล่าวของผู้อาวุโสรองเช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว คำกล่าวขีดค้านต่อหน้าสาธารณชนอาจทำให้ทางหอโอสถเสียประโยชน์

พวกเขาเองก็ไม่กล้าเสี่ยงตั้งตนเป็นหัวหอกเช่นกัน

ผู้อาวุโสรองคลี่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า

“เอาล่ะ เช่นนั้นได้ข้อสรุปแล้ว ผู้ดูแลจาง เจ้าชำนาญการเรื่องพวกนี้ที่สุดแล้ว เช่นนั้นมอบหน้าที่ให้เจ้าเป็นเจ้าภาพงานประมูล”

ผู้ดูแลจางก้าวขึ้นหน้าออกมาและกล่าวว่า

“รับทราบ ผู้อาวุโสรอง!”

ส่วนเบื้องล่าง เหล่าผู้นำจากตระกูลใหญ่ต่างร้องน้ำเสียงขมขื่นไม่หยุดหย่อน

พวกเขาทราบดีว่า โอสถเม็ดนี้เป็นที่นิยมเกินไป!

เมื่อเข้าสู่กระบวนการประมูลแล้ว โอสถเม็ดนี้อาจมีมูลค่าทะลุสามถึงห้าร้อยล้านแน่นอน

การประมูลแบบนี้ทำให้พวกเขาต้องควักเนื้อจ่ายมากขึ้น

ใครกันที่บอกว่า ผู้อาวุโสรองใจดีมีเมตตา นี่มันคนซื่อสัตย์ที่วางแผนลอบสังหารอย่างแนบเนียนยิ่ง ชนิดไม่มีเลือดไหลช้ำในตาย!

แต่อย่างไรเสีย โอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะเม็ดนี้ก็ทรงเสน่ห์เกินไป พวกเขาล้วนปรารถนาต้องการอย่างยิ่งยวด

สิ่งที่ควรทราบคือ โอสถเม็ดนี้สามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของตระกูลนั้นๆได้โดยตรง เมื่อเทียบกับโอสถศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปแล้ว ต่อให้ต้องจ่ายเป็นพันล้านยังนับว่าคุ้มค่า

สุดท้ายนี้ นี่มิใช่โอสถที่ใครจะสามารถหลอมกลั่นก็ได้

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ดำรงอยู่เนิ่นนานกว่าไม่รู้กี่หมื่นปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีโอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะปรากฏขึ้น!

ผู้ดูแลจางค่อยๆรับโอสถเม็ดนั้นไว้ในฝ่ามืออย่างระมัดระวังสุดขีด และวางลงในกล่องบรรจุหยกบนโต๊ะตรงหน้า

“ทุกท่าน จางคนนี้ได้ปรึกษากับเหล่าผู้อาวุโสเป็นที่เรียบร้อย ราคาตั้งต้นของโอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนี้คือ…ห้าร้อยล้านผลึกปราณเทวะระดับต่ำ! การเสนอราคาในแต่ละครั้งจักต้องไม่น้อยกว่ายี่สิบล้านก้อน”

ผู้ดูแลจางป่าวประกาศเสียงดังฟังชัด

ในเวลานี้เอง เหล่าตระกูลน้อยใหญ่ต่างส่งตัวแทนเข้าร่วมการประมูลเป็นที่เรียบร้อย

แม้แต่ตระกูลที่มิได้เข้าร่วมงาน พอทราบข่าวก็รีบแจ้นเข้ามาโดยไว

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินราคาตั้งต้นของโอสถเม็ดนี้ เหล่าตระกูลเล็กต่างต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นทันที

ผลึกปราณเทวะระดับต่ำจำนวนห้าร้อยล้านก้อน นี่มันราคาของโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่แล้ว!

นี่ยังคงเป็นเพียงราคาตั้งต้นเท่านั้น ราคาเสนอซื้อไม้สุดท้ายจะไม่ต่ำกว่าพันล้านแน่นอน!

ราคามหาโหดปานนี้น่ากลัวเกินไป

มิใช่ว่าพวกเขาไม่มีทุนรอนหนาพอ แต่การเดิมพันด้วยทรัพยากรทั้งหมดกับโอสถเพียงเม็ดเดียว หักลบกันแล้วดูจะมิใช่วิธีที่ฉลาดนัก

เหล่าที่จริงแล้ว เหล่าตระกูลเล็กต่างทราบดีอยู่แก่ใจ ไม่ว่าอย่างไรก็พวกตนก็ไม่สามารถต่อกรกับพวกตระกูลใหญ่ได้อยู่ดี

แต่หากไม่ลงประมูลเสียหน่อย คงรู้สึกเสียดายไปชั่วชีวิตเช่นกัน

“ณ ตอนนี้ การประมูลเริ่มขึ้นได้!”

ผู้ดูแลจางป่าวประกาศเสียงดังฟังชัด

“หกร้อยล้าน!”

“หกร้อยห้าสิบล้าน!”

“เจ็ดร้อยล้าน!”

“เก้าร้อนล้าน!”

“หนึ่งพันล้าน!”

ทุกคนรู้ดีว่า ราคาของการประมูลครั้งนี้จักต้องสูงลิบจนน่าสะพรึงแน่นอน แต่กลับไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ราคาจะทยานขึ้นสู่ระดับพันล้านเร็วปานนี้

ผู้ดูแลจางยังอดใจสั่นมิได้ เขาเคยเป็นเจ้าภาพงานประมูลไม่รู้กี่งานต่อกี่งานแล้ว แต่ไม่มีครั้งใดที่เคยเห็นราคาทะยานขึ้นไวราวกับติดปีกปานนี้

โดยปกติในขั้นตอนการประมูล เขาจำต้องกล่าวบรรยายสรรพคุณเรียกน้ำย่อย เพื่อเพิ่มมูลค่าของตัวสินค้า นี่นับเป็นจิตวิทยาที่สำคัญที่เจ้าภาพการประมูลพึงมี

แต่คราวนี้ เขายังไม่ทันพูดอะไรสักคำ ราคากลับพุ่งทะยานเกินหยุดอยู่แล้ว!

“หนึ่งพันสองร้อยล้าน!”

“หึ! โอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนี้ ตระกูลชือของเราขอสู้ตาย! หนึ่งพันห้าร้อยล้าน!!”

ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลชือตะโกนสุดเสียง

ตระกูลชือและตระกูลหนิงเป็นกลุ่มอำนาจคานอิทธิพลกันมานาน นับเป็นสองตระกูลใหญ่ของเขตเมืองชั้นใน ที่มีกำลังทรัพย์มหาศาลอย่างยิ่ง

ราคาหนี่งพันห้าร้อยล้าน เมื่อทุกคนได้ยินต่างตกตะลึงสุดขีด

โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามถูกดันราคาประมูลให้สูงถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านในไม่กี่อึดใจ นี่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จินตนาการด้วยซ้ำ

ผู้ดูแลจางเองยังต้องลอบปาดเหงื่อ นี่ยังคงเป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอการประมูลดุเดือดปานนี้

ในเสี้ยวพริบตาราคากลับพุ่งทะยานเพิ่มขึ้นสามทวีเท่า!

“หนึ่งพันห้าร้อยล้าน! ผู้อาวุโสชือซ่งเสนอราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้าน! มีใครให้ราคาสูงกว่านี้หรือไม่?”

ในที่สุดผู้ดูแลจางก็มีโอกาสเอ่ยปากกับเขาเสียที

หลังจากเงียบไปสักครู่หนึ่ง ชายวัยกลางคนค่อยๆปริปากกล่าวขึ้นว่า

“สองพันล้าน!”

…………………………………