คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 831
แดร์ริลนั้นจดจำได้เป็นอย่างดีว่าโดน็อกได้หลบหนีไปท่ามกลางความวุ่นวายในตอนที่บุกถล่มตระกูลดิกสัน แดร์ริลไม่ได้คาดคิดว่าโดน็อกนั้นจะมีชีวิตรอด นับประสาอะไรกับการที่โดน็อกได้ไปค้นพบอาวุธมหาประลัย
โซรันกล่าวต่อ “แดร์ริล เราไม่ทันได้เจอกับขวานแยกนภา การปรากฏตัวขึ้นของมันทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ภูเขาเสียดฟ้ามหัศจรรย์พังทลายลงมาก็เพราะมัน และยังเกิดปล่องภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยลาวาแทน นอกจากปล่องภูเขาไฟอุบัติขึ้นแล้ว ตอนนี้ภูเขาลูกนั้นก็เหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง แม้แต่ร่องรอยของอาวุธมหาประลัยก็ไม่มีเหลือให้เห็น”
จากนั้นซาร่าก็กล่าวเสริมขึ้นมาทันควัน “ในปล่องภูเขาไฟมีลาวาท่วมขึ้นมาเยอะมาก มันทำให้ฉันกลัว!”
แดร์ริลถอนหายใจขณะเขาพยักหน้า “พ่อทูนหัว ผมไม่ได้ที่นี่เพื่ออาวุธมหาประลัย หน้าที่หลักของผมคือมาช่วยอีวอนและโมนิก้า”
เขากำหมัดแน่นขนัดและกล่าว “ทั้งสองคนติดแหงกอยู่ในพระราชวังแน่นอน ฉะนั้นผมจำเป็นที่จะต้องไปช่วยพวกเธอออกมา”
โซรันรีบกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว “ได้โปรดอย่าผลีผลามนัก แดร์ริล นายจะรีบใจร้อนไปช่วยพวกเธอไม่ได้ พระราชวังมีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนามาก นายจะบุ่มบ่ามบุกเข้าไปข้างในง่าย ๆ ไม่ได้ ฉันช่วยนายได้ แต่เราจะต้องวางแผนให้รัดกุมรอบคอบ”
“ใช่แล้ว”
แดร์ริลพยักหน้าตอบรับ เขารู้สึกซาบซึ้ง เขาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับพ่อทูนหัวของเขาและกล่าวถาม “โอ้ จริงสิ พ่อแม่ของผมพวกท่านเป็นยังไงบ้างครับ?”
นับต้ังแต่สมรภูมิรบที่หอคอยดาวปราถนา พ่อแม่ของแดร์ริลก็ถูกส่งตัวมาอาศัยอยู่กับตระกูลคาร์เตอร์ เขาไม่รู้ชะตากรรมของทั้งสองคนว่าเป็นอย่างไร
โซรันหัวเราะร่าขณะเขาเรียกขวัญแดร์ริล “ไม่ต้องห่วง พ่อแม่ของนายสบายดี นายไม่จำเป็นต้องกังวล โอ้จริงสิ แดร์ริล ฉันมีอีกเรื่องที่สำคัญที่เราจะต้องคุยกัน เมื่อไหร่ที่นายกลับไปจักรวาลโลก เราจะต้องหาฤกษ์จัดงานแต่งงานให้นายกับเรเชล”
อะไร?
แดร์ริลรู้สึกเขินอายเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“พ่อ!”
ทันใดนั้นเรเชลก็กระวนกระวายและขุ่นเคือง เธอลุกขึ้นยืน “ต้องให้หนูบอกพ่ออีกกี่ครั้ง ว่าหนูไม่มีวันที่จะแต่งงานกับแดร์ริล ทำไมพ่อต้องมาบังคับหนูด้วย?”
ดวงตาของเรเชลแดงก่ำ เธอหันหลังและวิ่งหนีออกไปจากโรงเตี๊ยม
ซูซานก็ลุกขึ้นยืนทันที “เรเชล…”
เธอกำลังจะวิ่งไล่ตามเรเชลด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอ
อย่างไรก็ตาม โซรันก็รั้งตัวซูซานไว้และกล่าวน้ำเสียงเย็นชา “ปล่อยลูกไป ให้ลูกได้สงบสติอารมณ์ ไม่นานเดี๋ยวลูกก็กลับมา ที่นี่คือโลกใหม่มันไม่ใช่ถิ่นของเรา เรเชลคงจะไม่หนีไปไหน”
ซูซานพยักหน้าตอบรับและนั่งลง
สีหน้าของแดร์ริลเปี่ยมไปด้วยความอับอายพลางเขาฉีกยิ้มเจื่อน ๆ “พ่อทูนหัว เรื่องการแต่งงานของผมกับเรเชล ผมคิดว่าบางทีเราน่าจะลืมเรื่องนี้ไปได้แล้ว…”
แดร์ริลไม่ได้มีใจให้กับเรเชลเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกแย่มากที่พ่อทูนหัวมาบังคับให้พวกเขาต้องอยู่ด้วยกัน
“จะทำแบบนั้นได้ยังไง” โซรันขมวดคิ้วและกล่าวอย่างหนักแน่น “พ่อนายกับฉัน ได้สัญญากันเอาไว้เรื่องการแต่งงาน ในฐานะคนเป็นลูก พวกนายทั้งสองคนต้องทำตามสัญญาของเรา เราจะมาผิดสัญญากันได้ยังไง?”
แดร์ริลยิ้มพลางเกาหัว เขาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของพ่อทูนหัว
…
ระหว่างนั้น…
เรเชลวิ่งไปแถวชานเมืองของเมืองหลวง มันค่อนข้างดึกมากแล้ว และไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และจุดผลุดอกไม้ไฟที่เธอดึงมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
ในไม่ช้า ผลุดอกไม้ไฟก็แตกกระจายส่องแสงสว่างสวยงามอยู่กลางอากาศ
ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีเงาตะคุ่มพุ่งเข้ามาหาเธอ เขาคืออีวาน ไวท์
ก่อนหน้านี้ อีวานได้ปลอมตัวเป็นดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายที่คฤหาสน์ตระกูลคาร์เตอร์ และขอแต่งงานกับเรเชล แต่หลังจากที่ตัวตนของเขาถูกเปิดโปงว่าเป็นตัวปลอม โซรันก็โมโหมากและสั่งห้ามไม่ให้เรเชลพบเจอกับเขาอีกตลอดไป
อย่างไรก็ตาม มันก็ยิ่งทำให้เรเชลกระด้างกระเดื่องมากขึ้น
เรเชลแอบคบหากับอีวานอย่างลับ ๆ แม้กระทั่งหลังจากที่พวกเขาได้เดินทางมาที่โลกใหม่แล้ว
มันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ที่โลกใหม่ ฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาสองคนที่จะติดต่อกัน แต่พวกเขาก็หาวิธีที่จะสื่อสารกันได้ ผ่านผลุดอกไม้ไฟที่ส่งเป็นสัญญาณให้พวกเขาได้มาพบกัน
อีวานเดินเข้ามาหาเธอ เมื่อเขาเห็นว่าดวงตาของเรเชลแดงก่ำ เขาสวมกอดเธอ “เรเชล เกิดอะไรขึ้น?”
เรเชลรู้สึกเหมือนถูกรังแก เธอพร่ำบ่น “แดร์ริลอยู่ที่นี่ พ่อของฉันยืนกรานที่จะให้ฉันแต่งงานกับเขา…”
อะไร?
ตอนนี้แดร์ริลอยู่ในเมืองหลวง?